Entertainment

อยากได้ชีวิตใหม่? นี่คือหนัง 10 เรื่องที่จะ’สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตผู้ชายทุกคน’

By: PSYCAT April 28, 2017

ความหดหู่เหี่ยวเฉา ความท้อแท้หมดไฟในชีวิต มักมาเยี่ยมเยือนเราได้ตลอดเวลา ปล่อยให้ตัวเองนั่งนิ่ง ๆ สักพักอาจจะได้ แต่อย่าปล่อยให้แรงบันดาลใจลอยหายออกไปจากชีวิตนานเกินไป การได้ดูหนังดี ๆ สักเรื่อง หรือ 10 เรื่องเต็มก็อาจเรียกพลังชีวิตเรากลับมาได้เช่นกัน

หนังสร้างแรงบันดาลใจของ UNLOCKMEN อาจไม่ได้ดูแล้วโลกสวยสดใสขึ้นมาทันตา แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยให้เราได้คิดตามและตั้งคำถามถึงความฝัน ความหวัง และชีวิตของตัวเราเองได้มากขึ้น

นี่จึงเป็นหนัง 10 เรื่องที่ UNLOCKMEN ลิสต์มาไว้ให้ดูเพื่อหาแรงบันดาลใจดี ๆ จะได้กลับไปใช้ชีวิตให้ฮึกเหิม ให้มีพลัง ไป ไปเริ่มกันเลย!

1.Milk (2008)

2h 8min | Biography, Drama, History

Harvey Milk กลายเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดอีกคนหนึ่ง เขาเรียกร้องสิทธิให้กับกลุ่มคนเพศหลากหลาย ถึงแม้ว่าขณะนั้นการรักกันของคนเพศเดียวกันจะถูกต่อต้านอย่างหนัก ดูจบแล้วบอกเลยว่าเราจะฮึดกับการทุ่มเททำอะไรเพื่อสิ่งที่เชื่ออีกหลายระดับเลย (สร้างจากเรื่องจริงด้วยนะ)

2.Dallas Buyers Club (2013)

1h 57min | Biography, Drama

“พลาดไม่ได้จริง ๆ” คือวลีที่เหมาะสมกับหนังเรื่องนี้ที่สุด เรื่องราวของผู้ติดเชื่อ HIV ในฉบับที่ไม่ฟูมฟาย น่าสงสาร แต่ฮึด สู้ และมีพลังที่จะทำเพื่อตัวเองและคนอื่น ๆ ในยุคที่โรคนี้ถูกรังเกียจยิ่งกว่าปัจจุบัน ทันทีที่ดูจบความรู้สึกดี ๆ จะหลั่งใหลท่วมท้นว่าโลกนี้มันยังน่าอยู่ถ้ามีคนที่สู้หมดใจอย่างนี้นี่เอง

3.Big Fish (2003)

2h 5min | Adventure, Drama, Fantasy

Big Fish หลอมรวมโลกของความฝันและความจริงไว้ใกล้ชิดกันจนดูไปได้อย่างเพลิดเพลิน หนังทำให้เราเห็นถึงพลังของจินตนาการ ความเชื่อ ความฝัน ที่ผลักดันผู้ชายคนหนึ่งมาถึงบั่้นปลายชีวิตที่ได้อยู่รายล้อมไปด้วยผู้คนที่เขารัก

4.The Perks of Being a Wallflower (2012)

1h 42min | Drama, Romance

ใคร ๆ ล้วนก็ต้องผ่านชีวิตวัยรุ่น ช่วงที่เป็นรอยต่อสำคัญแห่งความจริง ความฝัน เพื่อน อนาคต และความเจ็บปวดในใจแต่ละคน The Perks of Being a Wallflower จะพาเราย้อนเวลาไปกับความรู้สึกท่วมท้นเหล่านี้ ทั้งเรื่องที่สุขจนอยากจะหยุดอยู่กับช่วงเวลานั้นตลอดไป และความเจ็บปวดแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะผ่านมาได้ แต่ทั้งหมดคือการเรียนรู้และเติบโต ที่หนังจะทำให้เรารู้สึกว่าดีจังที่มีช่วงเวลาแบบนั้น และดีจังที่เราผ่านมันมาแล้ว รวมถึงมีแรงที่จะฮึดกับชีวิตตรงหน้าตอนนี้ต่อไป

5.The Shawshank Redemption (1994)

2h 22min | Crime, Drama

แม้จะผ่านมา 20 กว่าปี ก็ไม่ได้ทำให้ The Shawshank Redemption ถูกลดความนิยมไปแต่อย่างใด เอาเป็นว่าถ้าไม่ใส่มาในลิสต์อาจต้องมีหลายคนเคืองแน่ ๆ เพราะนี่กลายเป็นที่สุดแห่งหนังที่สร้างพลังใจดี ๆ หลังดูจบให้กับคนทั่วโลกอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต้องอธิบายให้มากความใครยังไม่ได้ดูก็ไปหามาดู ใครดูแล้วจะดูซ้ำอีกสักรอบก็ไม่เสียหายอะไรจริง ๆ รับรอง

6.The Pursuit of Happyness (2006)

1h 57min | Biography, Drama

อีกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ครั้งหนึ่งเคยตกอยู่ในสภาพสุดเลวร้าย ต้องทำแม้กระทั่งเข้าไปนอนในห้องน้ำสาธารณะ ใครที่กำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่รู้สึกว่าชีวิตย่ำแย่ควรหามาดูไว้เป็นพลังใจให้ตัวเองอย่างยิ่ง

7.The Green Mile (1999)

3h 9min | Crime, Drama, Fantasy

แม้ The Green Mile จะเป็นหนังที่ยาวถึง 3 ชั่วโมงกว่า แต่ไม่มีอะไรน่าเสียดายเลยหากต้องใช้เวลาดูหนังเรื่องนี้ เรื่องราวของนักโทษและผู้คุมในแดนประหาร ความสัมพันธ์ ปาฏิหาริย์ และสารพัดปมชวนขบคิด ดูจบอาจไม่มีแรงบันดาลใจสูตรสำเร็จเพราะเชื่อว่าแต่ละคนคงได้อะไรที่แตกต่างกันไปจากหนังเรื่องนี้

8.Moneyball (2011)

2h 13min | Biography, Drama, Sport

แม้จะเป็นหนังที่ว่าด้วยกีฬาเบสบอล แต่ถึงไม่ได้ดูกีฬาประเภทนี้ก็ไม่เสียอรรถรสแต่อย่างใด เพราะหนังพาเราไปดูวิธีการทำงานแบบนอกกรอบประเพณีเดิม ๆ ของโค้ชผู้มุ่งมั่นจะพาทีมไปถึงฝั่งฝันแม้ใครจะปรามาสว่านั่นเป็นวิธีที่ไม่มีทางสำเร็จหรอก

9.The King’s Speech (2010)

1h 58min | Biography, Drama

The King’s Speech เป็นหนังอีกเรื่องที่สร้างจากเรื่องจริง หนังเล่าเรื่องของพระเจ้าจอร์จที่ 6 (Colin Firth) ที่ต้องฟันฝ่า พยายาม เพื่อต่อสู้กับอาการพูดติดอ่างของตนเอง ตลอดเรื่องเราจะเอาใจช่วยกับการต่อสู้นี้ จนกระทั่งผลลัพธ์ออกมาในตอนท้าย ที่จะชวนให้เราตั้งคำถามว่าที่ผ่านมาเราพยายามกับสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้มากแค่ไหน?

10. Seabiscuit (2003)

2h 20min | Drama, History, Sport

Seabiscuit คือชื่ม้าที่กลายเป็นตำนานแห่งความหวังของสหรัฐอเมริกาในช่วงหนึ่ง เนื่องจากรูปร่างลักษณะของมันที่แคระแกร็นไม่เหมาะสมที่จะเป็นม้าแข่งที่ดีได้ แต่มันกลับกวาดรางวัลมาแทบทุกสนาม เนื่องจากการต่อสู้ฟันฝ่าฝึกซ้อมอย่างหนักระหว่างม้าตัวเล็กอย่าง Seabiscuit และผู้ฝึกที่ชีวิตพบเจอแต่ความพ่ายแพ้แต่เลือกว่าจะไม่ยอมแพ้อีกต่อไปแล้ว

PSYCAT
WRITER: PSYCAT
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line