FASHION

George Clooney x Omega Speedmaster พระเอกมาดนุ่มกับเรือนเวลาแห่งประวัติศาสตร์

By: NTman March 23, 2017

หากเอ่ยถึงนาฬิกา แทบทุกคนจะต้องนึกถึงเครื่องบอกเวลาคู่กายมนุษย์ขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่สำหรับแบรนด์นาฬิการะดับโลกที่ผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนาน หน้าที่ของมันย่อมมีมากกว่าการบอกเวลา ด้วยโอกาสในการได้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์แห่งมวลมนุษยชาติ ทำหน้าที่แสดงช่วงเวลาสำคัญ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวเหล่านั้นจะได้รับการถูกกล่าวขานต่อไปไม่รู้จบ

170321-Omega-Speedmaster-2

170321-Omega-Speedmaster-3

Speedmaster เป็นซีรี่ส์แห่งเรือนเวลาจากแบรนด์ Omega ที่มีโอกาสได้ผ่านเรื่องราวสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า 60 ปี ด้วยจุดเริ่มต้นในการเป็นนาฬิกาสำหรับนักแข่งรถ ซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านความแข็งแกร่งทนทาน และมาตรฐานการบอกเวลาที่แม่นยำ ส่งผลให้ Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาเรือนเดียวที่ผ่านการทดสอบของ NASA จนได้ครอบครองพื้นที่บนข้อมือของนักบินอวกาศทุกรายในโครงการ Apollo นับตั้งแต่ปี 1965 เป็นต้นมา

170321-Omega-Speedmaster-4

170321-Omega-Speedmaster-5

ช่วงเวลาที่ทำให้ชื่อของ Omega Speedmaster ติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้คนทั่วโลก คงหนีไม่พ้นวินาทีที่ยาน Apollo 11 ลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ในวันที่ 20 กรกฏาคม ปี 1969 ซึ่ง Omega Speedmaster เป็นนาฬิกาที่สองนักบินอวกาศ Neil Armstrong และ Buzz Aldrin สวมใส่ขณะนำก้าวเล็กๆ อันแสนยิ่งใหญ่ของมวลมุษยชาติขึ้นไปฝากรอยประทับเอาไว้บนดวงจันทร์ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ The Moon Watch สมญานามแห่งความภาคภูมิใจที่ Omega Speedmaster ได้รับ

170321-Omega-Speedmaster-6

และหนึ่งในผู้คนที่ประทับใจกับก้าวแรกของมนุษยชาติบนดวงจันทร์นั้น มีชื่อของ Geoge Clooney พระเอกระดับโลก Brand Ambassador ของ Omega รวมอยู่ด้วย ซึ่ง Clooney เป็นที่รู้จักจากบทบาททางการแสดงอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น คุณหมอรอสส์ (ER, 1994) , มหาเศรษฐีบรู๊ซ เวย์น – แบทแมน (Batman & Robin, 1997), แดนนี่ โอเชียน 18 มงกุฎมาดเนี้ยบ (Ocean’s Eleven – Twelve -Thirteen, 2001, 2004, 2007) นอกจากนี้ Clooney ยังมีโอกาสได้รับบทเป็นนักบินอวกาศ แมทท์ โควัลสกี, (Gravity, 2013) ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่านี่คืออาชีพที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

ความหลงใหลในเรื่องราวเกี่ยวกับการสำรวจอวกาศของ Clooney เริ่มต้นขึ้นในขณะที่เขายังมีอายุเพียง 8 ขวบ เฉกเช่นเดียวกับเด็กๆ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ในยุคนั้น ที่มีเหล่านักบินอวกาศเป็นวีรบุรุษ Clooney เล่าย้อนกลับไปในความทรงจำครั้งนั้นว่า “ตอนที่ยังเป็นเด็กพวกเราตื่นเต้นกันมากครับ เรารู้จักชื่อของนักบินอวกาศทุกคน ได้ลองทานอาหารอวกาศแบบเดียวกับที่นักบินทาน… มีวันหยุดครั้งหนึ่งที่เราขับไปยังบ้านเกิดของ Neil Armstrong ด้วยเหตุผลเพียงแค่ต้องการผ่านบ้านเกิดของวีรบุรุษ เท่านั้นเอง”

170321-Omega-Speedmaster-7

แทบไม่น่าเชื่อว่าความหลงใหลการสำรวจอวกาศในวัยเด็ก จะเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่าง Omega Speedmaster และ George Clooney เข้าด้วยกัน กลายเป็นความผูกพันซึ่งมีมากกว่าหน้าที่ Brand Ambassador ด้วยนาฬิกา Omega เรือนเก่งบนข้อมือคุณพ่อของ Clooney ซึ่งสวมใส่ขณะทั้งคู่ยืนแหงนหน้าไปยังดวงจันทร์ เพื่อเฝ้ามองวินาทีแห่งประวัติศาสตร์จากสนามหลังบ้านย่านชานเมือง เสมือนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับวีรบุรุษผู้ที่ได้ประทับรอยบนพรมแดนใหม่ของมนุษยชาติ และนาฬิกาเรือนนั้นได้เป็นสมบัติตกทอดมาสู่ Clooney ณ ปัจจุบัน โดยพ่อของเขาตั้งใจมอบให้เป็นของขวัญ หลังจากทราบเรื่องการร่วมงานระหว่าง Clooney และ Omega

“พ่อขึ้นไปหยิบนาฬิกาเรือนนี้ลงมาจากห้องใต้หลังคา หลังจากที่ถูกปล่อยทิ้งเอาไว้กว่า 20 ปี” Clooney เล่า “พ่อของผมเริ่มขึ้นลาน จนมันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผมเติบโตมาพร้อมๆ กับนาฬิกาข้อมือของพ่อเรือนนี้ ตอนที่พ่อยื่นนาฬิกาให้ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ เพราะเด็กๆในยุคเดียวกับผมทุกคนต่างทราบดีว่า Omega คือนาฬิกาข้อมือที่เหล่านักบินอวกาศสวมใส่ขณะปฏิบัติภารกิจ”

170321-Omega-Speedmaster-9

170321-Omega-Speedmaster-8

แม้จะผ่านกาลเวลามาแล้วกว่า 6 ทศวรรษ ในปัจจุบัน Omega Speedmaster ยังคงได้รับการบรรจุให้เป็นส่วนหนึ่งของทุกภารกิจอวกาศแบบที่ใช้มนุษย์และถูกติดตั้งเป็นเครื่องมือบอกเวลาถาวรบนสถานีอวกาศนานาชาติ และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ Omega ด้วยขั้นตอนการผลิตอันซับซ้อน ใช้เวลารวมเกือบ 14 เดือนเต็มในการตระเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มสู่ขั้นตอนการประกอบ เพียงแค่การผลิตแท่นเครื่องเพียงอย่างเดียวต้องใช้การประกอบด้วยมือถึง 80 ขั้นตอน เช่นเดียวกันกับครั้งแรกที่เรือนเวลาจาก Omega ได้เผยโฉม ฝีมือมนุษย์ยังคงนับเป็นหัวใจหลักในขั้นตอนการผลิตเสมอมา

ด้วยเหตุผลนี้ Clooney จึงยกให้ Speedmaster เป็นนาฬิกาที่คงไว้ซึ่งความคลาสสิคอย่างแท้จริง เช่นเดียวกับไวน์เก่าที่ผ่านการบ่มมาอย่างยาวนาน เขาอธิบาย “บางอย่างเป็นสิ่งคลาสสิค และเมื่อมันคลาสสิค ความต้องการที่มีต่อมันจึงไร้ทางต้านทาน คุณจะหัวเสียหากว่าเกิดมีการเปลี่ยนแปลงไป เราต้องการเทคโนโลยีสมัยใหม่ – อย่างเช่นโทรศัพท์มือถือของเรา – แต่มันมีบางอย่างที่ควรจะคงความดั้งเดิมเอาไว้ บางอย่างที่ถ้าถูกเปลี่ยนปรับไปแล้วจะทำให้หัวใจของเราแตกสลาย”

เรื่องราวอันเป็นตำนานของ Omega Speedmaster ที่เดินทางผ่านหน้าประวัติศาสตร์มาจนครบรอบ 60 ปียังคงดำเนินต่อไป และทำให้เราได้เรียนรู้ว่าอุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จจากการท้าทาย ซึ่งเราเชื่อว่า Omega Speedmaster ยังพร้อมตอบสนองความกระหายในการท้าทายความสำเร็จครั้งใหม่ของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในอีก 60 ปีข้างหน้าหรือในอนาคตอีกแสนไกล เช่นเดียวกับที่ George Clooney รู้สึก “ผมไม่กังวลหรอกว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้ง” เขากล่าว “ผมเพียงแต่หวังว่าความสำเร็จในครั้งหน้ามันจะยังมีคุณค่า และน่าตื่นเต้นเหมือนกับในวันวาน”

NTman
WRITER: NTman
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line