ผู้ชายกับรถดูจะเป็นของคู่กันมาตลอดโดยเฉพาะในแง่ของการใช้งานขับขี่ แต่ถ้าจะพูดถึงการบำรุงรักษาก็อาจจะมีเขินกันบ้าง เราเชื่อว่ามีบางท่านอาจจะยังไม่รู้วิธีหรือยังไม่เคยแก้ไขปัญหาของรถคู่ใจด้วยเอง อันนี้ทีมงาน UNLOCKMEN ไม่ได้มีเจตนามาแซวกันนะครับ เราเข้าใจว่าด้วยภาระหน้าที่หลายอย่างที่ผู้ชายอย่างเราต้องลุยในแต่ละวัน อาจทำให้ไม่สามารถโฟกัสกับการดูแลยานพาหนะส่วนตัวได้ จึงต้องมอบภาระนี้ให้กับอู่หรือศูนย์บริการเป็นผู้ช่วยดูแลรถของเรา ซึ่งมันก็ดูจะเป็นทางออกที่ลงตัว แต่ถ้าสมมุติเกิดกรณีคับขันขึ้นมา การมี skill ติดตัวไว้บ้างก็จะช่วยเราได้เยอะ แถมยังเอาไว้ช่วยเหลือผู้อื่นได้ด้วย หนนี้เรามีวิธีการแก้ปัญหาสุดคลาสสิคนั่นก็คือ “การเปลี่ยนล้อ” มาฝากกัน สำหรับบางท่านที่อาจยังไม่รู้หรือไม่เคยจริง ๆ อันนี้เราถามมาจากช่างผู้ที่ชำนาญ รับรองว่านำมาประยุกต์ใช้ได้ง่าย ๆ จะได้ไม่อายเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ต้องลงมือเอง ที่อยากนำเรื่องการเปลี่ยนล้อมาพูดถึงก่อนก็เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลที่ใครหลายคนต้องเดินทาง แม้ว่าเราจะเช็กสภาพรถ สภาพยาง สภาพเราดีแล้ว แต่ก็อย่าประมาท เกิดไปเหยียบตะปูหรืออะไรคม ๆ เข้า ไม่ก็ดันไปจอดไว้สักที่แล้วเจอเจ้าถิ่นหยอกแรงปล่อยลมยางขึ้นมา อันนี้ก็ต้องแก้ปัญหากันไป แต่อย่ากังวล แค่ทำตามวิธีนี้ก็สามารถอยู่รอดบนถนนได้สบาย ๆ เตรียมพร้อมเสมอ ก่อนขับรถออกเดินทางทุกครั้งควรเช็กว่ารถเรามียางอะไหล่พร้อมอุปกรณ์เปลี่ยนยางที่พร้อมใช้มั้ย ส่วนใหญ่แล้วยางอะไหล่ก็จะถูกติดตั้งไว้ใต้ท้องรถด้านหลัง อย่าลืมตรวจสอบว่าลมยางอะไหล่ของเราโอเคหรือยังถ้าเกิดต้องนำมาใช้จริง ส่วนอุปกรณ์ที่ติดกับรถมาตั้งแต่แรกก็จะมีแม่แรงประจำรถ, ประแจถอดล้ออะไหล่ และ บล็อกถอดน็อตล้อ ถ้าทุกอย่างพร้อม ก็ลุยเลย เมื่อความซวยมาเยือน เราว่าทริปนี้มันต้องดีแน่ ๆ แต่บางครั้งโชคอาจไม่เข้าข้างเสมอไป เอาแล้วไง ทำไมมันแปลก ๆ
“ผมตื่นเช้ายิ้มรับโลกที่แสนสงบสุข เรียกแท็กซี่ออกไปทำงานในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนแบบชิล ๆ ทุกคันยินดีรับไปส่งทุกที่แบบไม่มีข้อแม้ ถนนหนทางในกรุงเทพฯ ก็ช่างโล่ง ทุกคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ทุก ๆ วันของผมเป็นวันที่ดี ชีวิตนี้ผมมีความสุขทุกนาที” ใช่ครับ ผมกำลังโกหกคุณอยู่ ทำไมคนเราถึงชอบโกหกกันนัก ? เรื่องนี้นักจิตวิทยาให้คำตอบไว้ว่า เรามักจะเผลอโกหกเพื่อให้คนที่เจอกันครั้งแรกประทับใจ บ้างก็ไม่อยากให้คนอื่นเจ็บปวด อยากยุติปัญหา หรือพยายามปรุงแต่งคุณค่าของตัวเองเพื่อเข้าสังคม ส่วนที่หนักที่สุดก็คือการโกหกแบบไม่มีเหตุผล เรียกว่าติดเป็นนิสัยไปเลย ถ้าโลกนี้มีแต่ความซื่อสัตย์ก็จะโคตรดี โชคร้ายที่โลกของความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น อ่าว แล้วเราจะดูออกได้อย่างไรว่าคนข้างหน้ากำลังโกหกเราอยู่หรือเปล่า อย่ากังวลครับ ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีอ่านความจริง–เท็จจากภาษากายเบื้องต้นจากนักจิตวิทยาฝากกัน โดยจากผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า ท่าทางเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ เราไม่ได้บอกให้มองโลกในแง่ร้ายนะ แต่อยากให้เตรียมพร้อมรับมือจอมโกหกที่เราอาจเจอในชีวิตประจำวัน Step 1: ดูท่าทีที่มือก่อน ถ้าคนที่คุยคุยด้วยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง มีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังคิดไม่ซื่อกับคุณ ไม่ก็กำลังเจ็บปวด เศร้าใจ วิตกกังวล อันนี้ต้องดูดี ๆ ว่าควรจะเผื่อใจระวังหรือควรถามสารทุกข์สุขดิบมากกว่ากัน แต่ถ้ามือไม้เขาดูเป็นธรรมชาติ ปล่อยมือแบออกสบาย ๆ ก็พอจะเบาใจได้ว่าคนตรงหน้าไม่น่าจะโกหกกัน ในทางกลับกัน หากคู่สนทนากำหมัดคุยกับเราก็อาจตีความได้ว่าเขากำลังจะพูดปด มีความทุกข์
ว่าด้วยเรื่องของการโพสท่าถ่ายรูปสำหรับผู้ชาย มันดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ๆ แต่ก็ตายน้ำตื้นกันมาเยอะพอสมควร สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับความมั่นใจที่ว่ารูปที่ออกมาน่าจะใช่ สุดท้ายอย่างเซ็ง แทบไม่กล้าโพสต์รูปนั้นบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก หรือเอาไปใช้งานอย่างอื่นเลย ไม่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องโพสท่าอย่างไรเวลาที่คนอื่นต้องการถ่ายภาพเราโดยที่เราไม่มีโอกาสได้เช็กว่ารูปนั้นออกมาเป็นอย่างไร ทีมงาน UNLOCKMEN เห็นว่าเรื่องการโพสท่าเพื่อให้รูปถ่ายออกมาดูที่สุดถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ผู้ชายอย่างเรา ๆ ควรจะรู้วิธีการเอาไว้ จะได้รู้สึกสบายใจทุกครั้งหลังจากถูกลั่นชัตเตอร์ใส่ โดยวิธีการเหล่านี้เราได้คำแนะนำมาจาก คุณมุก-วรินทร์ธร บุรธัชวัฒนสิริ ช่างภาพสาวของเรา รับรองว่าคำแนะนำเหล่านี้มาจากมุมมองของมืออาชีพ และในฐานะที่เป็นผู้หญิงที่ให้ความเห็นเรื่องการโพสท่าของผู้ชาย *วิธีการที่เราแนะนำไม่ได้เป็นวิธีการที่ถูกต้องที่สุด แต่เป็นวิธีการสำหรับท่านที่ยังสงสัยอยู่สามารถนำไปปฏิบัติตามได้ง่าย โดยที่ไม่ต้องเหนื่อยกับการจัดท่าตัวเองมากเกินไปจนไม่เป็นธรรมชาติ BEFORE นี่คือตัวอย่างการถ่ายภาพ Portrait ที่ทีมงานของเราแอคเต็มที่ กะว่าต้องออกมาหล่อแน่ ๆ ทั้ง “แกล้งเผลอ” , “จิกตา” และ “ก้มหน้า” กะว่าเท่ ทว่าภาพมันฟ้องว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้น ภาพซ้าย ทีมงานของเราพยายามจะแกล้งเผลอ แต่กลับกลายเป็นเอ๋อ (ฮา) กลายเป็นการเล่นหน้าเล่นตามากเกินไป ทำให้ภาพออกมาเหมือนคนที่โดนชั่นชัตเตอร์ตอนยังไม่พร้อม ภาพกลาง อันนี้เป็นอีกตัวอย่างของความมั่นใจเกินเหตุไปหน่อย (ฮา) ชายหนุ่มคนนี้พยายามจิกตา กะว่าดูเซ็กซี่ดึงดูดใจสาว ๆ แน่ ๆ แต่ก็อย่างที่เห็น มันไม่ได้เป็นแบบนั้น ไร้คำบรรยายจริง ๆ
การใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทุ่มเททำงานและ hang out แต่ในเมืองซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันก็คงจะเบื่อ แบบนี้คงถึงเวลาลุยกันแล้ว หยิบ backpack ใบเก่ง ยัดของเข้าใส่เข้าไป เตรียมตัวเตรียมใจออกทริปแบบ backpacker กันดีกว่า ทว่าแค่ใจกับแผนเที่ยวที่วางไว้ก็คงยังไม่พอ จะให้มันส์สุดร่างกายก็ต้องพร้อมสุด ๆ เช่นกัน การเตรียมความแกร่งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ชายอย่างเรา สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ออกกำลังกายเป็นประจำอยู่แล้ว หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ถ้าวางแผนจะออกทริปแบบขาลุยที่ต้องสะพายเป้เดินเท้าเป็นหลัก เราอยากให้โฟกัสกับการออกกำลังกายที่จะช่วยให้คุณมีพลังในการแบกสิ่งของต่าง ๆ เดินทางไกล รวมถึงช่วยป้องกันการบาดเจ็บด้วย ซึ่งการ workout ที่ว่านี้มุ่งเป้าไปที่กล้ามเนื้อแขน ไหล่ บ่า และช่วงบนของร่างกาย ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของหัวเข่าคุณได้ถึง 25% เพียงแค่ฝึก 4 ท่าทางนี้ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ก่อนจะออกทริป 2 เดือน รับรองว่าคุณจะกลายเป็น backpacker ที่โคตรพลิ้ว Plank Push Ups ฝึก 8 ครั้ง (2 ข้างนับ 1) /
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาสำหรับชาวเอเชีย 18th Asian Games Jakarta Palembang 2018 หรือ กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา และเมืองปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย ที่แข่งขันกันไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม – 2 กันยายนที่ผ่านมา ทีมงาน UNLOCKMEN ขอแสดงความชื่นชม และให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย ที่สามารถช่วยกันคว้ามาได้ 11 เหรียญทอง 16 เหรียญเงิน 46 เหรียญทองแดง จบที่อันดับ 12 ของตารางเหรียญรางวัลรวม นอกจากผลงานของนักกีฬาไทยแล้ว ในเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุดนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดีของชาวเอเชียด้วยกันก็คือ มีการทำลายสถิติโลกถึง 5 รายการ และทาบสถิติโลกอีก 1 รายการ โดยทีมยิงธนูจากเกาหลีใต้สามารถทำลายสถิติโลกได้ 2 อีเวนต์ ส่วนนักยิงเป้าบินทีมชาติไต้หวันก็สามารถทำลายสถิติโลกในประเภท Trap ทีมผสม ขณะที่ Yang K. จากไต้หวันก็ยิงได้ทาบสถิติโลกที่ 48 คะแนนในรอบชิงชนะเลิศ ประเภท Trap ชายเดี่ยว ด้าน
ในชีวิตผู้ชายอย่างเรา ๆ นอกจากครอบครัว มิตรสหาย และคนข้างกายแล้ว สิ่งที่เป็นของคู่กายที่สุดแสนจะหวงแหนนั้นก็คือรถยนต์ ยานพาหนะคู่ใจที่พาเราไปได้ในทุกที่ ยิ่งร่วมทางกันตลอดแบบนี้ก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงรักษาทุกจุด รวมถึงทำให้รถคันโปรดของเราหล่อสุด ๆ หากไก่งามเพราะขน คนหล่อเพราะแต่ง รถคันแรงของเราก็เท่ขึ้นได้เหมือนกัน นอกจากการโมดิฟายด์ให้ได้สมรรถนะที่ต้องการ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก โดยเฉพาะสีรถก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยสร้างสีสันให้กับการขับขี่ เปลี่ยนบรรยากาศการเดินทางไม่ให้ซ้ำซากจำเจ สร้างความ unique ให้กับรถคันโปรด และบ่งบอกสไตล์ของเราได้ ซึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหนุ่ม ๆ ที่ชอบสร้างสรรค์ความเท่ในเรื่องของสีสันให้กับรถคันโปรดก็คือการแร๊ป (Wrap) อันที่จริงข้อดีของการทำ “car wrap” หรือ การติดสติกเกอร์หุ้มรถยนต์นั้นมีอยู่หลายอย่างที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อย่างเรา ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความแตกต่าง บ่งบอกสไตล์ของตัวเรา ด้วยสีสันที่การทำสีรถปกติไม่สามารถทำได้ หรือถ้าจะทำลวดลายก็แค่ปริ๊นท์อิงค์เจ็ทลงบนฟิล์ม หรือไดคัทก็ได้ เวลาในการติดตั้งก็น้อยกว่าการทำสีค่อนข้างมาก ใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็เท่ได้ตามต้องการ แถมยังช่วยห่อหุ้มปกป้องสีรถจากทั้งรังสียูวี สะเก็ดหิน และรอยขีดข่วนได้ พอถึงเวลาอยากจะเปลี่ยนฟีลก็สามารถลอกออกได้ง่ายโดยสีรถเดิมยังคงอยู่ ทำให้มีประโยชน์ทางอ้อมก็คือมีราคาขายต่อที่ดีกว่าการเปลี่ยนสีรถจริง สำหรับขั้นตอนของการ car wrap นั้น เริ่มจากการเลือกสีสันที่โดนใจ เห็นแล้วใช่เลย จากนั้นก็หาตัวแทนติดตั้งที่น่าเชื่อถือและเชื่อมือได้ มีความปลอดภัย มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย
เมื่อมนุษย์ยังต้องการความสุข เสียงเพลงจึงยังมีที่ยืนเสมอ การขับเคี่ยวกันในอุตสาหกรรมดนตรีจึงยังคงเข้มข้นทั้งค่ายเล็กกลางใหญ่ ไม่ว่า Label ไหนก็ยังคงสร้างสรรค์งานกันออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่แปรเปลี่ยน และถ้าจะให้พูดถึงหนึ่งในค่ายเพลงที่มีผลงานโดดเด่นและหลากหลายในชั่วโมงนี้ ชื่อของ What The Duck ก็น่าจะผุดขึ้นมาเป็นรายแรก ๆ What The Duck ? What The Duck ค่ายเพลงชื่อมันส์ ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านอารีย์ มีบรรยากาศในการทำงานที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์และไลฟ์สไตล์ของศิลปินและทีมงานสุด ๆ เหมือนเป็นคาเฟ่เท่ ๆ ไม่ก็ co-working space คูล ๆ ที่ใครเห็นก็อยากจะมาอยู่ จากค่ายเพลงอินดี้เมื่อ 4-5 ปีก่อน ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งค่ายสเกลขนาดกลางที่มีศิลปินอยู่ในสังกัดทั้งหมด 18 เบอร์ (ข้อมูล ณ เดือน สิงหาคม 2561) หลายเบอร์ก็เป็นศิลปินที่หลายคนชื่นชอบ ไล่มาตั้งแต่ สิงโต นำโชค, ชาติ-สุชาติ, MUSKETEERS, เป้-อารักษ์, แป้งโกะ, Ten To
“เมื่อชีวิตมันดูเหมือนจะมีแต่เรื่องยุ่ง การจะเข้ายิมแต่ละทีมันช่างดูยาก สมัครสมาชิกรายปีไว้ก็แทบไม่ค่อยได้ใช้ กว่าจะเลิกงานก็ไร้พลังงานแล้ว ขอรีแลกซ์ก่อนนอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยฟิตก็ได้” เชื่อว่าชีวิตของหนุ่ม ๆ หลายคนเป็นแบบนี้ ที่จริงก็ไม่ได้ตั้งใจจะขี้เกียจหรอก แต่ไลฟ์สไตล์มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว ทำงานหนัก กิจกรรมอื่น ๆ เยอะ ขนาดไม่ได้ออกกำลังกายยังเหนื่อยขนาดนี้ ขอกลับไปพักผ่อนให้สบายดีกว่า (ฟังขึ้นเหมือนกันนะ) แต่พอเวลามันล่วงเลยก็พบว่าร่างกายเรามันโรยรา โหยหาพลังที่จะเอามาใช้ชีวิต แบบนี้ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อความฟิตแล้ว เอาเข้าจริงโปรแกรม workout ที่ใช้เวลาน้อย ๆ แถมไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรยกเว้นร่างกายของเรานั้นมีให้เราเสิร์ชหาดูมากมาย ซึ่งมันตอบโจทย์คนที่ไม่ค่อยมีเวลาไปยิมได้ดี แต่ที่เราจะนำมาแชร์กันในตอนนี้เป็นโปรแกรม workout แบบใช้ตัวเราเข้าแลกความฟิตล้วน ๆ ภายในเวลาประมาณ 20 นาที ทำได้ทุกที่ทุกวัน ที่สำคัญเป็นโปรแกรมที่ Luke Zocchi ผู้ทำหน้าที่เทรนเนอร์ส่วนตัวของ Chris Hemsworth ดาราฮอลลีวูดมาดเท่เจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Thor แนะนำมา ซึ่ง Luke บอกไว้ว่า “โปรแกรมนี้คุณจะได้ออกกำลังกายทุกส่วนตั้งแต่ช่วงขาถึงช่วงแกนลำตัว รวมถึงแขนและไหล่ด้วย ถ้าคุณเป็นคนไม่มีเวลา นี่คือโปรแกรมที่เพอร์เฟคต์สำหรับเล่นก่อนหรือหลังเลิกงานก็ได้ บอกลายิมไปได้เลย!” ใช้เวลาเท่าไหร่ ? โปรแกรมนี้ใช้เวลาฝึกทั้งหมดแค่ 20 นาที แต่ละท่าใช้เวลาประมาณ 1 นาทีในการเล่น
“ดนตรี” คือหนึ่งในศิลปะแขนงหนึ่งที่เราเสพด้วยหู ก่อให้เกิดทั้งความสุนทรี ความรู้สึกนึกคิด สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์เราได้ในชั่วขณะ และก้องในหัวเราแม้อยู่ในความเงียบงัน มันคือสื่อที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยไอเดีย ทักษะ เทคโนโลยี และภาษาที่สื่อความหมายที่ร้อยเรียงกับการเรียบเรียงดนตรีอย่างลงตัว ที่สำคัญการสร้างงานเพลงคุณภาพนั้นต้องใช้บุคลากรที่เชี่ยวชาญทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ในอุตสาหกรรมดนตรีนั้น นอกจากตัวศิลปินผู้อยู่เบื้องหน้า ยังมีตำแหน่งหนึ่งซึ่งสำคัญมาก ๆ และมีบทบาทที่หลากหลาย ทั้งควบคุมทุกขั้นตอนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการทำงานเพลง ควบคุมการบันทึกเสียง ไกด์แนวทางให้กับศิลปิน วางแผนและจัดการการผลิตทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายและทรัพยากร จนถึงการ mix down และ mastering ต่อไป หรือแม้กระทั่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตกันเลยทีเดียว ทีมงาน UNLOCKMEN ได้มีโอกาสพูดคุยกับโปรดิวเซอร์มือดี นักดนตรีและศิลปินวงดัง อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีชั่วโมงบินในอุตสาหกรรมดนตรีทั้งในและนอกกระแสมามากมาย “บอล-อพาร์ตเมนต์คุณป้า” กันต์ รุจิณรงค์ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของการทำหน้าที่ผู้ควบคุมการผลิตงานเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัว หลายคนรู้จักเขาในฐานะมือกีตาร์ของหนึ่งในวงที่มีเอกลักษณ์ที่สุดในไทยอย่าง อพาร์ตเมนต์คุณป้า แต่ที่จริงแล้วเขายังเป็นโปรดิวเซอร์แถวหน้าคนหนึ่งในบ้านเราอีกด้วย ได้ร่วมงานกับศิลปินเจ๋ง ๆ ทั้ง อะตอม-ชนกันต์, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, หมู-Muzu, ป๊อป-ปองกูล นอกจากนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างทำงานกับวง Playground และ โอ๊ต-ปราโมทย์ อีกด้วย Ball’s Identity โอ๊ต-ปราโมทย์
“หลังจากประสบความสำเร็จ เราจะฉลองก่อน จากนั้นค่อยไปต่อ” ใครสักคนกล่าวไว้ เวลาที่เรามุ่งมั่นทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จขึ้นมา ความรู้สึกในโมเมนต์นั้นมันช่างเต็มไปด้วยความสุข และความภาคภูมิใจที่ใคร ๆ ก็ไม่สามารถแย่งพลังงานบวกนี้ไปได้ และเพื่อตอกย้ำความหอมหวลของความสำเร็จนี้ ก็คงต้องให้รางวัลตัวเองกันหน่อย โดย David DeSteno, PhD นักจิตวิทยา และผู้เขียน Emotional Success: The Power of Gratitude, Compassion and Pride ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์และความสำเร็จจนพบว่า ความรู้สึกต่าง ๆ เช่น ความภาคภูมิใจ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในการมุ่งสู่ความสำเร็จที่มากกว่าในอนาคต การให้รางวัลกับตัวเองของผู้ชายอย่างเรา ๆ มีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นฉลองให้สะใจ, ซื้อเสื้อผ้ารองเท้าใหม่มาเสริมหล่อ, สักลายใหม่เท่ ๆ , เป็นเจ้าของ gadget ที่อยากได้, ออกไปเที่ยวทริปในฝันให้สุดมันส์ หรือลงทุนเพื่อวันข้างหน้า ซึ่งอสังหาริมทรัพย์เองก็น่าสนใจสำหรับนักลงทุน และผู้ที่อยากให้รางวัลกับตัวเองเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ชายคนเมือง ถ้าพูดถึงการให้รางวัลกับตัวเองเป็นที่อยู่อาศัย อะไรมันจะดีไปกว่ารางวัลแห่งความสำเร็จที่ทำให้เรารู้สึกพักผ่อนได้อย่างสงบภายในความหรูหราเหนือระดับท่ามกลางแห่งสีสันใจกลางเเมืองที่รายล้อมอยู่ ราวกับเป็นการหนีห่างจากชีวิตคนเมืองมาสู่ที่ที่จะช่วยให้จิตวิญญาณของเราได้พักผ่อน ที่ที่เราสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมาได้เต็มที่ จาก insight ของคนเมืองที่ว่านี้ ทาง SINGHA ESTATE ผู้นำทางด้านอสังหาริมทรัพย์