ชาร์จความสุข…กับบ้านที่สนอง need คนเมือง

“Happiness begins at home”   คงต้องยอมรับว่าไม่มีที่ไหน จะสามารถให้ความสุขและให้คุณได้ผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเองสุดๆ เท่ากับการอยู่บ้าน ซึ่งบ้านที่จะให้ความสุขได้นั้น ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องมีขนาดใหญ่โตแบบคฤหาสน์ แค่เป็นบ้านที่มีพื้นที่ให้สมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีมุมส่วนตัวให้คุณได้ผ่อนคลาย ในบรรยากาศที่สงบ เรียบง่าย และอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งหมดที่กล่าวมาสะท้อนการใช้ชีวิตแบบเซน (Zen Living)

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กระแสการตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบเซน ได้รับความสนใจมากในปัจจุบัน ดังนั้น คำว่า Zen  (禅) จึงกลายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่กลายเป็นภาษาสากลที่ Interior Designer และเจ้าของบ้านทั่วโลกต่างนึกภาพออกตรงกัน และเข้าใจความหมายรวมถึงประโยชน์ของมันได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในสู่ภายนอกได้อย่างลงตัว การเปิดรับแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้าน และการจัดเก็บพื้นที่ได้อย่างเป็นระเบียบ สร้างบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลาย ให้แก่ผู้อยู่อาศัย

แน่นอนว่าเราเองก็ชื่นชอบการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เราจึงไปค้นคว้าไอเดียการตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถชาร์จความสุขได้เต็มที่มาแนะนำ

ออกแบบเรียบง่าย สไตล์มินิมอล

เป็นเรื่องปกติที่เราจะรู้สึกอึดอัด หงุดหงิดใจถ้าอยู่ในพื้นที่รกรุงรัง มีเฟอร์นิเจอร์มากมายวางอยู่รอบห้อง ทำให้เรารู้สึกว่าเราถูกจำกัดพื้นที่

การแต่งบ้านแบบสไตล์ญี่ปุ่น จะเน้นไปที่ความเรียบง่ายของลายเส้นและโทนสีเบาๆ ในกลุ่ม Earth tone (เช่น สีขาว สีครีม สีน้ำตาลอ่อน) ซึ่งจะสร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย ให้กับคนในบ้านได้เป็นอย่างดี บวกกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น เน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เช่น เตียงผนัง เตียงนอน แบบพับเก็บได้ การใช้ประตูบานเลื่อนซ่อนพื้นที่ห้องเก็บของใต้บันไดได้อย่างลงตัว กลมกลืนกับผนัง ซึ่งได้ประโยชน์ทั้งด้านความสงบของเส้นสาย เชื่อมต่อพื้นที่ภายในบ้าน และยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านอีกทางนึงด้วย

ออกแบบพื้นที่รับลม และแสงจากธรรมชาติ

Shelly Lynch-Sparks นักออกแบบตกแต่งภายในชื่อดัง ซึ่งเป็นอีกคนที่ชื่นชอบการตกแต่งแบบ Japanese Zen Living พูดถึงไอเดียการตกแต่งเอาไว้ว่า “Home should be a place to relax and shut the world out” ซึ่งเป็นคำพูดที่จริงมาก เพราะเราอาจจะเปลี่ยนแปลงปัจจัยภายนอกไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงบ้านให้มีความสงบ ผ่อนคลาย ด้วยการอยู่ร่วมกับธรรมชาติผ่านช่องแสงธรรมชาติและพื้นที่รับลมในบ้าน

ผลวิจัยมากมายบอกว่าการได้สัมผัสธรรมชาติ หรืออยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมของแสงจากธรรมชาติ (natural ambience) มีส่วนช่วยให้เราเกิดความสงบ ผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียดได้ รวมถึงประโยชน์ด้านสุขภาพจากการสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและเย็น เช่นการเพิ่มวิตามิน D ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายอีกด้วย หนังสือบางเล่มถึงขั้นเรียกการตกแต่งแบบนี้ว่าเป็นการสร้าง Healing Environment ภายในบ้านที่ง่ายและน่าสนใจ นอกจากนี้ แสงธรรมชาติยังสร้างความรับรู้ในการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกได้อีกทางนึงด้วย เราจึงมักจะเห็นบ้านในคอนเซ็ปท์นี้มีบานหน้าต่างขนาดใหญ่และบานเลื่อนกระจกเต็มพื้นที่ เพื่อเล่นกับทิศทางของแสง ซึ่งต้องผ่านการคำนวณ ทิศทางของแสง ความหนาของผ้าม่านที่จะใช้เพื่อให้ได้น้ำหนักแสงตามที่ต้องการ

อีกจุดที่ต้องคิดถึงคือการปรับรูปแบบให้เข้ากับภูมิอากาศเมืองไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อน จึงควรมีการออกแบบคำนวณ ทิศทางลมเพื่อระบายความร้อนภายในบ้านด้วยช่องลมและหลังคาหน้าจั่วซึ่งมีคุณสมบัติในการกันแดด ลม และฝน ช่วยระบายความร้อนให้อากาศถ่ายเทสู่ภายนอกบ้านได้ ทำให้บ้านเย็นสบาย ความสงบผ่อนคลายก็จะตามมาโดยอัตโนมัติ

ใช้วัสดุที่เผยผิวจริงจากธรรมชาติ

การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นแบกข้าวของไปนั่งนอนนอกบ้าน แค่สร้างการรับรู้ มองเห็น และสัมผัส ของธรรมชาติ ด้วยการใช้วัสดุตกแต่งที่เผยผิวสัมผัสจริงจากธรรมชาติ เช่นผนังหรือกระเบื้องปูพื้นที่มีลวดลายริ้วหินตามธรรมชาติ และเฟอร์นิเจอร์ที่โชว์เนื้อไม้ตามธรรมชาติ รวมถึงการตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้ กระถางต้นไม้ตามมุมต่างๆ ของบ้านก็ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบ ผ่อนคลาย ให้กับทุกคนในบ้าน

แน่นอนว่าแนวทางการตกแต่งบ้านมีอยู่หลายรูปแบบ เช่นเดียวกับรสนิยมความชอบที่ต่างกันไป แต่ถ้าหากคุณเป็น คนที่ชอบความเรียบง่าย ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ โนเบิล เกเบิล คันโซ วัชรพล น่าจะตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด เพราะ รูปทั้งหมดในบทความนี้ เป็นรูปที่เราไปถ่ายจากบ้านตัวอย่างของโครงการที่เน้นความร่มรื่น ซึ่งมีทั้งหมด 3 แบบ คือ SEMI บ้านแฝดสไตล์บ้านเดี่ยวสำหรับคู่แต่งงาน AETO และ PYRA บ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ เราอยากแนะนำให้เข้าไปดูบ้านตัวอย่างเพื่อสัมผัสบรรยากาศของบ้านสไตล์ญี่ปุ่น น่าจะทำให้เข้าถึงความสงบแบบ Zen ได้ง่ายขึ้นครับ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website :   www.noblehome.com
Facebook :   www.facebook.com/ NOBLEiD