หนึ่งในรูปแบบออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมของบรรดาผู้ชายคนเมือง และหนุ่มสไตล์ work hard – play hard ที่ทุกนาทีมีค่าก็คือ HIIT (High Intensity Interval Training) การออกกำลังกายความเข้มข้นสูง ที่เราต้องทำแบบเต็มในระยะเวลาสั้นจนแทบตาย ให้มีอัตราการเต้นหัวใจสูงถึง 85-90 เปอร์เซ็นต์ สลับกันกับการพักเพื่อลด heart rate ลงมา จนครบโปรแกรม แล้วมันดีอย่างไร ? ถ้าพูดถึงการตอบโจทย์ชีวิต แน่นอนว่าการฝึก HIIT นั้นใช้เวลาและพื้นที่น้อย ส่วนประสิทธิภาพของมันนั้น นักวิจัยจาก Human Performance Institute ใน Orlando เปิดเผยข้อมูลว่า แค่เราฝึก HIIT แค่ 7 นาที ก็ช่วยลดไขมันในร่างกายได้ และเกิดภาวะ “after burn” ได้นานสูงสุด 48 ชั่วโมง รวมถึงเพิ่มค่า VO2 Max ที่เป็นตัวชี้วัดความสามารถของร่างกาย ว่าสามารถนำออกซิเจนจากเลือดส่งไปที่กล้ามเนื้อเพื่อใช้เผาผลาญได้สูงสุดแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะทราบข้อดีเหล่านี้แล้วครับ
ความเครียดจนปวดหัว ความกังวลจนมวนท้อง และความตื่นเต้นจนตัวสั่น เป็นความรู้สึกปกติของมนุษย์ที่มักจะเกิดขึ้นก่อนที่จะเผชิญกับสิ่งท้าทาย ถ้ามองในแง่บวก ความรู้สึกดังกล่าวนั้นก็พอที่จะสะท้อนความตั้งใจจริงของเราที่จะฝ่าฟันมันไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องชีวิต หรือเรื่องใด ๆ ที่มีความหมายพอที่เราจะมุ่งมั่นกับมัน แต่สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นก็คือความกลัวที่จะลงมือทำสิ่งใหม่ โปรเจ็คต์ที่คิดไว้ก็ไม่กล้าทำเสียที กลัวเจ๊ง กลัวไม่เท่ กลัวเขว กลัวมันออกมาบูด ๆ สุดท้ายไม่ยอมย้ายตูดออกมาจาก safe zone แล้วลงมือทำซะ เพราะกลายเป็นคนที่วิตกกังวลเกินเหตุ ถ้าเป็นแบบนี้นาน ๆ เข้า อาจจะทำให้เราไม่มีการพัฒนาตัวเองได้ ทีมงาน UNLOCKMEN เชื่อว่าผู้ชายทุกคนมีศักยภาพ แต่อาจจะมีความรู้สึกบางอย่างที่มาขวางกั้นการปลดล็อกตัวเอง จึงขอนำเหตุผลหลักที่ทำให้เราไม่กล้าลงมือทำมาตีแผ่ และไอเดียที่จะช่วยเปลี่ยนมุมมองให้คุณลุยอย่างไม่กลัวมาแนะนำกัน ตามนี้เลยครับ “มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย” เรื่องเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย นั้นเราอาจควบคุมไม่ได้ แต่ไอ้ประโยคที่ว่า “มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย” นี่แหละ ทำให้คนเราขาดพลังในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ มาเยอะแล้ว ถ้าเราคิดว่าความฝันของจะกลายเป็นความจริงจากการใช้เวลาแค่ 2-3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในเวลาว่าง แบบนี้คิดใหม่ดีกว่า เราต้องทุ่มเทสุดตัวเพื่อเป้าหมายของเรา ถ้าแค่ครึ่งหนึ่งของผลงานที่ออกมาก็พาเราเซ็งแล้ว ก็อย่าทุ่มเทแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ และถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้กับสิ่งที่เป็นอยู่
ทีมงาน UNLOCKMEN เคยนำเสนอเรื่องราวของ Sex Robot นวัตกรรมแก้เหงาให้กับชายสายเปลี่ยวไปแล้วในคอนเทนต์นี้ และก็ทำเอาผู้ชายอย่างเราตื่นเต้นน่าดู เมื่อตุ๊กตายางแบบเดิม ๆ ได้กลายมาเป็นหุ่นยนต์สาวที่มีผิวสัมผัสใกล้เคียงกับมนุษย์มาก ๆ มี A.I. ที่คิดได้ พูดได้ โต้ตอบได้ คล้ายกับคนอย่างเรา และมันน่าจะช่วยแก้ความงุ่นง่านให้หนุ่ม ๆ ที่มีความต้องการสูง แต่ไม่อยากให้ตัณหาของตัวเองไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ฟังดูแล้ว Sex Robot น่าจะเป็นนวัตกรรมทางเพศที่ตอบโจทย์ ด้วยราคากว่า 10,000 ปอนด์ แลกกับการแก้ปัญหาเรื่องความต้องการจนแทบทะลัก เติมเต็มชีวิตที่แสนเปลี่ยว และมีส่วนลดอาชญากรรมทางเพศได้ ก็น่าจะคุ้มค่าอยู่ แต่ล่าสุดกลับมีความเห็นอีกแง่มุมหนึ่งที่มีต่อหุ่นยนต์สุดเซ็กซี่นี้ โดยมีความเห็นทางการแพทย์ถูกอ้างอิงในงานเขียนของ BMJ Sexual และ Reproductive Health ว่า ไม่มีหลักฐานใดที่ระบุว่า Sex Robot สามารถช่วยแก้เหงา และช่วยลดปัญหาอาชญากรรมทางเพศได้ โดยนายแพทย์ Chantal Cox-George แห่ง St George’s University Hospitals NHS Foundation Trust และศาสตราจารย์ Susan Bewley จาก Women’s Health Academic
เดี๋ยวนี้ทุกคนรู้ว่าการไม่ได้เป็นสมาชิกของยิม หรือไม่มีอุปกรณ์ นั้นไม่ใช่ข้ออ้างของการไม่ออกกำลังกายอีกต่อไป เพราะเราสามารถออกกำลังกายโดยใช้น้ำหนักตัว (Bodyweight Training) ได้ทุกที่ที่เหมาะสม ทุกเวลาที่ทำได้ ยิ่งในห้องนอนได้ยิ่งดี นั่นทำให้ใครหลายคนติดใจกับการการ workout แบบนี้ แต่สำหรับบางคนที่ฝึกท่าเดิม ๆ อย่าง burpees, squats และ jumping jacks มานานก็อาจจะรู้สึกเบื่อ สุดท้ายถ้าหาวิธีฟิตอื่น ๆ ไม่ได้ ก็อาจจะเลิกเทรนกลางทางไปเลย โชคดีที่เรามีความท่าทายใหม่ ๆ มาให้ออกแรงกัน นี่คือ 8 ท่า Bodyweight Training ที่เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะยังไม่เคยทำมาก่อน แต่รับรองว่าได้เกร็งกันกล้ามขึ้นทั่วร่างถ้าทำอย่างต่อเนื่อง แถมมีผลการวิจัยหลายฉบับที่ระบุชัดเจนว่าการทำอะไรที่ไม่ซ้ำซากกันในแต่ละวัน จะช่วยทำให้เรามีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นอีกด้วย 1. Bear Pushups ที่ได้ชื่อว่า “Bear Pushups” ก็เพราะท่าทางที่ดูเหมือนหมีคลาน และมันคือท่าวิดพื้นประยุกต์ที่เฉียบสุด ๆ เป็นหนึ่งใน functional exercises ที่ดูเผิน ๆ ก็พื้น ๆ แต่ต้องลองทำดูแล้วจะรู้ว่าโคตรท้าทาย นักกีฬาหลายคนต่างยืนยันว่าหนักหน่วงอยู่ ท่านี้จะมอบความแข็งแกร่งให้กับกล้ามเนื้อหลังแขน
ในโลกปัจจุบันที่ทุกคนกำลังแข่งขันกันสะสมความสำเร็จ โลกที่ทุกอย่างดูเร่งรีบ แทบไม่มีช่องว่างให้เราหายใจ เคยถามตัวเองบ้างไหม ว่าเราห่างหายจากความสุขที่เคยคุ้นเคยไปนานแค่ไหน ? แล้วทำไมเราถึงห่างจากการ “ใช้ชีวิต” มากขึ้นทุกที ? หลังจากที่ UNLOCKMEN ได้นำเสนอผลงานภาพถ่ายในโปรเจ็กต์ ‘X1 Inspired Art’ by BMW X1 ของช่างภาพ 2 คนแรก คือ ‘หาว 2 how’ – ต่อวงศ์ ซาลวาลา ช่างภาพดิจิทัลแถวหน้า และ ‘หลิน – รินรดา พรสมบัติเสถียร’ ช่างภาพสาวไฟแรงไปแล้ว อีกหนึ่งผลงานภาพถ่ายในโปรเจ็กต์นี้ที่เราจะนำมาเสนอให้ดูกันเป็นของคุณ ‘โต้-วิรุนันท์ ชิตเดชะ’ ช่างภาพมืออาชีพชื่อดัง เจ้าของผลงานนิทรรศการ The Last Light ผลงานที่ถ่ายทอดภาพภูมิทัศน์ ผ่านสถานที่โครงการในพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โดยผลงานของคุณโต้ในโปรเจ็กต์ X1 Inspired Art นั้น น่าจะทำให้ทุกคนฉุกคิดได้ว่า เราต่างหลงลืมเสน่ห์ที่คุ้นเคย เพราะมุ่งหน้าหาแต่ความสำเร็จ ช่างภาพหนุ่มมาดเท่บอกกับเราว่า แรงบันดาลใจของภาพภ่ายชุดนี้ของเขาคือ ตัวตน ความเป็น BMW X1 และ Bangkok night life ทำให้เราอยากรู้ขึ้นมาเลยว่า
“ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน” นี่คือประโยคเตรียมใจที่ใช้ได้กับทุกเรื่องบนโลกที่โคตรไม่แน่นอนใบนี้ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องงาน ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม แต่เหตุการณ์สุดเซ็งอย่างโดนไล่ออก โดนเลย์ออฟ ยังคงเป็นเรื่องนอยด์ ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน เพราะฉะนั้นการหางานใหม่ย่อมเกิดขึ้นทุกนาทีเช่นกัน ซึ่งเราอาจจะคุ้นชินกับวิธีเดิม ๆ อย่างท่องเว็บไซต์หางาน เข้าร่วม networking event ต่าง ๆ อัพเดท resume แล้วส่งอีเมลสมัครงานแบบกราด ๆ รอ HR บริษัทนั้น ๆ โทรมานัดสัมภาษณ์ แต่สำหรับผู้ชายที่ล้มแล้วลุกไวอย่างเรา คงจะไม่ใช้วิธีการแบบทั่วไปที่ดูเหมือนกับเป็นการรอคอยโอกาส แต่เราจะพัฒนาตัวเองให้มีคุณค่ามากขึ้น และหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหางานใหม่ ชาว UNLOCKMEN ที่กำลังหางานใหม่อยู่ และเห็นด้วยว่าเราควรเงยหน้าขึ้นสู้ ลองทำตามวิธีการเหล่าที่เรานำมาแนะนำดู แล้วจะรู้ว่าคุ้มตั้งแต่ยังไม่รู้ผล รู้จักการขายตัวเองให้เจ๋งพอ “สิ่งที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังหางานใหม่ก็คือความพร้อมในตอบคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘ทำไม ?’ ” Mark Anthony Dyson โค้ช และผู้ก่อตั้ง Voice of Job Seekers ให้ความเห็นที่สนับสนุนวิธีการแรก คำถามเบสิคแต่ลึกซึ้งที่เรามักจะถูกถามเวลาสัมภาษณ์งานก็คือ “ทำไมคุณถึงอยากทำงานนี้
“Time is the most valuable thing on earth” : “เวลา คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดบนโลกใบนี้” คำกล่าวนี้โคตรจริงสุด ๆ ในชีวิตผู้ชายอย่างเราที่เต็มที่กับชีวิตทุกด้าน จนบางครั้งก็แทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง โดยเฉพาะวัยรุ่นชายตอนปลาย และชายวัยกลางคนที่กำลังอยู่ในช่วงทำงานอย่างติดลมบน จนไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพค่อย ๆ แย่ลงอย่างไม่รู้ตัว บางคนยังรู้สึกว่ายังพอเฟิร์มอยู่ แรงดีอยู่ หรือพอใจในรูปร่างของตัวเองก็ถือว่าสบายใจไป แต่ถ้าวันหนึ่ง คุณตื่นมา เข้าห้องน้ำไปปัสสาวะ แล้วปรากฏว่าคุณก้มหน้าลงแต่กลับมองไม่เห็น “น้องชาย” เพราะพุงของคุณบังอยู่แล้วหละก็ แบบนี้ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วหละครับ ถ้ารู้ตัวว่าอยากออกกำลังกายแต่ไม่มีเวลา ก็ไม่ควรไปสมัครสมาชิกยิมใด ๆ ให้เสียเงินเปล่า หรือควักเงินเป็นหมื่นเป็นแสนซื้อจักรยานเสือหมอบคันแรง สุดท้ายจอดโชว์นิ่ง ๆ ไม่มีโอกาสปั่น แต่เราอยากให้ปันเวลาแค่ 15 นาทีต่อวันจากเรื่องอื่น ๆ มาเวทเทรนนิ่งกันหน่อย ซึ่งมันทำได้ง่ายสุด ๆ ใช้พื้นที่น้อย จะทำที่บ้าน ที่คอนโด หรือสเปซไหนก็ได้ที่เหมาะสม ส่วนอุปกรณ์ก็แค่มีดัมบ์เบลล์ 1 คู่ หนักระหว่าง 25-40 ปอนด์ หรือประมาณ 11-18
การใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ ใน safe zone ทำอะไรเดิม ๆ ไปแต่ที่เดิม ๆ ก็คงจะไม่ทำให้เราได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ และไม่มีวันรู้ขีดจำกัดของตัวเอง ยากต่อการปลดล็อกศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ แบบนี้น่าเบื่อแย่ ต้อง GET OUT THERE ซะแล้ว หลายท่านคงจะได้อ่านแนวคิด และชมผลงานบางส่วนของ คุณ ต่อวงศ์ ซาลวาลา หรือ พี่หาว 2 how ช่างภาพอิสระผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิทัล และเจ้าของเว็บไซต์และแฟนเพจ 2how.com ในโปรเจกต์ “X1 Inspired Art” แคมเปญเท่ ๆ ของ BMW ไปแล้วในคอนเทนต์นี้ มาถึงตอนนี้เรามาพูดคุยและดูผลงานของสาวสวยคนนี้กันบ้างดีกว่า เธอคือ “หลิน – รินรดา พรสมบัติเสถียร” ช่างภาพสาวรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีผลงานมากมาย ทั้งงานภาพนิ่ง หนังสั้น และเมกอัพอาร์ติสท์หนังสั้น โดยผลงานล่าสุดของเธอก็คืองานถ่ายภาพนิ่งเบื้องหลังซีรีส์ “SOS skate ซึมซ่าส์” ด้วยความที่คุณหลินเป็นคนรุ่นใหม่ สิ่งที่เธอต้องการนอกจากการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมา ก็คือ อิสรภาพของการเดินทางและการใช้ชีวิต ซึ่งเธอได้อธิบายความรู้สึกที่ได้ร่วมโปรเจ็กต์นี้ว่ามันโดนใจคนสไตล์เธออย่างไร “นอกจาก
มนุษย์เรานี่มันช่างซุกซนและสร้างสรรค์ไปเสียทุกเรื่อง จะมี Sex กันทั้งทีก็ต้องมีหลากหลายท่าทาง ท่ามกลางบรรยากาศที่แต่ละคู่ไหนจะครีเอทออกมาเพิ่มอรรถรสบนเตียง แถมต้องมีเพลงเหมาะ ๆ มาช่วยกระตุ้นอารมณ์เซ็กซ์ให้มันพุ่งทะลุปรอท ประโยชน์ที่เราได้จากการฟังเพลงที่มีท่วงทำนองเร่าร้อนนั้น อาจจะช่วยให้เรา “แข็งขัน” และช่วยให้คุณผู้หญิงของคุณ “ชื้นแฉะ” ได้จริง แต่ก็ยังเป็นที่สงสัยว่านอกจากการช่วยอุ่นเครื่องก่อนโหมโรงได้ดี และสร้างสีสันตอนร่วมรักกันได้แล้ว เพลงเหล่านั้นจะช่วยให้ชีวิต Sex ของแต่ละคู่นั้นดีขึ้นจริงหรือไม่ ? ผลการสำรวจกลุ่มเป้าหมาย 2,000 คนที่ใช้บริการ music-streaming ของ Deezer พบว่า ผู้ใช้ราว 30 เปอร์เซ็นต์รู้สึกซาบซ่านมากขึ้นที่ได้ฟังเพลย์ลิสต์เพลงปลุกใจขณะมีอะไรกัน ขณะที่ 25 เปอร์เซ็นต์บอกว่ามี sex ในอรรถรสมากขึ้น ส่วนอีก 15 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเป็นยาแก้เขินชั้นดี แล้วองค์ประกอบอะไรในเพลงที่ทำให้เราฟาดฟันกันมันส์หยด ? เรื่องนี้กว่า 30 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเป็นเพราะจังหะจะโคนของเพลง ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์บอกว่ามันเป็นเพราะเสียงร้องของศิลปิน และเมโลดี้ของเพลงนั้น เพลงหวิว ๆ มันสร้างความแตกต่างบนเตียงได้ขนาดนั้นได้จริง ๆ ? หรือก็แค่เชื้อไฟธรรมดา ? Valorie N. Salimpoor นักวิจัยสาวที่ทุ่มเทกับการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวการตอบสนองของสมองต่อเสียงดนตรี
ยิ่งเราอยู่บนโลกนี้นานขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้ว่ายังมีเส้นทางอีกมากที่รอให้เราไปผจญภัย และหากจะให้อยู่เฉย ๆ ใน safe zone แบบไม่โลดโผนเลย ก็คงจะไม่ใช่ผู้ชายสไตล์อย่างเรา ที่ต้องการเต็มที่กับทุกด้านในชีวิต และมองความท้าทายใหม่ ๆ เป็นประสบการณ์สุดล้ำค่า เปรียบทางข้างหน้าดั่งผืนผ้าใบที่ให้เราสร้างสรรค์งานศิลป์ในแบบของเราออกมาให้สวยงาม เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้รู้สึกถึงการสร้างสรรค์ชีวิตที่เหนือชั้นอย่างไม่เหมือนใครในสไตล์ของ BMW X1 ยนตรกรรม SAV ที่พร้อมพาสู่เส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยไปมาก่อน ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีจึงได้สร้างแคมเปญ “X1 Inspired Art” ขึ้นมา โดยการชวนช่างภาพชั้นนำในบ้านเรา 3 คนมาถ่ายทอดมุมมองทางศิลปะของพวกเขาและเธอที่มีต่อ BMW X1 แน่นอนว่างานแต่ละคนนั้นล้วนมีเอกลักษณ์ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ช่างภาพสุดเท่ที่เราจะพูดถึงงานของเขาเป็นคนแรกก็คือ คุณ ต่อวงศ์ ซาลวาลา หรือ พี่หาว 2 how ช่างภาพอิสระ และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการถ่ายภาพดิจิทัลที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เจ้าของเว็บไซต์และแฟนเพจ 2how.com ที่หลายคนรู้จัก และเราก็อยากรู้แล้วว่า คุณต่อวงศ์มอง BMW X1 เป็นงานศิลปะแบบไหน ? “ผมมองมันเป็นงานออกแบบในรูปแบบสิ่งของครับ เหมือนนาฬิกา เป็นนาฬิกาเรียบๆ ดู