Guide

7 เส้นทางตะลุยป่า พิชิตยอดดอย ที่จะพาคุณไปถึงเส้นขอบฟ้าในประเทศไทย

By: myfifthday December 19, 2016

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของปีที่ประจวบเหมาะกับลมหนาวเริ่มพัดมาให้ได้ชื่นใจ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหล่านักเดินทางที่หลงใหลในอากาศเย็นและเมฆหมอกของธรรมชาติ อยากจะออกเดินทางไปพิชิตและสัมผัสกับความรู้สึกเหล่านี้ วันนี้ UNLOCKMEN ได้เลือก 7เส้นทางเดินป่า พิชิตขุนเขา จากทั่วประเทศไทยมาแนะนำกัน ให้สายลุย สายบู๊ ได้ขนเพื่อนผองสายอึดไปตะลุยลมหนาวกัน

ดอยผ้าห่มปก

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-13

ดอยผ้าห่มปก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก และถูกจัดว่ามีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของประเทศ สูงถึง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล รองจากดอยอินทนนท์ เป็นดอยในฝันที่เหล่านักเดินป่าอยากจะมาพิชิตโดยดอยผ้าห่มปกมีหมอกปกคลุมจัดและมีอากาศหนาวเย็นแทบจะตลอดทั้งปีและมีลมแรง

ส่วนการเดินทางขึ้นไปพิชิตบนยอดดอยสูงสุดของดอยผ้าห่มปกต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ระยะจากจุดกางเต็นท์ระยะทาง 3.5 ก.ม. ใช้ระยะเวลาเดินทางไปกลับ 3-4 ช.ม. เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องต้องฟิตร่างกายมาให้พร้อมและเตรียมน้ำดื่มขึ้นไปด้วย โดยเฉพาะเส้นทางในช่วงแรกค่อนข้างชันและตลอดเส้นทางก็มักจะขรุขระ ขึ้นลงตลอด แต่จะชันน้อยกว่าช่วงแรก สำหรับใครที่สนใจไปพิชิตก็สามารถติดต่อคนนำทางได้ที่ทำการอุทยานของลานกางเต็นท์กิ่วลม ค่าคนนำทางอยู่ที่คนละ 300 บาท

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท
โทรศัพท์/โทรสาร : 0 5345 3517, 084-483-4689

ดอยหลวงเชียงดาว

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-2

ดอยหลวงเชียงดาว มีความสูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศ สูงถึง 2,275 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถ้าใครไปเชียงใหม่ขับไปเส้นฝาง จะเห็นเขาลูกใหญ่โตมโหฬารตั้งตระหง่านรอคอยให้นักท่องเที่ยวไปพิชิต การเที่ยวดอยหลวงเชียงดาวเพื่อให้เก็บบรรยากาศได้ครบแบบไม่เหนื่อยจนเกินไปควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และดอยหลวงเชียงดาวจำกัดคนเดินทางขึ้นสู่ยอด รับได้ไม่เกิน 150 คน เริ่มด้วยการติดต่อขออนุญาตเข้าเขตฯเชียงดาวล่วงหน้า อย่างน้อย 15 วัน และที่พักบนยอดดอยหลวงเชียงดาว มีเพียงแห่งเดียวที่อนุญาตให้พักแรม คือ บริเวณอ่างสลุง

บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรทั้งสิ้น ต้องเตรียมอาหาร และน้ำดื่ม ทุกอย่างต้องเตรียมไปเอง รวมไปถึงสัมภาระ ขึ้นไป เช่น เต็นท์ ถุงนอน เสื้อกันหนาว ผ้าห่ม ไฟฉาย ไฟแช็ค และทุกอย่างที่จำเป็นด้วยตัวเอง และเส้นทางเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาวมี 2 เส้นทาง คือ เส้นทางเด่นหญ้าขัด-อ่างสลุง ถึงยอดดอยประมาณ 8.5 ก.ม.เป็นเส้นทางที่นิยมใช้มากที่สุดเนื่องจากตลอดเส้นทางไม่ชันมาก แต่ถือเป็นเส้นทางที่ไกล ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งคือ เส้นทางปางวัว-อ่างสลุง ระยะทางประมาณ 6.5 ก.ม.เส้นทางค่อนข้างชันในช่วงแรก และช่วงเวลาท่องเที่ยวทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเปิดให้ท่องเที่ยวได้เป็นเวลา 5 เดือนตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 31 มี.ค. ของทุกปี ใครอยากจะไปพิชิตก็ต้องฟิตทั้งร่างกายและเตรียมตัวให้เหมาะกับช่วงเวลาก่อนไปอีกด้วย

ขออนุญาตเข้าเขตฯเชียงดาวได้ 2 แห่ง คือ
สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. 02-5614836
สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053 456 623

ภูสอยดาว

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-3

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติและเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูง จากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร และซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ที่นี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตั้งแต่น้ำตกสายทิพย์ น้ำตกภูสอยดาว และลานสนสามใบภูสอยดาวและทุ่งดอกไม้ในป่าสน เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ มีพื้นที่ประมาณ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ราบบนเทือกเขาภูสอยดาว ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป เป็นป่าสนสามใบ พืชชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้าง

การเดินทางไปลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องเดินทางเท้าจากน้ำตกภูสอยดาวริมเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1268 ขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวระยะทางประมาณ 6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ค่าบริการลูกหาบเพื่อเดินขึ้นภูสอยดาวอยู่ที่กิโลกลัมละ 20 บาทต่อเที่ยวและมัดจำขยะ 100 บาทต่อกลุ่ม ตอนลงนำขยะลงมารับเงินมัดจำคืน มีค่าเข้าอุทยานอยู่ที่ 40 บาท และเตรียมฟิตร่างกาย และอุปกรณ์จำเป็นให้พร้อม

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

โทรศัพท์ : 055-436793 , 095-6299528 (สำหรับติดต่อในเวลาราชการเท่านั้น) , 091-0247633

ดอยลังกาหลวง

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-12

ดอยลังกาหลวง มีจุดเด่นในเรื่องของเส้นทางเดินที่ท้าทายและยาว แต่เป็นทางไกลที่ไม่น่าเบื่อ เพราะตลอดเส้นทางมีสภาพป่าที่แตกต่างกัน ตลอดจนภูมิประเทศที่ต่างกัน และดอยลังกาหลวงเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติขุนแจ ครอบคลุมบริเวณรอยต่อ 3 จังหวัดคือเชียงราย – ลำปาง – เชียงใหม่ ติดเขตจังหวัดเชียงใหม่บริเวณพื้นที่ของอำเภอดอยสะเก็ดตามเส้นทางที่มุ่งไปยังจังหวัดเชียงราย และดอยลังกาหลวง มีเส้นทางเดินป่าที่ไม่ย้อนกลับทางเดิม เริ่มจุดหนึ่งแล้วเดินไปจุดสิ้นสุดอีกจุดหนึ่ง โดยจะเริ่มเดินจากสถานีทวนสัญญาณหรือมักจะเรียกกันว่า สถานีเรดาร์ เดินไปจบเส้นทางที่บ้านแม่ตอนหลวง หรือจะเริ่มเดินจากทางขึ้นบ้านแม่ตอนหลวง มาสิ้นสุดเส้นทางที่สถานีเรดาร์ก็ได้ ระยะทางเดินทั้งสิ้น 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3-4 วัน แต่ก็แล้วแล้วแต่ว่านักท่องเที่ยวจะรีบเร่งหรือว่าจะเดินเพื่อชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ

การเที่ยวบนดอยลังกาหลวงเป็นลักษณะเที่ยวแบบเดินป่าตั้งแค้มป์พักแรมที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์เครื่องนอน และอาหารไปให้พร้อม การแบกสัมภาระขึ้นดอยลังกาหลวงจะมีลูกหาบไว้บริการ โดยจะต้องแจ้งความต้องการล่วงหน้าเพื่อให้ทางอุทยานจัดหาลูกหาบไว้พร้อมในวันเดินทาง และระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวคือ 4 วัน 3 คืน หรือจะแบบลุยๆ หน่อยก็ 3 วัน 2 คืน

อุทยานแห่งชาติขุนแจ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงราย 57260
โทรศัพท์ 053-163364, 084-3665213, 084-4892173 โทรสาร 053-163364

โมโกจู

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-5

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อกันอยู่แล้วสำหรับ โมโกจู จุดสูงสุดแห่งหนึ่งในผืนป่าตะวันตก ด้วยความสูง 1,950 เมตร จากระดับน้ำทะเล โมโกจู เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ 27 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไป-กลับทั้งหมดประมาณ 5 วัน แม้ระยะทางจะไกลแต่ โมโกจู ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางหลายคนที่อยากจะมาพิชิต

สำหรับการเดินเท้าขึ้น โมโกจู จะต้องติดต่อจองกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์โดยตรง และจะต้องดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนของทางอุทยานฯ และควรเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายให้แข็งแรง เพราะทางเดินขึ้นเขามีความลาดชันไม่ต่ำกว่า 60 องศาและใช้เวลาในการเดินทางไป-กลับถึง 5 วัน แถมยังต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด ก่อนไปเรายังขอแนะนำว่าให้ศึกษาสภาพเส้นทางและสภาพอากาศให้พร้อม ช่วงเวลาที่เปิดให้เดินป่าคือเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปี

อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กิโลเมตรที่ 65 ถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง กิโลเมตรที่ 65 อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 62180
โทรศัพท์ 055-719010-1, 055-766027, 055-766436 โทรสาร 055-766436

ดอยม่อนจอง

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-6

ดอยม่อนจอง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยจุดสูงสุดของดอยม่อนจองที่เรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,925 เมตร และไฮไลต์ของการมาเที่ยวดอยม่อนจอง ก็คือการได้ชมภูเขาสูงสลับซ้อนกับทุ่งหญ้าที่จะเปลี่ยนเป็นสีทองในช่วงหน้าหนาว และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบถ่ายรูปกันมากที่สุด ที่นี้ยังนับเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-พระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในประเทศไทยอีกด้วย

ดอยม่อนจองเปิดให้ท่องเที่ยวได้ในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – 15 กุมภาพันธ์ ส่วนระยะเวลาในการเดินทางขึ้น ดอยม่อนจองนั้น นักท่องเที่ยวควรใช้ประมาณ 2 วัน 1 คืน และต้องติดต่อขออนุญาตกับทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย หน่วยมูเซอ หลังจากนั้นจัดเตรียมสัมภาระ ขึ้นรถขับเคลื่อนสี่ล้อไปส่งยังจุดเริ่มเดินอีก 16 กิโลเมตร และขึ้นสู่ยอดดอยระยะทาง 4 กม ใช้เวลา เดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมง ผ่านเส้นทางขึ้นลงและราบสลับกันแต่ส่วนใหญ่จะเดินขึ้นซะมากกว่า

153 หมู่ 2 ต. ยางเปียง อำเภอ อมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 50310 (หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่ามูเซอ นาย สมบัติ อ่อนสะอาด โทร 085-708-7441)

เขาหลวง (สุโขทัย)

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-11

เขาหลวงสุโขทัย อุทยานแห่งชาติรามคำแหง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง ๑,๒๐๐ เมตร เป็นภูเขาที่มีหน้าผาสูงชัน และมียอดเขาสูงที่สุดอยู่ทางด้านทิศใต้ของเมืองสุโขทัย บนยอดเขามีทิวทัศน์ที่สวยงาม ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าธรรมชาติและเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวที่นิยมชอบธรรมชาติ อยากจะมาสัมผัสและพิชิตให้ได้สักครั้ง ส่วนใหญ่ข้อมูลของที่นี้จะไม่ค่อยมีมากหรือโด่งดังเหมือนที่อื่นๆ ด้วยเพราะระยะเดินทางสั้นๆ เพียง 3.5 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาในการเดินทางมากถึง 4-5 ชั่วโมง ก็เพราะด้วยทางที่ลาดชันมาก ถึงขนาดได้10/10 ของความชัน คนส่วนใหญ่เลยไม่นิยมและเลือกไปที่อื่นกันมากกว่า แต่ก็มีเหล่าสายลุยที่คอยไปพิชิตใจที่นี้กันอยู่บ่อย ๆ

เขาหลวงสุโขทัย ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นยอดเขาหลวงหลัง เวลา 15.30 น. เนื่องด้วยระยะเวลาเดินป่าช่วงมืดค่อนข้างอันตรายและสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปค้างแรมด้านบนควรเตรียมอาหารให้เพียงพอ ก่อนการเดินทางนักท่องเที่ยวก็ควรสำรวจความพร้อมทางร่างกาย และเตรียมอุปกรณ์สิ่งของจำเป็นไปด้วย เช่น เสื้อกันหนาว หมวก ไฟฉาย ยา และอาหารแห้ง ไปให้พร้อม

ค่าเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการลูกหาบขึ้นยอดเขาหลวง ราคากิโลกรัมละประมาณ 15 บาท โดยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่อุทยานแห่งชาติรามคำแหง ตู้ ปณ. 1 อำเภอคีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย 64160 โทร. 055-910-00-1 หรือ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 02-562-0760

191259-10-peaked-mountains-to-the-horizon-in-thailand-10

เป็นยังไงบ้างสำหรับเส้นทางเดินป่า พิชิตเขา ที่ทาง UNLOCKMEN คัดมาให้เพื่อไปตะลุยลมหนาวกัน ใครอยากวัดใจ วัดความอึดว่ามีขนาดไหนก็อย่ารอช้า ลองเลือกลุยสักเส้นทาง ว่าแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋า ฟิตร่างกายและลุยกันเลย ก่อนที่คนจะเยอะไปกว่านี้จะดีกว่า

myfifthday
WRITER: myfifthday
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line