A Conversation With Jeff Staple ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Staple Pigeon

โลกแฟชั่นหมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว มีแบรนด์แฟชั่นใหม่ๆ เกิดขึ้นแทบจะทุกวัน แต่แบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จและอยู่คงกระพัน จำเป็นต้องอาศัยจุดยืนและวิสัยทัศน์ที่มั่นคงของเจ้าของแบรนด์ ไม่ไหลไปตามกระแสสังคมจนสูญเสียจุดยืนของตัวเอง เช่นเดียวกับ Jeff Staple เจ้าของ Staple Pigeon หนึ่งในแบรนด์ NYC สตรีทแวร์ที่อยู่คู่ตลาดมายาวนานกว่า 20 ปี

The Story of Staple Brand

จุดเริ่มต้นของแบรนด์ Staple เริ่มต้นในปี 1997 เมื่อ Jeff Staple เกิดปิ๊งไอเดียทำลายเสื้อสวยๆ ก็เลยลงมือสกรีนลายด้วยตัวเองจาก Parsons School of Design เดินเข้าร้าน Boutique แห่งหนึ่งในย่าน SoHo, New York และในคืนนั้น Jeff เดินกลับออกมาจากร้านพร้อมออเดอร์เสื้อยืด 12 ตัวทันที ทำเอาเจ้าตัวประหลาดใจไม่น้อย และแบรนด์ Staple Pigeon ก็เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา จากการทำไลน์เสื้อยืด Handmade เล็กๆ ก็ขยับขยายจนแบรนด์โตขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเป็นที่รู้จักในหมู่คน New York กันมากขึ้น

เมื่อแบรนด์กำลังจะดัง Jeff คิดว่าควรจะมีสัญลักษณ์โลโก้อะไรบางอย่างเพื่อสร้างความแตกต่างให้คนจำได้ จึงเกิดเป็นโลโก้ Pigeon นกพิราบ ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ค่อยเกี่ยวกับ Streetwear มากเท่าไหร่ แต่ความหมายที่ Jeff คิดก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้นั้นเท่มาก ไม่ได้หมายถึงอิสระภาพ แต่นกพิราบของ Jeff หมายถึงการอยู่รอด มันไม่ใช่สัตว์ที่ควรจะอยู่ในเมืองด้วยซ้ำ แต่มันกลับสามารถเอาตัวรอดได้ ซึ่งเปรียบเสมือนคนที่ต้องเอาตัวรอดในเมืองมหานครอย่าง NYC ให้ได้ ซึ่งมันต้องใช้ความอดทนสูงมาก เป็นภาพของ NYC ที่ถูกถ่ายทอดจากสายตาของคนที่เอาตัวรอดในเมืองอย่างแท้จริง

Jeff Staple ถือว่าเป็นหนึ่งใน Influencer ที่งานชุกที่สุดคนหนึ่ง เพราะเขาต้องทำงานหลายหน้าที่ ควบตำแหน่งมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าแบรนด์ Staple เงียบหายไปไหน แต่ที่จริงแล้ว Jeff Staple ได้ซุ่มคิดโปรเจคมากมายเพื่อฉลองครบรอบ 20 ปี ของแบรนด์ Staple โดยเริ่มจากงานเปิดตัว Staple Pigeon Summer Collection 2016 ที่ร้าน Sneakpeek ณ กรุงมะนิลา ประเทศ ฟิลิปปินส์ ซึ่งความพิเศษคือ Jeff Staple เดินทางมาเปิดงานเอง พร้อมมีเซอร์ไพรส์ด้วยการวางขาย Staple Pigeon x Nike Air Max Zero ID ที่มีจำนวนจำกัดเพียง 75 คู่เท่านั้น และโอกาสพิเศษแบบนี้ UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะไปร่วมสัมผัสบรรยากาศ พร้อม แอบไปสัมภาษณ์ Jeff Staple แบบสุด Exclusive ถึงแนวคิดไอเดียและเคล็ดลับที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ถึงจุดนี้

Exclusive Interview : Jeff Staple

Staple เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสตรีท ที่อยู่ในตลาดมายาวนานกว่า 20 ปี คุณคิดว่าวัฒนธรรม และเทรนด์ของผู้คนมีความแตกต่างกันไหมจากตอนที่คุณเริ่มก่อตั้งแบรนด์ จนถึงปัจจุบัน?

Jeff Staple : ตอนที่เริ่มทำ Staple หากจะมองจากวันนั้นมาถึงตอนนี้ต้องขอบอกว่าเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก ในสมัยก่อนยังไม่มีคำว่า Street Culture ด้วยซ้ำ ซึ่งวัฒนธรรมเหล่านี้เป็นเพียงกลุ่มคนเล็กๆ ที่ชอบทำอะไรแตกต่าง และการที่ได้เห็นมันค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ผมได้สร้างบางสิ่งบางอย่างและเป็นส่วนหนึ่งของมัน ก็เป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ ไปเลย

อย่างที่เรารู้ว่า Staple มีแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของคน New York แล้วอะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้แบรนด์ Staple สามารถประสบความสำเร็จเข้าถึงคนทั่วโลกได้?

Jeff Staple : ผมไม่มีเคล็ดลับ หรือพลังวิเศษอะไรเลย แค่ต้องทำงานให้หนักมากกว่าคนอื่น ช่วงเวลา 20 ปีนั้นยาวนาน ในทุกๆ วัน ผมตื่นมาสิ่งแรกที่คิดถึงคือการทำงาน ผมเกลียดการนอนมาก เพราะมันทำให้ผมเสียเวลาในการทำงาน ผมจึงไม่ได้มีวันหยุดเหมือนคนอื่นเขา การทำงานเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งของผม ผมอาจจะสูญเสียเพื่อนไปบ้างระหว่างทาง แต่การจะขึ้นไปให้ถึงระดับ Global Level นั้น การทำงานหนักคือกุญแจสำคัญของมัน

คุณควบงานหลายโปรเจคทั้งการ Collaboration และงานส่วนตัว คุณต้องทำงานมาเยอะมาก อะไรคือแรงบันดาลใจเวลาที่ออกแบบงาน Staple ให้ออกมาโดดเด่น และแตกต่างจากงานอื่นๆ?

Jeff Staple : เวลาที่ผมต้องไปทำการ Collaboration ผมจะไม่ใส่ความเป็นตัวเองลงไป แต่มันต้องมีความหมายกับตัวผม อาจจะบอกว่ามันเป็นเคล็ดลับตลอดอาชีพการทำงานของผมก็ได้ ครอบคลุมถึงทุกงานที่ผมเคยออกแบบมา มันต้องสื่อความหมายอะไรสักอย่างถึงตัวผม ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางทีสิ่งที่ผมออกแบบมานั้นมีความประหลาด และดูไม่ Make sense สำหรับคนทั่วไป แต่มัน Make sense สำหรับผมมากๆ และคนที่ชอบ Staple รู้สึกซาบซึ้งถึงสิ่งที่ผมจะสื่อสารออกไป

มีโปรเจคไหนที่คุณรู้สึกประทับใจมากๆ ไหม?

Jeff Staple : ผมเคยมีโอกาสไปทำงานร่วมกับร้าน Hamburger ชื่อว่า Shake Shack ของ New York ซึ่งตัวผมเองก็ดีใจมาก เพราะในความคิดผม นี่คือร้าน Hamburger ที่เจ๋งที่สุดที่ผมเคยกินมา ทางร้านได้ให้ผมออกแบบอาหารมาจับคู่กับเสื้อผ้าจนเป็นคอลเลคชั่น Shake Shack x Staple Design x Knockaround Collaboration มันเป็นอะไรเจ๋ง และบ้ามาก

ในอนาคตคุณก็ไม่ปิดกั้นโอกาสที่จะมาร่วมงานกับแบรนด์ไทย หรือศิลปินไทย?

Jeff Staple : แน่นอน ทุกสิ่งสามารถเป็นจริง และเกิดขึ้นได้ แต่ผมไม่เคยไปประเทศไทยเลยสักครั้ง คิดว่าในอนาคตผมต้องหาโอกาสไปให้ได้

ตอนนี้คุณเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จมากๆ มีอะไรที่รู้สึกเป็นเรื่องที่ท้าทาย และยังไม่ได้ทำอีกไหม?

Jeff Staple : ตอนนี้ผมกำลังโฟกัสให้กับร้าน Reed Space ใน New York และในปีหน้าผมจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องคอยติดตามว่าจะมีอะไรที่พิเศษๆ ออกมาอย่างแน่นอน

ถ้าอย่างงั้นปีหน้าคุณก็มี Big Project เตรียมเซอร์ไพส์รอพวกเราอยู่ใช่ไหม?

Jeff Staple : ใช่เลย เพราะปีหน้าจะเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี ของแบรนด์ Staple Pigeon ดังนั้นเราจะมีการ Collaboration กับแบรนด์อื่นมากมายไ่ม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า อย่างเช่น Nike iD ในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และที่สำคัญสุดก็คือ Seasional Collection ของแบรนด์ Staple

พอจะบอกใบ้ชาว UNLOCKMEN หน่อยได้ไหมว่า Collaboration ต่อไปที่เตรียมวางขายคืออะไร?

Jeff Staple : งั้นผมจะขอบอกถึงตัวที่กำลังจะวางขายเร็วๆ นี้ละกัน อีกไม่นานทุกคนจะได้พบกับ Fila x Staple และ Puma x Staple ซึ่งมันจะต้องออกมาน่าสนใจแน่นอน

คุณทำงานด้าน Creative มามากมาย เคยรู้สึกตันกับไอเดียคิดงานไม่ออก และคุณมีวิธี UNLOCK มันอย่างไร?

Jeff Staple : เอาจริงๆ ผมขอสารภาพว่ายังไม่เคยพบกับความรู้สึกนั้นเลย อาจจะเพราะผมมีโอกาสได้เดินทางบ่อย ได้พบกับผู้คนใหม่ๆ วัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก สิ่งเหล่านี้เป็นเป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีในการทำงานด้าน Creative และอาจจะต้องขอบคุณพระเจ้าด้วย ที่ทำให้ผมยังไม่เจอกับช่วงเวลาที่ยังคิดงานไม่ออกนั้น เชื่อหรือไหมว่าในโทรศัพท์ของผมมี Note ไอเดียเก็บไว้อีกมากมาย ที่ยังไม่มีโอกาสได้ทำมันเลย แต่ผมต้องหาโอกาสทำมันทั้งหมดแน่ๆ สักวันหนึ่ง

คำถามสุดท้ายแล้ว คุณเคยถูกสัมภาษณ์มาเป็นพันๆ ครั้ง คุณรู้สึกว่ามีคำถามไหน คุณอยากให้คนสัมภาษณ์ถามคุณ แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นเลย?

Jeff Staple : ( หัวเราะ ) ไม่เคยมีคนถามผมว่า “ผมยังมีความสุขอยู่ไหม ?” เหตุผลที่ผมอยากให้ถามคำถามนี้กับตัวผม ก็เพราะว่า เวลาผมได้คุยกับ Designer คนอื่น หรือเจ้าของแบรนด์ที่ทำงานในลักษณะเดียวกับผม พวกเรามักจะถามกันเสมอว่า “เฮ้ย! นายยังมีความสุขกันอยู่หรือเปล่าวะ?” ที่เป็นงั้นเพราะตอนที่เริ่มทำงานด้าน Creative Design ทุกคนทำตามความฝัน สนุก และมีความสุขกับมัน แต่พอเวลาผ่านไปสัก 5 ปี 10 ปี คุณเริ่มมีพนักงาน ลูกค้า ชื่อเสียง ความคาดหวัง และความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง ผมกลับพบว่าคนเหล่านั้นไม่มีความสุขอีกต่อไป แต่เชื่อไหมว่าไม่เคยมีใครถามคำถามนี้กับผม

ถ้างั้นคุณยังมีความสุขกับงานที่ทำไหม?

Jeff Staple : แน่นอนผมมีความสุขมากกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ ( หัวเราะ )

หลังจากที่เราแอบคุยกับ Jeff Staple เสร็จเรียบร้อย เป็นจังหวะเดียวกับที่ Jeff โดนเรียกขึ้นไปบนเวที เพื่อเปิดตัว Staple Summer Collection 2016 โดยจุดเด่นใน Collection นี้คือการเน้นไปที่ Polkadot และ Colourful Floral ที่จะให้อารมณ์เหมาะกับช่วง Summer ได้เป็นอย่างดี

ความพิเศษสำหรับ Staple Pigeon ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีแล้ว ยังเป็นการลั่นกลองรบ เตรียมส่งนกพิราบจาก NYC มาบุกตลาดโซนเอเชียอย่างเต็มตัว เพราะอย่างที่ Jeff ได้กล่าวไว้ว่า เสื้อผ้าของเขาคือพลังงานสำหรับคนทั่วโลก และ UNLOCKMEN คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของแบรนด์นี้อีกแล้ว เพราะถ้าไม่เจ๋งจริง คงไม่สามารถเป็นแบรนด์ Street ที่มีอายุยาวนานได้ถึงขนาดนี้

สำหรับใครที่สนใจแบรนด์ Staple Pigeon แต่ติดปัญหาว่าไม่มีวางขายในประเทศไทย ข่าวดีคือปัจจุบันได้มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วางขายในร้าน Bratpack Thailand และจะมีการนำสินค้า Staple collection ใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กางเกง หมวก ชนิดวางขายพร้อมกันกับ shop ใน New York เลยทีเดียวสำหรับคนที่สนใจเสื้อผ้าของ Staple เรารวบรวมสถานที่ชื้อมาให้แล้วว่ามีที่ไหนบ้างดังต่อไปนี้

Bratpack Central Plaza Pinklao 2nd Floor Tel. 02-884-9972
Bratpack Terminal21, LONDON 2nd Floor Tel. 02-015-9394
Bratpack Central Festival EastVille 1st Floor Tel. 02-115-7600
Bratpack Central Plaza Westgate 1st Floor Tel. 02-046-0929
Bratpack MegaBangna 2nd Floor Tel. 02-105-1823
Bratpack Zpell 3rd Floor Tel. 02-150-9154

Facebook : www.facebook.com/BratpackThailand
IG: instagram.com/BratpackThailand

SEEK MegaBangna 1st Floor Tel. 02-105-1835
SEEK Central Embassy 3rd Floor Tel. 02-160-5689

Facebook : www.facebook.com/seekofficialTH
IG: instagram.com/seekofficialTH