5 พฤติกรรมยอดแย่ ที่คนไม่ประสบความสำเร็จมักทำโดยไม่รู้ตัว

“There are two sides to every story”  ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ แต่น่าเสียดายที่พวกเรามักจะมองเห็นและรับฟังอะไรแค่ด้านเดียว ก็รีบด่วนตัดสินใจว่าเพียงพอที่จะนำไปใช้จริงแล้ว โดยเฉพาะเรื่องวิธีหรือเคล็ดลับที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คนส่วนใหญ่มักจะอ่านข้อที่คิดว่าทำได้ง่ายที่สุด เข้ากับตัวเองมากที่สุด โดยลืมสำรวจอีกด้านว่า ตัวเองได้ทำพฤติกรรมแย่ๆ ที่คอยฉุดไม่ให้เราประสบความสำเร็จอยู่หรือไม่ ลองสำรวจตัวเองกันดูว่ามีพฤติกรรมไหนที่เราควรระวังบ้าง

อยู่ในกะลา ไม่ชอบความท้าทาย ไม่อยากรับผิดชอบอะไรมากกว่าสิ่งที่ต้องทำ

สิ่งที่ทำให้มีคนที่ไม่ก้าวหน้าไปไหน กับคนที่ได้เลื่อนขั้นไปเป็นหัวหน้านั้น ก็คือความกล้าที่จะแตกต่าง ในขณะที่คนบางกลุ่มเลือกอยู่อย่างปลอดภัยและสุขสบายใน  Comfort Zone  ที่เรียกว่า  “กะลา”  คนในกะลาจะไม่เคยเสนอตัวเพื่อทำงานอื่นนอกจากงานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย และเมื่อตั้ง  KPI  ก็มักจะตั้งแบบ  Save & Chill  เบาๆ สบายๆ  เพราะอยากจะมั่นใจว่าทำได้คะแนนดีแบบไม่ต้องเหนื่อย เมื่อถึงเวลาต้องเลือกสนับสนุนใครสักคน คุณจะเลือกคนในกะลา หรือคนนอกกะลา?

ให้เวลาในการทำงานน้อยเกินไป

การมาทำงานสาย แต่กลับบ้านตรงเวลา เวลาในการทำงานก็ยิ่งลดน้อยลง ผลที่ตามมาคือทำงานไม่ทันตามเวลาที่ได้รับมอบหมาย หรือทันแบบลวกๆ มีความผิดพลาดเต็มไปหมด เป็นผลจากการไม่เหลือเวลาไว้ตรวจสอบแก้ไขก่อนส่งงาน บางคนอาจจะตีความคำว่า  Work hard, Play harder  แบบผิดๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการพักผ่อน ปาร์ตี้ และให้เวลาในการทำงาน การพัฒนาตัวเองน้อยมากจนไม่ขยับไปไหน  อย่าลืมว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ทันทีที่คุณหยุดเดินหรือเดินช้าลง นั่นเท่ากับว่าคุณกำลังถอยหลัง และไม่แปลกเลยที่จะถูกคนอื่นวิ่งแซงไปได้อย่างรวดเร็ว

เก่งพูด ไม่เก่งทำ และไม่รับฟังเสียงวิจารณ์รอบตัว

“Talks the talk but does not walk the walk”  พูดเก่งแต่ไม่เคยทำ นี่คือคุณสมบัติยอดแย่ข้อนึงที่ผู้บริหารหลายคนต่างส่ายหัวให้ และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นคือคนที่ไม่เคยฟังคำวิจารณ์เมื่อคนอื่นบอกข้อเสียให้ฟัง กลายเป็นอารมณ์โมโหเสียอย่างนั้น รวมถึงคนที่มั่นใจในความสามารถของตนเองมากเกินไป จนคิดว่าไอเดียหรือข้อเสนอของคนอื่นเป็นเรื่องไร้สาระเกินกว่าจะต้องเสียเวลารับฟัง ในการทำงานแบบตัวคนเดียว อาจจะไม่มีปัญหาหรือความเสียหายเท่าการทำงานโปรเจคใหญ่แบบเป็นทีม เพราะไม่มีใครที่จะถนัดไปทุกอย่าง และยังเป็นการไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงานอีกด้วย

ยอมแพ้ง่าย อันนั้นยากไป อันนี้ทำไม่ได้หรอก

ข้อนี้ตรงตัวจนไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถ้าเราย้อนไปดูคนยิ่งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จทุกคน มีคุณสมบัตินึงที่คล้ายกันคือการไม่ยอมแพ้ คนเหล่านี้ล้วนเคยล้มเหลวมาเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้ง ลองดู  Albert Einstein,  Michael Jordan,  Steve Jobs  และอีกสารพัดนับไม่ถ้วน ส่วนคนขี้แพ้ก็มีคุณสมบัติเหมือนกันข้อนึงคือ ยอมแพ้ สามารถหาเหตุผลรองรับเมื่อเจอสิ่งไม่คาดฝัน เจอปัญหาที่ยากขึ้น ก็มักจะถอดใจ โทษฟ้า โทษฝน โทษเพื่อนร่วมงาน โทษโชคชะตา

อิจฉาคนที่ทำได้ดีกว่า หวังว่าคนอื่นจะล้มเหลว

เชื่อหรือไม่ว่า บางคนจะมีจุดลึกๆ ในใจที่คอยอิจฉาเวลาคนอื่นได้ดีกว่าตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น เวลามีคนได้เลื่อนขั้นแต่ตัวเองไม่ได้ แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา และกลายเป็นใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ควรจะเป็นเวลาทำงาน เอาไปอิจฉา แอบด่าว่าคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าโดยไม่รู้ตัว โดยไม่ได้มองเห็นข้อเสียหรือกะลาของตัวเองแม้แต่นิดเดียว ในขณะที่คนประสบความสำเร็จหรือหัวหน้าคนที่ดี มักจะผลักดันให้คนอื่นประสบความสำเร็จ รวมถึงให้เครดิตทีมงานที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยกันอย่างเต็มที่

แค่เราหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ รับรองว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงจากรอบด้านได้อย่างชัดเจนขึ้นภายในเวลาไม่นาน หรือมีพฤติกรรมไหนที่คุณคิดว่าน่าจะเพิ่มเข้าไปในบทความนี้ แนะนำเข้ามาได้เลยครับ