Business

ฝิ่นในที่ทำงาน ปัญหาอาชีพเสริมลุกลามที่หลายคนทำจนเคยชิน และวิธีแก้ไขให้เหมาะสม

By: Chaipohn March 23, 2017

ในสภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง คนทำงานหาเช้ากินค่ำทุกคนย่อมต้องอยากได้รายได้หลายทางมากขึ้น ในยุคที่คนรุ่นใหม่มีความฝันและความใจร้อนมาก ด้วยความเชื่อที่ว่า คนสมัยนี้ต้องมีรายได้หลายช่องทาง จะมานั่งรออัพเกรดกันเป็นปีคงจะไม่ไหว เลยตัดสินใจใช้เวลาว่างจากการทำงานรับงานนอกไปด้วย ดูเหมือนจะเป็นเรื่องชอบธรรม ทำไมล่ะ? ใคร ๆ เค้าก็ทำกัน แถมตัวเราเองก็ทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างครบถ้วนอยู่แล้ว

สิ่งที่ต้องแยกให้ออกคือ ฝิ่น หรืองานนอก ไม่ใช่ งานเสริม งานเสริมคืองานอดิเรก ที่เราใช้ความสามารถหาเงินจากเวลาว่าง โดยไม่ conflict กับงานที่ทำอยู่  แต่การรับงานนอก หรือที่ชาวออฟฟิศเรียกว่า รับฝิ่น เป็นการทำงานแบบเดียวกัน ให้หลายบริษัทพร้อมกัน ซึ่งมันกลายเป็นเทรนด์ที่ทุกคนมองเป็นเรื่องปกติ จนหลายคนเริ่มมีมุมมองกับฝิ่นผิดไป เมื่อตัวเลขเงินที่อยากได้มากขึ้น ฝิ่น ก็เข้ามาเบียดเบียนเวลาทำงานปกติและการพัฒนาศักยภาพมากขึ้น ต้องยอมรับว่าการทำฝิ่นเองนั้นมีข้อดี ช่วยทำเงินได้มากขึ้นในยุคการเงินติดขัด แต่ผลกระทบระยะยาวที่หลายคนมองข้ามไปก็มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งเราควรต้องคิดว่าเป้าหมายในชีวิตคืออะไรกันแน่ อยากเป็นใหญ่เป็นโตในบริษัท หรืออยากได้เงินหลายทางเร็ว ๆ แต่ไม่มั่นคงกันแน่?

170323-FREELANCE-1

ได้เงินหลายทางจริง แต่อาจกระทบประสิทธิภาพ ผลตอบแทน และอนาคตที่มั่นคงจากงานหลักแน่นอน

คนทำงานรุ่นใหม่หลายคนเข้าใจผิดไปว่า แค่ทำงานให้เสร็จตามที่กำหนดไว้ขั้นต่ำ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วคนที่คิดแบบนี้นั้น เป็นคนส่วนใหญ่ที่มีอยู่เต็มองค์กร ในขณะที่คนส่วนน้อยทุ่มเทให้งานประจำอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำให้เสร็จตาม  KPI  ขั้นต่ำที่บริษัทกำหนดไว้ แต่ทำเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เสมอ เสนอตัวทำงานอื่น ๆ อย่างเต็มใจ และมีการพัฒนาความสามารถตัวเองอย่างเต็มที่ เมื่อถึงเวลาประเมินผลงาน แบ่งโบนัส เลือกโปรโมตตำแหน่ง คิดว่าบริษัทจะเลือกคนไหน? ชั่งใจให้ดีว่าเรามองหาการเติบโตในระยะยาวกับบริษัท และตำแหน่งความรับผิดชอบที่มั่นคงกว่ามากในระยะยาว หรือมองหาจังหวะการทำเงินให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาสั้น ๆ กันแน่

ได้เงินมากขึ้น แลกด้วยการพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำลายสุขภาพระยะยาวโดยไม่รู้ตัว

แค่เวลาทำงานปกติก็หนักอยู่แล้ว คนที่รับงานนอกหลาย ๆ งาน และต้องรีบส่งงานภายในวันที่กำหนด ยิ่งต้องทำงานมากขึ้นอีกหลายเท่า จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการปั่นเคลียร์งานแบบหามรุ่งหามค่ำ และงานนอกมักจะเป็นงานที่คุยตรงกับลูกค้าระดับเล็กถึงกลาง จึงต้องแบกรับความคาดหวังและ  comment  แก้ไขงานต่าง ๆ โดยตรง เมื่อปั่นงานมาก ๆ เข้า ก็เริ่มพักผ่อนไม่พอ นอนน้อย ไปทำงานสาย สมาธิเสีย ไม่มีเวลาว่างเหลือสำหรับผ่อนคลาย สุดท้ายก็ทำงานหลักพังทลายลงไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกว่าพังทั้งสุขภาพกาย สุขภาพจิต เพื่อเงินรายได้เสริมจำนวนหนึ่ง

ใช้อุปกรณ์บริษัททำงานนอกที่ conflict กับงานหลัก ขายความลับให้คู่แข่ง ผิดกฎหมาย ฟ้องยังไงก็แพ้

ถือเป็นความไม่แฟร์อย่างมาก สำหรับคนที่ใช้ข้าวของคนอื่นเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นการไม่ให้ความเคารพกับสถานที่ที่อยู่ และงานที่ทำอย่างรุนแรง ซึ่งคนที่เอางานนอกมานั่งทำในเวลางานหลักนั้น ทำให้เกิด  Opportunity Cost  ที่สูงมาก แทนที่จะมีคนอื่นมาพัฒนางานหลักตรงนั้นให้ดีขึ้น แทนที่จะมีคนอื่นใช้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานบริษัทได้รวดเร็วขึ้น แทนที่คุณจะเอาเวลาทำงานหลักให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น กลับกลายเป็นเอาเวลา อุปกรณ์ สถานที่ ทำงานหาเงินส่วนตัว แถมเลวร้ายสุด ๆ คือการเอาข้อมูลความลับไปขายให้บริษัทคู่แข่ง อันนี้สามารถโดนฟ้องอ่วมได้ง่าย ๆ เสียชื่อเสียงไปทั้งวงการเพื่อแลกกับรายได้ชั่วคราว

170323-FREELANCE-2

อย่างที่เราบอกไปว่า การหารายได้เพิ่มไม่ใช่เรื่องผิด เราเองก็สนับสนุน แต่จะดี ถูกต้อง และน่ายกย่องกว่า ถ้าคุณหาเงินเพิ่มได้จากงานเสริมในเวลาว่าง จากความสามารถหรือสิ่งที่ชื่นชอบโดยไม่  Conflict  กับงานหลักที่ทำอยู่ เช่น นักการตลาด รับสอนภาษาในวันหยุด หรือนักโฆษณา ที่ขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่ถ้าจะต้องรับฝิ่นหรืองานนอกจริง เนื่องจากเป็นช่วงจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ขอให้ตั้ง  Priority  หน้าที่ของตัวเองให้ดี กำหนดช่วงเวลาที่จำเป็นต้องทำงานนอกให้ชัดเจน และที่สำคัญคือการสร้าง  Passive Income  ให้เงินทำงาน ซึ่งน่าจะมั่นคงทางรายได้ และตอบโจทย์ด้านการแบ่งเวลาได้ดีกว่าการเพิ่มชั่วโมงการทำงานแบบเดิม ๆ

สุดท้ายการเอาใจเขามาใส่ใจเราน่าจะดีที่สุด ลองมองในอีกมุมนึงดูบ้าง วันนี้ในฐานะคนทำงาน เราอาจจะคิดว่าการทำฝิ่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ลองจินตนาการดูว่าวันนึงเราเป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของบริษัท เราอยากจะเห็นอะไร อยากเห็นลูกน้องในบริษัทต่างหยิบฝิ่นที่ทั้ง  Conflict  แถมยังใช้เวลาและอุปกรณ์ของงานประจำทำกันอย่างลอยหน้าลอยตา หรือเห็นคนที่ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบทุกอย่างเพื่อบริษัท โดยหวังว่าจะได้ความมั่นคงในระยะยาว ตอบตัวเองหน่อยว่า ณ วันนั้น ในตำแหน่งจุดยืนตรงนั้น คุณจะคิด จะพูด จะทำอย่างไรกับคนในบริษัทของคุณ?

170323-FREELANCE-4

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line