5 ข้อที่ควรรู้ ก่อนเครื่องคอมพิวเตอร์ในมือฉิบหายไปไม่รู้ตัว

หลังจากที่ช่วงนี้ทั่วโลกเริ่มตื่นตัวกันอย่างแพร่หลาย ในเรื่องของการถูกคุกคามด้วยไวรัสตัวเก๋า มาแรงแซงทางโค้ง อย่าง WannaCrypt ที่ตอนนี้ได้ทะลุทะลวงโดนกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะผู้ใช้ทั่วไปหรือภาครัฐ ภาคเอกชน มากกว่า 99 ประเทศทั่วโลก แถมก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ อีกด้วย จากล่าสุดมีการพัฒนาไปเวอร์ชั่น 1.0 – 4.0 กันแล้ว

เรียกว่าด้านมืดของโลกคอมพิวเตอร์ที่ถูกเผยออกมาและได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างโดยตรงอย่างแท้จริง ทำให้ตอนนี้เราเริ่มเห็นหลายฝ่าย สำรวจตรวจสอบและป้องกันคอมพิวเตอร์ภายใต้การดูแลกันทั่วหน้า

เห็นแบบนี้ UNLOCKMEN มีข้อควรรู้เล็กๆ น้อย ที่สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์มาแนะนำให้รู้กันไว้ ก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์สุดรักในมือจะถูกทำลาย แฝงไวรัส และดึงข้อมูลสำคัญไปแบบที่เราแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะบนโลกอินเตอร์เน็ตอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้

1. Anti-Virus & Update

หลายคนบอกว่าการอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่หรือการลงโปรแกรม Anti-Virus เป็นการทำให้เครื่องช้าลงและทำให้พวกโปรแกรมหลายตัวไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่รองรับเวอร์ชั่นใหม่ ทำให้หลายคนเลือกที่จะไม่อัพเดทและไม่ติดตั้งพวกโปรแกรม Anti-Virus ในเครื่อง ซึ่งดูผิวเผินแล้วก็คงมีแต่ข้อเสีย แต่จริงแล้วหารู้ไม่ว่า มันไม่ใช่จะแย่ขนาดนั้นเลย บางครั้งอาจเป็นผลดีด้วยซ้ำ

เพราะการที่เราอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ๆ บางครั้งมันก็ส่งผลช่วยให้เครื่องลดการเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่เข้ามา ให้น้อยลง เพราะการที่มี Updates ออกมาบ่อยๆ ก็เปรียบเสมือนประตูบ้านที่ถูกแก้ไข ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเสมอ ช่วยแก้บัค แก้ช่องโหว่ที่เข้ามาหาเรา และ Anti-Virus ก็เหมือนกัน ที่แม้จะทำงานอยู่หลังบ้านตลอดเวลาให้หนักเครื่องและช่วยกันไม่ได้ 100% แต่มันก็ดีกว่าบ้าน (คอมพิวเตอร์) ที่ไม่มีอะไรป้องกันไว้เลย

2. หลีกเลี่ยง Crack

ก็เพราะว่าคนเราไม่ยอมลงทุน คิดเสมอว่าโปรแกรมทุกอันสามารถหาโหลดได้จากอินเตอร์เน็ตฟรีๆ ทำให้หลายคนเลือกจะหาโหลดโปรแกรมเสียเงิน ที่มาพร้อมกับ Crack ตามโลกอินเตอร์เน็ตมาใช้งานบนเครื่องตัวเอง ไม่ว่าจะงานใช้ทั่วไปหรือใช้จริงจังเป็นอาชีพก็ตาม นับเป็นความคิดที่ผิดเป็นอย่างมาก

เพราะข้อแรกเรามีความผิดทางกฏหมายแน่นอน และข้อสองที่อันตรายยิ่งกว่าคือ สิ่งที่แฝงมาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ อย่างพวกมัลแวร์และไวรัสต่างๆ หลายครั้งไฟล์ Crack พวกนี้จะถูกฟ้องโดยโปรแกรม Anti-Virus ในเครื่อง ว่าไม่ควรลง แต่คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมองข้ามและยอมปิดโปรแกรมสแกนไวรัสเพื่อใช้งาน Crack

แม้เราอาจเห็นว่ามันไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย เครื่องก็ปกติ โปรแกรมก็ใช้งานได้ ไม่เห็นต้องไปเสียเงินชื้อเลย จริงๆ แล้วเราไม่รู้ตัวหรอก ว่าตัวเครื่องที่ติดตั้งโปรแกรม Crack ไป มันโดนฝังและแฝงภัยอะไรไว้บ้าง บางครั้งอาจเป็นการส่งข้อมูลธุรกรรมการเงินหรือพวกข้อมูลบันทึกการใช้งานของเราไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้ เรียกว่าอันตรายสุดๆ เพราะเราเปิดให้มันเข้าถึงการทำงานตัวเครื่องได้แบบเต็มที่

3. คลิก Link นิดๆ หน่อยๆ

ความมือซนและไร้สติบางครั้งก็สร้างภัยอันตรายได้มากกว่าที่คิด ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจาก Popup หน้าอินเตอร์เน็ตที่เราใช้งานอยู่ เมื่อเราเริ่มเข้าเว็บไซต์แปลกๆ และไม่ปลอดภัย มักจะเด้ง Popup ที่แฝงด้วยอะไรมากมาย บางครั้งแค่เราคลิกพลาด มันก็ทำการโหลดโปรแกรมและบังคับเปิดให้ติดตั้งอยู่บ่อยๆ ด้วยความไม่รู้เราอาจเผลอกด next ไปโดยไม่รู้ตัวจนทำให้โปรแกรมอันตรายติดตั้งลงไปในเครื่องได้

และอีกอย่างที่ควรระวังคือพวก e-mail แปลกๆ ที่ส่งมามีนามแฝง ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าเราลืมรหัสผ่าน หรือยอดบิลชื้อของที่เราไม่ได้ชื้อ แต่แนบลิงค์ให้เรากดไปดู ถ้ารู้สึกว่ามันผิดปกติไม่คุ้นตา อย่าได้เผลอกดกันเชียวครับ มีหลายครั้งที่ข้อมูลผู้ใช้งานถูกแฮกเพียงเพราะการกดลิงค์ที่แนบมาในเมล แนะนำว่าควรดูชื่อผู้ส่งและข้อมูลในเมลให้ชัดเจนก่อนดีที่สุด

4. Backup file

ทำไมการ Backup file ถึงเป็นอีกสิ่งที่ควรรู้และควรทำ นั่นก็เพราะว่าข้อมูลถ้ามีอะไรที่ผิดพลาดหรือถูกทำลายไป มันจะไม่สามารถดึงกลับมาได้แบบสมบูรณ์ 100% เท่ากับการ Backup file ต้นฉบับอันนั้นไว้  ซึ่งถ้าถามความจริงว่ามันยุ่งยาก เสียเวลามากไหม ก็บอกได้เลยว่า ใช่ครับ มันเสียเวลามากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเราต้องมานั่ง Backup ตลอดเวลา แต่ยังไงเราก็ไม่ควรที่จะไม่ทำมัน

เพราะบางครั้งเราอาจถูกโจมตีหรือถูกพวกไวรัสทำลายข้อมูลสูญหายได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้มักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าเราเผลอโดนเข้าไปเมื่อไหร่ เรียกว่าฉิบหายถึงใจกันเลยทีเดียว แม้ว่าบางครั้งเราจะลบหรือปิดการทำงานของมันได้ แต่เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไฟล์ในเครื่องที่เรามีอยู่ มันปลอดภัยอยู่หรือเปล่า และส่วนไหนของเครื่องที่ถูกทำลายไปบ้าง ดังนั้นการ Backup ไฟล์บ่อยๆ เท่าที่ทำได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการ Backup ทั้งแบบ Online และแบบ Offline

5. สังเกตเครื่องตัวเอง

ทำไมการสังเกตจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอีกอย่าง นั่นก็เพราะใครจะรู้และใช้งานเครื่องเราบ่อยได้เท่ากับตัวเราเอง ดังนั้นเราควรต้องรู้จักสังเกตคอมพิวเตอร์ของตัวเองในขณะการใช้งานดูบ้าง ว่ามีอะไรที่แปลกปลอมทำงานอยู่ไหม อย่างเช่นบริเวณ Taskbar, Cpu, Ram ต่างๆ มันมีการใช้งานที่แปลกหรือผิดปกติไปจากการใช้งานทุกๆ วันไหม, เครื่องที่ใช้งานอยู่ๆ เกิดช้าลงหรือเปล่า, มีโปรแกรมอะไรแฝงเด้งขึ้นมาบ้างไหม

ถ้าเริ่มมีอะไรที่เข้าข่ายผิดสังเกตเกิดขึ้นเราจะได้รู้จักหาวิธีป้องกันตาม Google หรือถามผู้รู้ เพื่อจะได้แก้ไขให้ทันท่วงที

แม้ว่าตอนนี้จะมีหลายฝ่ายตื่นตระหนักกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราก็ไม่ควรตื่นตัวกันเกิดเหตุ ควรอ่านและสำรวจตาม 5 ข้อที่เรากล่าวมาซะ อย่างน้อยมันก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแล้วรอการโจมตีเข้ามา ถึงค่อยถามหาวิธีแก้ไขทีหลัง ซึ่งตอนนั้นมันอาจไม่ทันการอะไรแล้วก็ได้