GADGETs

Apple เปิดตัว iPad Air ที่ทรงพลังและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

By: Chaipohn March 9, 2022
  • iPad Air ใหม่มาพร้อมชิป M1 สุดล้ำ, 5G ที่เร็วสุดแรง, กล้องหน้าใหม่พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” และอีกมากมาย
  • iPad Air รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท iPad Air ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า

Apple เปิดตัว iPad Air ใหม่พร้อมชิป M1 ที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด iPad Air มีวางจำหน่ายในสีสันใหม่ๆ และยังมาพร้อมกล้องหน้าอัลตร้าไวด์ใหม่พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” เพื่อประสบการณ์การประชุมทางวิดีโอที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น, พอร์ต USB-C ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และ 5G ที่เร็วสุดแรงในรุ่นเซลลูลาร์

ทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้นที่เอื้อมถึงได้เช่นเดิม กล้องสุดล้ำและการรองรับอุปกรณ์เสริมล่าสุดทำให้ผู้ใช้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เป็นนักสร้างคอนเทนต์ เกมเมอร์ และนักเรียนสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพการทำงาน และการแสดงความเป็นตัวเอง iPad Air ใหม่จะพร้อมให้สั่งซื้อและจะวางจำหน่ายในร้านค้าเร็วๆ นี้

ชิป M1 นำประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดมาสู่ iPad Air

ชิป M1 สุดล้ำใน iPad Air ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับแอปและเวิร์กโฟลว์ที่ต้องใช้พลังประมวลผลหนักๆ ได้อย่างก้าวกระโดด พร้อมด้วยความสามารถในการประหยัดพลังงานอันน่าทึ่งและแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน CPU แบบ 8-core มาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้นถึง 60% และ GPU แบบ 8-core มีประสิทธิภาพด้านกราฟิกที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Air รุ่นก่อนหน้า Neural Engine แบบ 16 คอร์พร้อมด้วย CPU และ GPU คือขุมพลังที่ขับเคลื่อนคุณสมบัติการเรียนรู้ของระบบ (ML) ขั้นสูงซึ่งช่วยมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้น ประสิทธิภาพของชิป M1 ช่วยให้ผู้ใช้ทำอะไรต่อมิอะไรด้วย iPad Air ได้มากกว่าที่เคย ตั้งแต่การตัดต่อวิดีโอระดับ 4K หลายสตรีม ไปจนถึงการเล่นเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ การออกแบบห้องใหม่ในรูปแบบ 3 มิติ หรือสัมผัสประสบการณ์ความจริงเสริม (AR) ที่สมจริงยิ่งขึ้น


กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง”

กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ความละเอียด 12MP พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” จะแพนตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในเฟรมเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาร่วมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้ และจะซูมออกอย่างลื่นไหลเพื่อจัดให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนา ดังนั้น ไม่ว่าจะอัปเดตข่าวคราวกับคนสำคัญ หรือเรียนรู้จากระยะไกล คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ก็ช่วยให้ประสบการณ์การเชื่อมต่อน่าสนใจยิ่งกว่าที่เคย

การเพิ่มคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” เข้ามาใน iPad Air ทำให้วันนี้ iPad ทุกรุ่นสามารถมอบประสบการณ์อันแสนมหัศจรรย์นี้ให้กับผู้ใช้ได้ กล้องไวด์ความละเอียด 12MP ที่ด้านหลังของ iPad Air ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพที่คมชัดและวิดีโอระดับ 4K, สแกนเอกสาร และเพลิดเพลินกับประสบการณ์ AR ที่น่าทึ่งได้ iPad Air มอบโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ ตลอดจนการตัดต่อ และแชร์ เรียกได้ว่าเป็นสตูดิโอแบบพกพาที่สะดวกขั้นสุดและอเนกประสงค์อย่างเหลือเชื่อ


5G ที่เร็วสุดแรงและการเชื่อมต่อสุดล้ำ

ลูกค้าสามารถทำอะไรๆ ได้มากกว่าบน iPad Air ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างเดินทาง 5G ช่วยให้ iPad Air ใช้ระดับความเร็วสูงสุดถึง 3.5Gbps ในสภาวะที่เหมาะสม การรองรับ eSIM และ Wi-Fi 6 ยังทำให้ iPad Air มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเมื่อผู้ใช้จำเป็นต้องเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงไฟล์ การสำรองข้อมูล การสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงการชมภาพยนตร์กับครอบครัว และเพื่อนๆ ด้วย SharePlay

ตอนนี้พอร์ต USB-C เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า จึงสามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps ต่อวินาที ดังนั้น การอิมพอร์ตรูปภาพและวิดีโอขนาดใหญ่จึงรวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย พอร์ตจะเชื่อมต่อ iPad Air กับระบบนิเวศอุปกรณ์เสริม USB-C ที่กว้างขวาง ซึ่งประกอบด้วยกล้อง อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก และจอภาพความละเอียดสูงสุดถึง 6K


ดีไซน์แบบหน้าจอทั้งหมด พร้อมจอภาพ Liquid Retina และ Touch ID

iPad Air ใหม่ในดีไซน์ที่บางและเบาอย่างที่ผู้ใช้ชื่นชอบมาในหลากหลายสีสันอันงดงาม ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้าใหม่อันน่าทึ่ง iPad Air มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้วที่เต็มอิ่มสมจริงเพื่อประสบการณ์ด้านภาพอันน่าทึ่งด้วยจำนวนพิกเซลมากถึง 3.8 ล้านพิกเซลและเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความสว่างถึง 500 นิต พร้อมด้วยการเคลือบสารกันแสงสะท้อน, ขอบเขตสีกว้างแบบ P3, การแสดงผลแบบ True Tone และการเคลือบหน้าจอแบบป้องกันแสงสะท้อน

เมื่อใช้ร่วมกับจอภาพ Liquid Retina ลำโพงสเตอริโอแนวนอนใน iPad Air จะมอบเสียงสเตอริโอที่มีมิติเสียงกว้างเพื่อประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม Touch ID ติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของปุ่มด้านบน iPad Air เพื่อมอบความสะดวกในการใช้งานและการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยอย่างที่ผู้ใช้คุ้นเคยและหลงรัก สำหรับใช้ในการปลดล็อค iPad Air และการล็อกอินเข้าสู่แอป


อุปกรณ์เสริม

Apple Pencil (รุ่นที่ 2) เปลี่ยน iPad Air ให้กลายเป็นสมุดบันทึกและสมุดวาดภาพแบบดิจิทัลที่ผู้ใช้สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ด้วยการชาร์จและการจับคู่แบบไร้สาย Apple Pencil จึงมาพร้อมความแม่นยำที่ลึกไปถึงระดับพิกเซล และความหน่วงต่ำระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เขียนได้ง่ายและเป็นธรรมชาติเหมือนการเขียนด้วยปากกาและกระดาษจริงๆ

นอกจากนั้น iPad Air ใหม่ยังใช้ได้กับ Magic Keyboard ซึ่งมอบประสบการณ์การพิมพ์ที่ดีที่สุดด้วยดีไซน์แบบยกลอยและแทร็คแพดในตัว, Smart Keyboard Folio พร้อมประสบการณ์การพิมพ์ที่สะดวกสบายในดีไซน์เพรียวบาง และปก Smart Folio ซึ่งมาพร้อมสีสันอันสวยงามที่เข้ากันกับตัวเครื่อง ได้แก่ สีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลูที่จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสีใหม่ของ iPad Air อย่างลงตัว


iPadOS 15 มาพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับการทำงานและความอเนกประสงค์ของ iPad Air ไปอีกขั้น

iPadOS 15 มาพร้อมประสบการณ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของ iPad การทำงานแบบมัลติทาสก์จะง่ายดายกว่าเดิมด้วยการทำให้คุณสมบัติอย่าง Split View และ Slide

  • Over สามารถค้นพบได้ง่ายขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น ทั้งยังทรงพลังกว่าเดิมด้วย
  • และตอนนี้การจดโน้ตก็สามารถทำได้แล้วทั้งระบบด้วยคุณสมบัติ “โน้ตด่วน” ที่มอบวิธีใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกันและจัดระเบียบสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือพิมพ์ด้วย Apple Pencil
  • SharePlay ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ และครอบครัวขณะโทร FaceTime ได้ ผู้ใช้สามารถดูอะไรไปพร้อมกัน ฟังอัลบั้มด้วยกัน หรือแข่งประชันความฟิตกับเพื่อนๆ และ SharePlay ก็จะซิงค์ทุกอย่างและทุกคนให้ตรงกัน
  • iPad ยังฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความสามารถด้าน ML ขั้นสูง คุณสมบัติ “ข้อความในภาพ” ใช้ระบบอัจฉริยะบนอุปกรณ์เพื่อตรวจหาข้อความในรูปภาพแล้วให้ผู้ใช้ทำสิ่งต่างๆ กับข้อความนั้นได้ ตัวอย่างเช่น ภาพถ่ายหน้าร้านอาจแสดงหมายเลขโทรศัพท์และตัวเลือกให้โทรไป
  • การเปิดตัว iPadOS 15.4 และ macOS 12.3 ในสัปดาห์หน้าจะมาพร้อมคุณสมบัติ “ควบคุมจากอุปกรณ์กลาง” ที่ให้ผู้ใช้ทำงานโดยใช้เมาส์และคีย์บอร์ดชุดเดียว และยังย้ายไปมาระหว่าง Mac และ iPad ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องตั้งค่าใดๆ ผู้ใช้สามารถลากแล้ววางคอนเทนต์สลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ได้เลย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสเก็ตช์ภาพด้วย Apple Pencil บน iPad แล้วลากไปวางในสไลด์ Keynote บน Mac

 

ราคาและความพร้อมในการวางจำหน่าย

  • iPad Air ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อเร็วๆนี้ทางapple.com/th/store
  • iPad Air รุ่น Wi-Fi จะเปิดให้สั่งซื้อในราคาเริ่มต้น 20,900 บาท และรุ่น Wi-Fi + Cellular ในราคาเริ่มต้นที่ 25,900 บาท iPad Air ใหม่ รุ่นความจุ 64GB และ 256GB มาในสีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์ สีชมพู สีม่วง และสีฟ้า
  • iPadOS 15 ระบบปฏิบัติการทรงพลังที่ออกแบบมาเพื่อ iPad โดยเฉพาะ จะมีมาให้ในเครื่องพร้อมกับ iPad Air ใหม่ iPadOS 15 พร้อมให้ใช้งานในรูปแบบของการอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับ iPad Air 2 และใหม่กว่า
  • ราคาส่งเสริมการศึกษาสามารถใช้ได้กับนักศึกษาที่กำลังศึกษาหรือเพิ่งเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและผู้ปกครอง รวมถึงอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ iPad Air ใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 19,200 บาท  Apple Pencil รุ่นที่ 2 มีวางจำหน่ายในราคา 4,190 บาท, Smart Keyboard Folio มีวางจำหน่ายในราคา 5,300 บาท และ Magic Keyboard มีวางจำหน่ายในราคา 9,300 บาท สำหรับนักศึกษา ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th-edu/shop
  • Apple Pencil (รุ่นที่ 2)​ ที่สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา4,490 บาท
  • Magic Keyboard สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในสีดำและสีขาวในราคา 9,990 บาท ซึ่งมาพร้อมเลย์เอาท์กว่า 30 ภาษา
  • Smart Keyboard Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท
  • Smart Folio สำหรับ iPad Air ใหม่มีวางจำหน่ายในราคา 2,990 บาท โดยมาในสีดำ สีขาว สีส้มอิเล็คทริค สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีมารีนบลู

 

Chaipohn
WRITER: Chaipohn
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line