CARS

“2019 Corvette ZR1” เคยเห็นกันไหม? Muscle Car สุดโหดที่ทำความเร็วได้ถึง 337 กิโลเมตร/ชั่วโมง!!

By: HYENA November 17, 2017

ไม่ใช่ทุกคนที่จะหลงใหลในการขับรถด้วยความเร็วสูง รวมไปถึงการที่ต้องนั่งอยู่บนรถที่เตี้ยแทบจะติดพื้น แต่เราเชื่อว่าทุกคนคงต้องชื่นชอบในความสวย และความมันส์ในการขับขี่ของรถในระดับ Supercar อย่างแน่นอน ซึ่งในวันนี้ ถ้าใครรู้ตัวว่า เงินไม่ใช่ปัญหา ขอแค่ให้ได้ขับรถที่ได้ชื่อว่าสมรรถนะดีเยี่ยมที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ไซส์ฝรั่ง อีกทั้งยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมหาศาลคำรามทุกครั้งที่กดคันเร่ง คุณจะพลาดรถคันนี้ไปไม่ได้

ตั้งแต่มีการเปิดตัวออกมา 2019 Corvette ZR1 คันนี้ก็ถูกเคลมเอาไว้อย่างใหญ่โตว่า “นี่คือรถ Corvette ที่เร็วที่สุด มีประสิทธิภาพมากที่สุด และทันสมัยที่สุดในประวัติศาสตร์ Corvette” หลายคนอาจจะคิดว่า อ้าว..มันก็ต้องแน่นอนอยู่แล้วที่มันจะดีที่สุด เพราะนี่มันเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดนี่หว่า แต่สำหรับการที่ Corvette ออกมาพูดแบบนี้นั้น จริง  ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้หมายความเพียงแค่นั้น แต่มันยังมีอะไรแอบแฝงอยู่อีกด้วย

โดยเริ่มต้นที่เรื่องของการออกแบบ และในส่วนของวิศวกรรม พวกเขาอ้างว่า เพื่อให้ได้รถ Corvette ที่โหด และมีดีไซน์แปลกใหม่ทันสมัยที่สุด พวกเขาจึงได้จึงได้ออกแบบรถคันนี้ขึ้นมาโดยที่ไม่คำนึงว่า เมื่อสร้างออกมาแล้ว สมรรถนะในการขับขี่ของมันจะเป็นอย่างไร ซึ่งคนธรรมดาอย่างเรา ๆ ก็ยังรู้สึกได้ถึงความคิด และการออกแบบที่ดุดันตั้งแต่แรกเห็น

2019 Chevrolet Corvette ZR1 ออกมาพร้อมกับแพ็คเกจเสริม 2 ทางเลือกที่ใช้ชื่อว่า “Long Wing” ซึ่งเป็นแพ็คเกจแรก โดยจะมีการติดตั้งสปอยเลอร์ขนาดใหญ่ ใส่กระบวนการทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มค่า Downforce ตามหลักอากาศพลศาสตร์มาเน้น ๆ ซึ่งในแพคเกจ “Long Wing” นี้ เมื่อรถแล่นด้วยความเร็วสูง แพ็คเกจ “Long Wing” นี้จะสามารถช่วยเพิ่มแรง Downforce ได้มากกว่า Z06 ซึ่งเป็นรถ Corvette รุ่นก่อนหน้านี้มากถึง 70% เลยทีเดียว

ส่วนแพ็คเกจต่อมานั้นก็คือ ZTK ซึ่งออฟชั่นนี้ถือว่าเป็นออฟชั่นเสริม และใช้ชื่อของแพ็คเกจว่า “High Wing” สิ่งที่ต่างกันก็คือ ในชุด “High Wing” จะมีการเพิ่มลิ้นสปอยเลอร์หน้า และสปอยเล่อร์หลังมาให้ โดยการที่มี 2 สิ่งนี้ติดเข้าไปสามารถเพิ่มแรงกดท้ายได้มากถึง 430 กม. ในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง และเพื่อความแน่นอนของการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ยังมีการติดตั้งยางสมรรถนะสูงอย่าง  Michelin Pilot Sport Cup 2 และอัพเกรดตัวถัง กับช่วงล่างระบบ Magnetic Ride Control เพิ่มอีกต่างหากด้วย

และเมื่อได้เวลาถึงการสรรหาเครื่องยนต์ที่คิดว่าเหมาะสมกับ  2019 Corvette ZR1 คันนี้ พวกเขาได้นำเอาเครื่องยนต์โคตรโหด V8 ขนาด 6,200 cc ที่เป็นเครื่องยนต์ตัวก่อนหน้าใช้รหัสว่า LT4 มาพัฒนาต่อยอดจนกลายเป็น  LT5 ใส่ลงไปแทน โดยเครื่อง LT5 ของ  2019 Corvette ZR คันนี้โดยรวมแล้วมีขนาดใหญ่กว่าเครื่องรุ่นก่อนถึง 52% จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดแบบ Dual (Direct กับ Port) เพื่อที่จะรีดเค้นแรงม้าออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ผลสรุปของกำลังเครื่องยนต์ LT 5 ตัวนี้ที่ออกมาถือว่าเป็นที่น่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก  เมื่อพวกเขาทำการวัดค่าผลปรากฎว่า LT5 สามารถให้กำลังสูงถึง 755 แรงม้า ซึ่งต้องแลกมาด้วยอัตราการกินน้ำมันแบบบ้าคลั่ง แต่ด้วยสถิตินี้ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีในการที่ Corvette กำลังจะกลับมาทวงบัลลังก์ Muscle Car อีกครั้งหนึ่ง โดยทีม Corvette เองก็บอกว่า มันเป็นผลงานที่คุ้มค่า แม้จะต้องแลกกับการเสียพื้นที่ใช้สอยไปส่วนหนึ่ง ให้กลายเป็นห้องเครื่องเพื่อรองรับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ รวมไปถึงอัตราการกินน้ำมันแบบยกซด แต่ทว่า รถที่พวกเราทำออกมานี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 337.96 กิโลเมตร/ชั่วโมง  ซึ่งถือว่า เป็นเวลาระดับ Top ต้น ๆ ของโลกในปัจจุบันนี้เลยก็ว่าได้

นอกจากนี้ยังมีการอธิบายเกี่ยวกับ ช่องลมหน้าโหนกที่อยู่บนฝากกระโปรงเอาไว้ด้วยว่า  ถึงแม้มันอาจจะดูไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ แต่มันเป็นความตั้งใจที่จะทำแบบนั้นขึ้นมาเพื่อใช้จะดักลมให้เข้าไปในฝากระโปรงได้เยอะ และไวขึ้น นั่นก็เพื่อที่จะช่วยให้ระบบ Supercharger แสดงศักยภาพออกมาได้เต็มที่ เหมือนกับ Muscle Car โหด ๆ ในสมัยก่อน ที่นิยมเอา Supercharger โผล่ตั้งขึ้นมาจากฝากระโปรงรถ เพราะนอกจากจะทำให้ลมไหลเวียนได้ดีแล้ว มันยังช่วยให้รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และมีความร้อนสูง เย็นเร็วขึ้นอีกด้วย

สำหรับ 2019 Corvette ZR1 คันนี้ มีแผนการวางจำหน่ายเอาไว้คร่าว ๆ ช่วงต้นปีหน้า โดยทาง Corvette นั้นยังอุบเรื่องราคาเอาไว้ในตอนนี้ หากแฟน Corvette ชาวไทยคนไหนสนใจอยากได้ Muscle Car แรง ๆ งาม ๆ และไม่อยากจะใช้ Muscle Car แบรนด์ที่มีคนใช้เหมือน ๆ กันหลายคน Corvette คันนี้ ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากเลยที่เดียวสำหรับคนที่กำลังมองหา Muscle Car มาเสริมบารมีให้ทวีคูณยิ่งขึ้น

SOURCE

HYENA
WRITER: HYENA
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line