ในขณะที่น้ำแข็งขั้วโลกเหนือค่อย ๆ ละลาย เมืองไทยบ้านเราเองก็ร้อนดุจนรกขึ้นทุกวัน ช่วงนี้ถ้าหนุ่ม ๆ หลายคนจะบ่นว่าร้อน ๆ ๆ ก็คงไม่แปลกนัก เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นบรรยากาศกำลังเพิ่มขึ้น โดยมีตัวการหลักคือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่จากน้ำมือของมนุษย์ CO2 สะสมในชั้นบรรยากาศและส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจก อันเป็นต้นเหตุของอากาศร้อนที่น่าหงุดหงิด ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้ชีวิตทุกวันของเรา ก็แอบทำลายสภาพแวดล้อมทางอ้อมเหมือนกัน ตั้งแต่การอุปโภคไปจนถึงบริโภค ทำให้มนุษย์เรามีส่วนเอี่ยวที่ทำให้อากาศมันร้อนขึ้นอย่างทุกวันนี้ แม้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ลำบากลำบนต้องออกล่าหาสัตว์ป่าเหมือนในยุคหิน แต่จะดีกว่าไหมถ้าการใช้ชีวิตทั่วไปของเราช่วย safe โลกนี้เอาไว้ได้บ้าง? DO BLACK บัตรเครดิตรักษ์โลกช่วยลดการปล่อย CO2 Doconomy บริษัทผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสัญชาติสวีเดน เปิดตัวบัตรเครดิตของคนยุคใหม่ DO BLACK ที่ติดตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการจับจ่ายใช้สอย หวังจะลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และปลุกเร้าให้หนุ่มสาวนักชอปหันมาให้ความสำคัญกับการรักษ์โลกมากขึ้น บัตรเครดิต DO BLACK ทำจากวัสดุชีวภาพ พิมพ์ด้วย Air Ink หมึกรีไซเคิลที่สร้างจากอนุภาคของมลพิษทางอากาศ มีลักษณะเหมือนกับเขม่าคาร์บอน แต่จะต่างตรงที่ Air
ประเทศอังกฤษไม่ได้โด่งดังแค่วัฒนธรรมการจิบชายามบ่ายและตำนานสยองขวัญของ Jack The Ripper เท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมตัวของศิลปิน ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและการออกแบบอีกด้วย UNLOCKMEN เลยอยากพาหนุ่ม ๆ ออกไปเสพงานอาร์ตที่ London Craft Week 2019 นิทรรศการที่รวบรวมงานคราฟต์เท่ ๆ จากทั่วทุกสารทิศ โดยฝีมือของนักออกแบบ ช่างฝีมือ ตลอดจนครีเอทีฟจากแบรนด์และแกลเลอรีต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 240 แห่งเอาไว้อย่างจุใจ London Craft Week 2019 ในปีนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8-12 พฤษภาคม 2562 นับเป็นปีที่ 5 ของนิทรรศการสุดสร้างสรรค์ภายใต้ฉากหลังของกรุงลอนดอน เนื่องจากเป็นนิทรรศการที่ไม่พึ่งพาทุนสาธารณะ สถานที่จัดแสดงผลงานจึงกระจายตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยทั่วลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ สตูดิโอ หรือพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ Mayfair ถึง Shoreditch และ Greenwich ถึง Hampstead แถมนิทรรศการกว่าครึ่งยังเข้าร่วมได้ฟรีและไม่ต้องจองล่วงหน้าอีกด้วย วันนี้ UNLOCKMEN เลยรวมงานคราฟต์เจ๋ง
หลังจากนั่งทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน เชื่อว่าหนุ่ม ๆ คงอยากหาเวลาผ่อนคลายหรือหากิจกรรมที่ทำแล้วมีความสุขเพื่อสลัดความเหนื่อยล้าให้หายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อไม่กี่ปีมานี้เราอาจเคยได้ยินได้ฟังปรัชญาอิคิไก (Ikigai) อันโด่งดังของดินแดนปลาดิบซึ่งเป็นปรัชญาที่ว่าด้วยเรื่องการค้นหาความหมายของชีวิตกันมาบ้าง แต่วันนี้ UNLOCKMEN จะพาหนุ่ม ๆ ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเดนมาร์ก ประเทศเล็ก ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาวเหน็บและเปียกปอน พร้อมเรียนรู้ปรัชญาความสุขตามแบบฉบับเดนิชที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับคนที่นี่ แม้ในวันที่ถูกปกคลุมด้วยความหนาวเย็นก็ตาม เดนมาร์กไม่ได้มีดีแค่โคนมและไวกิ้ง ถ้าพูดถึงเดนมาร์กหลายคนคงนึกถึงต้นกำเนิดโคนมสายพันธุ์ดี ไม่ก็ชนเผ่าไวกิ้ง บรรพบุรุษนักรบเรือมังกร ผู้ถูกขนานนามว่าแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนั้นเดนมาร์กยังถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกลำดับที่ 2 จากรายงาน The World Happiness ปี 2019 ของ UN โดยนำเอาอายุขัยของประชากร อิสรภาพ การทุจริต ตลอดจนค่า GDP เป็นตัวติดสิน ซึ่งอีกหนึ่งเคล็ดลับความสุขของชาวเดนิช คือการนำหลักปรัชญา ‘Hygge’ ที่มองหาความสุขเล็ก ๆ รอบตัว มาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของพวกเขา ‘Hygge’ ปรัชญาความสุขจากการมองสิ่งเล็ก ๆ แม้ Hygge (ฮุกกะ) จะมาจากภาษานอร์เวย์ที่แปลว่า “ความเป็นอยู่ที่ดี” แต่คำนิยามของมันก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว เป็นคำที่ไม่สามารถแปลความหมายแบบเฉพาะเจาะจงได้
สภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบันนั้นแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ดิจิทัลเอเจนซี่และสตาร์ตอัพค่อย ๆ ก้าวขึ้นบันไดความสำเร็จไปทีละขั้น ในขณะที่มีบริษัทใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดก็ทำเอาโฮมออฟฟิศทวีความนิยมเพิ่มขึ้นตามมา ยิ่งไปกว่านั้นหลากหลายบริษัทเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับออฟฟิศแบบเปิดโล่งโดยหวังจะสร้างความสัมพันธ์อันดีให้กับพนักงาน เติมรสชาติความสนิทสนมและนำไปสู่บรรยากาศการทำงานที่ราบรื่น แต่ในความเป็นจริงแล้วออฟฟิศแบบโล่ง ๆ มันดีจริงเหรอ? ถ้าเราจะบอกว่าออฟฟิศแบบเปิดโล่งก็ส่งผลเสียไม่น้อยต่อคนทำงานอย่างเรา ๆ ล่ะ? ออฟฟิศเปิดโล่งไม่ได้ดีเสมอไป จริงอยู่ที่การทำงานในออฟฟิศเปิดโล่งทำให้เราได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ระดมความคิด และช่วยลดความเคร่งเครียดในการทำงาน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าใครหลายคนก็ต้องการใช้สมาธิเหมือนกัน บ่อยครั้งที่จะจดจ่ออยู่กับงาน ก็มักจะมีอะไรมาคอยกวนใจอยู่เสมอ มีงานวิจัยเผยว่าพนักงานต้องเสียเวลากว่า 28% จากการหยุดชะงักและถูกรบกวนในขณะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหัวเราะ เสียงเอะอะโวยวาย หรือแม้แต่เสียงของเพื่อนข้าง ๆ ที่ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ไม่เพียงแต่จะลิดรอนความกระตือรือร้นในการทำงาน แต่ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย Dorota Węziak-Białowolska, Zhao Dong และ Eileen McNeely 3 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสำรวจพนักงาน 456 คน ที่ทำงานในบริษัทสถาปัตยกรรม 20 แห่งของสหรัฐฯ แล้วได้ข้อสรุปว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบทำงานในออฟฟิศแบบเปิดโล่ง เพราะขาดความเป็นส่วนตัว เหมือนถูกจำกัดความคิดสร้างสรรค์ มิหนำซ้ำเสียงจากการพูดคุยก็ยิ่งทำให้รู้สึกประสาทเสียและทำให้ความสามารถในการทำงานถดถอย จะเป็นอย่างไร ถ้าในออฟฟิศมีพื้นที่ส่วนตัว Foster + Partners บริษัทชั้นนำด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการออกแบบสถาปัตยกรรม