VISIT: “ความเบียร์จงมี สุนทรีย์จึงมา” งานดีๆที่จะพาคุณดื่มด่ำไปในโลกของเบียร์

ณ ร้าน 22O3 twenty two O three ทาง UNLOCKMEN ได้ยินมาว่ามีงานเสวนาพูดคุยกันเรื่องสุนทรียะของการดื่มเบียร์ที่ไม่ใช่แค่กินเอาเมากินเอามันส์กันอย่างเดียว กับงาน “ความเบียร์จงมี สุนทรีย์จึงมา” ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่างานนี้จองที่นั่งแทบกันไม่ทัน เพราะรับจำนวนจำกัดแค่ 50 คน อาจจะเรียกได้ว่ากระพริบตาสามทีกลับมาดูที่นั่งก็เต็มกันหมดแล้ว

คนที่จะมาเปิดมิติของความสุนทรีย์ในงานครั้งนี้ก็คือ “อุทิศ เหมะมูล” นักเขียนเจ้าของผลงาน “ลับแล,แก่งคอย” เชื่อว่าใครก็ต้องคุ้นหูกับนิยายเล่มนี้ ถ้ายังไม่คุ้นแต่คุณเป็นคนสนใจในเรื่องของเบียร์ ก็น่าจะพอรู้จักหนังสือชื่อว่า “writer taste” กันมาบ้างก็คือผลงานของคุณอุทิศ ผู้ที่จะร่วมเปิดโลกความสุนทรีย์ของเบียร์ในค่ำคืนนี้

ขอเล่าถึงตัวงานกันนิดหน่อย คือถ้าคุณเข้ามาในงานแล้วสิ่งที่คุณจะได้รับคือกระดาษที่มีรายชื่อของเบียร์ที่คุณจะได้ชิมลิ้มรสในงาน ที่คัดสรรโดยพี่อุทิศนั่นเอง ด้านล่างก็จะมีที่ให้จดรสชาติ ความหอมหวาน หรือความรู้สึกหลังจากได้ดื่มอีกด้วย โดยจะเสริฟเบียร์ให้ชิมกันถึง 7 ตัวด้วยกัน แล้วยังได้หนังสือ Writer taste อีกเรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆ

บรรยากาศภายในงานเราของเรียกได้ว่าอบอุ่นเหมือนไปบ้านเพื่อนที่มีงานปาร์ตี้ เริ่มต้นบิ้วอารมณ์จากพี่อุทิศ มาเล่าเรื่องของนักเขียนกับเบียร์ ก็เป็นเหมือนของคู่กันมายาวนานดูจากนักเขียนชื่อดังต่างๆ ที่ชอบเขียนพรรณาหรือบรรยายถึงอรรถรสเกี่ยวกับน้ําอมฤตนี้ ไม่ว่าจะนักเขียนในบ้านเราหรือต่างประเทศ

จุดแรกที่ทำให้พี่อุทิศหันมาสนใจเรื่องเบียร์ได้ คือก็เดินตามพวก Super market, Villa market เนี่ยก็รู้สึกตื่นเต้นละลานตามากมายกับเบียร์หลายๆ ยี่ห้อ บวกกับวันเกิดในปี 52 ที่ภรรยาคุณอุทิศให้กระเช้าเป็นของขวัญภายในมีเบียร์ดำมากมายพร้อมกับหนังสือที่มีชื่อ  1001 BEER you must taste before you die  แถมในปีเดียวกันนี้ หนังสือนิยายที่คุณอุทิศเขียน “ลับแลแก่งคอย” ได้รับรางวัลซีไรต์ ก็ทำให้มีกำลังในการต่อยอดความชอบในเรื่องเบียร์จนถึงในปัจจุบัน

หลังจากนั้นเบียร์ก็ค่อยๆ ทยอยมาเสริฟพร้อมกับขนมขบเคี้ยว แล้วยังได้พิซซ่าถาดเล็กของที่ร้านกันคนละถาดอีกด้วยเรียกได้ว่าชิมเบียร์ไปฟังวิทยากรไป แลกเปลี่ยนความรู้กันไปอย่างสนุกสนานตลอดงาน เพราะในงานมีทั้งคนทำ  Craft Beer  และเจ้าของเพจเบียร์ต่างๆ เรียกว่าคนคอเดียวกันมาอยู่ด้วยกัน พื้นที่เล็กๆ นี้จึงกลายเป็นพื้นที่แห่งความสุขอย่างยิ่งสำหรับคนที่รักในความสุนทรีย์ของเบียร์

โดยเบียร์ในงานทั้ง 7 ตัวมีกันดังนี้ครับ

Stone – IPA – USA
Ayinger – Celebrator – Doppelbock – Germany
Epic – Hop Zombie- Double IPA – Newzealand
Evil Twin Brewing – Femme Fatale Noir – Black IPA – USA
De Molen – Bommen & Granaten – Netherlands
Hitachino Nest – Lacto Sweet Stout – Japan
Heretic – Evil Cousin – Double IPA – USA

โดยเรื่องรสชาติอะไร เราจะไม่ขอพูดถึงนอกจากให้ท่านผู้อ่านได้เกิดความอยากและตามหามาเพื่อลิ้มลองกันเอาเอง แต่ของบอกก็เลยว่ามีแต่ตัวเด็ดๆ ทั้งนั้น ระหว่างที่นั่งคุยกันไป เบียน์ก็ถูกยกมาเสิร์ฟอย่างต่อเนื่องราวกับ ไม่ใช่การชิม อาจจะพูดว่าเสิร์ฟให้เมากันไปเลยก็ว่าได้ ดูเหมือนเสียงพูดคุยและความสนุกสนานเฮฮา จะเพิ่มตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่อยู่ในเลือด จนกระทั่งมาถึงเบียร์ตัวสุดท้าย คือ Heretic Evil Cousin ที่แจกให้ดื่มกันไปเลยคนละกระป๋อง โดยพี่อุทิศเล่าย้อมกลับไปสมัยก่อนตอนที่เรากินเบียร์เราก็แค่เดินไปซื้อเบียร์กระป๋อง แล้วก็เปิดดื่มง่ายๆ แค่นี้ เหมือนพากลับไปยังความรู้สึกแรกของการเสพสุทรีย์ในการดื่มเบียร์

หลังจากจบงานเราก็ได้มาคุยกับพี่เทอร์โบเจ้าของร้านกันสักหน่อย เกี่ยวกับเป้าหมายของการจัดงานดีๆ ในครั้งนี้ พี่เทอร์โบเล่าว่า “จริงๆ แล้วผมคาดหวังเป้าหมายเดียวเลย และตอนนี้ก็ยัง happy กับเป้าหมายนั้น ก็คือ ทำให้ฐานคนดื่มเบียร์มันใหญ่ขึ้น” พี่เทอร์โบบอกว่างานนี้ happy มาก เพราะว่ามันก็เป็นการรวมกลุ่มคนเดิมๆ และก็มีคนใหม่ๆ ที่มาเจอกลุ่มคนเดิมๆ และก็กำลังจะกลายเป็นคนกลุ่มคนเดิมๆ ด้วยกันไป ก็คือเหมือนฐานมันใหญ่ขึ้น

อยากให้ฝากถึงคนที่สนใจเรื่องเบียร์ครับ จะเริ่มยังไง

คือ เรื่องเบียร์เนี่ยครับ แน่นอนว่าเบียร์นอกก็ต้องแพงกว่าเบียร์ในไทยอยู่แล้วครับ แต่ว่าความซับซ้อน หรือสุนทรีย์ของมันที่อยู่ในเบียร์เนี่ย มันมีส่วนผสมมากมาย มี HOB สายพันธ์ต่างๆ การหมัก การบ่มในแบบหลายๆ อย่าง ทำให้มันมีอะไรที่น่าสนใจ จริงๆ แล้วการดื่มเบียร์ก็เป็นวัฒนธรรมของหลายคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะดื่มเอาสนุกเ หรือดื่มเอาเมาก็ตาม แต่ว่าเราอยากให้ลองเปิดวัฒนธรรมเบียร์ในอีกมุมนึงครับ ลองสังเกตสิ่งที่ถูกเก็บอยู่ข้างในเบียร์ ไม่ว่าจะเป็นรสสัมผัส กลิ่นความหอมอะไรต่างๆ  มันมีโลกของมัน อยากให้เข้าใจว่า เบียร์เนี่ย มันเสพสุนทรียะได้ไม่ได้จำกัดอยู่ที่การดื่มไวน์อย่างเดียว

ต่อมาก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่อุทิศเกี่ยวกับการดื่มเบียร์ว่าจำเป็นไหมที่จะต้องดื่มเบียร์แพง

พี่อุทิศแนะนำก็ลองดูกำลังศักยภาพของตัวเอง เบียร์มันก็มีตั้งแต่ราคาที่เราพอหาซื้อได้ จนถึงราคาที่มันสูงมาก แต่ว่าในส่วนของราคาที่พอหาได้กับราคาที่มันสูงมากเนี่ย มันไม่ได้กีดกันลักษณะของคุณภาพของเบียร์ บางทีเบียร์ดีๆ เราก็สามารถหาได้ในราคาที่มันไม่ได้แพงมาก หรือแบบราคาถูก ก็มีเบียร์ดีๆ กิน เบียร์ที่ราคาสูงมาก เราก็อาจจะไม่ได้ถูกอกถูกใจอะไรขนาดนั้น จริงๆ เราว่าการชิมเบียร์ ก็เหมือนไวน์ มันก็มีมาตราฐานของมันอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องไปตามล่า อะไรที่เป็นวินเทจ ต้องปีนั้น ปีนี้ บางทีมันอาจจะไม่ถูกใจคุณด้วยซ้ำ เบียร์ก็เหมือนกัน มันคือประสบการณ์ที่คุณสามารถจะได้ลองไปเรื่อยๆ โดยที่มันไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากนัก คุณไม่จำเป็นต้องกินเบียร์ที่มันขวดละ 400- 500 อะไรแบบนั้น เบียร์ดีๆ ก็มีในส่วนที่มันแบบว่า 100-200 ก็ดื่มได้

ในครั้งนี้ต้องขอบคุณร้าน 2203 Twenty Two O Three มากครับที่ได้ให้เรามาร่วมงานในครั้งนี้ โดยร้านตั้งอยู่ที่ ซอยวิภาวดีรังสิต 16/10 ปากทางมีป้ายร้านบอกชัดเจนครับ  ถ้าใครมาไม่ถูกสามารถโทรสอบถามได้ครับที่ 095 598 9554 หรือ facebook fan page 2203 – twenty two O three  ร้านเปิด 17.30-24.00 น. ปิดวันพุธ ขอบอกเลยนะครับว่าอาหารร้านนี้สุดยอดมาก ยิ่งถ้าได้มาดื่มเบียร์ดีๆ คู่กับอาหารอร่อยๆ ความเหนื่อยทั้งหมดจะหายเป็นปลิดทิ้งแน่นอนครับ