8 เคล็ดลับจาก Barista สาว “Laila Ghambari” ที่จะทำให้คุณชงกาแฟได้ไม่แพ้มือโปรได้ง่ายๆ ที่บ้าน

วันนี้เราอยากแนะนำหญิงสาวคนนึงที่จะมาช่วยให้พวกเรามีกาแฟอร่อยๆ ดื่มเองได้ที่บ้าน เธอมีชื่อว่า Laila Ghambari นอกจากเธอจะมีนัยตาสีน้ำตาลที่สวยงามแล้ว ความรู้ และความสามารถในการชงกาแฟของเธอก็ถือว่า หาตัวจับได้อย่างจริงๆ ที่เธอมีรู้เรื่องกาแฟอย่างลึกซึ่งนั้น นั่นก็เพราะว่าเธอเติบโตขึ้นมาในบ้านที่มีพ่อเป็นเจ้าของร้านกาแฟ ที่มีชื่อว่า Cherry Street Coffee House และเธอยังทำงานเป็นบาริสต้ามายาวนานถึง 14 ปี นอกจากนี้เธอยังเป็น US Barista Champion ปี 2014 อีกด้วย วันนี้เราจึงอยากจะนำเสนอ 8 สิ่งที่เป็นการทำกาแฟในสไตล์ของ Laila Ghambari มาให้ทุกท่านได้ลองทำเองกันได้ง่ายๆ ที่บ้าน โดยที่เธอรับรองว่า ถ้าทำตามรายละเอียดที่เธอบอกมาล่ะก็ อร่อยไม่แพ้ร้านกาแฟยี่ห้อดังอย่างแน่นอน

“The truth about the Pumpkin Spice Latte at Starbucks is there’s no pumpkin in it and it’s full of gross chemical sugar stuff. You can make one at home and it’ll taste way better.” – Laila Ghambari

1. Use whole milk

ผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ชอบใช้น้ำแบบ nonfat หรือนมไขมันต่ำ เพราะยังมีความกังวลในเรื่องของน้ำหนักตัวอยู่ แต่ถ้าหากคุณคำนึงถึงรสชาติที่ดีเลิศมาเป็นอันดับแรก การใช้ Whole Milk นมสดแท้ๆ ที่ยังมีไขมันอยู๋อย่างครบถ้วนนั้น จะทำให้ ฟอง เนื้อครีม และรสชาติสมบูรณ์แบบมากที่สุด เพราะการที่จะได้กาแฟที่หอม หวาน มัน นั้น จำเป็นต้องใช้ไขมันที่อยู่ภายในนมสดเป็นหลัก

2. Use fresh beans

การเลือกใช้เมล็ดกาแฟก็เช่นกัน การที่เราจะได้กาแฟที่หอมนั้น แน่นอนว่า เมล็ดกาแฟถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเมล็ดกาแฟที่นำมานั้น ถ้าให้ดีที่สุดควรเลือกเมล็ดกาแฟที่มีความสดใหม่ ที่เพิ่งผ่านการคั่วมาไม่เกิน 2 สัปดาห์  และสูงสุดไม่เกิด 1 เดือน เพราะฉะนั้นควรใส่ใจเลือกเมล็ดกาแฟ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้เลือกเมล็ดกาแฟที่คั่วใหม่ทุก 2 อาทิตย์

3. Learn your coffee type

ศาสตร์ของกาแฟนั้น จริงๆ แล้ว มีความระเอียดซับซ้อนไม่ต่างจากไวน์เลย ดังนั้นคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณชอบรสชาติแบบไหน เพราะเมล็ดกาแฟแต่ละตัวจะมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นบางคนอาจจะชอบกาแฟเปรี้ยวนิดๆ บางคนอาจจะชอบรสขมฝาด การที่คุณรู้รสชาติกาแฟที่คุณชอบ และต้องการ จะทำให้คุณสามารถบอกกับผู้เชี่ยวชาญให้แนะนำเมล็ดกาแฟที่มีรสชาติเหมาะสมกับคุณได้

4. Grind the coffee fresh

จำไว้ว่าเมล็ดกาแฟก็เหมือนกับผลไม้ เมื่อคุณบดเมล็ดกาแฟแล้ว มันก็เหมือนกับผลไม้ที่ถูกผ่า เมื่อเมล็ดกาแฟที่บดแล้วถูกทิ้งไว้ผ่านลม ความสดของเมล็ดก็จะลดลงทันที คล้ายกับผลแอปเปิ้ลที่โดนผ่านแล้ว ตากลมทิ้งไว้จะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล ทำให้ความสดของมันหายไป เพราะฉะนั้นเมล็ดกาแฟควรเก็บไว้ในที่มิดชิด ส่วนเมล็ดกาแฟที่จะนำมาบด ก็ควรจะบดไม่มากเกินไป ให้พอที่ความต้องการ และปริมาณที่เราจะชงก็พอ

5. Use a burr grinder

เครื่องบดกาแฟเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อคุณต้องการรสชาติที่สดใหม่ คุณต้องมีเมล็ดกาแฟสด เมื่อคุณมีเมล็ดสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเครื่องบด ยิ่งถ้าคุณมีเครื่องบดที่ดี เมล็ดกาแฟที่คุณบดออกมาจะยิ่งมีความละเอียด และถ้าเมล็ดกาแฟนของคุณละเอียดมากพอ คุณจะสามารถรับรู้รสชาติ และความแตกต่างของกลิ่น ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

6. On a related note, watch your grind size

มาถึงขั้นตอนที่เราจะได้น้ำกาแฟออกมา การชง Espresso ที่สมบูรณ์แบบนั้น นอกจากจะบดเมล็ดมาเป็นอย่างดีแล้ว คุณสามารถจับเวลาได้เลยว่า Espresso จะใช้เวลาการกลั่นออกมาจากเครื่องชงประมาณ 20 วินาที ในปริมาณ 2 ออนส์ ซึ่งถ้าตรงตามนี้ แสดงว่าคุณบดเมล็ดกาแฟมาได้ยอดเยี่ยม และมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้กาแฟที่มีความเข้มข้นทั้ง กลิ่น และรสชาติ

7. Use a high-quality machine

เพื่อให้ได้ Cappuccino หรือ Latte ที่ยอดเยี่ยมภายในบ้าน คุรต้องมีเครื่องชงที่ยอดเยี่ยมพอสมควร จะว่าไปแล้ว นอกจากฝีมือในการชง และความรู้ที่มีประดับอยู่ในหัวแล้ว อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ก็มีความเกี่ยวข้องอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นต้องหาข้อมูลของเครื่องด้วย ว่ามันสามารถชงกาแฟแบบที่เราต้องการได้อร่อยหรือไม่ แต่ถ้าใครเป็นคนที่ชอบดื่ม Espresso มาก เราขอแนะนำ เครื่องนี้ De’Longhi EC 860

8. Finish with latte art

ถ้าคุณไปร้านกาแฟที่มีคุณภาพสักหน่อย คุณจะเห็นว่าบน Latte ของคุณจะมีงานศิลปะอยู่ที่ด้านบน จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากมาก และคุณก็สามารถทำเองได้ คุณสามารถหาวิธีการทำได้จาก Youtube ซึ่งมีคนสอนมันอย่างมากมาย และเมื่อคุรสามารถทำมันด้วยเตอะเองได้แล้วล่ะก็ คุณจะรู็เลยว่า การชงกกาแฟอร่อยจริงๆ ให้ตัวเองสักแก้ว มันเต็มไปด้วย ศาสตร์ และ ศิลป์

SOURCE