BMW MOTORRAD เปิดตัว 4 จักรยานยนต์รุ่นใหม่พร้อม Package HP Line แบบจัดเต็ม ที่ Motor Expo 2016

เริ่มขึ้นแล้วสำหรับงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33” หรือ The 33rd Thailand International Motor Expo 2016 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานที่ทีม UNLOCKMEN และผู้ชายหลาย ๆ คนสนใจ รอคอยที่จะเดินชมงานกันอย่างใจจดใจจ่อ เพราะนอกจากมีสาวสวยมากมายแล้ว งาน Motor Expo ยังถือเป็นงานใหญ่ที่จัดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี ที่ทั้งบริษัทรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้นำรถรุ่นใหม่ ๆ มาแสดง อีกทั้งยังมีแคมเปญ โปรโมชั่นดี ๆ ไว้ต้อนรับผู้ที่สนใจซื้อรถในงานเป็นพิเศษอีกด้วย

สำหรับในปีนี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสไปชมงาน Motor Expo 2016 กันก่อนใครในรอบสื่อมวลชน และบูธที่โดดเด่น ดึงดูดผู้ชายอย่างเราเป็นพิเศษในงานนี้ ที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือ บูธเลขที่ A16 ของ BMW MOTORRAD ที่ปีนี้ได้ขนเอารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ มาจัดแสดงโชว์กันแบบเต็มพิกัด ในคอนเซปต์ “เติมเต็มทุกความต้องการของคุณ “Make Life a Ride’” รวมไปถึงบรรยากาศการตกแต่งภายในบูธ ก็ได้อารมณ์ Garage เท่ ๆ ถือว่าโดนใจ UNLOCKMEN มาก ๆ วันนี้เราจึงเก็บเอาภาพบรรยากาศ พร้อมแนะนำรถใหม่ ๆ ที่ทาง BMW MOTORRAD ตั้งใจนำเสนอมากมายหลายรุ่น

สำหรับรถจักรยานยนต์ของ BMW ถือว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ยากที่ใครจะเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอารมณ์การขับขี่ สมรรถนะ หรือแม้แต่เอกลักษณ์จากเครื่องยนต์ Boxer 2 สูบนอนในบางรุ่น ซึ่งไม่มีค่ายจักรยานยนต์ไหนทำออกมาใกล้เคียง เพราะ BMW  ได้มีวิวัฒนาการ และการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ มาจากครั้งที่ยังผลิตเครื่องยนต์อากาศยาน หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นประสบการณ์เฉพาะตัวที่เคยผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินมากว่า 100 ปี

สำหรับรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ที่เราอยากมานำเสนอให้ดูกัน ก็มีคัดมาให้ทั้งหมด 6 รุ่นหลัก ๆ ได้แก่ F 800 R, S 1000 R, S 1000 RR HP Line, S 1000 XR HP Line รวมไปถึง R nineT และ  C 650 GT ซึ่งเป็น Scooter ที่ทาง BMW เคลมเอาไว้ว่าเป็น รถ Scooter ที่เร็วที่สุดในโลกขณะนี้

จากการเยี่ยมชม BMW Motorrad ครั้งนี้ เราได้รู้ถึงข้อมูลบางอย่างมา ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่ แต่คงมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว รหัส R, RR และ XR นั้น มีความหมายแตกต่างกันอย่างไร?

สำหรับรถที่มีรหัสลงท้ายด้วย R หมายถึง Roadster จะเป็นรถที่ใช้ขับขี่บนถนนทั่ว ๆ ไป อย่างเช่นในเมือง เป็นต้น ส่วนถ้าเป็นรหัส RR จะหมายถึง Race Replica ซึ่งจะเป็นรถที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับรถที่อยู่ในสนามแข่งขัน ให้อารมณ์ดุเดือดขึ้นมาอีกระดับ และสุดท้ายรหัส XR มีความหมายว่า Crossroads คือ รถจักรยานยนต์ที่สามารถลุยไปได้ทั้งในทางฝุ่นและทางเรียบ แต่อาจจะเน้นไปทางถนนที่มีความขรุขระมากกว่า

ตอนนี้เรามาดูรายละเอียด และความโดดเด่นในแต่ละรุ่น แบบเน้น ๆ กันเลยดีกว่า เริ่มจากคันแรก

BMW F 800 R

รถที่โด่งดังจาก Streetbike Freestyle World Championship และใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน สำหรับคันที่มาโชว์ภายในงานนี้ มาในชุดสีใหม่ Racing Blue/ Black Satin ทำให้มีความเท่ดุดัน และดูสปอร์ตมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี Features ต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามาอีกมากมาย

Feature ที่น่าสนใจสำหรับ BMW F 800 R

Motor Spoiler

ระบบ (ESA) Electronic Suspension Adjustment

Tire Pressure Control (RDC)

LED Rear Light

ทั้งหมดนี้คุณจะได้เป็นเจ้าของในราคา 490,000 บาท

BMW S 1000 R (UPDATE)

สำหรับ S 1000 R, Naked bike ที่ได้แรงบันดาลใจจาก S 1000 RR  ที่มาในเวอร์ชั่น UPDATE คันนี้ มาพร้อมกับ Advanced Features แบบเต็มพิกัดสุด ๆ

Feature ที่น่าสนใจสำหรับ BMW S 1000 R (UPDATE)

Gear Shift Assistant to Enable Riders to Shift Gear Up Without Using Clutch

Cruise Control

Heated Grips

Engine Spoiler

LED Turn Indicator White

สำหรับราคาของ S 1000 R ใหม่ล่าสุดคันนี้ อยู่ที่ 650,000 บาท

BMW S 1000 RR HP Line

มาถึงรถที่หลายๆ คนเฝ้ารอ อย่าง S 1000 RR ตัวแรงที่ถูกสร้างสำหรับการแข่งขัน 2009 Superbike World Champtionship โดยในครั้งนี้เป็นรุ่นพิเศษสุด ๆ ในเวอร์ชั่น HP Line จัด HP Package มาแบบเต็มที่เลยทีเดียว

Feature ที่น่าสนใจสำหรับ BMW S 1000 RR HP Line

HP Carbon Tank Cover + Faring Set

HP Carbon Engine Spoiler + Chain Guard

HP Carbon Wheel Cover Set

HP Titanium Exhaust System (Street Ver.)

HP Forged Wheel Set

HP Footrest System + Engine Guard

HP Clutch – Brake Lever Set

HP Race Cover Kit

High Tinted Windscreen

สำหรับ S 1000 RR HP Line สุดพิเศษคันนี้ จะมีวางจำหน่ายในประเทศไทยด้วยจำนวนจำกัดเพียง 20 คันเท่านั้น ด้วยราคา 1,199,000 บาท

BMW S 1000 XR HP Line

นอกจาก S 1000 RR ที่จัดเต็มมากับ HP Package แล้ว  S 1000 XR  ก็ไม่น้อยหน้า มาพร้อมชุดแต่ง HP เช่นกัน  สำหรับ S 1000 XR นั้นถือเป็นรถจักรยานยนต์ในคลาส Sport Touring อันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดย BMW S 1000 XR HP Line มาพร้อมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ มากมาย

Feature ที่น่าสนใจสำหรับ BMW S 1000 XR HP Line

HP Front Footrest System

HP Clutch – Brake Lever Set

HP Carbon Front Wheel + Fuel Cap Cover

HP Sport Seat

High Tinted Windscreen

Rear Handle

สำหรับ BMW S 1000 XR HP Line คันนี้จะมีวางจำหน่ายเฉพาะสีขาวเท่านั้น ส่วนราคาค่าตัวนั้นอยู่ที่ 930,000 บาท

R nineT

ส่วนรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่น ๆ อย่าง R nineT  และ R nineT Scrambler  ก็โดดเด่น และน่าสนใจไม่แพ้กัน โดย R nineT นั้นจะเป็นรถจักรยานยนต์ในสไตล์ Retro Bike แบบเต็มตัว ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็จะเท่ ออกไปทาง Classic และได้ถูกแฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยตามแบบฉบับ BMW

R nineT ยังคงใช้เครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์อย่าง Boxer Engine 2 สูบ ขนาดความจุ 1,170 cc จ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด ส่วนความน่าสนใจอื่น ๆ อย่างเช่นโช้คหน้า ก็เป็นแบบ Upside Down และโช้คหลัง Single Side Swing Arm มาพร้อมระบบเบรค ABS  สำหรับใครที่ชอบความเก๋า แต่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีแบบแน่น ๆ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด R nineT คันนี้อย่างเด็ดขาด ในราคาค่าตัว 1,090,000 บาท

BMW C 650 GT / C 650 Sport

อีกหนึ่งคันที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนักขี่ที่ชื่นชอบแนว Scooter นั่นก็คือ BMW C 650 GT และ BMW C 650 Sport ซึ่งเป็น Scooter ที่เร็วที่สุดในโลกขณะนี้ ด้วยเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ถึง 647 cc ที่ไม่เคยมี Scooter คันไหนเคยทำมาก่อน มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีล้ำ ๆ ชุดใหญ่ แม้จะดูใหญ่โต แต่เมื่อได้ลองนั่งจะรู้เลยว่าให้ความสบายกำลังดี แต่มีความแรงพร้อมใช้งานเมื่อต้องการแบบทันใจ

สำหรับใครที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ขับสบาย ๆ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวก แต่ยังคงทำความเร็วได้ดั่งใจ  BMW C 650 GT และ BMW C 650 Sport คงจะทำให้คุณตกหลุมรักได้ไม่ยาก ในราคา 530,000 บาท สำหรับรุ่น Sport และ 560,000 บาทสำหรับรุ่น GT

สำหรับคนที่กำลังมองหารถมอเตอร์ไซค์สุดพิเศษอยู่ล่ะก็ อย่าเพิ่งรีบตัวสินใจถ้ายังไม่ได้ไปลองสัมผัสประสบการณ์ที่ BMW MOTORRAD ก่อน เพราะนอกจากรถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษต่าง ๆ แล้ว ยังมี BMW motorcycle accessories พร้อมข้อเสนอพิเศษ ช่วยในการตัดสินใจอีกด้วย แวะไปชมและพูดคุยสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ กับทาง BMW MOTORRAD ได้ที่ บูธหมายเลข A16 ภายในงาน Motor Expo 2016 ได้ตั้งแต่วันที่ 1-12 ธันวาคมนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม Impact Arena เมืองทองธานี กันได้เลย