Business

Digital 101 : เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย แล้วค่อยขยายการตลาด

By: Lady P. August 16, 2016

“มีงบเท่านี้ โฆษณาอะไรในออนไลน์ได้บ้างค่ะ?”
“ไม่ทราบว่า มีแผนการตลาดอย่างไร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร และ เราต้องการสื่อสารอะไรให้ลูกค้าครับ?”
“อ๋อ เรื่องนั้น เดี๋ยวทางบริษัทฯเรากำลังจัดทำอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ ดิฉันอยากทราบว่ามีงบเท่านี้ โฆษณาอะไรในออนไลน์ได้บ้างค่ะ?”

160310-businesstip-1

หลายวันก่อน มีคนโทรมาปรึกษาผมตามบทสนทนาข้างต้น และ คาดคั้นให้ผมตอบให้ได้ว่า ด้วยงบประมาณที่มี เขาจะโฆษณาอะไรได้บ้างในโลกออนไลน์ ซึ่งผมเชื่อว่าคำตอบที่ เขาอยากได้ยินก็คงประมาณว่า  “อ๋อ ซื้อโฆษณาใน Google ได้นะครับ และอาจจะแบ่งงบส่วนนึง มาลงโฆษณาใน Facebook ด้วยก็ได้ครับ”

แต่ในวันนั้น ผมกลับตอบเขาไปว่า   “จริงๆผมอยากให้สรุปมาให้ ชัดเจนก่อนครับ ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใครและอะไรคือวัตถุประสงค์ของการทำการตลาดในครั้งนี้”

เพราะในความเป็นจริง ไม่ว่าคุณจะมีงบ 10,000 หรือ 100,000 บาท คุณก็ลงโฆษณาออนไลน์ได้ทั้งใน Google Adwords  และ Facebook Ads ครับ เพราะราคาเริ่มต้นในการทำโฆษณาออนไลน์ของทั้งสองสื่อนี้อยู่แค่หลักไม่กี่ร้อย

แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ ความคาดหวังของการทำการตลาดออนไลน์ครับ  เพราะคนที่มีงบ 10,000 หรือ 100,000 บาท แต่ขาดความเข้าใจ อาจจะมีความคาดหวังเท่าๆกันในงบประมาณ ที่แตกต่างกันถึงสิบเท่า

160815-business-2

ผมรู้ว่า วันนั้นผมตอบไปไม่ค่อยถูกใจเขาสักเท่าไหร่ แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ผมต้องอธิบายให้เขาเข้าใจไม่อย่างนั้นเมื่อเวลาผ่านไป หลังจบแคมเปญ เขาจะบอกต่อๆกัน ไปว่า  “เดี๋ยวนี้ลงโฆษณาออนไลน์แล้วไม่ค่อยได้ผล” และนั่นคือสาเหตุที่ผมอยากถามหา  “วิธีการวัดผล” ให้ชัดเจนก่อนจะเริ่มคิดกลยุทธ์และจัดสรรงบประมาณ

ผมเชื่อว่าตอนนี้คนทำธุรกิจทุกคนรู้ว่า การตลาดออนไลน์เป็นสิ่งจำเป็น แต่ยังมีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการทำการตลาดออนไลน์นั้นใช้งบประมาณน้อยนิด แต่คาดหวังผลลัพธ์เช่นเดียวกับการทำการตลาดอื่นๆที่ใช้งบประมาณมากกว่าหลายเท่าตัว

ก่อนจะเริ่มทำการตลาดออนไลน์กับสินค้าหรือบริการใดใดก็ตามคุณจำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร แต่งงานหรือยัง บ้านอยู่แถวไหน มีความสนใจในเรื่องอะไร ยิ่งคุณเห็นภาพลูกค้าของคุณชัดเจนมากเท่าไหร่ ยิ่งทำการ ตลาดออนไลน์ได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น  คอนโดแห่งหนึ่ง  ริมแม่น้ำ  ต้องการทำการตลาดออนไลน์  นักการตลาดหลายๆคนก็จะเริ่มต้นวางแผนด้วยการซื้อแบนเนอร์ตามเวปไซต์ชุมชนอสังหาริมทรัพย์ที่ต่างๆ  ต่อด้วยการลงโฆษณาใน Google Adwords และโฆษณาเพิ่มเติมใน Facebook Ads   หลังจากนั้นก็เอางบประมาณมาจัดสรรปันส่วนลงไปในสื่อต่างๆ   แล้วก็เริ่มว่าจ้างเอเจนซี่มาคอยดูแลการจัดทำแคมเปญ

160223-business-2

สิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องอธิบายให้เอเจนซี่หรือทีมงานที่มารับงานสร้างแคมเปญใน  Google Adwords และ Facebook Ads   ต่อจากคุณคือ การอธิบายแผนการณ์ของคุณให้เขาเข้าใจอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ข้อดีและจุดเด่นของโครงการคุณ ใครคือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย อะไรคือวัตถุประสงค์ของการทำการตลาดในครั้งนี้ และถ้าจะให้ดีให้อธิบายความคาดหวังและวิธีการวัดผลกันให้ชัดเจน

จากตัวอย่างข้างต้น ถ้าคอนโดของคุณโดดเด่นเรื่องราคาและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มากกว่าคู่แข่งในละแวกใกล้เคียง แต่อาจจะติดเรื่องทำแลที่ตั้ง ที่ห่างไกลจากสถานีรถไฟฟ้ามากกว่า โดยกลุ่มเป้าหมายของคุณแยกเป็นสองกลุ่มดังนี้

กลุ่มแรกคือ  คนที่พักอาศัยแถวๆนั้น อายุประมาณ 25-35 ปี สถานะโสด ส่วนใหญ่เช่าอพาร์ทเม้นท์หรือหอพักอยู่ โดยคุณคิดว่าห้องสตูดิโอของคุณจะเหมาะกับคนกลุ่มนี้มากเพราะค่าผ่อนรายเดือนจะใกล้เคียงกับค่าเช่าที่เขาต้องจ่ายอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

กลุ่มที่สองคือ  คนที่ทำงานในโรงพยาบาล และมหาวิทยาลัยเอกชนในพื้นที่ใกล้เคียง อายุประมาณ 30-50 ปี มีรายได้ประมาณ 30,000-50,000 บาท  โดยคุณอยากจะนำเสนอห้องประเภทหนึ่งห้องนอนให้กับคนกลุ่มนี้เพราะเขาสามารถซื้อเพื่อใช้พักอาศัย  ระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทางไปมาระหว่างบ้านและที่ทำงานในวันธรรมดา อีกทั้งยังคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาวสำหรับเขา  (เพราะรายได้ของเขาสามารถผ่อนคอนโดของคุณได้สบายๆ)

พอเราแยกกลุ่มเป้าหมายออกเป็นสองกลุ่ม  และมีรายละเอียดของแต่ละกลุ่มที่ชัดเจน การวางแผนการตลาดและจัดสรรงบประมาณก็สามารถทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้นใช่มั้ยครับ?

130316-digital marketing-2

สำหรับกลุ่มแรก

โปรโมชั่นที่คุณต้องสื่อสารออกไปคือ ราคาค่าผ่อนดาวน์ต่อเดือน ที่คุ้มค่ากว่าการจ่ายค่าเช่าห้องพักทุกๆเดือน  และคุณต้องทำการ “กระตุ้น” ให้คนกลุ่มนี้เห็นด้วยสื่อในพื้นที่ต่างๆ เช่น ป้ายล้อมรั้วโครงการ, แจกใบปลิวในช่วงเย็นๆ เพราะเขากำลังเดินทางกลับบ้าน, หรือมีป้ายบอกทางที่โดดเด่น

สำหรับการ “กระตุ้นให้คนรู้จักบนโลกออนไลน์” คุณสามารถทำผ่าน Facebook Ads ได้โดยการ “ปักหมุด” โครงการของคุณเพื่อโฆษณาให้คนที่เล่น Facebook ในละแวกรัศมีที่ใกล้เคียงเห็นโฆษณาของคุณ  และถ้าจะให้ดีควรกำหนดระยะเวลาโฆษณาเป็นช่วงเย็นๆหลังเลิกงาน เพราะคน กลุ่มนี้จะกลับมาพักผ่อนที่บ้าน และเปิด Facebook เพื่อติดตามข่าวสารจากเพื่อนๆพร้อมอัพเดทสเตตัส

สำหรับคนกลุ่มที่สอง

เขาก็จะเห็นป้ายต่างๆที่คุณทำเพื่อโฆษณาให้คนกลุ่มแรกรอบๆ พื้นที่โครงการอยู่แล้ว  และถ้าคุณอยากจะเจาะเข้าไปหาเขาบนโลกออนไลน์  คุณก็สามารถทำผ่าน Facebook Ads ได้โดยใช้การ “ปักหมุด” โครงการของคุณให้คนที่เล่น Facebook รอบๆโครงการเห็นโฆษณา แต่แสดงโฆษณาเน้นรูปภาพแบบหนึ่งห้องนอน  และใช้ข้อความว่า คุ้มค่ากับการลงทุน แถมกำหนดระยะเวลาโฆษณาเฉพาะช่วงเวลาทำงานเท่านั้น

สิ่งที่ต้องทำรองรับสำหรับคนทั้งสองกลุ่ม คือ “Google Adwords Search Campaign” เพราะหลังจากที่คุณไปกระตุ้นให้เขารับรู้ เมื่อเขาเห็นสื่อโฆษณาหลายๆครั้งและเริ่มสนใจ เขาจะเริ่มทำการ  “ค้นหาผ่าน Google”  โดยให้เตรียม Keywords  ไว้หลายๆคำที่เกี่ยวข้องกับชื่อโครงการ  และทำเลที่ตั้งเพื่อแสดงโฆษณาโครงการของคุณให้กับคนที่เขากำลังสนใจ

100216_businessstrategies_6

ผมได้อธิบายแผนการณ์คร่าวๆให้คุณพอเห็นภาพแล้วนะครับ คำถามถัดไปที่มักถูกถามบ่อยที่สุดคือ

“ต้องใช้งบโฆษณาสักเท่าไหร่ดี?”

ข้อนี้ตอบแบบฟันธงคงไม่ได้ เพราะสินค้าและบริการต่างๆมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับทำการตลาดแตกต่างกัน  แต่ที่แน่ๆ นักการตลาดส่วนใหญ่จะมีการเตรียมงบประมาณสำหรับการทำตลาดโดยรวมเอาไว้เรียบร้อยแล้วก้อนหนึ่ง

สิ่งที่คุณต้องทำการบ้านเพิ่มคือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นต้องจ่ายในสื่อต่างๆ ตามแผนการตลาดของคุณนั้นมีความยืดหยุ่นมากน้อยแค่ไหน   เช่น พวกป้ายล้อมรั้ว ป้ายบอกทาง หรือ ใบปลิว สื่อต่างๆเหล่านี้คุณสามารถประเมินราคาและนำมาประกอบในแผนการตลาดของคุณได้เลย เพราะส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายที่ตายตัวระดับนึงและงบประมาณที่เหลือคือ  งบสำหรับการทำการตลาดออนไลน์

100216_businessstrategies_3

อย่างไรก็ดี ผมไม่ได้หมายความว่า ให้คุณใช้งบการตลาดออนไลน์ทีเดียวให้หมดเลยนะครับ  เนื่องจากการตลาดออนไลน์นั้นมีความยืดหยุ่นสูง และสามารถวัดประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณควรจะวัดผลแคมเปญทุกๆสัปดาห์ เพื่อวิเคราะห์ว่า กลยุทธ์ที่คุณได้วางแผนไว้ เกิดผลอย่างที่คุณคาดหวังหรือไม่

ถ้าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามความคาดหวัง คุณก็จำเป็นวิเคราะห์หาสาเหตุ และทำการปรับกลยุทธ์
แต่ถ้าผลลัพธ์เป็นไปตามความคาดหวัง คุณก็สามารถเพิ่มงบประมาณเพื่อเร่งสปีดให้กับความสำเร็จได้ทันที

งบประมาณก็เหมือนกระสุน ไม่ว่าจะมากสักแค่ไหน ถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ก็มีวันหมด ดังนั้น เล็งให้ดีว่าคุณจะยิงไปที่ไหน  เมื่อยิงแล้วก็รีบวัดผลว่า  โดนหรือไม่ ถ้าพลาดคุณจะได้ปรับองศาการยิง แต่ถ้าคุณไม่เล็ง แล้วยิงกราดไปทั่ว พอคุณรู้ตัว กระสุนก็หมด  แถมดันยิงไม่โดนเป้าสักราย!

ส่วนใครสนใจในการศึกษาเรื่องการทำ Online Marketing สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  My Digital Partner

160815-business-5

 

Lady P.
WRITER: Lady P.
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line