Life

ผลวิจัยแนะนำวิธีเลิกสูบบุหรี่ ค่อยๆลดมันไม่เวิร์ค จะให้ได้ผลต้องเลิกขาดทันที

By: Chaipohn October 19, 2016

เราเชื่อว่าหลายคนที่สูบบุหรี่อยู่ตอนนี้ ล้วนรู้ดีอยู่แล้วล่ะ ว่าบุหรี่มันไม่มีอะไรดีต่อร่างการเลยแม้แต่อย่างเดียว ทุกคนต้องเคยมีความคิดอยากเลิกสูบบุหรี่โผล่ขึ้นมาในหัวตลอดเวลา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้เลิกขาดสักที อย่างดีก็หยุดไปสักสองสามสัปดาห์ ก่อนจะชะล่าใจกลับมาสูบใหม่อีกครั้งด้วยความมั่นใจว่าอยากหยุดเมื่อไหร่ก็หยุดได้นี่หว่า แต่มีผลวิจัยเปรียบเทียบพบว่า คนที่ลดๆ เลิกๆ ไม่ค่อยจะมีใครเลิกขาดได้เท่ากับคนที่หยุดแล้วหยุดเลย

University of Oxford ได้ทำการวิจัยเปรียบเทียบกลุ่มทดลองที่อยากเลิกสูบบุหรี่ โดยแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่ม ในการทดลองนี้ นักวิจัยได้บอกให้ทั้ง 2 กลุ่มเตรียมตัวก่อนถึงวัน D Day หยุดสูบต่างกันออกไป  กลุ่มแรกคือคนที่หยุดสูบทันทีก่อนถึงวัน D Day และอีกกลุ่มคือคนที่ค่อยๆ ลดจำนวนการสูบบุหรี่ลงเรื่อยๆ ก่อนถึงวัน D Day พบว่า 25% ของกลุ่มทดลองที่หยุดทันที ประสบความสำเร็จในการเลิกสูบบุหรี่ได้ภายใน 4 สัปดาห์ และมีจำนวนถึง 42% ที่สามารถเลิกขาดแบบไม่กลับไปข้องแวะกับบุหรี่ได้ภายใน 6 เดือน

161019-quit-smoking-1

เหตุผลที่ทำให้คนกลุ่มค่อยๆ ลดจำนวนไม่สามารถเลิกขาดได้นั้น เป็นเพราะการสูบทีละนิดละหน่อย ในขณะที่ร่างกายกำลังอยู่ในช่วงโหยหานิโคติน ยิ่งเป็นการจุดประกายให้ร่างกายรู้สึกอยากสูบบุหรี่อยู่เรื่อยๆ แถมยังเป็นการสะกดจิตตัวเองแบบผิดๆ ว่าสามารถควบคุมการสูบบุหรี่ของตัวเองได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เลย ยิ่งหยุดๆ สูบๆ ยิ่งทำให้ร่างกายเรียกร้องมากขึ้นซะด้วยซ้ำ ในขณะที่คนเลิกขาดไม่กลับไปข้องแวะนั้น จะมีกำลังใจในการประคองร่างกายให้ผ่านช่วงอยากยาสุดๆ จนร่างกายปรับตัวได้ ไม่ต้องการนิโคตินอีกต่อไปนั่นเอง

สำหรับคนที่อยากเลิกสูบบุหรี่ เราแนะนำให้เอาวิธีนี้ไปปรับใช้ โดยเริ่มจากการเลือกวันฤกษ์งามยามดีขึ้นมาหนึ่งวัน และลองโยนบุหรี่ทิ้งไปให้หมดสัก 1 สัปดาห์ล่วงหน้าเพื่อปรับตัว ถ้าจะให้ได้ผลดี เราแนะนำให้จูงมือเพื่อนสนิทสักคนเพื่อชวนเลิกสูบบุหรี่ไปด้วยกัน จะสามารถทำให้บรรยากาศในความพยายามสนุกสนานขึ้น รวมถึงหากิจกรรมอื่นเพื่อทำทุกครั้งที่รู้สึกอยากสูบบุหรี่ เช่นเรามักจะไปแปรงฟันทุกครั้งที่รู้สึกอยากสูบบุหรี่ นอกจากจะทำลายความง่วงได้แล้ว ยังทำให้ปากสะอาดจนไม่อยากให้มันสัมผัสควันบุหรี่ไปโดยปริยาย

161019-quit-smoking-2

เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าคนที่สูบบุหรี่มาเป็นเวลาหลายๆ ปี การเลิกสูบบุหรี่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่าย แต่เชื่อเราเถอะว่าผลของความพยายามมันคุ้มค่ามาก แค่เลิกสูบบุหรี่ได้ 1 ปี ร่างกายเราจะลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจลงได้ถึง 50% ถ้าเลิกสูบได้ 10 ปี ก็บอกลามะเร็งปอดไปได้เลย แถมยังไม่ทำให้คนรอบตัวต้องรับความเสี่ยงจากการเป็น Secondhand Smoker จากตัวเราอีกด้วย เรียกว่าเท่สุดๆ ไปเลยครับพี่น้อง

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line