มาทำความรู้จักกับ “Nitro Beer” และเหตุผลว่าทำไมมันจึงทำให้คุณจะหลงรักมากกว่า Beer ปกติ

ไม่ว่าใครก็ยากที่จะปฎิเสธที่จะบอกว่าไม่ชอบดื่มเบียร์ เพราะในเวลาที่คุณกำลังเหนื่อยล้าจากการใช้สมองอย่างหนักหน่วงในการทำงานมาทั้งวัน การได้เบียร์เย็นๆ สักแก้วหลังเลิกงานนั้น เป็นอะไรที่ผ่อนคลายได้แบบสุดๆ เลยทีเดียว แต่พวกเรารู้มั้ยว่า มันมีเบียร์อยู่อีกประเภทนึงที่มีชื่อว่า Nitro Beer อยู่ในโลกนี้ด้วย วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Nitro Beer ที่ว่านี้กัน ว่ามันมีความแตกต่างจากเบียร์ทั่วๆ ไปอย่างไร แล้วทำไมต้องเอาไนโตเจนมาใส่ลงไปในเบียร์ด้วย

ต้องขอบคุณสุภาพบุรุษที่มีนามว่า Samuel Adams ที่เป็นผู้คิดค้น และริเริ่มในการนำ Nitrogen เข้ามาใช้ในการทำเบียร์ ทำให้เกิดเป็นเบียร์ดีๆ ให้เราได้ดื่มกันในทุกวันนี้ ที่มาของการใช้ Nitrogen เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตนั่นก็เพราะว่า เบียร์ปกติจะใช้  Carbon Dioxide  มาอัดเพื่อทำความซ่า ก่อนที่บรรจุลงในขวดหรือในถัง ซึ่ง  Carbon Dioxide  ทำก็ทำหน้าที่ตรงนั้นได้เป็นอย่างดี แต่ก็ทำให้เบียร์สูญเสียความสดใหม่ไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เพื่อแก้ปัญหานี้  Samuel Adams  จึงได้นำเอา  Nitrogen  มาใช้แทน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ได้เบียร์ที่สดใหม่กว่า และคงรสชาติดีได้ยาวนานกว่า

Guinness แบรนด์เบียร์ที่มีชื่อเสียโด่งดังระดับโลกนี้ ก็เป็นหนึ่งแบรนด์ เป็นเบียร์ประเภท Nitro Beer เช่นกัน คุณอาจจะเคยดื่ม Guinness แต่คุณรู้ข้อแตกต่างระหว่าง Guinness กับแบรนด์อื่นๆ รึเปล่า? พวกเค้าคิดค้น Nitro Beer ขึ้นมาตั้งแต่ปี 1950  โดย Micheal Ash มีความคิดสุดล้ำที่จะนำเอา Nitrogen มาช่วยในการปรุงเบียร์ โดยเค้าถูกว่าจ้างโดย Guinness เพื่อที่จะให้ทำ  Nitro Beer  ออกมาให้สำเร็จให้ได้ เค้าใช้เวลาทั้งหมด 4 ปี ในที่สุดเค้าก็ทำมันได้สำเร็จ ในปี 1959  Guinness จึงเริ่มใช้ Nitrogen ในการผลิตเบียร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นั่นก็คือเหตุผล และความแตกต่างว่าทำไม  Guinness ถึงมีรสชาติที่เป็นเอกลักษ์ มีฟองเยอะ ละเอียด และนุ่มนวล กว่าเบียร์แบรนด์อื่นๆ

แต่ไม่ใช่ว่า  Nitro Beer  จะใส่ใช้แค่ Nitrogen เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนผสมที่เป็นสูตรลับความอร่อยที่แท้จริงก็คือ พวกเค้าใช้ Nitrogen 70% และ  Carbon Dioxide 20% และนั่นก็เป็นอีกสิ่งนึงที่ทำให้บางคนไม่สามารถแยกได้ว่า Nitro Beer มีความแตกต่างกับเบียร์แบบปกติ

ตอนนี้เรามาดูกันว่ามี Nitro Beer แบรนด์ไหนบ้างที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ!!

Sam Adams – Nitro IPA

Jim Koch ได้ทำลองผลิต Nitro Beer มาถึง 3 ปี และพบกับความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน จนในที่สุดเค้าก็ได้เบียร์ที่ลงตัวตามที่เค้าต้องการ ออกมาโดยใช้ชื่อว่า  Sam Adams โดยเบียร์ตัวนี้เป็น Nitro Beer ที่หากใครได้ลิ้มลองต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือที่สุดของ Nitro IPA Beer

Oskar Blues – Old Chub Nitro

นี่คือ Nitro Beer ที่เหมาะสมที่จะใช้เป็นเครื่องวัดความแตกต่างระหว่างเบียร์ทั่วๆ ไป กับ Nitro Beer ที่สุด เพราะคุณจะสามารถมองเห็นและ รับรู้รสชาติความแตกต่างได้ในทันทีที่คุณดื่มมันเข้าไป สุดท้าย  Oskar Blues จะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่อยากจะกลับไปดื่มเบียร์แบบปกติอีกเลย ซึ่งนั่นอาจจะเป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวของ Oskar Blues

Founders – Nitro Rubaeus

Rubaeus เป็นหลักฐานที่ยืนยันความสำเร็จของ เบียร์ผลไม้ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Rubaeus ยังเป็นแบรนด์ที่มีการใช้  Nitrogen มาทำให้เบียร์มีรถชาติเปรี้ยวขึ้น จนรสชาตินี้กลายเป็นลายเซ็น ของแบรนด์นี้ไปแล้ว ด้วยรสชาติที่โดดเด่นนี้เองทำให้หลายๆ คนเกิดความสับสนว่ามีการผสมราสเบอร์รี่เข้าไปด้วยรึเปล่า? คำอธิบายง่ายๆ Rubaeus ก็คือ คุณจะไม่รู้ตัวเลยว่าคุณได้ดื่มมันเข้าไปกี่ไพน์แล้ว  

Left Hand – Milk Stout Nitro

นี่คือเบียร์ที่ถูกยกให้เป็นโคตร Nitro Beer จากฝีมือชาวอเมริกันแท้ๆ ถ้าหากคุณเข้าไปดูในเว็ปไซด์ของพวกเค้า พวกเค้ายังมีสอนวิธีการในการรินเบียร์ที่ถูกต้องให้คุณได้ทำตามกันอีกด้วย ถ้าหากคุณต้องการเบียร์แรงๆ กระแทกคอแบบไม่ยั้ง และมั่นใจว่าคอคุณแข็งพอแล้วล่ะก็ นี่คือเบียร์ลูกผู้ชายที่คุณต้องดื่มมันให้หมด โดยที่คุณยังสามารถเดินให้เป็นเส้นตรงได้ ถือว่าสอบผ่านความคอแข็ง

สำหรับผู้ชายที่ชอบการดื่มเบียร์ไม่ควรพลาดไปหามาลองกันดูนะครับ ยิ่งถ้าคุณได้อ่านบทความนี้ไปแล้ว คุณอาจจะแยกความแตกต่างของ Nitro Beer กับเบียร์ปกติได้ง่ายขึ้น ซึ่งนั่นอาจจะทำให้คุณเข้าใจ และหลงรัก Nitro Beer ได้แบบง่ายดาย

SOURCE