CARS

The Evolution of the BMW 3 Series รวมวิวัฒนาการตั้งแต่ “รุ่นแรก – ปัจจุบัน”

By: HYENA July 7, 2017

ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ 41 เข้าไปแล้ว สำหรับรถ 3 Series รถยอดนิยมตลอดกาลของค่ายใบพัดฟ้า-ขาว BMW จากประเทศเยอรมัน และด้วยโอกาสที่เข้าใกล้ปีที่ 41 ของรถที่ได้ชื่อว่ามีสมรรถนะที่ดีเยี่ยม และมีความโดดเด่นในทุกยุคทุกสมัยทั้งที เราจึงได้รวบรวมเอาวิวัฒนาการของ  BMW 3 Series ตั้งแต่โมเดลแรกจนถึงปัจจุบัน พร้อมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้คนที่มีความหลงใหล และสนใจในรถสัญชาติเยอรมันรุ่นนี้  ได้ทำความรู้จักกับรถคันโปรดของคุณเองมากยิ่งขึ้น

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-1

BMW 3 Series E21 (1975-1983)

ครั้งแรกที่ 3 Series ได้ถือกำเนิดขึ้นมาก็ทำเอาวงการยานยนต์ในตอนนั้นต้องสั่นสะเทือน โดย 3 Series รุ่นแรกสุดมีรหัสว่า E21 ซึ่งทาง BMW ได้ออกแบบ และมุ่งเน้นไปในเรื่องของความปราดเปรียว และกระทัดรัดสไตล์ Coupe 2 ประตู นอกจากเรื่องของรูปลักษณ์ และดีไซน์ภายนอกที่ล้ำสมัยแล้ว เรื่องของสมรรถนะก็ไม่เป็นรองรถยนต์ของค่ายอื่นๆ แม้แต่น้อย แถมยังมีขนาดความจุเครื่องยนต์มาให้ลูกค้าได้เลือกถึง 4 รุ่นความจุ ไม่ว่าจะเป็น 316 / 318 / 320 / 323 ทำให้ E21 มีความนิยมพุ่งขึ้นไปเป็นอันดับต้นๆ ในทันทีที่มีการเปิดตัว

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-2

BMW 3 Series E30 (1982-1994)

รุ่นที่ 2 ที่ถือเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จแบบถล่มทลายในสมัยนั้น กับรหัสตัวถัง E30 โดยทาง BMW ได้ตัดสินใจทำออกมาทั้งแบบ Sedan 4 ประตู กับ Coupe 2 ประตู ซึ่งเป็นแบบ Convertible เปิดหลังคาได้ แถมยังมี Staion Wagon 5 ประตู พ่วงมาอีกหนึ่งรุ่น มีรุ่นย่อยแบ่งออกไปตามขนาดของเครื่องยนต์ให้เลือกอีกทั้ง 316 / 318i / 320i ทั้งหมดนี้จะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ แต่ก็ยังมี เครื่องยนต์ 6 สูบสำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจมากขึ้นในตอนขับขี่ให้เลือกด้วยเช่น 323i และ 325i

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-3

“The Origin Of M3” 

ไม่มีคนชอบรถคนไหน ที่ไม่เคยได้ยินคำล่ำลือของขุมกำลังเครื่องยนต์ตัวสร้างชื่อของ BMW อย่าง M POWER แน่นอน ซึ่งในขณะที่ E30 กำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ฤดูใบไม้ผลิปีของปี 1985 BMW คลอดรถสปอร์ตสมถนะเยี่ยมออกมานั่นก็คือ BMW M3 Coupe: E30 ถือเป็นบรรพบุรุษจุดเริ่มต้นของรถในตระกูล M3 เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้วิ่งทดสอบในสนามแข่งแบบวงกลม BMW M3 Coupe E30 ก็ได้ข้อสรุป และรู้สึกพึงพอใจในความแรงของเครื่องยนต์ขนาดความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบเรียง ที่ให้พละกำลังถึง 200 แรงม้า ก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในงาน 1985 Frankfurt motor show หลังจากนั้น M3 ก็เดินหน้ากวาดถ้วยรางวัลในสนามแข่งจนเป็นที่ยอมรับในประสิทธิภาพ และความแรง ไปทั่วโลก

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-6

BMW 3 Series E36 (1990-2000)

จากขนาดที่กระทัดรัดของ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ มันอาจจะเล็กเกินไปสำหรับคนตัวใหญ่  BMW จึงได้ออก BMW Series 3 ตัวใหม่ออกมาแก้ไขปัญหาในปี 1990 นั่นคือ E36 หรือใครที่เล่นรถจะรู้จักกันในชื่อ “นกแก้ว” นั่นเอง E36 คันนี้มาพร้อมรูปทรงที่ใหญ่ขึ้น และยังคงมีเครื่องยนต์ให้เลือกมากมายเช่นเดียวกับในรุ่น E30 เครื่องแบ่งออกเป็น 4 สูบ และ 6 สูบ จากรุ่น 318i จนไปถึง 328i เลยทีเดียว ที่ขาดไม่ได้เมื่อ BMW คลอด 3 Series ตัวใหม่ออกมา ย่อมต้องมี M3 ตัวใหม่ออกมาด้วยเช่นกัน กับ BMW M3 Coupe E36 ที่มีความแรง ดุดัน และเป็นฝันร้ายของบรรดารถแรงทั้งหลายในยุคนั้น

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-5

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-8

BMW 3 Series E46 (1998-2006)

รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะพัฒนารูปร่างหน้าตาให้ดูสวยงาม หรูหรา มากขึ้นแล้ว BMW ยังได้ปฏิวัติลบความเหลี่ยมของ E36 ให้หายไปจนหมดอีกด้วย เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 1998 ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 กับรหัส E46 โดยรุ่นนี้ได้นำเอาเทคโนโลยี และความทันสมัยเข้ามาแบบเต็มพิกัด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจาก 3 รุ่นก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง เครื่องยนต์ก็มีมาให้เลือกอีกเหมือนเดิม เริ่มต้นที่เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาดความจุเล็กที่สุดจาก 318i ที่ให้แรงม้าแบบเด็กๆ ที่ 115 แรงม้า ไปจนถึงพี่คนโต 330i ที่ใช้เครื่องยน 6 สูบ 218 แรงม้า เท่านั้นยังไม่พอมันต้องมีเวอร์ชั่นพลัง M อีกต่างหาก สำหรับ BMW M3 Coupe E46 เรียกได้ว่ามาครบ ทั้งความหล่อ และความโหด และเป็นครั้งแรกที่ BMW ใช้เครื่องสูบวี 4.0 ลิตร เข้ามาใส่เอาไว้แทนที่เครื่องหกสูบ แต่นั่นก็คุ้มค่าที่จะได้แรงม้าเพิ่มขึ้นมาเป็นฝูงที่ 450 แรงม้า

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-7

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-11

BMW 3 Series E90 (2005-2011)

BMW 3 Series E90 ถือกำเนิดขึ้นในปี 2005 โดยมีการเปลี่ยนผู้อำนวยการแผนกออกแบบมาเป็น Chris Bangle และเค้าก็คือผู้ที่เข้ามาพัฒนา และปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับ BMW Group ทั้งหมด แต่ดีไซน์ใหม่ๆ นี้เองที่เอาทำลูกค้าเก่าหลายคนออกอาการปวดตับ เนื่องจากบั้นท้ายที่ไม่มีความลงตัว และสูญเสียความเป็นเอกลักษ์ของ BMW ไป จนทำให้ต้องมีการออกตัว Minor Change ตามมาเพื่อแก้ตัว มาที่เครื่องยนต์ก็ยังมีให้เลือกตั้งแต่เล็กคือ 318i ไปจนถึง 330i แต่ในเจเนอเรชั่นนี้มีความพิเศตรงที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาเพิ่มเป็นอีกตัวเลือกก็คือรุ่น 320d – 325d ตัวแรงแต่ประหยัดน้ำมันที่ใครๆ ต่างยกนิ้วให้ แน่นอนว่ารหัสแห่งความแรงยังคงออกตามมาเหมือนเช่นเคย BMW M3 Coupe E92 ที่เรียกได้ว่าไร้ที่ติ เครื่องยนต์ V8 414 แรงม้า ตามด้วย M3  รุ่นพิเศษอีกหลายรุ่นเต็มไปหมด

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-9

 

160505-THE-EVOLUTION-0F-3SERIES-10

BMW 3 Series F30 (Present)

ผ่านมาถึงตัวปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นที่ 6 แล้ว ซึ่งรุ่นนี้มีการเปลี่ยนรหัสที่จากเดิมขึ้นต้นดัวยตัว E กลายเป็น F30 แทน และในเรื่องของการออกแบบก็เช่นกัน เมื่อลูกศิษย์ของ Chris Bangle ก้าวขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ ก็จัดการล้างครูด้วยการลื้อแบบเก่าๆ ทิ้ง และจับดีไซน์ใหม่ๆ เข้าไปแทนที่แบบเต็มๆ F30 ยังถูกออกแบบโดยนำเอาแบบของ BMW 5 Series F10 มาย่อส่วน และใส่ไว้ใน F30 แทบจะทุกจุดเลยก็ว่าได้ ขนาดก็ถูกย่อลงให้เล็กกว่า E90 ถึง 93 มิลลิเมตร แต่สิ่งนึงที่เป็นเอกลักษณ์ของ BMW ที่ยังคงไว้พอให้รู้สึกได้ถึงวันวานก็คือ ไฟหน้าที่โดดเด่น ไม่เหมือนใครในสไตล์ของ BMW

ทั้งหมดนี้ก็คือวิวัฒนาการของ รถที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกในตลอดระยะเวลาเกือบ 41 ปี โดยส่วนตัวแล้วเราเชื่อว่าผู้ชายหลายๆ คนต่างมองรถอย่าง BMW เป็นรถที่มีบุคลิกส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นระบบการขับเคลื่อนที่มีเอกลักษณ์ ช่วงล่างที่แน่นหนึบ เรียกว่าใครขับก็ดูวัยรุ่นขึ้นเป็นกอง ถ้าให้เปรียบ BMW เป็นคน ก็น่าจะเหมือนผู้ชายที่ไม่ได้หล่อสไตล์ขาวตี๋ แต่มีความเท่ห์ภูมิฐาน และความชัดเจนในตัวเองสูง

จริงๆ แล้วถ้าคุณกำลังจะซื้อรถซักคัน ลองเอารถมาเปรียบเทียบกับตัวเองเป็นอันดับแรกน่าจะดีกว่า แล้วค่อยเอารถของค่ายนั้น ค่ายนี้ มาเปรียบเทียบกันอีกที เลือกรถที่มีบุคลิกเหมาะสมกับบุคลิกของคนขับและสไตล์การใช้งานน่าจะดีกว่า เพราะเราเชื่ออยู่อย่างนึงว่า ไม่ใช่ว่าของที่แพงที่สุดจะต้องเป็นของที่ดีที่สุด

Source : RoadandtrackEdmundsCoolmaterialBMW

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line