ออรัม แกลเลอรี แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัย ศิลปะเมือง และสตรีทอาร์ตที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดยดีเจ นักดนตรี นักแสดง และศิลปินชาวอังกฤษชื่อดังระดับโลก คลิฟฟอร์ด ไพรซ์ (Clifford Price, MBE) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “Goldie” แกลเลอรีตั้งอยู่ใน Warehouse 30 พื้นที่โครงการที่นำโกดังเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาบูรณะให้กลายเป็น Creative District ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งถนนเจริญกรุง ภายในพื้นที่โถงขนาด 500 ตรม. มีการจัดแสดงงานจากศิลปินแนวหน้าในวงการ contemporary, urban and street art จากทั่วโลก อาทิเช่น Belin, Ben Eine, Bio, Bisco Smith, Ces, Crash, Goldie, Helio Bray, James Bullough, Mad C, Mikael B, Mr Cenz,
The Gumball 3000 Rally งาน Rally ที่มีการรวมตัวของ Supercar มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ความสวยงามใต้ท้องทะเล และความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทยนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม และยากจะหาสิ่งใดมาเปรียบ นอกจากความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติจากภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบโดยตรงสู่ท้องทะเลแล้ว ปัจจัยหลักที่ทำลายธรรมชาติคงหนีไม่พ้นฝีมือของมนุษย์ ที่ยิ่งทำให้เกิดมลภาวะที่เปลี่ยนแปลงให้กับธรรมชาติ หลายต่อหลายครั้งที่เรามักละหลงลืม และเผลอทำร้ายธรรมชาติโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งจากชุมชนหรือแม้กระทั่งนักท่องเที่ยว ทำให้ในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายหน่วยงานที่เดินหน้าในการทำโครงการอนุรักษ์เพื่อปลูกจิตสำนึกและคืนความสวยงามให้กับท้องทะเลอย่างจริงจัง เช่นเดียวกับ Seiko ที่เป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้ก้าวออกมาจัดทำโครงการเล็ก ๆ ด้วยจุดประสงค์ที่จะฟื้นฟูท้องทะเลไทย โดยมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว ภายใต้ชื่อโครงการ Seiko “Save The Ocean” เพื่อทำกิจกรรมคืนความสวยงามสู่ท้องทะเลจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ สู่ความจริงจังและวิธีการที่เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น และในปี 2022 นี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ก็ได้มีโอกาสได้เข้าร่วม Seiko “Save The Ocean” ที่นับเป็นปีที่ 5 อย่างเป็นทางการที่ได้ร่วมสนับสนุนและฟื้นฟูรวมถึงอนุรักษ์ท้องทะเลไทย โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายนาฬิกา Seiko Prospex มาจัดทำโครงการดี ๆ เพื่อฟื้นฟูและอนุรักษ์ท้องทะเลไทยในทุก ๆ ปี โดยโครงการ “Save The Ocean” ได้จัดทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องมาก่อนหน้านี้แล้วถึงสี่ครั้ง ทั้งในแถบ หมู่เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต,
“Ars Longa Vita Brevis – ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” คือภาษิตของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ในยุคกรีกโบราณ ที่เชื่อว่าพวกเราทั้งหลายน่าจะคุ้นเคยกับวลีนี้จากคำสอนของ ศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย และหนึ่งในบุคคลที่ไม่เพียงรู้จัก แต่ยังตกผลึกกับวลีอมตะดังกล่าว คือ ‘เข้-จุฬญานนท์ ศิริผล’ คนทำหนังฝีมือดี ที่ Vespa Thailand ได้ชักชวนให้ร่วมออกเดินทางไปพูดคุยกับคนขี่เวสป้าทั่วประเทศ จนเขาได้ตระหนักถึงความผูกพันของผู้คนกับความหมายของสกู๊ตเตอร์อย่างเวสป้าที่เป็นมากกว่าพาหนะ ด้วยจิตวิญญาณของศิลปะ รวมถึงความอิสระเสรีที่แฝงอยู่ในเวสป้า ที่ถูกส่งต่อรุ่นสู่รุ่นผ่านชั่วอายุของชาวไทยมายาวนานกว่า 75 ปี ด้วยเหตุนี้ ‘ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น’ จึงถูกเลือกให้เป็นชื่อภาพยนตร์สารคดีเรื่องใหม่ของผู้ชายคนนี้ กับสารคดีเรื่องแรกที่เล่าถึงต้นกำเนิดและความผูกพันระหว่างคนไทยกับเวสป้า และพร้อมจะพาทุกคนออกเดินทางท่องไปในความทรงจำที่มีทั้งใหม่ และเก่าปะปนกันไปจากคำบอกเล่าของผ่านผู้คนมากมายที่แตกต่างกัน แต่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกระลึกถึงวันวานอันอบอุ่นที่มีกับเวสป้า ผ่านมุมมองของผู้กำกับอย่าง ‘เข้-จุฬญานนท์’ ที่เชื่อว่า “ทุกความทรงจำมีจุดเริ่มต้น แต่ยังไม่มีจุดจบ ตราบเท่าที่ศิลปะชิ้นนี้ยังคงอยู่” และเพื่อให้ผู้ชม และกลุ่มคนรักเวสป้าได้เข้าถึงแก่นแท้ของเรื่องราวในสารคดี ‘ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น’ เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมาทาง Vespa Thailand
Aristotle นักปราชญ์ชาวกรีกเคยกล่าวเอาไว้ว่า “Man is by nature a social animal” ซึ่งเป็นสิ่งนิยามถึงธรรมชาติของมนุษย์ในการรวมกลุ่ม มีการติดต่อสื่อสาร และพึ่งพาอาศัยเกื้อกูลกัน ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานอกจากจะเป็นสัญชาติญาณพื้นฐานเพื่อการอยู่รอดแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่พวกเรานั้นจำเป็นต้องอยู่ร่วมกัน นั่นก็เพราะว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบกาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือแม้กระทั่งการสังสรรค์กับเพื่อนสนิท คือสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวกว่าที่คิด ยืนยันได้จากงานวิจัยของ Harvard ที่ศึกษากลุ่มตัวอย่างมายาวนานกว่า 80 ปี และที่ผ่านมาสำหรับใครที่ติดอยู่กับภาระหน้าที่ รวมถึงข้อจำกัดต่าง ๆ จนทำให้ไม่มีเวลาได้เจอะเจอเพื่อนฝูงบ่อยนัก เราบอกเลยว่าช่วงเวลา Festive Season ปลายปีแบบนี้คือจังหวะเหมาะที่จะรีเฟรชต่อมความสุข ด้วยการรวมก๊วนชวนเพื่อนสนิทมิตรสหายมาจอยกันสักที กับช่วงเวลาที่ถือเป็น Golden Moment อันอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนฝูง ครอบครัวหรือคนรัก ซึ่งทุกคนต่างรอคอยที่จะใช้ช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกัน และในช่วงเวลาพิเศษแบบนี้แบรนด์เครื่องดื่มพรีเมียมสัญชาติไทยอย่าง ‘ช้าง’ ที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในโมเมนต์ดี ๆ ของเพื่อนฝูงมาโดยตลอด จึงถือโอกาสต้อนรับการกลับมาของความสนุกสนาน เพื่อให้เทศกาลเฉลิมฉลองช่วงปลายปีครั้งนี้มีความเฟรชยิ่งกว่าเดิม ซึ่งการอัพเกรดความเฟรชกับช้างครั้งนี้บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะ ‘ช้าง’ ได้ร่วมกับแบรนด์ ‘มิตรสหาย’ ปล่อยงาน
ขณะที่หลายคนกำลังอ่านบทความนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่พิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์ 2020 ณ กรุงโตเกียวกำลังดำเนินอยู่ เพื่อส่งสัญญาณการเริ่มต้นมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งที่ 32 อย่างเป็นทางการ และในช่วงจังหวะเวลาเหมาะเจาะแบบนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะรวบรวมข้อมูลน่าสนใจของ Tokyo 2020 Olympics ครั้งนี้ มาให้ชาว UNLOCKMEN ได้อ่านอุ่นเครื่องเพิ่มความอินในการรับชม และร่วมเชียร์ได้อย่างมีอรรถรสเต็มเหนี่ยวกันไปเลย 57 ปีที่รอคอย มหกรรม Tokyo 2020 Olympics ที่ถูก COVID-19 เล่นงาน จนต้องถูกเลื่อนมาจัดในปี 2021 ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 57 ปี ที่ตำแหน่งเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน หวนกลับมาสู่อ้อมอกชาวอาทิตย์อุทัยอีกครั้ง นับตั้งแต่ปี 1964 และถือเป็นชาติแรกของเอเชียที่ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อนถึง 2 ครั้ง ซึ่งการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของญี่ปุ่นเมื่อครั้งอดีตนั้นมีความสำคัญในแง่ของการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของญี่ปุ่นยุคหลังสงครามโลก ช่วยลบล้างทัศนคติเชิงลบของประเทศ ด้วยการสร้างชื่อเสียงของญี่ปุ่นให้เป็นที่รู้จักในมุมมองของประเทศที่ทันสมัยและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม หลังจากผ่านเวลามาอย่างยาวนาน ในที่สุดวงล้อแห่งโอลิมปิกก็หมุนวนมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ในการประชุมหาเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ที่อาร์เจนตินาเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมา มี 3 เมืองใหญ่ได้ขับเคี่ยวเพื่อตำแหน่งเจ้าภาพโอลิมปิก ทั้งอิสตันบูล มาดริด
“A gentleman’s choice of timepiece says as much about him as does his Saville Row suit.” – Ian Fleming เสน่ห์ของนาฬิกาข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องบอกเวลาแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับสุดหรูที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ สะท้อนถึงรสนิยม ภาพลักษณ์ รวมถึงตัวตนของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาฬิกาแต่ละเรือนก็มีเสน่ห์และเหมาะสมกับโอกาสการสวมใส่ที่แตกต่างกันออกไป ในอีกแง่หนึ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบหรือสนใจนาฬิกาอยู่แล้ว การลงทุนในสิ่งที่รักและหลงใหลอย่างนาฬิกาก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้การลงทุนในด้านอื่น ๆ นี่คือโอกาสดีสำหรับผู้ที่หลงใหลในเสน่ห์ของเรือนเวลา เพราะ Luxetime “Luxury Watch Consignment แห่งแรกในไทย” ได้จัดอีเวนต์เพื่อแบ่งปันประสบการณ์สุด Exclusive ครั้งแรกภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxetime Beyond the Time” “คุณตั้ม- ชนกพล ไชยศุภรากูล”ผู้บริหารและผู้ก่อตั้ง Luxetime กล่าวว่าอีเวนต์แรกของ Luxetime ครั้งนี้จัดขึ้นสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Timepiece จากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ มาร่วมสัมผัสความสวยงามหรูหราเหนือกาลเวลา และยังเป็นการรวมตัวของสาวกนักสะสมที่ต่างนำนาฬิกาเรือนคู่ใจของตัวเองมาอวดโฉม พร้อมร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ภายในงานประกอบไปด้วยนาฬิกาแบรนด์หรูระดับโลกที่ยกขบวนกันมาแบบจัดเต็ม
งานศิลปะทางการเมือง Political Art ในนาม “Headache Stencil” ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ชอบเปิดเผยหน้าสักเท่าไร แต่หลาย ๆ คนก็รู้จักเขาผ่านทางผลงานที่เล่าเรื่องคอนเซ็ปต์เกี่ยวกับ ประเด็นทางการเมือง หรือประเด็นที่บางคนไม่กล้าพูดถึง รับรองว่าใครที่เขาได้ mention ถึงในผลงานได้มีอาการ “ปวดหัว” เป็นแน่แท้ ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขาปล่อยผลงานที่แสดงถึงการต่อต้านเผด็จการ จึงถูกคุกคามจากกลุ่มคนนิรนาม ถึงบ้านพัก บางครั้งก็ถูกขับรถตาม เรียกได้ว่า “บ้าน” ก็ยังไม่ปลอดภัยสำหรับเขา ยิ่งถูกคุกคามมากเท่าไร เขายิ่ง “พร้อมจะตีแผ่ความจริงของประเทศให้โลกได้รับรู้มากเท่านั้น” การพูดความจริงไม่สามารถพูดได้ในที่สาธารณะ แต่เขายังคงยืนหยัดที่จะสร้างผลงาน เพื่อต่อต้านเผด็จการ หรือประชาธิปไตยจอมปลอมต่อไป โดยผลงานของเขาได้ถูกสื่อต่างประเทศอย่าง reuters ตีแผ่เพื่อให้โลกได้รับรู้ และถูกขนานนามว่าเป็น Banksy (ศิลปินชาวอังกฤษ) แห่งเมืองไทย และล่าสุด การตีแผ่ความจริงทางการเมืองในเชิงศิลปะ ของเขาถูกจัดแสดงขึ้นที่ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ซึ่งคิดว่าเป็นเพราะ เพื่อไม่ให้ถูกแทรกแซงจากกลุ่มบุคคลอื่น และเป็นที่สนใจของสื่อต่างประเทศเป็นอย่างมาก ภายใต้ชื่องานที่ว่า ดู-ดาย (Do or Die) : HEADACHE STENCIL SOLO
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบไปทั่วโลกและทำให้ผู้คนในหลายประเทศต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อความปลอดภัยของตัวเองในขณะเดียวกันวิถีชีวิตแบบปกติใหม่หรือ New Normal ก็ได้สร้างช่องทางการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนกับโลกภายนอกที่เรียกว่า Virtual Event ขึ้นมาพร้อมกัน Virtual Experience หรือการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงเริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนเราเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกับชีวิตยุค New Normal หลังการแพร่ของไวรัสโควิด-19 เมื่อมนุษย์ต่างหลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน เพราะยังคงกลัวความเสี่ยงจากโรคติดต่อส่งผลให้งานอีเวนต์และการรวมตัวกันของผู้คนต้องหยุดชะงักไปด้วย Virtual Event จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญแถมยังทำหน้าที่ได้ดีอีกด้วย วันนี้เรามาแนะนำ Virtual Event ดี ๆ ที่ผ่านมารวมไปถึงอีเวนต์ที่ไม่ควรพลาดซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ จะมีอีเวนต์เจ๋ง ๆ แบบไหนรออยู่บ้างมาชมไปพร้อมกันเลย นอนชมภาพเขียนระดับโลกอยู่บ้านผ่าน “Virtual Tour” ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ช่วงกักตัวอยู่บ้านหลายเดือนที่ผ่านมาผู้ที่ชื่นชอบการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และผลงานศิลปะสามารถเข้าไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอย่างพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ผ่านหน้าจอได้อย่างใกล้ชิด พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musée du Louvre) พิพิธภัณฑ์ที่เป็นเหมือนจุดหมายสำคัญของคนที่หลงใหลผลงานศิลปะได้เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์แบบ “Virtual Tour” ผ่านกล้องมุมมอง 360 องศาที่เผยให้เห็นรายละเอียดทุกส่วนภายในตัวอาคารที่รวบรวมผลงานศิลปะเอาไว้มากกว่า 30,000 ชิ้น การทัวร์พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ช่วยให้เราได้ชมผลงานระดับ Masterpiece จำนวนมากแต่ที่พลาดไม่ได้คงจะเป็นภาพเขียน Mona Lisa ของศิลปิน เลโอนาร์โอ
“Legends at Lennon’s” ณ Lennon’s (เลนนอนส์) สปีคอีซี่บาร์ที่เป็นแหล่งรวมแผ่นเสียงไวนิลที่ดีที่สุด ตั้งอยู่บนชั้น 30 ของ Rosewood Bangkok ที่ UNLOCKMEN อยากชวนให้ไปลิ้มรสเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่ผ่านการคัดสรรวัตถุดิบและผสมขึ้นมาอย่างพิเศษโดย Mixologist นักผสมเครื่องดื่มผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากร้านอาหารและบาร์ทั่วโลกซึ่งถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในโลกใน The World’s 50 Best Bars และผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมเครื่องดื่มคนแรกที่ให้เกียรติมาคือ Jose Ibanez (โฮเซ่ อิบาเนซ) จาก Employees Only สปีคอีซี่บาร์สุดเก๋ในตำนานของมหานครนิวยอร์ก ที่มารังสรรค์เครื่องดื่มแก้วพิเศษสำหรับแขกที่มาใช้บริการ Lennon’s ในวันที่ 30 มกราคม 2563 ที่พึ่งผ่านมา สำหรับใครที่พลาดไปไม่ต้องเสียดายเพราะเร็ว ๆ นี้ยังมีซีรีส์ที่ 2 ของ “Legends at Lennon’s” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม 2563
ผ่านไปแล้วสำหรับงานรวมตัวประจำปีครั้งใหญ่ของคนรักบีเอ็มดับเบิลยูอย่าง BIMMERMEET ครั้งที่ 4 โดยงานในปีนี้ยังคงจัดอย่างยิ่งใหญ่และมาพร้อมการเปิดตัวโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” เพื่อมอบประสบการณ์งานศิลปะระดับโลกให้คนไทยได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด เนื่องในโอกาสพิเศษฉลองครบรอบ 45 ปี “ BMW Art Cars” โปรเจกต์สุดติสท์ที่มีศิลปินชื่อก้องโลกเคยรังสรรค์ผลงานเอาไว้ถึง 19 คัน งานนี้บีเอ็มดับเบิลยูจับมือกับ 9 ศิลปินชั้นนำจากหลากหลายแขนงทั้งในและต่างประเทศมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานลงบนรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูและเปิดตัวสู่สายตาผู้คนเป็นครั้งแรกภายในงาน รวมถึงความพิเศษอีกมากมายภายในงานที่ UNLOCKMEN เก็บมาฝากทุกคน พร้อมบทสัมภาษณ์พิเศษจากเหล่าศิลปินที่ฝากผลงานไว้ในโปรเจกต์นี้ เมื่อเริ่มเข้าสู่งานซึ่งจัดขึ้นที่อิมแพค สปีด ปาร์คบอกเลยว่าเราสัมผัสได้ถึงความน่าสนใจและความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้นทุกปีสำหรับงานรวมพลคนรักบีเอ็มดับเบิลยู BIMMERMEET#4 ที่ปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “Tribute to BMW Art Cars” ฉลองครบรอบ 45 ปี BMW Art Cars ซึ่งขนเอาโมเดลเจ้าฃองงานศิลปะระดับตำนานของอาร์ตคาร์ทั้ง 19 คันมาให้ชมกันอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนั้นบีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทยยังได้จัดโปรเจกต์ “BMW Unbound World of Art Series” ขึ้นเพื่อชวนคนไทยมาสัมผัสประสบการณ์งานศิลป์ของ
ตึกเก่าบางหลังที่เคยเดินผ่าน ชั่วชีวิตนี้เราอาจไม่มีโอกาสได้เห็นข้างในของมัน เรื่องเล่าที่สูงศักดิ์ที่อ่านจากตำรา พงศาวดาร ฟัง ๆ ไปก็เหมือนมีฝ้าบางมากั้นไว้เสมอ “บางทียิ่งเป็นเรื่องพระองค์ เป็นเจ้า บางทีคนจะยิ่งรู้สึกห่าง เป็นสิ่งที่คนจะกระเถิบ แต่อยากจะให้คนเห็นว่าจริง ๆ มันมีความเป็น Humanity ในเรื่องนี้พอสมควร อยากให้ทุกคนเห็นว่าท่านแม้ว่าจะเป็นบุคคลเชิงประวัติศาสตร์ เป็นกษัตริย์ไทย ท่านก็โชว์ความรู้สึกส่วนพระองค์แล้วท่านก็มีความเป็นมนุษย์อยู่เหมือนทุกคน อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ คิดว่าทุกคนพอจะเข้าใจเพราะทุกคนเคยมีญาติ” คำอธิบายในฐานะภัณฑรักษ์และเจ้าของผลงานของท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน เจ้าของนิทรรศการภาพถ่าย “Hundred Years Between” เล่าเรื่องราวหลังตามรอยเส้นทางเสด็จฯ ประพาสรัชกาลที่ 5 ณ ประเทศนอร์เวย์ ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 115 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย–นอร์เวย์ในปี 2563 ซึ่งกำลังจัดแสดงอยู่ในงาน Bangkok Design Week 2020 ตรึงเราไว้ทันทีที่ได้ยิน ทำไมงานนี้ถึงเป็นงานที่มีผู้คนพูดถึงมากที่สุดในบรรดางานกว่า 500 ชิ้นที่กำลังจัดอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำไมคนถึงต้องแห่กันจองเพื่อเข้าชมงาน เหตุผลเพราะอีกแค่ 2 วันกับไม่กี่ชั่วโมง พวกคุณจะไม่ได้สัมผัส 3 สิ่งนี้ตลอดกาล ไม่ได้เห็นมุมมองของรัชกาลที่ 5