Entertainment

Café Society หนังรักสามเศร้าที่ให้ความรู้สึกหน่วงๆ จาก Woody Allen

By: Thada March 17, 2017

ในยุคที่หนักรักเกลื่อนเต็มรอบตัว อย่างบทรักสามเศร้าที่ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากยุคขวัญเรียม หากเล่าในมุมมองเดิมๆ แค่นี้ก็ทำให้คุณกดเปลี่ยนช่องไปดูรายการอื่นแทนได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปดูหนังนอกกระแสที่ชื่อ  Café Society  หากมองเพียงชื่อเรื่องเฉยๆ เราคงนึกถึงเรื่องราวความรักในร้านกาแฟ ไม่น่าจะมีประเด็นอะไรที่ดึงดูดให้เราต้องเสียเวลาเข้าไปดูอย่างแน่นอน

แต่หากดูรายชื่อ  Casting  ต่างๆ คุณจะต้องตกใจ เพราะนี้คือผลงานกำกับของ Woody Allen ผู้กำกับดีกรีออสการ์ที่สร้างชื่อในวงการมายาวนานกว่า 30 ปี และพอมาดูชื่อนักแสดงอีก ก็มีแต่ระดับคุณภาพคับแก้ว เริ่มจาก Jesse Eisenberg จาก The Social Network, Kristen Stewart จาก Twilight และดาราสมทบอย่าง Steve Carell และ Blake Lively จึงเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้เราต้องชมหนังเรื่องนี้โดยไม่มีการอ่านสปอยล์

170316-cafe-5

หนังเรื่อง  Café Society  ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับร้านกาแฟอะไรเลยสักนิดเดียว เพราะมันเป็นการเล่าย้อนไปถึงยุค 30s ซึ่งเป็นยุคทองของวงการ  Hollywood  ที่ตัวละครหลักทั้งสามคนกำลังดำดิ่งอยู่ในห้วงเวลาของเมืองม่านมายาแห่งนี้

บ๊อบบี้  (Jesse Eisenberg)  ชายหนุ่มชาวยิวที่ต้องการเข้ามาใน  Hollywood  โดยหวังว่าจะหลุดพ้นจากงานที่น่าเบื่อของพ่อ ต้องการมาทำงานกับ ฟิล (Steve Carell) คุณอาของเขาที่เป็นผู้จัดชื่อดังของ  Hollywood  ก่อนจะตกหลุมรัก วอนนี่ (Kristen Stewart) เลขาสาวของเขา แต่โชคชะตามักเล่นตลกและให้บทเรียนกับเราในเรื่องของความรักเสมอ ที่เหลือไปหาชมคำตอบในภาพยนตร์เอาเองเพื่อเป็นการไม่สปอยล์เนื้อหาสำคัญ

170316-cafe-7

หลังจากที่เราดูจบเราจึงสรุปเป็นประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Café Society เพื่อประกอบการตัดสินใจรับชมภาพยนตร์เรื่องนี้

Woody Allen ชื่อนี้การันตีคุณภาพ

170316-cafe-2

สำหรับเรื่องนี้ ถ้าถามส่วนตัวเราว่า Woody Allen แค่ทำได้เสมอตัวจากผลงานฝีมือที่ผ่านมาของเขา เพราะเขาเป็นผู้กำกับที่มาตราฐานสูงคนหนึ่งของวงการ ดังนั้นตามมาตราฐานก็คือหนังที่การันตีคุณภาพได้ว่าคุ้มค่าแก่การรับชมแน่นอน หากใครที่เป็นแฟนของผู้กำกับคนนี้ จะรู้ว่าเจ้าตัวชอบเล่นกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ความรู้สึกอึน มึน งง ในจิตใจ เกี่ยวกับรักที่มีปัจจัยมากมาย ความหยิ่งทะนง และการเอาตัวรอดของมนุษย์ บอกเลยว่าคุณจะต้องอินกับหนังเรื่องนี้อย่างถลำลึกแน่นอน

มันเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข แต่ก็ไม่ถึงกับเศร้า

170316-cafe-1

อาการ หน่วง คือความรู้สึกเดียวที่เราสามารถใช้จำกัดความให้กับหนังเรื่องนี้ได้ เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนความเป็นจริงของจิตใจมนุษย์อย่างถ่องแท้ มันไม่ได้หอมหวานเหมือนนิยายหรือหนังรักทั่วไป ที่คนเราจะได้ฟินจิกหมอนสมหวังตลอดเวลาแต่เชื่อหรือไม่ว่าอย่างน้อยเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ คุณจะรู้สึกดีกับความรักอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรักที่ไม่ถึงกับสุข แต่มันก็ไม่ถึงกับเศร้าเช่นกัน

Blake Lively สุดสวยจอมขโมยซีน

170316-cafe-3

ไม่ต้องสรรหาคำใดมาเพื่ออธิบายอีกแล้วสำหรับเสน่ห์ของ Kristen Stewart ที่ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม เธอดำเนินเรื่องให้คนดูรู้สึกรักเธอหัวปลักหัวปลำไม่ต่างจาก บ๊อบบี้ ( Jesse Eisenberg) แต่เหนือสิ่งอีกใดคือ Blake Lively ที่เข้ามาขโมยซีนได้อย่างน่าเหลือเชื่ออีกเช่นกัน ซึ่งเราว่าน่าจะเป็นความตั้งใจของ Woody Allen ที่เลือกตัวละครนี้ให้มีเสน่ห์ทัดเทียมกับ Kristen Stewart เพราะความเป็นจริงแล้วแค่บทสมทบ จะหาใครมาแสดงก็ได้ แต่เขาเลือก Blake Lively เพื่อจะบอกเล่าสัจธรรมข้อหนึ่งของความรักที่คุณผู้ชมต้องไปหาคำตอบเองในภาพยนตร์

ตลกร้ายในเวลาเดียวกัน

170316-cafe-4

กลิ่นของความโรแมนติกและความเจ็บปวด เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยบทสนทนาเพียงไม่กี่คำ ที่ตัวละครนำอย่าง  Jesse Eisenberg  ถ่ายทอดผ่านไดอาล๊อคที่สวยงาม แฝงปรัญชาและคำคม แถมด้วยมุขตลก และบุคลิกของตัวนักแสดงเอง ส่งเสริมไปด้วยบรรยากาศ โลเคชั่นชวนฝันของยุคทองในวงการ  Hollywood  ทำให้เหมือนกับมีมนต์สะกดให้เวลาในการดู Café Society ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

สัจธรรมของความรัก

170316-cafe-6

หนังเรื่องนี้ได้ให้แง่มุมในเรื่องความรักไว้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีการบิดเบือนหรือชวนฝันให้เรารู้สึกเกินจริง เพราะบางครั้งความรักก็เป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม แม้เราจะพยายามมากเท่าไหร่ ตอนที่เราตกอยู่ภวังค์ของความรู้สึกดีนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากที่จะหักห้ามใจ แม้จะรู้ว่าเมื่อถึงเวลาแห่งความเป็นจริงแล้ว มันจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยก็ตามที

ความจริงแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะอยากจะรีวิวเขียนให้มากกว่านี้ แต่เพื่อไม่เป็นการเสียอรรถรสก่อนรับชม เราอยากให้ชาว UNLOCKMEN ไปตัดสินด้วยตาและอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งปัจจุบันหนังเรื่องนี้ออกจากโรงภาพยนตร์ไปแล้ว แต่สามารถหาซื้อแผ่นลิขสิทธิ์มารับชมที่บ้านได้ เราขอบอกว่าให้หาเครื่องเสียงลำโพงดีๆ แอร์เย็นๆ ผ้าห่มผืนนุ่ม จะยิ่งทำให้คุณเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นด้วยเพลงแจ๊สสุดคลาสสิค ที่บรรเลิงให้คุณได้ติดหูอยู่ตลอดเวลา รับประกันว่าคุ้มค่าแก่การรับชมอย่างแน่นอน

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line