หากยังจำกันได้ ‘TAG Heuer’ แบรนด์นาฬิกาหรูหราสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์เคยเปิดตัวสมาร์ตวอตช์เรือนแรกในปี 2015 แล้วในปี 2020 นี้ ‘TAG Heuer Connected Smartwatch’ รุ่นที่สามของแบรนด์กำลังจะกลับมาโลดแล่นในแวดวงเครื่องบอกเวลาอีกครั้ง TAG Heuer Connected Smartwatch มาพร้อมเคสแบบใหม่ ระบบซอฟต์แวร์ที่อัปเกรดใหม่ และใช้ชิ้นส่วนประกอบ Modular Design ที่ง่ายต่อการปรับเปลี่ยน แถมหนุ่ม ๆ ยังสามารถจับคู่หน้าปัดกับสายรัดหลากรูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานทั่วไป การออกกำลังกาย หรือแม้แต่การเล่นกีฬาก็ตาม Frédéric Arnault หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์และเจ้าหน้าที่ดิจิทัลของ TAG Heuer กล่าวว่า TAG Heuer Connected Smartwatch ออกแบบจากความหลงใหลและใส่ใจทุกรายละเอียดยิบย่อยเช่นเดียวกับนาฬิกาเชิงกลของแบรนด์ นี่จึงไม่ได้เป็นแค่นาฬิกาหรูหรางดงาม หากเป็นนาฬิกาในยุคดิจิทัลที่สอดรับกับหลากหลายความต้องการของกลุ่มลูกค้า นาฬิกาแต่ละเรือนในคอลเลกชันนี้ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิการะบบกลไกจับเวลาโครโนกราฟรุ่นในตำนานของ TAG Heuer เรียกได้ว่าน่าเชื่อถือทั้งด้านการจับเวลาและความเป็นเลิศของงานดีไซน์เลย ตัวเรือนมีขนาด 45 มิลลิเมตร ใช้แบตเตอรี่ความจุ 430 mAh แถมใต้หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ที่แข็งแรงทนทานและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดี ยังซ่อนหน้าจอสัมผัส OLED
ช่วงที่วิกฤตไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในวงกว้างเฉกเช่นตอนนี้ บอกเลยว่าส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานของเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลาย ๆ บริษัทจึงนำมาตรการ Work Form Home มาปรับใช้ ให้พนักงานสามารถทำงานได้จากที่บ้าน เลี่ยงการเดินทางและพบปะกับผู้คน เพื่อลดโอกาสที่เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายมากกว่าเดิม ต่อให้หนุ่ม ๆ หลายคนจะนิยมแก้ผ้านอนหรือใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินอยู่ในบ้านแบบไม่สนอะไร แต่เมื่อคุณต้องทำงานที่บ้าน ชุดล่อนจ้อนที่ว่านี้อาจไม่เหมาะนัก ยิ่งถ้าต้องประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับหัวหน้า มันคงไม่สุภาพเท่าไร แต่ถ้าจะให้ใส่สูทผูกเนกไทก็คงเป็นทางการเกินไป วันนี้ UNLOCKMEN เลยขอแนะนำไอเทมแฟชั่นใส่สบาย เหมาะแก่การนั่งทำงานที่บ้าน และไอเทมพวกนี้อาจช่วยให้วันทำงานที่อุดอู้น่าเบื่อของคุณสนุกขึ้นกว่าเดิมก็ได้ Les Girls Les Boys อาจมีบางวันที่คุณต้องรีบขุดตัวเองออกจากที่นอนและสลัดความง่วงทิ้งไป เพื่อวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานคนอื่น แต่คุณดันสวมเสื้อนอนเก่า ๆ ที่ไม่สุภาพเท่าไรนัก เราอยากเสนอชุดนอนลายขวาง Les Girls Les Boys ให้เป็นอีกทางเลือก เพราะเชื่อว่าชุดใส่นอนที่ดูดีและเป็นทางการที่สุดคงจะเป็นชุดนอน ชุดนอนชุดนี้ตัดเย็บด้วยผ้า Cotton Satin ทอลายขวางที่มีเนื้อเรียบลื่นมันเงาและมีน้ำหนักเบา นอกจากแถบสีขาวดำเข้มจะช่วยเสริมรูปร่างผู้สวมใส่ ยังมอบความน่าเชื่อถือและเหมาะกับการประชุมมากกว่าเสื้อยืดมอซอตัวโปรดของคุณอย่างแน่นอน Casablanca Sweatpants ชุดที่เหมาะกับการทำงานที่บ้านนอกจากต้องสวมใส่สบายและช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องตัวแล้ว คงจะดีไม่น้อยถ้าไอเทมแฟชั่นที่คุณเลือกช่วยเสริมสไตล์และทำให้คุณโดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น กางเกงขายาวผ้าฝ้าย Casablanca Sweatpants
ไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ต้องพบเจอความวุ่นวายนับไม่ถ้วน เวลาจำนวนจำกัดที่แกมบังคับให้ต้องใช้ชีวิตรีบเร่ง สุขภาพย่ำแย่จากการสูดดมฝุ่นควันบนท้องถนน และความยากลำบากเมื่อต้องแทรกตัวเข้าไปยังรถไฟฟ้าที่มีคนแน่นขนัด ทั้งหมดนี้ทำให้เราเผลอคิดว่า “ชีวิตดี ๆ ที่ลงตัว” วลีนี้ยังคงใช้สื่อความหมายได้อยู่หรือเปล่า เพราะต่อให้คนเมืองจะได้ใช้ประโยชน์จากโครงข่ายการคมนาคมที่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ถ้ายังต้องติดแหง็กบนถนนกับระบบจราจรป่วย ๆ หรือไม่อาจแก้ปัญหาอื่น ๆ ที่คนเมืองเผชิญได้อย่างจริงจัง เมืองหลวงหรือเมืองใหญ่ก็คงไม่ได้น่าอยู่สักเท่าไร ถ้าการใช้ชีวิตในเมืองมันวุ่นวายนัก เราแนะนำให้คุณผละตัวออกมาสักนิดและเขยิบเข้าใกล้ชนบทอีกสักหน่อย ละสายตาจากความแออัดยัดเยียดของป่าคอนกรีต หันไปมองทัศนียภาพหนาทึบของแมกไม้และสัมผัสความสงบสบายที่เมืองใหญ่อาจให้คุณไม่ได้ ‘Woodwork Enthusiast’ เป็นผลงานการออกแบบของสตูดิโอ ZMY Design ที่เปลี่ยนโรงงานปูนซีเมนต์เก่าในตะวันออกเฉียงใต้ของจีนให้กลายเป็นบ้านไม้แสนสงบที่มีดีไซน์เฉพาะตัว บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในเมืองเซี่ยเหมิน (Xiamen) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมณฑลฝูเจี้ยน (Fujian) และสร้างขึ้นเพื่อให้เป็น “Physically Static Place” สถานที่ที่มอบความรู้สึกสงบ คงที่ และเป็นสเปซของธรรมชาติที่ออกแบบแก่ผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง จากอาคารทรงกระบอกที่ถูกทิ้งร้างไว้หลายปีและเต็มไปด้วยชิ้นส่วนสึกหรอ ตอนนี้ถูกรีโนเวตให้เป็นพื้นที่พักอาศัยขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมไลฟ์สไตล์ชีวิตครบครัน ภายในดีไซน์แบบ open plan ไม่ปิดกั้นและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของบ้านเข้าด้วยกัน มีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ระเบียง และดาดฟ้าชมวิวที่ชั้นบน ด้วยคอนเซ็ปต์ที่อยากสร้างบ้านให้สงบและสบาย ทีมนักออกแบบจึงเว้นระยะห่างจากการเชื่อมต่อของโลกภายนอก เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นเพื่อชูความโดดเด่นภายใน เปิดพื้นที่บางส่วนให้แสงและลมลอดผ่านเข้ามา และใช้ประโยชน์จากธรรมชาติทั้งหมดภายในบ้านสร้างความผ่อนคลายแก่ผู้พักอาศัย เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นโรงงานปูนซีเมนต์เก่าและมีความสูงเพียงสองชั้นเท่านั้น
ถ้าพูดถึง ‘เมืองแห่งการออกแบบ’ เชื่อว่านิยามของแต่ละคนคงต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางคนนึกถึงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนีที่เต็มไปด้วยสถาบันออกแบบชื่อก้องโลก บ้างว่ามอนทรีออลของแคนาดานี่แหละที่เป็นตัวเต็ง เพราะนอกจากจะพัฒนาเมืองด้านการออกแบบอย่างจริงจัง ยังมีผลงานเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของเมืองนับไม่ถ้วน แต่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ‘เซินเจิ้น’ เมืองชาวประมงเก่าแก่ของประเทศแดนมังกร เปลี่ยนแปลงและพัฒนาข้ามขั้นจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการออกแบบและนวัตกรรมที่ถูกยอมรับในระดับสากลไปเรียบร้อยแล้ว จากเมืองประมงริมชายฝั่งสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ย้อนไปในอดีตเซินเจิ้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเก่าที่อยู่ตรงข้ามกับฮ่องกงเท่านั้น แต่ในช่วงปี 1980 เมืองนี้กลับถูกเลือกให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกของประเทศจีน จากนโยบายเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจในปี 1978 หลังจากนั้นเซินเจิ้นก็ถูกพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ทันสมัย และกลายเป็นแหล่งการค้าการลงทุนที่สำคัญของจีน นอกจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งแล้ว ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจก็มีอิทธิพลต่อการพัฒนาเมืองนี้ไม่แพ้กัน เมื่อ สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ประกาศมอบสถานะพิเศษให้เซินเจิ้นเป็นพื้นที่ทดลองปฏิรูปเศรษฐกิจและการบริหารจัดการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม นับแต่นั้นเซินเจิ้นก็กลายเป็นหนึ่งในเมืองกลุ่ม Greater Bay Area อันเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไข่มุก เช่นเดียวกับ ฮ่องกง, มาเก๊า, กวางโจว, จูไห่ และอีกหลายเมืองสำคัญ รากฐานความสร้างสรรค์ของเจ้าแห่งการจำลอง ดูเผิน ๆ แล้วเซินเจิ้นแทบไม่มีรากฐานด้านศิลปะหรือการออกแบบเฉกเช่นปารีส มิลาน หรือฟลอเรนซ์ แต่เราเชื่อว่าเซินเจิ้นเองก็คงมีบางสิ่งเป็นเบ้าหลอมให้มุ่งมั่นพัฒนาเมืองไปในทิศทางการออกแบบอย่างแน่วแน่เช่นนี้ ถ้าเปรียบเทียบเรื่องราวของเซินเจิ้นให้เป็นเรื่องใกล้ตัวยิ่งขึ้น คงคล้ายกับเมืองโบราณในจังหวัดสมุทรปราการของบ้านเรา ที่รวบรวมสถานที่สำคัญต่าง
สำหรับผู้ชายอย่างเรา ‘นาฬิกา’ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลาเคลื่อนที่เท่านั้น หากเป็นไอเทมติดข้อมือที่สะท้อนรสนิยมและถ่ายทอดตัวตนของผู้สวมใส่ออกมาได้อย่างลึกซึ้งแทบทุกกระเบียดนิ้ว บริบทของนาฬิกาในปัจจุบันจึงเปลี่ยนแปลงไปและต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง นาฬิกากลายเป็นไอเทมแฟชั่น เป็นของสะสมที่เหล่าคอลเลกเตอร์หลงใหล หรือแม้แต่เป็นสิ่งของที่บอกความภาคภูมิใจและเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ใครอาจยังไม่รู้ แล้วถ้าจะพูดถึงเรือนเวลาที่เดินเข็มบนหน้าปัดประวัติศาสตร์มาหลายช่วงอายุคน คงจะลืมชื่อของ ‘Hamilton (แฮมิลตัน)’ ไปไม่ได้เลย นอกจากได้สมญานามว่าเป็นแบรนด์ชั้นนำผู้สร้างสรรค์นาฬิกานักบิน (Aviator Watch) แล้ว Hamilton ยังเป็นแบรนด์ที่ผลิตนาฬิกาให้กองทัพสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปี 1914 และได้รับเลือกจากกรมไปรษณีย์กลางสหรัฐฯ ให้ใช้บนเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไปยังนครนิวยอร์กในปี 1919 เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ผู้คร่ำหวอดในแวดวงเรือนเวลาอย่างแท้จริง Hamilton เรือนเวลาสุดแกร่งแห่งห้วงประวัติศาสตร์ หากย้อนไปสมัยสงครามโลกที่เทคโนโลยีการทหารยังไม่ได้ก้าวหน้าล้ำสมัยเฉกเช่นปัจจุบัน บวกกับการสื่อสารผ่านวิทยุอาจสุ่มเสี่ยงเกินไป ถูกดักฟัง หรือทำให้แผนการรบรั่วไหลได้ เหล่านักบินในยุคนั้นจึงต้องการนาฬิกาข้อมือที่สามารถบอกเวลาได้อย่างละเอียดแม่นยำ ตั้งแต่เข็มชั่วโมง เข็มนาที และเล็กลงไปถึงหน่วยเข็มวินาที นาฬิกานักบิน หรือ Aviator Watch จึงถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางสมรภูมิรบอันดุเดือด นับเป็นเรือนเวลาที่โดดเด่นด้วยกลไกการเดินเข็มเที่ยงตรงแม่นยำ และเข้ามาตอบสนองทุกความต้องการของกองทัพในตอนนั้น ไม่เพียงช่วยให้ตำแหน่งเป้าหมายชัดเจน การสื่อสารไม่คลาดเคลื่อน และทำให้กลยุทธ์ต่าง ๆ สัมฤทธิ์ผล นาฬิกานักบินยังเป็นตัวแปรสำคัญของสงครามและเปรียบได้กับวินาทีชี้ตายของนักบิน เพราะการบอกเวลาผิดพลาดเพียงวินาทีเดียวสามารถตัดสินได้เลยว่าฝ่ายใดจะได้รับชัยชนะหรือปราชัยในสงครามครั้งนี้ ‘Hamilton Khaki Pilot Pioneer
ถ้าพูดถึงรถมอเตอร์ไซค์เท่ ๆ สักคันที่เหมาะกับผู้ชายสายคลาสสิกอย่างเรา เชื่อว่าแวบแรกหนุ่ม ๆ คงจินตนาการภาพรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ครุยเซอร์ (Cruiser) ที่โดดเด่นด้วยรูปร่างบึกบึน เบาะนั่งโหลดต่ำ และแฮนด์ยกสูง มาคู่กับไบเกอร์สวมกางเกงยีนส์และแจ็คเก็ตหนังสุดเฟี้ยว แต่ในบรรดาค่ายรถมอเตอร์ไซค์หลากสัญชาติบนโลก Indian Motorcycle ถือเป็นค่ายผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์สไตล์ครุยเซอร์ที่น่าจับตามองที่สุดในตอนนี้ แม้จะถ่ายทอดอารมณ์ของมอเตอร์ไซค์คลาสสิกออกมาได้สุดขีดแบบไม่กั๊ก แต่ก็ไม่หลงลืมการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการขับขี่ควบคู่ไปด้วย เมื่อไม่นานมานี้ Indian Motorcycle เพิ่งเปิดตัว ‘Scout Bobber Sixty 2020’ ที่เรียกว่าได้เสียงฮือฮาจากสิงห์นักบิดทั่วโลก เพราะโมเดลรุ่นนี้ถอดแบบโครงสร้างหลักของ Scout Bobber รุ่นพี่มาอย่างไม่มีผิดเพี้ยน ตั้งแต่ชุดเฟรม ระบบเบรก ระบบกันสั่นสะเทือน บังโคลนท้าย หรือแม้แต่ถังน้ำมัน เครื่องยนต์ V-Twin ของ Scout Bobber Sixty 2020 ลดปริมาตรความจุเครื่องยนต์จาก 1200 ให้เหลือ 999 ซีซี และลดขนาดให้เหลือเพียง 60 ลูกบาศก์นิ้วเท่านั้น มาพร้อม 5 เกียร์สปีด ขุมพลังขับเคลื่อนสูงสุด 78
เมื่อปฏิทินวนมาถึงเดือนมีนาคมที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของฤดูร้อนบ้านเรา ถึงคราวที่พระอาทิตย์จะได้แผลงฤทธิ์เดชอย่างเต็มที่และสาดแสงแรงกล้าพุ่งทะยานมายังพื้นโลกแบบไม่เกรงใจใคร จริงอยู่ที่ฤดูร้อนนั้นเป็นเรื่องแสนธรรมดาที่เราต้องเจอกันอยู่ทุกปี แต่ต้องยอมรับว่าสภาพอากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้ มีผลต่ออารมณ์และอาจทำให้ผู้ชายหลายคนกายร้อน ใจร้อน หรือหัวร้อนจนพาลหงุดหงิดกับเรื่องไม่เป็นเรื่องได้อย่างง่าย ๆ หนุ่มบางคนอาจเลือกดับร้อนด้วยการกระโจนลงน้ำ บ้างปรับอุณหภูมิให้ลดต่ำและนอนตากแอร์โดยไม่ก้าวเท้าออกไปไหน แต่สำหรับเราวิธีคลายร้อนที่ง่ายที่สุดคือการหอบเรือนร่างกำยำออกไปหาไอศกรีมเย็น ๆ กินให้ชื่นใจ ยอมโดนความเย็นสุดขั้วจู่โจมจนปวดหัวจี๊ดหลับตาปี๋ ดีกว่าทนร้อนเหงื่อซ่กไปทั่วทั้งตัว จริงไหมครับ? วันร้อน ๆ แบบนี้ UNLOCKMEN เลยขอชวนคุณมาลิ้มชิมเมนูของหวานเพื่อดับกระหายคลายร้อนกันที่ร้าน ‘ถ้วยถังไอติม’ ‘ถ้วยถังไอติม’ ร้านที่เสิร์ฟไอศกรีมแบบจีนคู่กับซาลาเปาไร้ไส้ หัวมุมถนนจุดตัดระหว่างซอยจุฬาลงกรณ์ 12 และถนนบรรทัดทอง เป็นที่ตั้งของ ‘ถ้วยถังไอติม’ ร้านของหวานแนวใหม่ที่เสิร์ฟไอศกรีมหวานเย็นชื่นใจหลากรสชาติคู่กับหมั่นโถว ซาลาเปาไร้ไส้ของจีนที่แทบไม่อยากเชื่อว่ามันจะเข้ากันได้ลงตัว ตัวร้านดีไซน์ออกมาแปลกตาและค่อนไปทางโบราณ ตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกทรงสูง ประตูกระจกขอบหนา และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ภายใน ที่ทำให้เรานึกถึงภาพโรงน้ำชาเก่าฉากหลังของภาพยนตร์จีนสมัยก่อน แปลกที่เมื่อก้าวเข้าไปในร้านกลับรับรู้ถึงความทันสมัยของโคมระย้าที่พุ่งลงมาจากเพดานคล้ายสไตล์ลอฟต์ มีตัวอักษรจีนสีนีออนติดผนังเป็นจุดนำสายตา (และอาจเป็นมุมถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่) ส่วนโซนที่นั่งก็มีให้เลือกทั้งด้านนอกที่เป็นบาร์ไม้ทอดยาว และด้านในที่มีโต๊ะน้อยใหญ่ไว้รองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย เมนูของที่นี่จะแบ่งเป็นสามจานหลัก คือหมั่นโถว พุดดิ้ง และไอศกรีม โดยลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ไอศกรีมรสโปรดกับท็อปปิงหรือหมั่นโถวแต่ละแบบได้ตามชอบ แถมยังมีไอศกรีมรสชาติแปลก ๆ ให้เลือกอีกมากมาย ตั้งแต่ไอศกรีมรสเกาลัด ถั่วตัด นมชมพูถั่วแดง น้ำเต้าหู้งาดำ ไมโลโรงเรียน หรือแม้แต่รสชานมไต้หวันก็ยังมี
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ความสำเร็จ’ เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายการทำงานของผู้ชายหลายคน แล้วถ้าคุณหรือใครอยากประสบความสำเร็จบ้าง วิธีที่ง่ายที่สุดคือเลียนแบบชีวิตการทำงานของคนที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จ แต่หากลองทำตามคำแนะนำของ Warren Buffett, Oprah Winfrey หรือแม้แต่ Bill Gates แล้วยังไม่เวิร์ก วันนี้ UNLOCKMEN มีกิจวัตรง่าย ๆ มานำเสนอ รับประกันว่าถ้าทำได้ ชีวิตการทำงานของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี หรืออาจเข้าใกล้ความสำเร็จในหน้าที่การงานมากขึ้นอีกก้าว อธิบายประเด็นหลักก่อนประชุม การประชุมแต่ละครั้งอาจไม่ใช่แค่ประชุมตามกำหนดการหรือถกเถียงประเด็นกันแบบไม่รู้จักจบสิ้น Jack Dorsey ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Twitter จึงแนะนำให้ส่งประเด็นผ่าน Google-Docs กับผู้เข้าร่วมประชุมก่อนเริ่มประชุมจริง ประมาณ 10 นาที วิธีนี้จะช่วยให้คนในห้องประชุมเห็นภาพเดียวกันและเข้าใจเนื้อหาการประชุมเบื้องต้น แม้จะยังไม่ได้เข้าประชุม ทั้งยังทำให้พวกเขาได้คิดและวิเคราะห์เนื้อหาโดยใช้วิจารณญาณ อาจคอมเมนต์กันผ่าน Google-Docs ได้ทันที เอื้อประโยชน์ให้การประชุมราบรื่น ไม่ยืดเยื้อ และมีประสิทธิภาพสูง เรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ไม่” อีกเรื่องที่เราอยากให้หนุ่ม ๆ ทำกันจนเป็นกิจวัตร คือการเรียนรู้ที่จะพูดคำว่า “ไม่” ในสถานการณ์จำเป็น เพราะบางครั้งคำว่า “ไม่” ไม่ได้แปลว่าคุณเกี่ยงงานหรือไร้ความสามารถเสมอไปหรอกนะครับ งานวิจัยของ
ถ้าพูดถึง ‘เซินเจิ้น (Shenzhen)’ ใครหลายคนคงลำดับภาพสินค้าก๊อบปี้จากหลากแบรนด์ดังทั่วโลกขึ้นมาในหัว แต่คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าในช่วงสิบปีให้หลัง ภาพลักษณ์เก่า ๆ ของเมืองเซินเจิ้นได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เมืองริมฝั่งตรงข้ามเกาะฮ่องกงเมืองนี้ไม่ได้เป็นเมืองแห่งการลอกเลียนเหมือนก่อน หากกลายเป็นเมืองนวัตกรรมและศูนย์กลางการออกแบบของจีนแผ่นดินใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากผลงานดีไซน์เจ๋ง ๆ จาก Shenzhen Design Week สองปีซ้อนที่ทำเอาคนทั่วโลกตกตะลึง เมืองเซินเจิ้นยังมีผลงานสถาปัตยกรรมเท่ ๆ ซุกซ่อนอยู่ตามจุดต่าง ๆ ทั่วเมือง และร้านอาหาร ‘Voisin Organique’ ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานสถาปัตยกรรมภายในที่โดดเด่นไม่น้อยในเมืองนี้ Voisin Organique เป็นร้านอาหารจีนในเขตฟูเทียน (Futian) ที่เน้นเสิร์ฟอาหารจีนดั้งเดิมและจีนร่วมสมัยแบบ farm-to-table โดยมีวัตถุดิบหลักเป็นเนื้อสัตว์ที่ไม่ใช้สารเร่งโต รวมทั้งผักออร์แกนิกที่ไม่ได้ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมหรือใช้ปุ๋ยเคมี ร้านนี้คือหนึ่งในผลงานการออกแบบของ Various Associates สตูดิโอออกแบบในเซินเจิ้นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์หลงทางในหุบเขาอันมืดมิด ทีมนักออกแบบจึงฉาบเพดานขึ้นสลับลงเพื่อเล่นกับความสูงชันต่างระดับ ตั้งใจดีไซน์สเปซออกมาให้คล้ายกับช่องว่างระหว่างหุบเขา โดยหวังว่าความต่างของความสูงจะดึงดูดผู้คนให้แหงนมองขึ้นไป สมทบด้วยแสงไฟสลัวที่สาดยาวลงมาจากด้านบน ราวกับแขกในร้านกำลังรับประทานอาหารจากก้นบึ้งของหุบเขา พื้นผิวภายในร้านตั้งแต่ผนังไปจนถึงฝ้าเพดานถูกเคลือบด้วยกระดาษฟอยล์สีเงินด้าน สร้างบรรยากาศสลัวรางที่ทำให้แขกรู้สึกเหมือนตนกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางสายหมอกที่คลุมเครือ จะชัดก็ไม่ใช่ จะเลือนรางก็ไม่เชิง ภายในร้านแบ่งเป็นโซนเลานจ์ ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวสุดกว้างขวางที่มีขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตร โซนเลานจ์ดีไซน์เป็นบาร์เครื่องดื่มหรูมาคู่กับเก้าอี้สีแดงทรงสูง มีโต๊ะกลมคู่โซฟาสำหรับแขกที่มาเป็นกลุ่ม รวมทั้งโต๊ะไม้กลมติดกับหน้าต่างช่องเล็ก
“ยานัตถุ์หมอมี แก้ฝีแก้หิด ยานัตถุ์หมอชิตแก้หิดแก้ฝี” ประโยคทดสอบการอ่านที่เราพูดเล่นกันมาตั้งแต่เด็กประโยคนี้ คงทำให้ผู้ชายหลายคนพอคุ้นชื่อ “หมอมี” กันอยู่บ้าง แม้ยานัตถุ์จะไม่ได้มีสรรพคุณช่วยแก้หิดหรือแก้ฝี แต่หมอมีที่ปรากฏในประโยคชวนลิ้นพันนี้มีตัวตนอยู่จริง หมอมีคือหมอยาชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาสมุนไพรจีนในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งตอนนี้บ้านเก่าแก่อายุร่วม 125 ปีของเขา ถูกเนรมิตให้กลายเป็นร้านอาหารไทยชาววังที่ซ่อนบาร์ลึกลับเอาไว้ในชั้นใต้ดิน Philtration สปีกอีซี่บาร์ในห้องปรุงยาเก่าของหมอมี ใต้โครงสร้างบ้านไม้สีขาวของร้านอาหารบ้านหมอมี เป็นที่ตั้งของ ‘Philtration’ บาร์ลับในห้องใต้ดินที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของหมอมีและศาสตร์แห่งการปรุงยาของเขา ก้าวแรกที่ผลักประตูไม้เก่าเข้าไปด้านในก็สัมผัสได้ถึงความมืดมิดและแสงไฟสลัวรางที่รอต้อนรับเราบริเวณทางเดินทรงเกือกม้า แต่เมื่อเดินงมไปตามแสงไฟส้มริบหรี่จนสุดทางกลับไม่พบประตูทางเข้าแต่อย่างใด พบเพียงชั้นไม้ปริศนาที่ดูมีเงื่อนงำ เรายืนนิ่งพินิจพิเคราะห์อยู่สักพักและใช้เวลาไม่นานนักก็หาวิธีเข้าไปข้างในได้สำเร็จ ภายในร้านเป็นห้องโถงไม้เก่าแก่ที่ดูลึกลับไม่ต่างจากทางเข้า โดดเด่นด้วยแสงไฟสีเหลืองอมส้มส่องสว่างท่ามกลางความมืด พื้นห้องมีกระเบื้องลายแปลกที่นำเข้าจากอิตาลีเมื่อหลายร้อยปีก่อนทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า บวกกับผนังบางส่วนที่บอกร่องรอยแห่งกาลเวลาได้อย่างดีเยี่ยม ทว่ามีเพดานทรงโค้งแบบสมัยใหม่เข้ามาช่วยรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิม และเสริมกลิ่นอายร่วมสมัยจากเฟอร์นิเจอร์หนังและบาร์ไม้ทอดยาวที่ตั้งตระหง่านกลางร้าน จากตำรายาสมุนไพรสู่สูตรค็อกเทลที่ไม่เหมือนใคร เมนูค็อกเทลของ Philtration ถ่ายทอดตัวตนของหมอยาเลื่องชื่อคนนี้ออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เพราะทางร้านจะเน้นเสิร์ฟ herb cocktails ที่ครีเอตขึ้นจากสมุนไพร เครื่องเทศ และผลไม้เป็นหลัก ปริมาณเหล้าที่ใช้จึงไม่ได้หนักแน่นหัวรุนแรงมากนัก หากสร้างสมดุลให้รสเหล้าและหลากวัตถุดิบอย่างลงตัว เพื่อให้ค็อกเทลแต่ละแก้วคงสรรพคุณทางยาที่เอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพของนักดื่ม เราประเดิมแก้วแรกด้วย ‘Sam Kok’ ค็อกเทลวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลกที่ได้ Saint James Rum เป็นเบส สมทบด้วยบรั่นดีรสเข้ม Giffard Apricot