The Look : เลือกเนื้อผ้าของเสื้อยืดด้วยเทคนิคแบบกูรู

เคยไหมหลายครั้งที่เราซื้อเสื้อยืดจากคนละที่กัน ทั้งที่เป็นเสื้อยืดเหมือนกัน ทำไมความหนา อายุการใช้งานมันถึงต่างกัน โดยผู้ชายอย่างเรามักไม่ค่อยสนใจเรื่องเนื้อผ้ากันสัก เท่าไหร่เอาแต่ความชอบส่วนตัวเป็นหลัก จนไม่สนใจว่าราคาที่จ่ายไปกับคุณภาพที่ได้รับนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่

ดังนั้นวันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN เลยเอาข้อมูลเนื้อผ้าที่ใช้ผลิตเสื้อยืดทั้งหมดมาอธิบาย เพื่อที่ว่าเวลาเลือกซื้อในรอบหน้าจะไม่เสียเงินไปกับของไม่ได้คุณภาพอีก

เนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้นมีหลายเกรดหลายราคา รวมถึงคุณสมบัติของเนื้อผ้าก็แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนจะซื้อเสื้อยืด เรื่องที่จะสำคัญไม่แพ้ลวดลายที่เราชอบแล้ว เนื้อผ้าก็น่าจะสำคัญไม่แพ้กัน โดยเนื้อผ้าที่นำมาทำเสื้อยืดนั้นแบ่งได้เป็น 3 ประเภท

เนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ

เสื้อที่ได้มาจากเส้นใยธรรมชาติ หรือ Cotton 100 ที่เราคุ้นเคย เป็นผ้าที่นิยมนำมาทำเสื้อยืดมากที่สุด เพราะผ้าที่ผลิตจากฝ้ายนั้นจะสวมใส่สบายระบายอากาศได้ดี แต่ที่เราเห็นว่าผ้า Cotton 100 นั้นคือของดีแล้ว แต่จริงๆ ไอ้เจ้า Cotton 100 เนี่ยยังแบ่งย่อยออกไปได้อีกหลายแบบ เรียกได้ว่าเราอาจจะเคยเสียรู้ให้กับเจ้า Cotton 100 มาแล้ว

Cotton OE เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด ลักษณะของผ้าจะมีความกระด้างแข็งมากกว่า Cotton ชนิดอื่น

Cotton Semi เป็นผ้า Cotton คุณภาพปานกลาง ผ้าจะมีความเนียบ มากขึ้น

Cotton Comb เป็นผ้าเกรดที่ดีที่สุดของ Cotton ลักษณะจะมีความเนียน และเงามากราคาจะสูงที่สุด

หลังจากนั้นนอกจากเรื่องเนื้อผ้าก็ยังมีเรื่องของขนาดเส้นด้ายอีก โดยตัวที่นิยมก็จะมีอยู่สามตัวดังนี้

Cotton No 20 ลักษณะเส้นด้ายขนาดใหญ่สุด ผ้าที่ทอได้จึงหนาพอสมควร

Cotton No 32 เส้นด้ายมีขนาดเล็ก ผ้าจะเนียนและบาง

Cotton No 40 เส้นด้ายขนาดเล็กสุด ผ้าที่ทอจะเนียนมาก และบางมากจึงต้องทอเป็นเส้นคู่ และราคาจะสูงเอามากๆ

และใช่ว่าเจ้า Cotton นั้นจะมีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะต่อให้เราเลือกคุณภาพมาดีที่สุดยังไง มันก็ยังมีข้อเสีย ซึ่งเรามักจะเห็นคนถาม หรือเราเองเนี่ยหละที่ถามว่า เสื้อตัวนี้ถ้าซัก จะหด จะย้วนไหม นั้นหละคือข้อเสียของผ้า Cotton ที่คุณควรรู้ คือต่อให้เสื้อตัวนั้นจะแพงมากแค่ไหน สุดท้ายแล้วมันก็จะยับ ย้วย หด ทันทีเมื่อซักบ่อยๆ

เนื้อผ้าที่ผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ และเส้นใยสังเคราะห์

ตัวย่อที่เรามักจะเห็นสำหรับผ้าประเภทนี้คือ TC นั้นคือ Poly 65% ผสม Cotton 35 % และ CVC Cotton 70 – 85% ผสม Poly 30 -15%  ข้อดีของผ้าประเภทนี่คือเรื่องการควบคุมการยืด หด ย้วย จะทำได้ดีกว่า cotton 100 แต่ข้อเสียที่ติดมาจากใยสังเคราะห์คือจะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า Cotton 100 เพราะเป็นเส้นใยผสมระหว่าง Cotton และ Polyester ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรูเนื่องจากผ้าประเภท TC มีสมบัติในการระบายอากาศที่ไม่ค่อยดีนัก การทอผ้าจึงนิยมทอผ้าให้มีรูเล็กๆ เพื่อช่วยระบายอากาศ และเพื่อความสบายในการสวมใส่ เนื้อผ้าจะมีลักษณะความมัน

ขนาดเส้นด้ายที่นิยมนำมาทอ

TC No 20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ใช้ได้ทั้งผ้าเรียบ และผ้าจูติ

TC No 43 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็กมากใช้ทอผ้าจูติ จึงต้องทอเป็นเส้นคู่

สำหรับใครที่ชอบความทนทานใช้งานนานเราก็แนะนำไปที่ตัว TC แต่จะเสียเรื่องความสบายในการส่วมใส่ แต่ถ้าใครอยากได้ฟิวผ้าฝ้าย Cotton แต่ไม่อยากให้เสื้อย้วย หดเร็ว เราก็แนะนำเป็นตัว CVC

เนื้อผ้าใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์

ตัวย่อที่เรามักเห็นคือ TK เสื้อยืดที่ทำจากเนื้อผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด ข้อดีคือมีความคงสภาพอยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วย เนื้อผ้าจะมีความมัน ส่วนข้อเสียคือ เนื้อผ้าจะระบายอากาศได้น้อยมาก ถ้าใส่อยู่ในที่แดดร้อน ๆ หรืออากาศอบอ้าว จะรู้สึกไม่สบายตัว โดยเฉพาะคนที่เหงื่อออกง่ายจะยิ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ เนื่องจากเนื้อผ้าดูดซับเหงื่อได้น้อย และเมื่อใส่ไปนาน  เสื้อผ้าจะขึ้นขุย

สำหรับเส้นด้ายที่นิยมมาผลิตผ้า TK คือ TK No 20 ที่มีเส้นด้ายขนาดใหญ่สุด

ใครที่ว่าเรื่องเสื้อยืดเป็นเรื่องง่ายๆ จะใส่ใจทำไม นั่นคงไม่ใช่อีกต่อไป เพียงแต่ถ้าเราเรียนรู้ข้อดี ข้อเสีย ทำความเข้าใจกับมันก่อนที่จะซื้อ เราก็จะได้รู้วิธีดูแลเสื้อยืดตัวเก่งของเรา เพื่อให้มันมีอายุการใช้งานอยู่กับเราไปนานๆ แล้วเราก็จะได้ไม่ต้องไปนั่งเสียเวลาหงุดหงิดไปต่อว่าร้านขายเสื้อที่เวลาเสื้อของเรา ย้วย ยืด ขาดอีกต่อไป