ย้อนรอย YEEZY Collection ตั้งแต่ Season 1 ถึง 5 ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง

หลังจากที่ Kanye West เลิกลากับ Nike แล้วมาจูบปากกับ adidas พวกเขาก็ได้ให้สัญญาหมั้นหมายถึงการผลิตเสื้อผ้าเสื้อผ้าไลน์ YEEZY ที่ adidas ออกเงินสนับสนุนอย่างเต็มที่ปล่อยให้ Kanye ได้ทำตามความฝันในการเป็นดีไซเนอร์ของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นข่าวนี้เป็นที่จับตามองอย่างมากในวงการ Street Fashion แต่แล้วกลับกลายเป็นว่า กระแสตอบรับไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เพราะด้วยดีไซน์ และราคาที่แพงจนน่าตกใจ ทำให้แม้จะ sale แล้ว sale อีก ก็ยังไม่สามารถขายได้หมดในช่วงแรก จนมีข่าวลือ adidas เตรียมจะถอนการสนับสนุนไลน์เสื้อผ้า เหลือไว้แต่เพียงไลน์รองเท้าเท่านั้น ซึ่ง Kanye West ก็ทำแสบอีกเช่นกันโดยหันไปใส่รองเท้า Vans พร้อมปล่อยข่าวลือกระแสว่าเขาอาจจะไม่ต่อสัญญากับ adidas

ทำให้ adidas หัวร้อนต้องรีบออกแก้ข่าวทันทีพร้อมให้การสนับสนุน Kanye อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มไลน์สินค้า Sportwear ให้เป็นของตัวเองอีกด้วยเพื่อเป็นการมัดใจ เนื่องจากไม่อยากจะเสีย influencer อันดับ 1 ด้าน Street Fashion ไป จนถึงปัจจุบัน ได้ผลิตออกมาแล้วถึง 5 Collections และค่อย ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามลำดับ และหลังจากเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ YEEZY Season 5 ทำให้วันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ขอย้อนรอย YEEZY ตั้งแต่ 1 ถึง 5 ว่ามีความเป็นมาอย่างไรกันบ้าง

Season 1

หลังจากจับมือเป็นพันธมิตรกัน Kanye ก็ได้ออกแบบ Yeezy season 1 ซึ่งจุดเด่นคือ เสื้อผ้าทุกตัวถูกออกแบบมาเป็นไซส์เดียวในสไตล์ loose ที่ประกอบไปด้วย Bomber Jacket เสื้อ Overcoat ลายพราง และ Military Jacket ที่ทำจากขนเฟอร์ ที่โทนจะออกไปทางสีเขียว Olive ดูมีความเป็น Military style แต่ว่ากันว่า Collection นี้คือความล้มเหลวในเรื่องการออกแบบอย่างสิ้นเชิง เพราะ Kanye แทบจะไม่ได้ดีไซน์อะไรใหม่เลย เพียงแค่หยิบสิ่งที่เขาชอบใส่มารวมๆ กัน ที่สำคัญราคาแพงแบบน่าตกใจ แต่ทุกฝ่ายก็ยังพอจะให้อภัยได้เพราะถือเป็นครั้งแรก และความโชคดีครั้งนี้โดนกลบด้วยกระแสรองเท้า adidas yeezy boost ไปเสียหมด จึงทำให้รอดตัวไปสำหรับ Kanye West กับ Season 1

Season 2

Season 1 ว่าแย่แล้ว Season 2 นี่หนักยิ่งกว่าเพราะไม่มีอะไรเป็นที่น่าจดจำ และราคาก็ยังแพงหูฉีกเหมือนเดิม โดยที่คอลเลคชั่น Spring / Summer แทบจะไม่ต่างจากเดิมมากเท่าไหร่ โดยเขาเพียงแค่เปลี่ยนสี มาเน้นเป็นโทนสี tan นำ้ตาลเป็นหลัก แถมการออกแบบของ Kanye ในรอบนี้หนักถึงขั้นโดนนำไปล้อเลียนว่าไปเอาสไตล์มาจาก homeless  คนไร้บ้าน รวมถึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาได้ไปลอกดีไซน์ของคนอื่นมา จึงไม่น่าแปลกใจหากสินค้าในซีซั่นนี้จะขายไม่ดี เหลืออีกเช่นเคย จนเริ่มมีข่าวลืออีกว่า adidas จะยกเลิกการสนับสนุน Kanye West ในการผลิตไลน์เสื้อผ้าแล้ว

Season 3

Kanye West พอจะรับรู้ได้แล้วว่างานของเขายังไม่ได้ประสบความสำเร็จและตอบรับดีเท่าที่ควร หากยังฝืนต่อไปก็พลั้งจะทำให้ชื่อเสียงที่สะสมมานานต้องหม่นหมอง เขาจึงต้องหาไอเดียใหม่ ๆ ซึ่งก่อนอื่นเลยเขาได้รับรู้ถึงปัญหาเบื้องต้นว่าราคาของ YEEZY collection นั้นแพงเกินไป

เขาจึงปรับลดราคาลงมา ทำให้ก่อนโชว์เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาจะทำให้ Yeezy เป็นสินค้าสำหรับทุกคน บวกกับการนำเสนอในรูปแบบใหม่ที่เป็นจังหวะประจวบเหมาะกับอัลบั้มใหม่ The Life of Pablo กำลังจะถูกปล่อย ทำให้ Kanye West รวมทั้งสองอีเว้นท์มาไว้ด้วยกัน เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แถมเป็นการนำเสนอ Fashion show ในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งการเปิดคอลเลคชั่น พร้อมอัลบั้ม จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ Madison Square Garden ผลปรากฎว่า เปรี้ยงป้าง เป็นการกู้ศรัทธาเขาตัวเขากลับมา เพราะนอกจากราคาที่สมเหตุสมผล และจับต้องได้ บวกกับวิธีการพรีเซ้นท์ที่แปลกใหม่ทำให้สินค้า Season 3 ขายหมดเกลี้ยง แม้ว่าหากเรามองในเชิงลึกดีไซน์การออกแบบจะไม่ได้ต่างจากเดิมเสียเท่าไหร่ อย่างน้อย Kanye West ก็กลับมาถือไพ่เหนือกว่า adidas อีกครั้ง

Season 4

ท่ามกลางข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการแยกทางระหว่าง adidas และ Kanye จนเหมือนว่า Season 3 จะเป็นคอลเลคชั่นสุดท้ายเสียแล้ว แต่สุดท้าย adidas ก็ได้มอบสิ่งที่เขาต้องการ และปรารถนาคือไลน์สินค้า YEEZY แบบเดียวกับที่พวกเขาเคยมอบให้กับ Yohji Yamamoto (Y-3) คือมีทีมออกแบบทีมการตลาดโดยเฉพาะภายใต้ชื่อ YEEZY ทำให้หลังจากนั้น Kanye ก็เดินหน้าสร้าง Season 4 ซึ่งในรอบนี้เขาได้โฟกัสไปที่ สีขาวและดำเป็นพิเศษ ถือเป็นการเปิดตัวโปรเจค Calabasas ของเขาที่จะมีความเป็น sportweat มากขึ้น ซึ่งใน collection นี้ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเหมือนกับ season 3 และเช่นเคย สินค้า sold out เกือบทุกชิ้น

Season 5

เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ Season 5 ของ Kanye West ซึ่งหลังจากที่เห็นภาพแฟชั่นโชว์ เราค่อนข้างเห็นความเปลี่ยนแปลงในคอลเลคชั่นนี้อยู่พอสมควร Kanye มีการเล่นกับสีสันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเลือกสี Ocean blue , Maroon , Ink camo บวกกับดีไซน์ที่มีแรงบันดาลใจมาจาก 90s เต็มๆ โดยย้อนกลับหาอะไรที่มันเป็น baggy ท้ังเสื้อกางเกง หรือแม้แต่ dad sneaker แบบที่เป็นเทรนด์กระแสในปัจจุบัน

ว่ากันว่า Kanye เลือกที่จะตามกระแสเทรนด์ โดยฟังว่าผู้คนต้องการอะไรมากกว่าการนำเสนออะไรที่แปลกใหม่ พร้อมนำมันดีไซน์จนทำให้คอลเลคชั่นนี้เป็นที่ต้องการสำหรับวงการ Street fashion อย่างมากทั้งทียังไม่มีกำหนดวางขาย ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่านี่จะเป็นอีกคอลเลคชั่นที่ขายดีเทน้ำเทท่าอีกเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเส้นทางไลน์สินค้า YEEZY ที่ Kanye West ได้รังสรรรค์ออกมาร่วมกับ adidas แม้ว่าเราจะไม่ค่อยสังเกตเห็นถึงความแตกต่างในแต่ละคอลเลคชั่นมากนัก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทีมงาน UNLOCKMEN สังเกตเห็นคือ ความมุ่งมั่นพยายามที่จะสร้างอะไรที่เป็น Unisex สำหรับทุกคนจริง ๆ อย่างที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า YEEZY คือสินค้าสำหรับทุกคน ทุกเพศ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์ครอบครอง YEEZY เพราะราคาที่สูง และแม้ว่าจะถูกลงกว่าในช่วงแรกๆ แต่ราคาก็ไม่ได้ถูกขนาดทุกคนจะสามารถเป็นเจ้าของได้

อย่างไรก็ดี การร่วมงานของ adidas และ Kanye West ครั้งนี้มีผลอย่างมากในการครองตลาดรองเท้า Sneaker ที่มีผลดีในเชิงบวกสำหรับภาพลักษณ์ของ adidas มีการคาดการณ์ออกมาล่วงหน้าก่อนการร่วมงานกันว่า adidas จะมีตลาดโตขึ้นจากปีที่แล้ว 1% แต่พอ Kanye ก้าวเข้ามาปุ๊บ adidas ก็มีรายได้ที่โตขึ้นกว่า 30% ทั่วโลก หรือกว่า 5% ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนั่นหมายความว่า YEEZY กระตุ้นตลาดให้กับ adidas ได้มากมายเหลือเกิน หากไม่มีปัญหากันในอนาคตเราคงเห็น YEEZY Collection ไปอีกนานแสนนาน