FASHION

เปิดประวัติ ASICS Gel-Lyte III จากรองเท้าวิ่งธรรมดาๆ สู่ sneakers สุดอมตะคลาสสิค

By: Thada February 17, 2017

พอพูดถึงแบรนด์ ASICS เรามักจะนึกถึง Onitsuka Tiger รุ่น Mexico 66 หรือรองเท้าวิ่งคุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับจากเหล่านักวิ่งทั่วทุกมุมโลก แต่ในแบรนด์ของ ASICS ยังมีรองเท้าอีกรุ่นหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นตำนานไม่แพ้กับ Mexico 66 นั่นคือ ASICS Gel Lyte III ที่โลดแล่นอยู่ในวงการ sneaker มากว่า 27 ปี และวันนี้เราจะนำเรื่องราวของอีกหนึ่งรองเท้าตำนานสุดคลาสสิคมาย้อนเวลาไปทำความรู้จักกัน

170217-asics-4

ย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1949 ที่นาย Kihachiro Onitsuka ได้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้ากีฬาเพื่อให้ชาวญี่ปุ่นได้มีรองเท้ากีฬาคุณภาพสูงสวมใส่ขณะเล่นกีฬา ทำให้ตลอดระยะที่ผ่านทีมงานผลิต ASICSS ไม่เคยที่จะหยุดค้นคว้า นำการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมาย เพื่อมาพัฒนาปรับปรุงรองเท้าวิ่งของตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงปี 1986 -1995 ที่เริ่มก่อตั้งแบรนด์ ASICS พวกเขาก็พยายามจะหาเอกลักษณ์ของรองเท้าตัวเองให้ชัดเจน

170217-asics-7

และในปี 1990 เขาก็ได้ก่อกำเนิดรองเท้ารุ่น Gel-Lyte III ซึ่งดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อ  Shiegeyuki Mitsui  เป็นผู้ออกแบบ และพัฒนารองเท้ารุ่นนี้ โดยเขากล่าวว่าตอนที่เขาออกแบบรองเท้า Gel-Lyte III เขายึดหลักการอยู่หนึ่งข้อคือ  “คุณต้องฟังให้เยอะๆ ว่าลูกค้าต้องการอะไร แต่คุณต้องไม่ลืมใส่ความเป็นเราลงไป”  ทำให้รองเท้ารุ่น Gel-Lyte III ถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับรองเท้าวิ่งทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้ได้แก่ form sponge ที่นิ่มเบาสบายกระชับเท้า และพื้นกลางที่เป็นนวัตกรรม  GEL-cushioned  ช่วยกระจายแรง รับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี อีกทั้งบริเวณลิ้นรองเท้าที่ถูกรวมเป็นชิ้นเดียวกับรองเท้า ทำให้นักวิ่งไม่ต้องมาคอยจับลิ้นรองเท้าให้มันวุ่นวาย

170217-asics-5

Shiegeyuki Mitsui ผู้ออกแบบรองเท้ารุ่น ASICS Gel-lyte III

170217-asics-3

170217-asics-6

แต่จะว่าไปแล้วในเวลานั้นรองเท้ารุ่น ASICS Gel-lyte III ก็ยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากเสียเท่าไหร่ เพราะในปีถัดๆ ไปก็มีการผลิต ASICS Gel-lyte Ultra และ ASICS Gel-lyte V  (ASICS เลือกไม่ทำ Gel-lyte IV เพราะมีความเชื่อว่า 4 เป็นเลขที่ไม่ดีสำหรับชาวญี่ปุ่น) ตามมาอีกเรื่อยๆ จน Gel-Lyte III แทบจะหายไปจากวงการรองเท้ากว่า 10 ปี กระทั่งรองเท้า ASICS Gel-lyte III ได้ถูกนำไปวางขายในประเทศโซนยุโรปช่วงกลางยุค 2000 ไม่ว่าจะเป็นร้าน Patta , Solebox หรือ Kith ของ Ronnie Fieg ที่เกิดหลงใหลในโมเดลรองเท้ารุ่นนี้ จนเป็นกระแสคลั่งไคล้รองเท้ารุ่น ASICS Gel-lyte III ระบาดไปทั่วยุโรป และอเมริกา ทำให้ ASICS ได้เริ่มกลับมาผลิตไลน์รองเท้ารุ่นนี้ใหม่อีกครั้ง

170217-asics-10

และเนื่องจากรองเท้ารุ่นนี้ค่อนข้างมีเทคโนโลยีที่ล้าหลังไปเสียแล้วสำหรับนักวิ่ง แต่ชาว sneakerhead ที่ไม่ได้ใช้รองเท้าคู่นี้ในการออกกำลังกายหนักๆ กลับรู้สึกว่า ASICS Gel-Lyte III เป็นรองเท้าที่นุ่มสบายเหมาะแก่การใส่เดินชิวๆ จึงทำให้รองเท้ารุ่นนี้ผันตัวเองกลายเป็นรองเท้า lifestyle อย่างสิ้นเชิง จนกระทั้งปี 2015 ที่เป็นการฉลองครบรอบ 25 ปี ASICS ได้จับมือกับสิบสองร้านรองเท้าชื่อดัง เพื่อออกแบบรองเท้ารุ่น Gel-Lyte III ได้แก่ร้าน  Mita , Packer , Titolo , Concepts , Afew , Colettex , atmos , Footpartrol , BAIT , Highs And Lows , Hanon , Ronnie Fieg  ซึ่งผลิตออกมาแค่ 1900 คู่ต่อรุ่น ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจคยักษ์สำหรับวงการ sneaker ในปีนั้น ที่ราคาแต่ละคู่ ณ ปัจจุบันไม่สามารถประเมินราคาได้

170217-asics-1

170217-asics-2

แม้ว่าปัจจุบันในเมืองไทยกระแสของรองเท้า ASICS Gel-lyte III จะไม่เปรี้ยงป้างเหมือนกับ adidas หรือ Nike แต่ถ้าไปถามพวก sneakerhead รุ่นดั้งเดิมจริงๆ ยังไงก็ต้องมี ASICS Gel-lyte III เป็นรองเท้าคู่เก่งอย่างน้อยหนึ่งคู่อย่างแน่นอน รวมถึงในต่างประเทศ ASICS Gel-lyte III คือรองเท้าสามัญสำหรับ sneakerhead ทุกคนต้องพึงมี

170217-asics-8

170217-asics-9

สำหรับคนที่สนใจ ASICS Gel-lyte III ในเมืองไทยก็มีขายมากมายทั้งในช้อป และร้านรองเท้านำเข้าอาทิ 24 Kilated ที่มีรองเท้า ASICS Gel-lyte III รุ่นแปลกๆ ที่ไม่เหมือนในช้อปมาให้เลือกชม แต่สำหรับคนที่มีกำลังซื้อจะบินไปหิ้วมาจากประเทศญี่ปุ่นก็ได้ เพราะที่นั่นคือต้นตำรับของรองเท้าแบรนด์ ASICS ที่แน่นอนว่าจะต้องหาได้ง่ายกว่าในไทยอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้ก็ต้องบอกว่าของบางอย่างต้องใช้เวลาบ่มเพาะถึงจะมีคุณค่าในตัวของมันเอง อย่างเช่นรองเท้า ASICS Gel-lyte III ที่แต่เดิมเป็นเพียงรองเท้าวิ่งธรรมดาที่ไม่ได้รับความนิยมมากมาย แต่พอกาลเวลาผ่านไปมันกลับกลายเป็นรองเท้าในตำนานที่ sneakerhead ทุกคนต้องมีไว้ครอบครอง บางครั้งอาจจะเหมือนกับชีวิตประจำวันของคนเรา ที่วันนี้แม้ว่าเราอาจจะไม่ได้โดดเด่นได้รับความชื่นชมอะไร แต่ถ้าเกิดสิ่งที่เราทำนั่นเป็นสิ่งที่ดียังไงสักวันคนก็ต้องคนมองเห็น

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line