Smarter Faster Better!! วิธีง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นคนที่เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้น

ถ้าจะให้พูดถึงคุณสมบัติหลักๆ ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายแล้วล่ะก็  บุคคลเหล่านี้มักจะสิ่งนึงที่คล้ายๆ กันอยู่ในตัวของพวกเค้าเองทุกคน นั่นก็คือการทำความเข้าใจ และเรียนรู้อะไรได้เร็ว ถูกต้อง และลึกซึ้งกว่าคนปกติทั่วไปอีกด้วย แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าทั้งหมดนี้ที่กล่าวมาเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่า พวกเค้าเหล่านั้นฉลาดกว่า หรือเราเองที่ฉลาดน้อยกว่า เพราะวันนี้เราไม่ได้มาพูดถึง หรือเปรียบเทียบตัวเองกับคนเหล่านั้น แต่วันนี้เราจะมาบอกวิธีที่จะทำให้คุณสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะ อย่างเช่นการเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ หรือการทำความเข้าใจกับอะไรที่มีความซับซ้อน และเรียนรู้ได้เร็วขึ้น ทุกอย่างในชีวิตของคุณก็จะง่ายขึ้นตามไปด้วยแล้ว

1. มองหาทางลัด หรือสิ่งที่จะช่วยให้คุณทำมันสำเร็จได้เร็วที่สุด

เมื่อถึงคราวที่คุณต้องเรียนรู้ หรือทำความเข้าใจอะไรใหม่ๆ ที่มีเวลาให้ใช้แบบจำกัด คุณต้องหาทาง และเลือกวิธีที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่คุณ อย่างเช่นถ้าคุณต้องการที่จะย่นเวลา คุณต้องหาสิ่งที่ช่วยคุณให้ไปถึงสิ่งที่คุณคิดได้เร็วที่สุด คุณอาจจะต้องลงทุนมากกว่าคนอื่นๆ โดยการหาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รู้ มาช่วยบอกกล่าว และเพื่อให้คุณมีประสบการณ์จากการเรียนรู้ มาทำด้วยตัวเองในครั้งต่อไปในอนาคต

2. นำกฏ 80/20 มาใช้

กฏ 80/20 ที่มีชื่อเสียงนี้ เป็นสูตรของนักเศรษฐศาสตร์ชาวอิตาลี ที่มีชื่อว่า Vilfredo Pareto กฏ 80/20 นี้ถือว่าเป็นแนวคิดแบบการแบ่งอัตราส่วนให้เป็นไปตามความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น

• คุณอาจจะแบ่ง 20% ให้กับผู้คนรอบข้างคุณ 80% ที่เหลือนั่นคือความสุขของตัวคุณเองโดยที่ไม่สนใจใคร
• หรือ 20% ที่คุณสามารถลดราคาสินค้าให้ลูกค้าได้ ส่วนอีก 80% นั่นคือ กำไรของคุณที่ยังไงคุณก็จะไม่ยอมให้เข้าเนื้อ

คุณอาจจะใช้แนวคิดนี้มาประยุคใช้กับการเรียนรู้ก็ได้ เช่นแบ่งการให้ความสำคัญไปกับวิธีการ และการเรียนรู้ที่จะไปถึงผลลัพธ์เพียงแค่ 20% เท่านั้นพอ ส่วนที่เหลืออีก 80% ให้คุณโฟกัสถึงผลลัพธ์ของคุณไปเลย ซึ่งข้อดีของการแบ่งสัดส่วนแบบนี้ จะช่วยให้เราสามารถโฟกัสไปที่เป้าหมายจริงๆ และใช้เวลากับส่วน 20% ให้น้อยลง

3. เรียนรู้โดยการลงมือทำ

Immersion หรือการที่มีใจจดจ่ออยู่กับอะไรซักอย่างนึง เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คุณเรียนรู้มันได้อย่างรวดเร็ว และมีความละเอียดลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น มีงานวิจัยการกระทำของมนุษย์ชิ้นนึงได้แสดงให้เห็นดังต่อไปนี้

• 5%      คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้โดยผ่านคนที่พูดบรรยายให้คุณฟัง
• 10%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากการอ่าน
• 20%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ผ่านทาง ภาพ และ เสียง
• 30%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ผ่านการสาธิตให้ดู
• 50%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากมีส่วนร่วมในการ หรือลงมือทำตาม
• 75%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากการลงมือทำทันที
• 90%    คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากลงมือทำในสิ่งที่คุณทำเป็นแล้ว ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก

ลองดูตามเปอร์เซ็นทั้งหมดที่เราได้เขียนเอาไว้ด้านบนนี้ว่า คุณอยากที่จะเรียนรู้เร็วระดับไหน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณอยากว่ายน้ำเป็น คุณอาจจะฝึกว่ายน้ำโดยการอ่านวิธีหัดว่ายน้ำจากหนังสือ คุณก็จะว่ายน้ำเป็นได้อย่างรวดเร็วขึ้นแค่ 5% เท่านั้น แต่ถ้าคุณเลือกที่จะกระโดดลงสระน้ำทันที การที่คุณจะสามารถว่ายน้ำเป็นได้เร็วขึ้นถึง 75% เลยทีเดียว

4. ค้นหา Coach

ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬาที่มีฝีมือดีขนาดไหน หรือจะเป็นผู้บริหารธุรกิจยักษ์ใหญ่มาจากไหนก็ตามล้วนแล้วแต่ก็ต้องมีโค้ชไว้คอยมองหาลู่ทาง และคอยเตือนเมื่อพบจุดบอดหรือจุดบกพร่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

โค้ชในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องไปจ้างคนมาคอยพูดกรอกหูคุณในเวลาที่คุณทำอะไรไม่เข้าท่า แต่หมายถึงคุณต้องตั้งกฎ หรืออะไรซักอย่างไว้เพื่อคอยเตือนตัวเอง อย่างเช่นที่ Seth Godin ได้ตั้งกฏ 5 ข้อ ขึ้นมาเพื่อให้ตัวเค้าหยุดทำอะไรก็ตามที่เค้ากำลังทำอยู่ถ้าเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้น

• เลิกทำ เมื่อถึงเวลาที่คุณได้ให้กับตัวเองเอาไว้แล้วทำไม่สำเร็จ
• เลิกทำ เมื่อสิ่งที่คุณทำ ทำให้คุณเสียทรัพย์สินโดยที่ไม่เกิดประโยชน์
• เลิกทำ ถ้าหากคุณรู้สึกกลัว
• เลิกทำ ถ้าคุณไม่ได้จริงจังกับมัน
• เลิกทำ ถ้าหากสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจ

ประเด็นของการปฎิบัติตัวเองให้เหมือนกับมีโค้ชมาคอยวางกฎการใช้ชีวิตให้แบบนี้ จะช่วยทำให้คุณเข้าใจตัวเอง และมีความรับผิดชอบกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มากขึ้น โดยไม่มีผลกระทบจากสิ่งอื่นๆ รอบข้างเข้ามาทำให้คุณต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

5. วางแผนทุกสิ่งทุกอย่างไว้ล่วงหน้า และทำตามขั้นตอน

Woody Allen เคยกล่าวไว้ว่า “ร้อยละเจ็ดสิบของความสำเร็จในทุกๆ อย่างที่เค้าทำ ปรากฏให้เค้าเห็นขึ้นตรงหน้าแบบชัดเจน ตั้งแต่ก่อนที่จะลงมือทำแล้ว” สิ่งนึงที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และเป็นได้อย่างที่ใจคิดก็คือ การทำทุกอย่างตามขั้นตอนที่วางไว้อย่างเป็นระเบียบจนบรรลุเป้าหมาย

สังเกตได้ง่ายๆ อย่าง นักกีฬา ที่ต้องตื่นขึ้นมาทุกเช้าเพื่อฝึกซ้อม และไม่ว่านักกีฬาคนนั้นจะมีความเหนื่อยหลงเหลือจากการฝึกซ้อมที่ตกค้างจากเมื่อวานมากขนาดไหนก็ตาม เค้าก็จะลงไปซ้อมมันอีกอยู่ดี หากคุณลองมองในมุมของนักกีฬาดูแล้วล่ะก็ คุณก็จะเห็นการเรียนรู้ที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วได้แบบเป็นขั้นเป็นตอนชัดเจนสุดๆ

ยกตัวอย่างเช่น เค้ารู้ว่าเค้าควรจะฝึกซ้อม เพื่อที่รักษาความฟิต เมื่อร่างกายฟิตพร้อม นั่นก็หมายความว่าเค้ามีสิทธิที่จะได้ลงเป็นตัวจริงในการแข่งขันมากขึ้น ถ้าเค้าได้ลงทำการแข่งขัน โอกาสที่เค้าจะประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จก็มีมากขึ้น และเร็วขึ้นตามไปด้วย ทุกอย่างแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้อย่างรวดเร็วได้แบบชัดเจนสุดๆ เพียงแค่คุณมีระเบียบ และทำทุกอย่างแบบมีขั้นตอนเท่านั้น ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น และเร็วขึ้น

SOURCE