คนรักไม่ค่อยมี คนเกลียดนับไม่ถ้วน คนหวาดกลัวเป็นจำนวนมาก เรียกข้าว่า Hooligan

Hooligan หลายคนอาจรู้แล้วว่าเป็นคำที่ใช้เรียกแฟนกีฬาก้าวร้าว ไม่เคารพกฎกติกา ชอบก่อความวุ่นวาย ทำลายสิ่งของ รวมถึงทำร้ายร่างกายผู้อื่น หรือเรียกง่ายๆ อันธพาลที่ใช้กีฬาเป็นข้ออ้างในการหาเรื่องคนอื่น แต่คำว่า Hooligan นี้มันถูกกำหนดเป็นคำเรียกพวกแฟนกีฬาหัวรุนแรงเหล่านี้ได้อย่างไร? และเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ วันนี้ UNLOCKMEN รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว

คำว่า  Hooligan  เริ่มปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรกในช่วงปี 1894 จากการที่สื่ออังกฤษรายงานการทำสำนวนคดีของตำรวจ หลังจากมีแก๊งอันธพาลที่ชื่อ The Hooligan Boys ในย่าน Lambeth ของ London  ซึ่งไปพัวพันกับคดีฆ่าคนตายมากมาย ทำให้ในสำนวนสืบสวนของตำรวจ รวมถึงการรายงานของสื่อเริ่มมีคำว่า Hooligan  ปรากฏขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์เมืองผู้ดีอังกฤษ

ที่น่าแปลกใจคือ คำว่า  Hooligan  ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่ามีที่มาจากไหนกันแน่ แต่อย่างน้อยก็มีหลายแหล่งค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับแหล่งที่มาในปี 1899 จากการอ้างอิงตามหนังสือของ  Clarence Rook  นักเขียนเจ้าของหนังสือ Hooligan Nights  ฟันธงว่าที่มาของ  Hooligan  จะต้องมาจากนามสกุลของ  Patrick Hoolihan  ชาว  Irish  อาศัยอยู่ใน  London  ผู้เป็นทั้งการ์ดเฝ้าผับ (bouncer)  อันธพาล และหัวขโมยผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านแย่ๆ ทั้งหลาย จนกลายเป็นคำที่ถูกใจชาวอันธพาลทั้งหลายแบบเงียบๆ เพราะที่จริงแล้ว Hooligan ไม่ได้หมายถึงพวกอันธพาลฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่มันกลายเป็นคำสื่อความหมายถึงความรุนแรงในหลายๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นใครหากเป็นกลุ่มคนวัยรุ่นที่ก่อความรุนแรง ก็จะถูกเรียกเหมารวมว่า Hooliganism หรือพวกลัทธิรุนแรงป่าเถื่อนทั้งหมด เพียงแต่อาจจะถูกใช้กับกีฬาฟุตบอลมากที่สุด จนมีการเรียกติดปากต่อๆ กันมาถึงปัจจุบัน

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเกมส์ฟุตบอลเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อไรไม่รู้ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแรกๆ คือศตวรรษที่ 14 ที่ประเทศ England ในปี 1314 King Edward ที่ 2 เคยประกาศแบนการแข่งขันฟุตบอลทั่วประเทศ หลังเกิดจราจลในการแข่งขันฟุตบอล และเขาเชื่อว่าหากปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อาจนำพาไปสู่สถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ และอาจเกิดการก่อกบฏด้วย นั่นเป็นเรื่องราวของความรุนแรงในสมัยโบราณตั้งแต่คำว่า  Hooligan  ยังไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นบรรพบุรุษของ  Hooligan  ก็ว่าได้

ในโลกที่เริ่มก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่คือในช่วงปี 1880 ช่วงเวลานั้นยังไม่ค่อยมีการเดินทางข้ามเมืองเพื่อไปเชียร์ทีมโปรดมากนัก บ่อยครั้งจึงเป็นการปะทะกันของแก๊งท้องถิ่นเมืองเดียวกัน โดยเฉพาะใน  Darby match  ที่อันธพาลส่วนใหญ่มักจะควบตำแหน่งแฟนฟุตบอลไปในตัวอยู่แล้ว แน่นอนว่าต่างฝ่ายต่างก็พร้อมจะมีเรื่องกับอันธพาลร่วมเมืองอีกฝั่ง หรือในนัดที่ไม่มีคู่อริมากนัก  Hooligan  มักจะเปลี่ยนพฤติกรรมไปทำร้ายนักฟุตบอลฝ่านครงข้ามรวมถึงผู้ตัดสิน ยุคนี้การตีกันมักจะลากไปห้ำหั่นกันต่อในที่สาธารณะ และการลงมือกวาดล้างยังทำไม่ได้มากนัก นับเป็นยุคมืดของวงการอย่างแท้จริง

การระบาดของ Hooligan ในอังกฤษไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแม้ก้าวเข้ามาในช่วงปี 1990 แล้วก็ตาม แถมหนักขึ้นอีกด้วย และเรื่องที่เป็นตำนานก็คือเหตุการณ์  Hooligan แฟนบอลทีม Millwall ที่ก่อความวุ่นวายในเกมส์กับทีม West Ham จนถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกัน จนสโมสรต้องโดนสั่งปิดสนามมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยในช่วงนี้เองพฤติกรรมของกองเชียร์ Hooligan ก็เริ่มระบาดไปถึงแถบอเมริกาใต้ด้วย

ในขณะที่ปัญหาทางฝั่งยุโรปเริ่มจะเบาบางลงเพราะมีการแอนตี้ และการเตรียมตัวรับมือจากตำรวจ แต่กลับกันทางฝั่งอเมริกาใต้กลับทวีรุนแรง พกมีด หรืออาวุธเข้าสนาม จนแทบไม่มีใครอยากยุ่งเกี่ยวด้วย ว่ากันว่า  Hooligan บางคนนั้นไม่สนใจมาดูเกมการแข่งขันในสนามสักนิด โฟกัสไปเพียงแค่การออกมาก่อความวุ่นวายเพียงเท่านั้น ทำให้บ่อยครั้งมีหลายคนถูกจับยัดห้องขังตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มด้วยซ้ำเพราะเมาแล้วไปอาละวาด

ความเป็น Hooligan นั้นเริ่มจะถูกทำให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น บางทีอาจจะเป็นความภูมิใจส่วนตัวของกลุ่มคนพวกนี้ก็เป็นได้ โดยในช่วงปี 1960-70 ที่อังกฤษ กลุ่ม Hooligan จะนัดกันตัดผมทรง Skinhead เพื่อให้เป็นที่รู้กัน แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนไปในภายหลังอย่างที่เห็นในปัจจุบันว่าไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องมีลักษณะอย่างไร

และหากให้พูดถึงเรื่อง Hooligan นั้นมีอีกมากที่เขียนยังไงก็คงไม่หมด เราเลยขอสรุปเอากลุ่มแฟนบอลที่เรียกว่าโหดที่สุดในโลกมาไว้รวมกันที่นี่ให้เลย

Galatasaray

ว่ากันว่านี่คือกลุ่มแฟนบอลที่โหดที่สุดในภาคพื้นทวีปยุโรป เพราะเพียงแค่คอนเซ็ปของสนามที่บอกว่า Welcome to The Hell ก็ชวนให้ผู้มาเยือนต้องสยอง แล้วก็ไม่ใช่แค่คำโฆษณาชวนเชื่อ เพราะมันคือนรกจริงๆ ด้วยบรรยากาศการจุดไฟในสนามให้เป็นสีแดงราวกับอยู่ในนรก ที่สำคัญความดุของแแฟนบอลที่พร้อมจะมีเรื่องด้วยทุกเมื่อ ถ้าชาว UNLOCKMEN คนไหนอยากได้ความตื่นเต้นในชีวิตแนะนำว่าไปที่สนาม Turk Telecom ในเมือง Istanbul นัดที่พวกเขาเจอกับ  Fenerbahce  รับรองว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืม

Millwall 

นี้คือต้นตำรับขนานแท้ของ Hooligan อังกฤษ มีประวัติมากมายจนถูกนำไปสร้างเป็นหนัง  Green Street Hooligan ถ้าถามว่าทำไม Millwall ถึงเป็น Hooligan ที่เราพอจะมีข้อมูลคือเพราะแฟนบอลแทบนั้นล้วนเป็นคนในชุมชุนแออัด หรือชนชั้นแรงงาน เขารู้สึกว่าไม่ได้รับการดูแลที่พอจากชนชั้นที่สูงกว่า จึงทำให้ต้องแสดงออกด้วยความรุนแรง ก่อความวุ่นวายเพื่อให้หันมาสนใจ พวกเขา และคำขวัญของเขาก็คือ Nobody like us , We don’t care ดังนั้นทีมที่มาเยือนมักจะเจอพฤติกรรมห่ามๆ อย่างเช่นปากระดาษทิชชู่ หรือเหรียญลงมาในสนามอยู่เสมอ

Spartak Moscow

กองเชียร์รัสเซียขึ้นชื่อเรื่องความโหดอยู่ แล้วอย่างล่าสุดที่เขาบอกว่า กองเชียร์อังกฤษมักบอกว่าตัวเองเป็นอันธพาลลูกหนัง แต่พวกเขามาที่นี่เพื่อสอนให้รู้ว่าอันธพาลตัวจริงเป็นเช่นไร แล้วก็จัดการสั่งสอนกองเชียร์อังกฤษจนวิ่งแทบไม่ทัน และกลุ่มแฟนบอลรัสเซียที่ว่ากันว่าโหดที่สุดก็มาจากทีม Spatak Moscow พวกเขาทุกคนล้วนเป็นนักเลง ที่พร้อมวิวาทกับทีมและกองเชียรือีกฝ่ายทุกเมื่อ แถมไม่ค่อยสนเรื่องจำนวนคนซะด้วย

Spartak Prague

สุดยอดทีมที่ได้รับความชื่นชอบจากกองเชียร์ขาโหด ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มอันธพาลอย่าง Sparta Prague, Prague Boys, Sparta Young และ Falanga ซึ่งจะเป็นฝันร้ายมากสำหรับผู้ร่วมสนาม และเมื่อทีมนี้ต้องแข่งกับ Slavia Prague สงครามกลางเมืองก็เกิดขึ้น เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแข่งได้ตามปกติหากไม่มีตำรวจคอยคุ้มกัน

Boca Junior

ความบ้าคลั่งของแฟนบอล Boca ถือว่าติดทำเนียบอันดับต้นๆ ของโลก เพราะพวกเขาเหมือนกองทัพทางใต้ของประเทศอาเจนติน่า ที่พร้อมจะทำลายทุกทีมที่มาเยือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็น River Pate คู่ปรับตลอดกาล เรียกว่าฆ่าเป็นฆ่ากันเลยทีเดียว เพราะในอดีตเคยมีเหตุการณ์ความรุนแรงของทั้งสองฝ่าย มีคนตายเกิดขึ้นมากมายนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ปี 1913

Al Mascy

ทีมจากอียิปต์ เรียกว่าเป็นโศกนาฎกรรมครั้งใหญ่สุดของวงการฟุตบอล เพราะในปี 2012 ระหว่างที่ทีมพบกัน Al-Ahly หลังจากจบเกมส์แฟนบอลของ Al- Mascy  ได้กระโดดออกจากกรงเพื่อลงมาในสนามแข่งพร้อมทำร้ายแฟนบอลทีม Al-Ahly รวมถึงนักฟุตบอลจนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 74 คน และบาดเจ็บกว่าอีก 200 เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของตำรวจที่ปล่อยให้แฟนบอลพกมีดเข้ามาในสนาม จนเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากมายถึงเพียงนี้ และเป็นความรุนแรงสะเทือนขวัญที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ 1996 ทุกคนพาดหัวข่าวว่า “มันคือสงคราม ไม่ใช่ฟุตบอล”

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ Hooligan ที่เรานำมาฝากกัน คือการจะ Support ทีมเป็นเรื่องที่ดี แต่บางทีการทำเกินกว่าเหตุจนต้องมีผู้เสียชีวิตเราว่า มันไม่น่าจะใช้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการมีกีฬา และอยากฝากถึงแฟนบอลไทยที่ยังคงทำตัวเป็นอันธพาลลูกหนังอยู่ UNLOCKMEN อยากจะให้เลิกเสียเถอะพฤติกรรมแบบนี้มีแต่จะทำให้ทีมที่คุณรักต้องเจอปัญหา ไปหาทางแสดงออกด้วยวิธีที่สร้างสรรค์แทนจะดีกว่า วงการฟุตบอลไทยจะได้เจริญก้าวหน้าเสียที