Entertainment

กว่าจะมาถึงวันนี้ของเจ้าหญิง Bossanova เมืองไทย “ลุลา – กันยารัตน์”

By: unlockmen February 6, 2016

เวลามองภาพคนที่ประสบความสำเร็จ หลายครั้งก็นึกอิจฉาว่าเมื่อไรถึงจะเป็นคิวของเราบ้าง บางครั้งก็แอบสงสัยในใจว่า หรือมันจะมีช่องทางลัด มีสูตรโกงให้เราใส่เพื่อกระโดดกลายมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ และได้ทำตามความฝันในชั่วข้ามคืน ถ้าเป็นหนังไซไฟแฟนตาซีระดับบอลลีวู้ดก็คงเป็นไปได้ แต่ทว่านี่คือชีวิตจริง เรื่องงมงายแบบนั้นอาจไม่เข้าท่าสักเท่าไร

ฉะนั้นความสำเร็จมันคงไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในวันสองวัน หากใช้เวลาเป็นปีๆ เพื่อพิสูจน์ทุกการกระทำของตัวเอง ใช้เวลาหลายสิบปีเพื่อให้คนรอบข้างยอมรับตัวตนของเรา ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังทำอะไรสักอย่างตามความฝันของตนเองแล้วดูเหมือนว่าเส้นทางนี้ยังอีกไกล อยากให้คุณได้ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของผู้หญิงคนนี้ก่อน “ลุลา – กันยารัตน์  ติยะพรไชย” เธอได้รับฉายาจากสื่อต่างๆ ให้เป็นเจ้าหญิง Bossanova คนหนึ่งของเมืองไทย เธอมีผลงานเพลงมาแล้วมากมาย ได้รับรางวัลเพื่อตอกย้ำความสามารถของตัวเองก็หลายเวที แถมตอนนี้เธอยังมีธุรกิจของตัวเองอีกด้วยในชื่อ Lula Home Style หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งที่ได้มานั้นอาจง่ายดาย แต่หนทางที่กว่าจะได้มาซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบสมฉายาเจ้าหญิง บทสัมภาษณ์นี้อาจทำให้คนที่รู้สึกท้อแท้ในการทำงาน มีกำลังใจและฮึดสู้ขึ้นมาได้ เพราะลุลาเธอยืนยันว่าทุกความสำเร็จต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง

160203-lula-1

160203-lula-2

อัพเดทชาว UNLOCKMEN หน่อยว่าตอนนี้ลุลาทำอะไรอยู่บ้าง

จริงๆ ตอนนี้ Full Time ก็เป็นนักร้องค่ะ Part Time ก็จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับงานออกแบบ handmade ไม่ว่าจะเป็นพวกเสื้อผ้า ของแต่งบ้าน หรือว่าอะไรบ้าๆ บอๆ ที่เราชอบ ชื่อว่า Lula Home Style ซึ่งรวมไปถึงว่ามีลูกค้าบางคนชอบสั่งพาย พายบลูเบอร์รี่ เพราะว่าเราเคยทำไปให้เขากินเล่นๆ แล้วเขาชอบกิน เขาก็เลยโทรมาสั่ง นอกนั้นก็จะเล็กๆ น้อยๆ ไปออกบูธงานฝีมือบ้างตามโอกาสค่ะ

ซึ่งมันไม่ใช่แค่กิจกรรมที่ทำเวลาว่าง แต่เป็นชีวิตประจำวันของลุลาเลยใช่ไหม

เป็นทั้ง 2 อย่างค่ะ จริงๆ อยากให้มันเป็นหนึ่งในงานประจำวันของเราด้วย สองคือบางงานก็อยากทำมันในเวลาว่าง คือพยายามจะไม่ให้ตัวเองมีเวลาว่าง เป็นคนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ คือถ้าเวลาไม่ได้ร้องเพลงก็จะรู้สึกแบบไม่ค่อยมีค่า เหมือนอายุก็มากแล้ว เลยพยายามจะเอาเวลาไปทำอะไรที่ยังไม่เคยทำ อย่างถ้าเรารู้ว่ามีครูสอนงานฝีมือมาจากเมืองนอก เราก็จะหาเวลาไปเรียนกับเขาให้ได้ เรียนในสิ่งที่อยากเพื่อให้รู้ว่ามันทำอย่างไร จะได้ตอบตัวเองได้ว่าเราชอบมันมากแค่ไหน อย่างภาพพิมพ์เคยหาเวลาไปเรียน แล้วมันก็เลยไปเป็นผ้าพิมพ์ ก็ถือเป็นศาสตร์ที่เราชอบทั้งหมด แล้วมันก็ยังมีอีก (หัวเราะ) ก็เสาะหามันไปเรื่อยๆ

ทางด้านผลงานเพลงของลุลา มีอะไรสนุกๆ ให้ได้ติดตามบ้างตอนนี้ ล่าสุดเห็นมีซิงเกิ้ลใหม่

จริงๆ เพลงก็เหมือนหนังภาคต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ผู้ใหญ่ทางค่ายมีใบสั่งออกมาว่าเดือนนี้เรามาทำซิงเกิ้ลใหม่กันนะ ก็ยังเป็นงานประจำของเรา ยอมรับตรงๆ ว่ารายได้หลักของเราก็ยังคือการเป็นนักร้องที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าเราจะทำเพลงให้น้อยลง แล้วทำงานฝีมือให้มากขึ้น เราให้ความสำคัญกับงานทุกประเภทเท่ากันหมด ถ้าเรารักเหมือนกันเราต้องทำให้เต็มที่ เป็นสาย perfectionist อะ ต้องทำจนสุดใจขาดดิ้นก่อน

160203-lula-3

ลุลาแจ้งเกิดมาด้วยเพลง Bossanova เคยอยากเปลี่ยนไปสายอื่นบ้างไหม บางทีแฟนๆ อาจจะอยากเห็นลุลาเป็นสาวร็อค

ถ้าเป็นซิงเกิ้ลเราจะไม่ค่อยเปลี่ยนแบบกลับด้านเลย จะค่อยๆ แอบเปลี่ยนไปโดยที่คนฟังเขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ หรือถ้าเขารู้ตัวก็จะรู้ตัวแบบเข้าใจได้ ไม่ได้แบบอยู่ดีๆ ซิงเกิ้ลใหม่ออกมาเป็นร็อคเมทัล (หัวเราะ) อันนี้ก็อาจจะโหดไป ถ้าเราเป็นคนฟังเราก็คงแบบกินยาผิดขวดหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องคอนเสิร์ตเปลี่ยนตลอดเวลาค่ะ บางทีร้องบอสซ่า บางทีร้องป็อป บางทีก็ร็อค หรือเร้กเก้ ถ้าเป็นเรื่องของโชว์เราจะไม่ค่อยมีคำจำกัดความ อะไรก็ได้ที่ทำให้คนดูสนุก

160203-lula-14

เรียกว่าเขาอยากให้เราเป็นอะไรเราก็จัดให้เขาได้

ในคอนเสิร์ตนะคะ บางทีต้องเรียกว่าเดาใจ แล้วก็ดูโจทย์ของคอนเสิร์ตนั้นๆ ถ้าเขาให้เรามาสนุก เราก็คงไม่ได้เล่นแต่เพลงลูกทุ่งเพื่อให้เขาสนุก เราก็จะต้องเล่นหลายๆ แนว เพราะบางคนสนุกของเขาคือเพลงป็อป สนุกของบางคนก็คือต้องร็อคเท่านั้น เราก็ต้องอ่านเขาให้ออกจากการแต่งตัว จากบุคคลิกที่เราดูโดยรวม แล้วก็เลือกออกมาให้อยู่ตรงกลางที่สุด

เราเห็นลุลาในตอนที่เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงแล้ว อยากรู้ว่าจุดเริ่มต้นกว่าจะมีวันนี้ กว่าจะเป็นลุลาในทุกวันนี้ มันเริ่มขึ้นได้อย่างไร

จุดเริ่มต้นคืองานอดิเรกค่ะ ลุลาเชื่อว่าสิ่งที่เราเรียนมาก็เป็นจุดหนึ่ง แต่สิ่งที่เราชอบก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถเข้ามาแทนที่ มาเสริมอาชีพของเราได้ ไม่ได้หมายความว่าเราเรียนหมอแล้วจะห้ามเล่นดนตรี ลุลาเคยมองว่าการเล่นดนตรีมันควรจะเป็นขนมหวานมันไม่ควรเป็นข้าว เพราะวันใดที่มันเป็นข้าวแล้วอาจจะมีวันที่เรากินเยอะเกินไปก็จะเบื่อและอิ่ม ขนมหวานก็จะเป็นแนวที่อิ่มแล้วแต่อยากกินอยู่ จนวันหนึ่งค้นพบว่าเราต้องกินขนมหวานเป็นหลัก ก็ต้องเปลี่ยนแผนว่าทำอย่างไรไม่ให้เราเซงกับอาชีพที่เรารัก กลัวว่าวันหนึ่งเราจะเกลียดมันอะ มันก็จะมีบางโมเมนต์ที่แบบไม่อยากร้องเพลง ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับมันให้ได้ บางทีก็ต้องสร้างจินตนาการในวันที่คนดูเขาไม่อินกับเรา หรือหันไปมองหน้านักดนตรีเราบอกเขาว่าวันนี้เรามาซ้อมดนตรีกันนะ เรากับคนดูอาจจะเข้าไม่ถึงกัน แต่เราต้องสนุกบนเวทีให้ได้

160203-lula-4

เรื่องดนตรีและศิลปะเป็นสิ่งที่ครอบครัวสนับสนุนลุลามาตลอดด้วยหรือเปล่า

เรื่องดนตรี หรือศาสตร์ศิลปะต่างๆ เป็นสิ่งที่เขาสนับสนุนมาตั้งแต่เด็กๆ เลย 7 ขวบก็เรียนบัลเล่ต์ เรียนร้องเพลง เรียนวาดรูป พอจบปริญญาตรีเราก็อยากเป็นนักร้อง เขาก็ไม่เห็นด้วย เขามองว่าอะไรที่ดูไม่มั่นคง เหมือนอยู่ไปวันๆ มันไม่ดี ฟรีแลนซ์คืออะไร แม่รู้แค่ว่าฟรีแลนซ์เท่ากับไม่มีกิน ฉะนั้นลุลาทำอะไรก็แล้วแต่ต้องแอบ แอบไปรับงานให้เราอยู่ได้ แอบไปร้องเพลงโดยที่ไม่ให้เขารู้ เขารู้แค่อย่างเดียวว่าลูกไม่เดินมาขอเงิน จบ! หน้าที่ของเราคือต้องทำให้พ่อแม่สบายใจ จนวันหนึ่งเขารู้สึกว่ายอมรับไม่ได้ละ ก็มีการถกเถียงกัน ลุลาต้องใช้เวลาประมาณ 6 ปี ที่จะทำให้เขาเข้าใจว่าศิลปินเป็นอย่างไร สุดท้ายลุลาก็กลายเป็นยาที่เยียวยาทั้งเขาและเรา แม่ก็มองเห็นว่าเออ ลุลามันก็โอเคนะ ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้ตอนแรก

แต่เด็กสมัยนี้ หรือเด็ก Gen Y เนี่ย มักจะมองว่าการประสบความสำเร็จมันง่าย ฉันจะออกมาเป็นอะไรก็ได้หลังจากเรียนจบ แต่ลุลายังใช้เวลาตั้ง 6 ปีในการพิสูจน์ตัวเอง ลุลารู้สึกว่ามันง่ายขนาดนั้นไหม

ลุลามองว่าที่เขาคิดว่ามันง่าย เป็นเพราะภาพที่อยู่ในหัวเขา เขาแค่คิดว่ามันง่าย แต่เขายังไม่ได้พยายามทำเลยนะ เด็กสมัยนี้มองว่าแค่ฝึกงานก็เหนื่อยแล้ว มันยาก ไม่มา เปลี่ยนงานดีกว่า อันนี้คือประสบการณ์ที่เราเจอจริงๆ นะ เขาคิดว่ามันทำได้ เขาจะเป็นอะไรที่อยากเป็นก็ได้ จริงๆ เขาอาจจับประเด็นผิด คนที่มีอิทธิพลในเรื่องของแรงบันดาลใจ เขาพยายามจะบอกว่าอย่าให้ใครมาล้มเลิกความตั้งใจของเราที่อยากจะเป็นอะไร เขาแค่พูดว่ามันง่ายที่เราอยากเป็นอะไรก็เป็นได้ แต่มันไม่ได้ง่ายระหว่างทาง ดาวหนึ่งดวงที่เราอยากขึ้นไป แต่เราจะหาบันไดขึ้นไปยังไง นี่คือสิ่งที่ยาก ถ้าอยากขึ้นไปจุดสูงสุดให้ได้ ต้องรู้ก่อนว่าบันไดทำอย่างไร เราก็ต้องเริ่มจากสิ่งที่ยากที่สุดก่อน ตำแหน่งสุดท้ายก่อนจะลาออกมาเป็นนักร้องคือ Production Manager ก็ใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเอง 6 ปีอย่างที่บอก (หัวเราะ) กว่าจะมาเป็นลุลา ทำมาแล้วทุกอย่างจริงๆ เพราะฉะนั้นไม่มีงานไหนเลยที่ได้มาง่าย

160203-lula-6

การที่ลุลาเรียบจบมาจากต่างประเทศ มันส่งผลอะไรต่อชีวิตของลุลาบ้าง แกร่งขึ้นไหม

มันอาจจะฟังดูหรูหรานะ แต่จะบอกว่ามันลำบากมากเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเตรียมตัวให้พร้อม การใช้ชีวิต การเอาภาษาไปสู้กับฝรั่งให้ได้ เริ่มแรกคือต้องไปเรียนทำอาหาร เพราะว่าอยู่บ้านแม่เราทำให้หมด อีกเรื่องคือเราคิดว่าภาษาอังกฤษเราเจ๋งแล้ว พอไปอยู่โน้นจริงๆ ลุลาเรียนทั้งหมด 4 ปี อุตส่าห์เลือกวิชาที่เลคเชอร์น้อยๆ แต่อาจารย์วิชาเลคเชอร์เนี่ยสำเนียงเขาแบบฟังยากมาก ปี 1 ลุลาฟังไม่รู้เรื่องเลยกลับบ้านร้องไห้ ก็เลยใช้วิธีได้ยินคำไหนก็จดคำนั้น ปี 2 ก็เริ่มจดเป็นวลี จดปี 4  ก็สามารถจดได้ทั้งประโยค คือบอกไว้เลยว่าอยู่ที่โน้นฝรั่งไม่ช่วยเรานะ งานกลุ่มถึงจะมีก็ไม่มาใจดีเหมือนเพื่อนคนไทย เราเรียนโทเมืองไทยรู้สึกได้เลยว่ามันฟ้ากับดินมาก ฝรั่งเขาก็จะตัวใครตัวมันสุดๆ แต่มันก็มีข้อดีคือเรารู้สึกว่าเราลำบากได้ ไม่ได้มีอีโก้ หรือฉันดีกว่าคนอื่น แล้วก็ทำให้เรารักออสเตรเลียมาก

ไปเรียนเมืองนอกฟังดูแล้วน่าจะมีปัญหาค่อนข้างเยอะ 

ปัญหาส่วนใหญ่ของลุลาคือการเรียนไม่รู้เรื่องนี่แหละ ส่วนเรื่องอื่นเราก็ไม่ค่อยกลัว เพราะเราชอบวาดรูป ชอบออกแบบ ชอบวางแผน ชอบทำโมเดล อันเนี่ยก็เป็นความชอบหลักๆ ของเราอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็จะทำตายอะ ทำแบบถวายชีวิตเลยอะ

ลุลามี Role Model ในการใช้ชีวิตหรือเปล่า 

เราเป็นคนที่ไม่ว่าจะทำอะไร ถ้ารับปากแล้วก็จะทำให้ดีที่สุด อาจมีบ่นบ้างนิสัยคนแก่อะไรอย่างนี้ แต่จะทำให้ดีที่สุดก่อน สิ่งใดที่เราไม่เคยทำแล้วจำเป็นจะต้องทำ เราก็ไม่รู้สึกว่าแบบไม่เอา กลัว ไม่ทำ เราไม่ใช่คนอย่างนั้น เราก็จะขอวิเคราะห์นิดนึงว่า อืม เป็นไปได้ ทำได้ น่าสนุกนะ เป็นคนที่ไม่กลัวในการเริ่มสิ่งใหม่ๆ แล้วก็ไม่กลัวที่จะค้นพบว่าเราชอบอะไรอีก แต่เราเป็นคนที่แบบถ้าทำสิ่งหนึ่งที่เราชอบไปนานๆ แล้ว จะกลัวการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราไม่ได้ชอบ ก็กลัวแค่เรื่องนั้น นอกนั้นก็รู้สึกว่าถึงจุดที่ปลงละ จะใช้เป้าหมายในแต่ละปีมากำหนดการกระทำของเรา ถ้าตอนอายุน้อยหน่อยก็คิดสัก 3 ปี แต่ทุกวันนี้ก็จะเป็นปีต่อปี และทั้งหมดทั้งมวลที่เราบู๊มาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือความรัก ตอนนี้ก็จะกลับมาหาพ่อแม่ ทำทุกอย่างให้ท่านสบายใจ

160203-lula-5

160203-lula-6

มาถึงเรื่องธุรกิจ Lula Home Style กันบ้าง ความเป็นมามันเริ่มต้นได้อย่างไร

จริงๆ ลุลาเริ่มช้า ถ้าเรารู้ว่าเราชอบอะไรก็ควรทำให้มันจริงจังเป็นธุรกิจตั้งนานแล้ว แต่เรากลับรู้สึกว่ามาเริ่มตรงนี้ช้า ช้าแต่ชัวร์นะ เราตอบทุกคำถามได้อย่างมั่นใจกับตัวเอง แล้วทุกก้าวที่เราเดินมันก็ชัดเจน เคยเข้าไปอ่านในเฟสบุ๊คเรื่องของนักธุรกิจบางคนที่เขาแบบอายุ 40 50 แล้วเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจแล้วมันกลายเป็นธุรกิจที่ดีมากก็มี คือเราไม่ได้บอกตัวเองว่าจะต้องเป็นเศรษฐีพันล้านให้ได้ภายในปีหน้า แต่อะไรที่นอกเหนือจากงานเพลงที่เราชอบ เราสามารถตื่นมาแล้วอยู่กับมันได้ทั้งวัน หรือยังสนุกกับการที่บินไปประเทศนั้นประเทศนี้เพื่อไปนำอะไรดีๆ กลับมาใช้ เราก็เลยรู้สึกว่า Lula Home Style มันคืออนาคตอะ ถามว่าลุลาที่เป็นนักร้องมันจะหายไปเหรอ มันไม่ได้หายไปนะ เราว่าใครๆ ก็รู้ว่าสถานการณ์วงการเพลงในปัจจุบันมันค่อนข้างปรับตัวยาก ศิลปินเองก็ปรับตัวยาก ดนตรีกลายเป็นของฟรี Lula Home Style จะเป็นอนาคตของเราที่ผสมผสานความเป็นดนตรีเข้าไปด้วย Lula Home Style ก็เป็นเหมือนงานรวม Hobby ที่เราอยากแบ่งปันให้คนอื่นๆ ด้วย แล้วมันก็เป็นการสร้างงานให้ตัวเองด้วย แบบที่ไม่ต้องไปของานใครทำ แล้วก็ถือเป็นการสร้างอาณาจักรให้แม่ด้วย เพราะแม่ชอบเย็บปักถักร้อย

แสดงว่า Lula Home Style จะไม่ได้เป็นแค่ร้านขายของ หรือเวิร์คชอปอย่างเดียว

ใช่ๆ พูดถึงการตกแต่งก่อนเลย ก็จะมีความเป็นญี่ปุ่นที่ผสมพวกสแกนดิเนเวียนโดยเฉพาะแถบฟินแลนด์เข้าไป พอมาถึงฟังก์ชั่นมันก็จะมีความเป็นช็อปของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วก็ของที่เราชอบส่วนตัวเราก็จะเอามาขายคนที่ชอบด้วย  อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นคาเฟ่เล็กๆ คือลุลาเป็นคนชอบทำขนม แล้วเราก็รู้สึกว่าคงดีนะถ้าเรามีลูกค้าที่ชอบงานฝีมือมาอยู่กับเราเยอะๆ ยาวๆ แล้วไม่ต้องออกไปหาของกินที่ไหน มีอาหารสุขภาพที่เรากินมาทำให้เขาลองกินเหมือนเรา อีกอันหนึ่งก็จะเป็นห้อง craft เราก็จะมีจักรหลายแบบเรียงกันให้ลูกค้าที่อยากใช้เวลากับเราทั้งวัน ก็ให้เขาลงคิวใช้งานได้ อยากได้อุปกรณ์อะไร จากฝั่งสำเพ็งมีครบ จากฝั่งญี่ปุ่นมีครบ ก็คือไม่ต้องไปไหนอะค่ะ (หัวเราะ) ก็น่าจะเปิดแถวๆ เอกมัยค่ะ มีที่จอดรถให้ คิดไว้ว่าจะไม่ให้เกิดไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เพราะเราทำกับที่บ้านอาจจะต้องมีเรื่องให้ตบตีกันเยอะหน่อย (หัวเราะ)

160203-lula-7

ถึงจะทำตรงส่วนนี้ งานเพลงลุลาก็ไม่มีทางทิ้งแน่นอน

ไม่ทิ้งค่ะ ทุกวันนี้ยังต้องมีการส่งเพลงทุกเดือน คือต้องสับขาหลอก หมายถึงว่าเราต้องบริหารเวลา จริงๆ อาชีพหลักไม่ใช่นักร้องนะคะ อาชีพหลักเราเป็นนักบริหารเวลา และนักแก้ปัญหา คอนเสิร์ตก็ยังเล่นอยู่ตลอด ไหนจะมี The Voice Kids อีกที่เราต้องไปคุมเรื่องดีไซน์ เรื่องการโชว์ของน้องๆ มันไม่ได้ยุ่งนะ มันสนุกค่ะที่ได้ใช้สมองตลอดเวลา จะได้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ (หัวเราะ) เป็นคนไฮเปอร์ค่ะ

ทำมาเยอะขนาดนี้ มีสิ่งที่ลุลาอยากปลดล็อคศักยภาพ หรือทักษะในด้านอื่นๆ อยู่อีกไหม

ตอนนี้ก็น่าจะมีเรื่องของงานฝีมืออื่นๆ อีก ที่ญี่ปุ่นที่เขามีสอนเยอะๆ แล้วเรายังไปไม่ถึง ฟังดูบ้านิดนึงนะ อยากเรียนพวกทอผ้า เพราะว่ามันคือศาสตร์เดียวกัน ก่อนหน้านี้เคยเสียดายว่าทำไมไม่เรียนเซรามิคเป็นปริญญาตรี ตอนนี้เริ่มเสียดายว่าทำไมไม่เรียน Textile design แต่ไม่เป็นไร ไหนๆ เราก็มีพื้นฐานดีไซน์แล้วจะเรียนอะไรเพิ่มอีกก็ได้ มีอีกเรื่องที่อยากรู้คือเรื่องการนำของเข้า เคยไปเที่ยวฟินแลนด์หรือพวกญี่ปุ่น มันมีหลายอย่างที่บ้านเราไม่มีก็อยากนำเข้ามาทำดูค่ะ

160203-lula-8

ผู้ชายแบบที่ลุลามองว่าเท่ เห็นแล้วปิ๊งเลย แบบนี้เหมาะกับเรา ต้องเป็นอย่างไร

ชอบผู้ชายแบบที่ไม่ค่อยมีฟอร์มแล้วก็เงียบๆ หน่อย ชอบผู้ชายพูดน้อย ชอบคนพูดน้อยที่ดูเฉิ่มๆ หน่อย เรารู้สึกว่าผู้ชายที่จริงจังในการทำงานจะดูเท่ เราอาจจะชอบผู้ชายเก่ง เหมือนเวลาทำงานเขาดูจริงจังมากโดยที่ไม่ได้มีฟอร์ม หรือใช้กำลังในการข่มคนอื่น เป็นผู้ชายธรรมดาๆ ก็ดูเท่ได้ในมุมของเขาไม่ต้องแต่งตัวแฟชั่นมากก็ได้ เราอาจจะรู้สึกเหมือนพ่อเรามั้ง ผู้ชายที่จริงจังในการทำงานมักจะดูเท่เสมอ

สั้นๆ เลย เคล็ดลับในการใช้ชีวิตของลุลาคืออะไร

ลุลาว่าบางคนเขาไม่รู้จักศักยภาพตัวเองอะ เขามองว่าเขาไม่สวย เขาไม่เก่ง เขาทำแบบนี้ไม่ได้หรอก จริงๆ แล้วถ้าเราไม่ได้ลองพยายามเราจะไปรู้ได้ไง น้องบางคนเป็นนักร้อง ผมทำอันนี้ได้ไม่ได้ หนูทำอันนี้ได้ไม่เก่ง เสียงแปลก มีปัญหา แต่เรากลับมองว่าตรงนั้นน่าจะเป็นจุดด้อยที่เรานำมาพัฒนาเป็นจุดเด่นได้นะ ชีวิตมันเป็นเรื่องของการแก้ปัญหา ประยุกต์และปรับตัว ลองมองตัวเองเป็นสินค้า หาจุดเด่น แล้วนำมันมาเสนอได้อย่างพอดี ลุลาแนะนำว่าต้องลองทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยนำจุดดีนั้นมาบอกคนอื่นว่าเราทำอะไรได้บ้าง แล้วก็ต้องมั่นใจในจุดดีของตัวเองด้วย

160203-lula-9

160203-lula-12

160203-lula-11

160203-lula-13

unlockmen
WRITER: unlockmen
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line