ว่ากันเรื่องผู้ชายกับยานพาหนะ ย่อมมีความหมายมากกว่าแค่ผู้ขับขี่และรถคันหนึ่ง นอกจากสมรรถนะอันยอดเยี่ยมที่ทำให้เราประทับใจแล้ว เรื่องราวต่าง ๆ ของรถคู่ใจยังเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราหลงใหล เป็นความหมายที่ช่วยผลักดันให้ทำสิ่งที่เปี่ยมไปด้วย Passion ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นได้ จากการวิจัยพบว่า สาเหตุที่ผู้ชายอาจหลงใหลในยนตรกรรมมาก ๆ ก็เพราะว่าเสน่ห์ของการออกแบบที่อยู่ถาวร ความรู้สึกอิสระในเวลาที่ได้ควบคุมพวกมาลัยและคันเร่งที่จะพาเราไปทุกที่ การอยากจะดูแลยานพาหนะสักคันตามสัญชาติของหนุ่ม ๆ มันสามารถบ่งบอกตัวตนของเราได้ จึ่งไม่แปลกที่ผู้ชายจะรู้สึกว่ารถคันโปรดของเขาคือส่วนหนึ่งในชีวิต ราวกับมิตรสหายที่โตมาด้วยกัน และถ้าพูดถึงยนตรกรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วย Story, Passion และ Feeling นั้น ชื่อแรก ๆ ที่โผล่ขึ้นมาในใจก็คือ BMW ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีที่ผู้คนทั่วโลกต่างยอมรับทั้งชื่อเสียง สมรรถนะ เทคโนโลยี ความสวยงาม และเรื่องราวระดับตำนานมาถึง 100 ปี ซึ่งความคล้องจองระหว่าง insight และตัวแบรนด์ใบพัดฟ้า-ขาว ทำให้ BMW ผุดไอเดียแคมเปญ #BMWStories ที่เกิดจากความเชื่อที่ว่า “เรื่องราวของทุกคน สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นได้” โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถ BMW ในประเทศไทยได้บอกเล่าเรื่องราว, passion และความประทับใจของรถคันโปรด และแบ่งปันแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น จากแคมเปญ #BMWStories ทำให้เราได้รับแรงบันดาลใจจากผู้คนที่มาถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเองกับรถ BMW คู่ใจ ซึ่งแต่ละคนก็จะมี passion ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งรถ, นักเดินทาง
ช่วงหยุดยาวแบบนี้ อีกหนึ่งกิจกรรมที่หนุ่ม ๆ สายแอดเวนเจอร์อย่างเรามักจะทำคือการออก road trip ขับรถตะลอนทัวร์กับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือไม่ก็คนเดียวเปลี่ยว ๆ ซึ่งสิ่งที่จะสร้างความบันเทิงในการเดินทางได้ดีก็คือเพลงเยี่ยม ๆ ที่ทำหน้าที่มอบความมันส์ระหว่างทาง และช่วยให้เราไม่ง่วงง่าย ๆ ลดอัตราเสี่ยงอันตรายจากการขับรถทางไกลได้พอสมควร นักวิทยาศาสตร์บอกไว้ว่า เพลงที่จะเหมาะกับการนำมาฟังขณะขับรถทางไกลนั้นควรจะมีเมโลดี้ที่ติดหู มีริฟฟ์กีตาร์มันส์ ๆ ไลน์กลองหนักแน่นกระทุ้งอารมณ์ ทำให้ร่างกายของคุณหลั่งอะดรีนาลีนออกมาให้รู้สึกตื่นตัวตลอดทางหลังจากสตาร์ทเครื่อง ด้วยเหตุนี้ UNLOCKMEN จึงขอนำเพลงที่เราคิดว่าเหมาะกับ road trip เป็นอย่างยิ่งมาให้ฟังกัน โดยเพลงเหล่านี้พิสูจน์ตัวเองมาหลายกิโลฯ หลายปีแล้ว และก็ยังคงอยู่ในใจของคนที่ทำหน้าที่คุมพวงมาลัยประจำทริปตลอดมา Home – Edward Sharpe and the Magnetic Zeros แม้ว่า Home จะเป็นเพลงรัก แต่ก็มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกลับบ้านสมชื่อ เหมาะกับเอาไว้ฟังขณะเดินทางสู่บ้านเกิด ด้วย upbeat ฟังสนุกในท่อน verse บวกกับท่อน hook ติดหู ทำให้เราคิดไปก่อนแล้วว่าถึงบ้าน Don’t
ทุกครั้งเวลาที่มีนักฟุตบอลย้ายสโมสร หนึ่งในขั้นตอนที่ต้องทำก็คือการตรวจร่างกาย และผลตรวจของแข้งชายสุดแกร่งอย่าง Cristiano Ronaldo ก็แสดงใ้ห้เห็นว่า แม้เขาจะอายุ 33 ปีที่ว่ากันว่าเลยจุดพีกของนักเตะมาแล้ว แต่ตัวเลขที่ออกมากลับโชว์ว่าเขายังคงแข็งแรงกว่าเพื่อนร่วมอาชีพอีกหลายคน ตัวเลขที่น่าทึ่งจากผลการตรวจร่างกายของ CR7 ในการย้ายมาค้าแข้งกับทีม Juventus ในอิตาลี ไล่มาตั้งแต่อายุร่างกาย (Body age) ที่เท่ากับคนอายุ 20 ปี มีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (Body fat) 7% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของนักเตะอาชีพที่เล่นในระดับเดียวกันอยู่ที่ 10-11% และมีมวลกล้ามเนื้อ (Muscle mass) 50% ส่วนค่าเฉลี่ยของแข้งอาชีพรายอื่นนั้นอยู่ที่ราว ๆ 46% ไม่ใช่แค่สภาพร่างกายที่ยังยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่กองหน้ากัปตันทีมชาติโปรตุเกสยังทำสถิติวิ่งเร็วที่สุดในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ด้วยความเร็วสูงสุด 33.98 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย แม้จะไม่สามารถช่วยทีมฝอยทองคว้าแชมป์โลกได้ก็ตาม นอกจากนี้ ตัวเลขล่าสุดชุดนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความฟิตที่มากขึ้นของ CR7 โดยก่อนที่เขาจะย้ายมาร่วมทัพทีมม้าลาย สต๊าฟโค้ชของ Real Madrid ต้นสังกัดเก่าของเขาวัดค่าอายุร่างกายของ Ronaldo ได้ 23 ปี
หากพูดถึงการ workout ในแง่ของการส่งเสริมบุคลิกภาพนั้น จะเห็นได้ว่าบางท่านไม่ค่อยเน้นการออกกำลังกายช่วงล่างเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับช่วงขา อาจเป็นเพราะอยากให้ร่างกายช่วงบนดูดี ร่างเป็น V-shape ก็เลยไม่ค่อยใส่ใจกับขาที่พาเราไปสู่จุดหมายเท่าไหร่นัก อันที่จริงแล้วการมีกล้ามเนื้อขาสวยงาม และมีขนาดที่เหมาะสม จะทำให้เราดูสมส่วนไปทั่วร่าง ดูดีกว่าการที่ตัวใหญ่แต่ขาเล็ก ส่วนในเรื่องประสิทธิภาพที่ส่งผลกับร่างกายนั้นยิ่งกินขาด เพราะการมีช่วงขาที่แข็งแรงจะทำให้เราทรงตัวได้มั่นคงกว่า เดินเหินได้คล่องตัว และวิ่งได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ยิ่งใครที่เป็นสายวิ่งยิ่งต้องการขาที่แกร่ง เพื่อไปสู่เส้นชัยได้ไกลกว่า แบบนี้ต้องลุยหนักกับช่วงล่างกันหน่อยแล้ว ถ้าไม่รู้ว่าเริ่มต้นอย่างไรดี UNLOCKMEN มีวิธีการฟิตกล้ามขาของ BJ Gaddour อดีต fitness director ชื่อดังมาฝากกัน รับรองว่ารากฐานของคุณจะมั่นคงขึ้น 1. Squat มันส์ทุกวัน ท่า squat ถือเป็นท่าพื้นฐานของการออกกำลังกายช่วงล่าง และเพื่อผลการฝึกที่ดีที่สุด ก็ควรจะทำมันทุกวันมันส์สุด ๆ ไปเลย โดยพยายามทำท่านี้ให้หลากหลาย และทำให้ได้มากที่สุดด้วยท่าทางที่ถูกต้อง เราแนะนำให้ใช้ดัมบ์เบลล์ หรือบาร์เบลล์ไปด้วย ฝึกสัปดาห์ละ 3 ครั้ง (จ-พ-ศ) ส่วนวันอื่นให้ใช้แต่น้ำหนักตัวเรา ฝึกครั้งละประมาณ 5-10 นาที โดยวันที่ใช้อุปกรณ์ฟรีเวทนั้น ควรฝึกด้วยน้ำหนัก และจำนวนครั้งที่สลับกัน
ว่ากันด้วยเรื่อง sex ของชายหนุ่มอย่างเราที่บอกเล่ากันได้ไม่รู้จบ คงเป็นเพราะธรรมชาติของมนุษยชาติที่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศนั้นจึงเป็นเรื่องปกติ ทว่าความถี่ของการถึงจุดสุดยอดนั้นคงแล้วแต่เลเวลความจัดจ้าน รวมถึงโอกาสที่จะได้ประกอบกามกิจของแต่ละคน คำถามจึงมีอยู่ว่า “ต้องเสร็จบ่อยแค่ไหนถึงจะดี ?” หนุ่ม ๆ ทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีคู่หรืออยู่คนเดียว ผลการศึกษาที่ได้รับการโพสต์ใน Journal Of Sexual Medicine บอกไว้ว่า เราควรมี sex อย่างน้อยสองครั้งต่อสัปดาห์ถึงจะดีต่อสุขภาพ โดยจากผลสำรวจกลุ่มเป้าหมาย 2,267 คน พบว่า ผู้ที่ทำการบ้านอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์จะทำให้การหลั่งสาร homocysteine (โฮโมซีสทีน) น้อยลง ซึ่งสารที่เกิดจากการย่อยสลายของอาหารประเภทโปรตีนนี้ ถ้ามีมากเกินไปก็จะทำลายหลอดเลือด และเพิ่มอัตราเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การที่เราจะมีสุขภาพดีในภาพรวมได้ นอกจากการมี sex เพื่อหัวใจและจิตใจที่แข็งแรงขึ้นแล้ว ก็ต้องดูแลตัวเองให้ครบทุกด้าน ทานอาหารให้เหมาะสม รวมถึงออกกำลังกายสม่ำเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็จะยิ่งช่วยให้กิจกรรมบนเตียงของคุณยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก แล้วสำหรับคนที่ไม่มีใคร อยากเสร็จเพื่อสุขภาพบ้าง ต้อง “โลกสวยด้วยมือเรา” บ่อยแค่ไหน ? ไม่ใช่เรื่องน่าอายหากหนุ่มโสดจะช่วยตัวเอง อย่างน้อยก็เป็นการระบายออกที่จบได้แบบไม่เดือดร้อนใคร ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จาก Harvard University ได้สำรวจและบันทึกพฤติกรรมของผู้ชายกว่า 32,000 คน เกี่ยวกับการช่วยตัวเองของแต่ละคน
เมื่อความสัมพันธ์มันไม่ราบรื่นมากไป ปรับจูนกันไม่ได้ ต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจ ก็อาจถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันแบบทางใครทางมัน แม้ว่าการเลิกกันนั้นมันจะโคตรแย่ แต่ถ้าความรักไม่แท้อีกต่อไป ก็คงต้องตัดใจทั้งสองฝ่าย สิ่งที่ยากที่ของการบอกเลิกก็คือวิธีการ มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ส่วนใหญ่มักจะจบไม่สวย เพราะฉะนั้น เราในฐานะที่เป็นผู้ชาย ส่วนเธอก็เป็นคนที่รักกันมา ก็คงต้องใช้วิธีที่เข้าท่าหน่อย ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีบอกเลิกแบบแมน ๆ มาแนะนำ อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ทั้งคู่ได้แยกยายกันก้าวต่อไปข้างหน้า บอกเลิกกันต่อหน้า เป็นลูกผู้ชายหน่อย ห้ามหลบหน้า หนีหาย แชทไปบอกเลิก หรือฝากเพื่อนไปร่ำลา เราไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว ตอนขอเป็นแฟนยังขอต่อหน้าเลย การบอกเลิกแบบต่อหน้ากันถือเป็นการแสดงความเคารพ(อดีต)แฟนของคุณ ยืดอกแบบแมน ๆ แล้วพูดออกไปอย่างสุภาพ ถ้าคิดมาแล้วว่ามันจะดีกับทั้งสองฝ่าย ก็คุยกันซึ้ง ๆ หน้าไปเลย หาโลเคชั่นเหมาะ ๆ อย่ามองข้ามสถานที่บอกเลิก เพื่อให้เกียรติซึ่งกันและกัน ป้องกันสายตาของคนอื่นในที่สาธารณะ และควรเป็นที่ค่อนข่างส่วนตัว เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน คุณคงไม่อยากให้การบอกเลิกครั้งนี้วุ่นวายราวกับระเบิดลงท่ามกลางฝูงชน ขณะเดียวกันก็อย่าบอกเลิกกันในห้องนอนเลย เดี๋ยวจะได้คืนดีกันบนเตียง ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้นก็ต้องแล้วแต่สถานการณ์ แต่อย่าสร้างความอับอายให้กับเธอเป็นอันขาด หาจังหวะที่เหมาะสม ที่จริงแล้วการเลิกกัน จังหวะไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่ต้องหาช่วงเวลาที่เหมาะสม
หนึ่งในดาราฮอลลีวูดที่ทรงอิทธิพลมากที่สุด และเป็นชายชาตรีที่มักจะมีคิวบู๊ให้จดจำเสมอก็คือ Tom Cruise ซูเปอร์สตาร์หนุ่มรุ่นใหญ่วัย 56 ปี ที่ผ่านบทบาทบนจอเงินมากว่า 50 เรื่อง ซึ่งเรื่องล่าสุดที่กำลังจะออกฉายก็คือ Mission: Impossible – Fallout มีกำหนดเข้าฉายในบ้านเราในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ แน่นอนว่าเขาขออาสาเล่นฉากเสี่ยงตายส่วนใหญ่เองอีกแล้วเพื่อความสมจริง โชว์ความเป็นคนจริงอีกครั้ง เส้นทางสายภาพยนตร์ของ Tom Cruise เริ่มต้นตั้งแต่เขาอายุ 19 ปี มีผลงานที่โดดเด่นอย่าง Top Gun, War of the Worlds, Risky Business, Jerry Maguire และ Mission Impossible รวมถึงอีกหลาย ๆ เรื่อง ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในดาราฮอลลีวู้ดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคนี้ แต่เขาก็ยังคงมีไฟที่จะพัฒนาศักยตัวเองต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง UNLOCKMEN จึงอยากถ่ายทอดประโยคดี ๆ จากชายคนนี้มาเป็นแรงบันดาลใจให้คุณผู้อ่านได้นำไปเสริมพลังในการปลดล็อกตัวเองสู่เป้าหมาย นี่คือสิ่งที่เขาได้กล่าวไว้ และมันทำให้เขาประสบความสำเร็จ “When I work, I work
หนึ่งในมัดกล้ามเนื้อที่หนุ่ม ๆ อย่างเราอยากเสริมสร้างขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือกล้ามเนื้ออก (chest) ที่มันจะช่วยให้บุคลิกของเราดูดีขึ้น ใส่เสื้อก็ดูเท่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม รวมถึงสร้างพลังในอิริยาบทประจำวันที่ต้องใช้การดัน หรือผลักออกไป ถามว่าอยากได้กล้ามอกต้องเล่นท่าอะไร ? หลายคนก็คงจะรู้แล้วว่าต้องวิดพื้น (Push Up) ไม่ก็ Chest Press และ Chest Fly แต่ถ้าสมมุติว่าเกิดไม่มีอุปกรณ์ ไม่ค่อยมีเวลาไปยิม หรือเกิดเบื่อท่าเดิม ๆ หละ เราจะยังเล่นกล้ามอกได้เต็มที่มั้ย ? แบบนี้ก็น่าคิด แต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอแนะนำโปรแกรม workout ที่มุ่งเป้าไปที่การเสริมสร้างกล้ามเนื้ออก ที่ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที แถมไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรก็ช่วยให้ฟิตกล้ามอกได้ดี *ฝึกแบบ Circuit Training ทำทุกท่า (ตามจำนวนที่กำหนด) ต่อเนื่องกันนับเป็น 1 เซ็ต พักระหว่างเซ็ต 1-2 นาที แล้วลุยต่ออีกเซ็ต สำคัญที่สุดต้องทำท่าทางให้ถูกต้อง ห้ามโกง พร้อมท่องในใจว่า
นอกจากคนข้าง ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกอยากรีบกลับบ้านแล้ว ทุกวันนี้ความบันเทิงภายในบ้านยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้หนุ่ม ๆ Urban men อย่างเราติดบ้าน ต่อให้การใช้เวลาว่างของเราจะทุ่มเทไปกับการหากิจกรรมทำเพื่อพัฒนาตัวเอง หรือออกไปเข้ายิม เล่นกีฬา ลุยป่า ปาร์ตี้ถึงไหนถึงกัน สุดท้ายในหนึ่งวันเราก็ต้องการเวลานั่งอยู่เฉย ๆ เอนตัวลงพักผ่อนที่โซฟา กดรีโมทเพื่อเสพความบันเทิงภายในบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ ที่ได้รับจากดีไซน์ของการตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์และ gadget ทุกชิ้นที่เลือกสรรเข้ามาใช้งานและเพื่อความสวยงาม ซึ่งกิจกรรมความบันเทิงยอดฮิตของหนุ่ม ๆ อย่างเราที่ชอบทำเวลาพักผ่อนอยู่บ้านคงไม่พ้นการนั่งยืดขาบนโซฟาดูทีวี ดูหนังดี ๆ ยิ่งถ้าภาพชัด เสียงกระหึ่มนี่ยิ่งสะใจ ไม่ก็ชวนเพื่อน ๆ มาจับจอยดวลเกมกันในวันหยุดก็ยิ่งสนุก เติมพลังก่อนจะเริ่มต้นวันทำงาน แต่ของอย่างนี้ไม่ใช่ว่าจอไหนก็ได้ สิ่งที่เราต้องการคือจอภาพที่เต็มไปด้วยนวัตกรรม และต้องเป็นเสมือนประติมากรรมที่สามารถทำให้สเปซสำหรับการพักผ่อนของเราดูดียิ่งขึ้นไปอีก หนึ่งในทีวีที่ตอบโจทย์และน่าสนใจมากก็คือ LG OLED TV ซีรี่ย์ E8 ที่มาพร้อมกับด้วยดีไซน์เท่ ๆ สุดคลาสสิค ราวกับกระจกคริสตัล รวมถึงนวัตกรรมสุดล้ำแห่งวงการทีวีในระดับโลก ที่บอกว่าจอ LG OLED TV ซีรี่ย์ E8 สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบก็เพราะดีไซน์ Picture-on-Glass ที่มอบมิติแห่งความหรูหราให้กับห้องนั่งเล่นของเราได้ทุกมุมมอง และก็ไม่ได้หล่อแต่เพียงอย่างเดียว ยังขับเคลื่อนการทำงานด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
เจอรถติดใช่มั้ย ไม่เป็นไร เพราะมันไม่ใช่ปัญหาของ taxi คันนี้ (ที่จริงต้องใช้คำว่าลำนี้) ท่ามกลางความเดือดของการแข่งขันด้าน Flying Taxi หรือรถบินได้ ที่มีทั้งบริษัทใน Dubai และทาง Uber ดูจะเป็นผู้นำหน้าเทคโนโลยีอยู่ในขณะนี้ ทางด้าน Rolls-Royce Holdings plc บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินชั้นนำของโลกที่เรานั่งโดยสารกันอยู่ในปัจจุบัน (เครือเดียวกับ Rolls-Royce Motor Cars ผู้ผลิตยนตรกรรมสุดหรูราคาแพงระยับจากอังกฤษ) ได้ทำการประกาศศักดาลุยธุรกิจสายใหม่ เปิดตัว Hybrid Flying Taxi ในงาน Farnborough International Airshow 2018 Flying Taxi ลำนี้มีรหัสเรียกขานว่า Electric Vertical Take-off and Landing (EVTOL) หรือ “อากาศยานพลังงานไฟฟ้าที่บินขึ้นลงได้ในแนวดิ่ง” สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 4-5 คน ทำความเร็วได้ประมาณ 400 กม. ต่อชั่วโมง ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งสามารถบินได้ไกลราว 800