Guide

Art of Drink: รู้ไว้ใช่ว่า มาทำความรู้จัก Cocktail พื้นฐาน

By: Thada September 23, 2016

เคยไหมบางทีเวลาไปตามร้าน ผับ บาร์ วันนี้ก็ไม่ได้อยากจะดื่มอะไรหนักๆ อย่างเช่น เบียร์ หรือ เหล้า อยากหาอะไรเบาๆ ดื่มแค่พอผ่อนคลาย หรือเช่นเวลาไปออกเดทอยากจะสั่งเครื่องดื่มดีๆให้คู่เดทดื่ม แต่ไอ้การจะไปสั่งอะไรแปลกๆก็เป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงอยู่ไม่น้อย เพราะถ้าสั่งมา และ Fail ก็จะเสียดายตังค์แถมถ้าไปกับสาวๆ เราอาจจะหน้าแตกก็เป็นได้  วันนี้เราจึงขอมาแนะนำเครื่องดื่ม Cocktail มาตรฐานเบื้องต้นเพื่อให้ชาว Unlockmen ได้ไปลองสั่งมาดื่ม หรือเอาไว้ประดับความรู้เวลาไปออกเดท จะได้มีเรื่องไว้โม้กับเพื่อนๆ หรือสาวได้

ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับเหล้าต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมหลักของ Cocktail กันก่อน

Vodka

151102-Cocktail-1

คนไทยบางคนอาจจะคุ้นเคยกันดี และคิดว่ามันก็ไม่ต่างจากเหล้าขาวบ้านเรามากมาย Vodkaเป็นเหล้าที่ทำมาจากมันฝรั่งต่างๆ รสชาติร้อนแรง บาดคอ ไม่มีสีไม่มีกลิ่นไม่มีรส ดีกรีประมาณ 35-180% ประเทศที่เป็นต้นตำรับในการผลิต วอสก้าคือ รัสเซีย แต่ในปัจจุบันมีหลายประเทศที่ผลิตเหล้าวอสก้าออกมามากมายและยังมีการเติม แต่งรสชาติต่างๆ ด้วย เช่น รสเลมอน รสแบล็คเคอเรน เป็นต้น

Whisky

151102-Cocktail-11

เป็นเหล้าที่ทำมาจากข้าวต่างๆเช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์ข้าวโพดข้าวไรน์เป็นต้นรสชาติหอมนุ่มดีกรี ประมาณ 35-45% มีผลิตในหลายประเทศแต่หลักๆจะแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ วิสกี้ที่มาจาก ประเทศสก็อตแลนด์ Scotch Whisky , วิสกี้ที่มาจากประเทศอเมริกา Bourbon Whiskey ,วิสกี้ที่มาจากประเทศแคนาดา Canadian Whisky , วิสกี้ที่มาจากประเทศไอร์แลนด์ Irish Whiskey และยังมีวิสกี้ที่มาจากประเทศอื่นๆอีกมากมายด้วย

Gin

151102-Cocktail-14

เป็นเหล้าที่ทำมาจากสมุนไพรต่างๆ และผลจูนิเปอร์ ประเทศต้นตำรับที่คิดค้นผลิตขึ้นมา คือ ชาวดัชต์ ประเทศฮอลแลนด์ แต่ปัจจุบัน จะนิยมเหล้ายินที่มาจาก ลอนดอน ประเทศอังกฤษกันมาก ดีกรี 35-43% มีรสชาติต่างๆ ด้วย เช่น รสเลมอน รสแบล็คเคอเรน เป็นต้น

Rum

151102-Cocktail-5

เป็นเหล้าที่ทำมาจากกากน้ำตาลอ้อย ผลิตกันมากในแถบประเทศทะเลแคริเบี้ยนคิวบา จาไมก้า รสชาติหอมนุ่ม แต่หอมน้อยกว่าเหล้ายินดีกรี 30-40% แบ่งออกเป็น 3 สี ได้แก่ สีขาว ,สีทอง และสีดำ

Brandy

151102-Cocktail-4

 

เป็นเหล้าที่ทำมาจากองุ่น รสชาติหอมนุ่มนวล ชวนดื่ม ดีกรีประมาณ 30-50% กรรมวิธีการผลิต หมักแล้วนำมาต้มกลั่น โดยเหล้าบรั่นดียังมีอีกสองประเภท คือ Congnac คอนยัคเป็นเหล้าบรั่นดีที่ผลิตขึ้นในแคว้นคอนยัค ของประเทศฝรั่งเศส และ Armagnac อาร์มายัคเป็นเหล้าบรั่นดีที่ผลิตขึ้นในแคว้นอาร์มายัค ของประเภทฝรั่งเศส

Tequila

151102-Cocktail-2

เป็นเหล้าที่โดยใช้วัตถุดิบคือ อะกาเว (agave) เป็นพืชพื้นเมืองของเม็กซิโก ซึ่งเป็นจำพวกเดียวกับป่านศรนารายณ์ ว่านหางจระเข้ หรือ ดอกโคมเป็นพืชอวบน้ำรสชาติร้อนแรง บาดคอ นิยมดื่มกินกับมะนาว และเกลือเหล้าเตกีล่ามีอยู่ 2 สี คือ สีขาวหรือสีเงิน และสีทอง ซึ่งสำหรับเราขอบอกว่า Tequila เนี่ยมีระดับความแรงที่รุนแรงอยู่ระดับสูงควรระวังถ้าไม่อยากเมาหัวราน้ำแต่หัววัน

 

หลังจากเรารู้จักเหล้าต่างๆซึ่งก็มีระดับความแรง และรสชาติของมันก็ต่างกัน คราวนี้ก็มาถึงเจ้าตัว Cocktail สักที Cocktail คือเครื่องดื่มที่ผสมเหล้ากับเครื่องดื่มต่างเพื่อให้มีรสชาติที่อร่อยกินง่ายขึ้น และ Cocktail ต่อไปนี้คือ Cocktail เราสามารถหาได้ตามร้านปกติ เรียกว่าเป็น Cocktail มาตรฐานละกัน

Margarita

151102-Cocktail-8

เครื่องดื่มสุดคลาสสิกจากประเทศเม็กซิโก เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1942 โดยเอกลักษณ์ของ Cocktail ชนิดนี้คือการตกแต่ง ที่จะใช้เกลือไปทาไว้ที่ขอบปากแก้ว ทำให้ Cocktail มีรสชาติเปรี้ยว หวานและเค็ม ผสมผสานกันจนออกมาเป็นรสที่กลมกล่อม ละมุนยิ่งนัก

Mojito

151102-Cocktail-6

จัดเป็น Cocktail ที่เก่าแก่และคลาสสิกอีกตัวหนึ่งของประเทศคิวบา ส่วนรสชาติของ Mojito ค่อนข้างมีรสที่ดีออกเปรี้ยวนิดหวานหน่อย และให้ความรู้สึกสดชื่นของใบสะระแหน่ เหมาะแก่การกินชิวๆริมทะเลเป็นอย่างมาก

Martini

151102-Cocktail-7

เราอาจจะคุ้นชื่อค็อกเทลตัวนี้เป็นอย่างดี เพราะมักจะได้ยินชื่อมันจากหนัง 007 อยู่บ่อยๆ Martini ถือกำเนิดในปี ค.ศ. 1860 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ค็อกเทลสูตรนี้ค่อนข้างมีความเข้มข้นเพราะเป็นเครื่องดื่มที่เน้นเหล้าเป็นพิเศษ

Martini มีหลากหลายสูตร อาทิ Vodka Martini, Dry Martini, Rum Martini ที่นิยมใส่มะกอกดองหรือหอมดองลงไป นอกจากนี้ยังมีสูตรอื่นๆ อีกมากมายให้คอค็อกเทลได้เลือกสรร ข้อระวังถ้าคุณไม่ใช่คนคอแข็งมากๆอย่าได้บังอาจสั่งเด็ดขาด เพราะรสชาติที่ไม่ใช่สไตล์คนไทยนิยมแล้วความรุนแรงของมันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

Mai Tai

151102-Cocktail-13

ช้าก่อนอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ามันคือ Cocktail ที่คิดในประเทศไทยถึงแม้ชื่อมันจะดูไทยๆ เพราะจริงๆแล้ว ไม-ไต นั้นมีต้นกำเนิดอยู่ที่ หมู่เกาะ ตาฮีติ โดยเป็น Cocktail ที่มีรสชาติหวานแทบจะไม่รู้สึกถึงกลิ่นเหล้า ทำให้เป็นที่โปรดปรานสำหรับสาวๆ เนี่ยก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจถ้าเกิดจะสั่งให้คู่เดท

Gin and tonic

151102-Cocktail-9

Gin and tonic หลายคนคงเคยได้ยินชื่อกันบ่อยๆ เป็นเครื่องดื่มทำง่ายๆแค่ที่ผสมกันระหว่างจินกับโทนิก โดยจินเป็นเหล้าขาวชนิดหนึ่ง ส่วนโทนิกเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอลล์ มีรสฝาดนำ เมื่อนำทั้งจิน และโทนิกมาผสมกัน ก็จะได้เครื่องดื่มที่วิเศษอย่างจินแอนด์โทนิกนั่นเอง

Sex on the beach

151102-Cocktail-3

เครื่องดื่มชื่อสยิวชวนให้คิดลึก สำหรับเครื่องดื่ม Sex on the beach เริ่มต้นมาจาก มีพนักงานบาร์ในเมืองฟลอริด้าคนหนึ่ง เข้าแข่งขันในงานประกวด Cocktail และเขาก็ได้คิดเมนูเครื่องดื่มนี้ขึ้นมา โดยส่วนผสมหลักๆ ก็มีน้ำส้ม น้ำแครนเบอร์รี่ วอดก้า และเหล้าพีช ดังนั้นถ้าใครไปเที่ยวทะเล แล้วได้ยินคนพูดว่า “I’ll have Sex on the Beach, please” ก็อย่าคิดลึก เพราะมันคือชื่อเครื่องดื่มจริง

Long Island

151102-Cocktail-12

Long Island มีถิ่นฐานแหล่งกำเนิดในนิวยอร์ก ด้วยว่าในช่วงทศวรรษ 1970 มีบาร์เทนเดอร์นายหนึ่งอ้างว่า เขาคิดค้นค็อกเทลสูตรนี้ขึ้นเพื่อส่งเข้าประกวด ซึ่ง Cocktail ตัวนี้มีความแรงที่เรียกว่าสามารถทำให้คุณเมาได้แบบไม่รู้ตัวด้วยความที่ผสมเหล้า ถึง 5 ชนิด วอดก้า เตกีล่า เหล้ารัม เหล้ายิน และทริปเปิล-เชก หรือเหล้าที่มีรสส้ม

นอกจากนี้ยังเหยาะเครื่องดื่มรสเปรี้ยวและน้ำโคลาเข้าไปอีกด้วย โดยเรียกได้ว่าเป็น Cocktail มอมสาวเลยก็ว่าได้ เพราะรสหวานจนทำให้ลืมดีกรีเหล้าข้างในทำให้เมาเสียหลักได้ง่ายๆ

B – 52

151102-Cocktail-10
B – 52 จัดเป็น Cocktail ติด TOP LIST ที่ต้องดูดดื่มให้ได้ก่อนตาย เพราะด้วยสีสันสะดุดตา ด้วยเทคนิคการจิบ และ ด้วยรสแรงล้ำสุดๆ สาสมกับที่มาของชื่อ B–52 เพราะมัน คือ ชื่อเครื่องบินทิ้งระเบิด USA ในสมัยสงครามเวียดนาม มีอานุภาพทำลายล้างชนิดบอมม์กระจุยกระจาย ความหมายเยี่ยงนี้เองจึงผูกติดกับชื่อ Cocktail นั่นคือ เมื่อจิบแล้วจะร้อนแรงดุจระเบิดลงในช่องท้อง

B – 52 ปรากฏชื่อเสียงเรียงนามครั้งแรกในร้านสเต็กชื่อ KEG จากสหรัฐ ปี 1977 ซึ่งมีส่วนผสมหลักๆ เป็นเหล้า 3 อย่าง และ จัดเรียงเป็น 3 ชั้น ส่วนเทคนิคการกินง่ายคือต้องดูดรวดเดียวให้หมด และท้องก็จะลุกเป็นไฟ

นี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลากหลายร้อยสูตรของ Cocktail ซึ่งต่อให้เป็นชื่อเดียวแต่ถ้าทำมาจาก Bartender คนละที่กัน รสชาติที่แตกต่างกันได้  และเราก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะส่งเสริมให้คนหันมาดื่ม  การดื่มบางทีก็เป็นเรื่องของมารยาท และการเข้าสังคม  ดังนั้นการรู้เรื่อง Cocktail ต่างๆก็ใช่ว่าจะเหลือบ่ากว่าแรง จะได้เอาไปคุยกับสาวได้ด้วย

151102-Cocktail-cover

Thada
WRITER: Thada
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line