กว่า 47 ปีที่วง ‘Kiss’ ตำนานฮาร์ดร็อก/เฮฟวี่เมทัล ได้โลดแล่นอยู่ในวงการเพลง และเป็นสีสันให้กับชาวร็อกรวมถึงวงการแฟชั่นจากรุ่นสู่รุ่น พวกเขาก่อตั้งวงตั้งแต่ปี 1973 มีสตูดิโออัลบั้มมากถึง 20 อัลบั้ม พวกเขาโดดเด่นทั้งเรื่องของการแต่งหน้าแต่งตัวอันแสนเป็นเอกลักษณ์ หลายคนไม่เคยฟังเพลงก็ยังจดจำลุคและคาแรกเตอร์พวกเขาได้ โชว์ของพวกเขาบ้าระห่ำ แหวกแนว โดดเด่นออกมาจากวงร็อกอื่น ๆ ในยุคสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์พ่นควัน, จุดพลุ, พ่นไฟ โดยเฉพาะการโชว์บ้วนเลือดของฟรอนต์แมน Gene Simmons ที่สาวกวงต้องเห็นด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง มันทั้งอลังการ สยองขวัญ และกลายเป็นรากฐานให้วง Hairband ยุคหลัง ๆ สืบต่อไป เมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมา Kiss ได้เริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ตที่มีชื่อว่า “End Of The Road World Tour” ซึ่งเป็นทัวร์ที่มีกำหนดการยาวนานถึง 3 ปี และเดินทางไปเปิดการแสดงในทุก ๆ ทวีปทั่วโลก โดย Gene Simmons เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาต้องการจะทัวร์ครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเมื่ออายุมากขึ้นจะยังทำอะไรแบบนี้ได้อีกหรือไม่
ลาก่อนมกรา สวัสดีกุมภาพันธ์ เดือนที่คนมีความรักยิ้มแก้มปริ แต่คนโสดอย่างเราแห้งเหี่ยวเสียเต็มประดา ถ้าไปขอฟ้าขอฝนแล้วได้ใครสักคนข้างกายมันก็คงจะดีนะครับ เพราะบางครั้งการมีแฟนมันไม่ได้ง่ายอย่างใครว่าไว้ เหล่าคนเหงาอย่างเราจึงต้องร่ำร้องกับตัวเอง และเพื่อเป็นการให้กำลังใจเหล่าชายหนุ่มที่หัวใจอยากมีรักทุกคน WEEKLY PLAYLIST สัปดาห์นี้ เราจึงรวบรวม 10 เพลงทั้งไทยและสากลเกี่ยวกับ “คนอยากมีความรัก” หรือแปลง่ายๆ ว่าอยากมีแฟนนั่นแหละ มาแนะนำเพื่อน ๆ กัน จะได้ไม่ต้องฟังเพลง ‘โปรดส่งใครมารักฉันที’ วนไปวนมาจนช้ำ เผื่อเอาไปโพสต์ลงโซเชียลขำ ๆ แล้วเธอคนนั้นจะเห็นใจ! Could Have Been Me – The Struts อยากมีความรักแบบร็อก ๆ ฉบับ The Struts วงดนตรี Hard Rock รุ่นใหม่จากอังกฤษ บางคนอาจจะไม่กล้ามีความรักเพราะกลัวความเจ็บปวด แต่หนุ่ม ๆ วงนี้เขาบอกว่า “I wanna taste love and pain Wanna feel pride
“ซิมป์สันคือการ์ตูนพยากรณ์” หากคุณติดตามข่าวสารหรือชอบเสพมุกตลกอเมริกันเป็นชีวิตจิตใจ เชื่อว่าต้องเคยเห็นชาวเน็ตที่แคปเจอร์ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ จากการ์ตูน The Simpsons (เดอะ ซิมป์สัน) ที่ดันเกิดขึ้นจริงในยุคปัจจุบันผ่าน ๆ ตากันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัมป์ได้ตำแหน่งประธานาธิบดี (ตั้งแต่ปี 2000), ทายผลบอลในอนาคตถูกต้อง หรือเรื่องดิสนีย์ซื้อ 21st Century Fox เราเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขามีญานทิพย์จริง ๆ หรือความบังเอิญ แต่ด้วยความเป็นการ์ตูนซิตคอมเสียดสีสังคมอเมริกัน ซิมป์สันจึงมักหยิบเหตุการณ์สำคัญของประเทศอเมริกา ณ ช่วงเวลานั้น ๆ มาล้อเลียนอยู่เสมอ และแม้จะถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1989 การ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะปิดตัวลง อยู่ยั้งยืนยงกับช่อง Fox มายันปัจจุบัน นอกจากเรื่องทำนายอนาคตแล้ว เอกลักษณ์อีกอย่างของซิมป์สันก็คือ ‘Cameo’ หรือนักแสดงรับเชิญที่โผล่เข้ามามีบทบาท เพื่อสร้างสีสันให้เรื่อง (แม้ไม่ได้สลักสำคัญ) แขกรับเชิญแต่ละคนที่โผล่ในซิมป์สันก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนดังมากหน้าหลายตาจากทุก ๆ วงการ โดยเฉพาะ ‘ร็อกสตาร์’ ที่อาจจะไม่ได้มาถี่ แต่พอมาทีก็เกิดเสียงฮือฮาที หลายต่อหลายฉากสำคัญกลายเป็นตอนขึ้นหิ้งที่สร้างความประทับใจให้แฟน ๆ หลายคน และนี่คือ 10 ฉากเด็ดที่เดอะซิมป์สันได้เปลี่ยนวงร็อกระดับโลก ให้กลายเป็นเจ้าตัวเหลืองเหมือนพวกเขา!
จบไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยสำหรับรางวัลอันทรงเกียรติที่จัดเป็นประจำทุกปีอย่าง Grammy Awards โดยปี 2020 นี้ก็เข้าสู่ปีที่ 62 เป็นที่เรียบร้อย และหลังจากประกาศรายชื่อผู้ชนะออกมาครบทุกสาขา กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตก็เข้มข้นเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าเป็นปกติ (อย่างที่เป็นอยู่ทุกปี) จะให้ UNLOCKMEN ไปชี้ว่าใครเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม เกรงว่าทางเราจะไม่มีคุณวุฒิมากพอ ความน่าสนใจในปีนี้คือการที่ Grammy เริ่มเปิดโอกาสให้มีศิลปินหญิงเข้าชิงเยอะขึ้น รวมไปถึงมีศิลปินหน้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงมาก่อนได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะถูกใจหรือไม่ถูกใจใคร เรามาดูกันดีกว่าว่า 7 อัลบั้มคุณภาพที่สามารถคว้ารางวัลไปครองในปีนี้มีอะไรบ้าง เผื่อใครยังไม่เคยฟัง จะได้ทำความรู้จัก และตัดสินด้วยตัวคุณเอง When We All Fall Asleep, Where Do We Go? – Billie Eilish Best Pop Vocal Album, Album Of The Year เธอคือหนึ่งในศิลปินตัวเต็งของปีนี้ที่ทำให้ชาวเน็ตถกเถียงกันไม่จบไม่สิ้นมาตั้งแต่ก่อนวันงาน เหตุเพราะเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่มีจำนวนชื่อเข้าชิงในหลากหลายสาขามากเป็นประวัติการณ์ และในที่สุดสาวน้อยชาวอเมริกัน วัย 18 ปีคนนี้สามารถคว้าไปได้ถึง
จะเดินจะเหินไปที่ใดก็ไม่ได้หายใจเต็มปอด เพราะตอนนี้ฝุ่น PM 2.5 ได้กลับมายึดครองบ้านเมืองเราอีกครั้ง หลาย ๆ คนที่ยังไม่ได้ซื้อเครื่องกรองอากาศก็อยากให้พิจารณากันอีกครั้ง ถึงราคาจะสูงหน่อย แต่เพื่อสุขภาพที่ดีมีติดบ้านไว้สักเครื่องก็เพื่อตัวคุณเองนะครับ แต่หากกล่าวถึงคำว่า ‘ฝุ่น’ ในโลกดนตรี เราค้นพบว่ามีศิลปินหลายคนทีเดียวที่นำคำ ๆ นี้มาเขียนในเพลง เนื่องด้วยมันเป็นสิ่งใกล้ตัวไม่ต่างกับสายลมแสงแดด แถมยังเป็นตัวร้ายของมวลมนุษยชาติมาอย่างยาวนาน ฝุ่นจึงถูกนำมาตีความแตกต่างกันไป อย่างไทยเราก็มีทั้งเพลง ฝุ่น ของ Big Ass หรือ ทางของฝุ่น ของอะตอม ชนกันต์ WEEKLY PLAYLIST สัปดาห์นี้ เราจึงรวบรวมเพลงสากลเกี่ยวกับฝุ่นที่น่าสนใจมาให้คุณได้ลองฟังกันบ้าง Cities in Dust – Siouxsie And The Banshee Siouxsie And The Banshees เจ้าแม่ Goth-Rock ยุค 70-80 ก็มีเพลงที่ชื่อว่า Cities Of Dust แปลเป็นไทยก็คือ ‘นครแห่งฝุ่น’ (กรุงเทพฯ ยุคปัจจุบันหรือเปล่าเนี่ย)
หากคุณเป็นหนึ่งในสมาคมชาว Netflix ที่ใช้งานมาสักพักแล้ว คงจะทราบว่า ซีรีส์ หนัง หรือแม้กระทั่งสารคดีบางเรื่องที่ไม่ใช่ Original Content ของเขาเอง จะหมุนเวียนการฉาย ไม่ได้มีให้ดูตลอดไป ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องของลิขสิทธิ์ แต่ก็มีข้อเสีย เพราะอาจทำให้เราพลาดอะไรดี ๆ ไป แถมทาง Official เองก็ไม่ได้โปรโมตทุกเรื่อง วันนี้ UNLOCLMEN ขอเอาใจคอเพลงโดยเฉพาะ แนะนำ 5 สารคดีนักดนตรีน่าสนใจจาก NETFLIX ที่มีให้รับชมอยู่ในช่วงนี้ การันตีเลยว่ายกมาแต่ระดับตำนานเท่านั้น แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะถูกถอดออกจากแพลตฟอร์มไปเมื่อไหร่ ฉะนั้นถ้ามีเวลาก็อาจจะต้องรีบเสพรีบดูกันสักนิดนะครับ How the Beatles Changed the World วงระดับ The Beatles มีสารคดีให้รับชมไม่รู้กี่ตัว ไหนจะหนัง Biopic หรือหนังที่อ้างอิงถึงอีกมากมาย แต่สารคดี How the Beatles Changed the World นี้ จะเล่าในมุมมองการเกิดขึ้นและมีอยู่ของ The Beatles
ย้อนเวลาไปปี ค.ศ. 1969 ก่อนที่ชาวอเมริกันจะรู้จักกับคำว่าพังก์และคลื่นวิทยุต่าง ๆ ยังเปิดแต่เพลงบลูส์ร็อกไปทั่วบ้านทั่วเมือง ชายคนหนึ่งนามว่า Hilly Kristal ได้เช่าพื้นที่ด้านล่างโรงแรมราคาถูกในซอกหลืบหนึ่งของ Manhattan (ซึ่งเป็น Flophouse ลักษณะคล้าย Hostel ที่ต้องนอนรวมกัน แต่ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกใด ๆ แถมเก็บค่าที่พักเพียง $6 ดอลลาร์ต่อเดือน) เปิดบาร์เล็ก ๆ ของตัวเองที่ชื่อว่า Hilly’s On The Bowery ณ บ้านเลขที่ 315 ถนน Bowery ด้วยจุดมุ่งหมายว่าจะให้ร้านแห่งนี้เป็น Biker Bar สำหรับสิงห์นักบิด และเป็นบาร์ท้องถิ่นเล็ก ๆ ที่เป็นดั่งมิตรสหายของผู้คนในย่าน แต่ด้วยความรักที่เขามีต่อเสียงเพลงและเล็งเห็นลู่ทางบางอย่างที่จะทำให้ขยับขยายธุรกิจของตัวเอง ในปี 1973 Hilly จึงตัดสินใจเปลี่ยนโฉมคลับเดิมของเขา อีกทั้งยังเปลี่ยนชื่อจาก Hilly’s On The Bowery เป็น CBGB ซึ่งย่อมาจาก Country, Bluegrass and Blues
เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody ปลุกกระแสให้ตำนานไม่มีวันตายอย่างวง Queen กลับเข้าสู่ยุคเฟื่องฟูอีกครั้ง เรื่องความเจ๋งของเขาเราไม่เถียง เพราะพวกเขาเป็นวง Glam Rock ระดับตำนานที่ไม่มีใครมาล้มล้างได้ แต่ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าหนังเรื่องนี้มีส่วนทำให้วงกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง แถมยังขยายฐานแฟนเพลงเด็กรุ่นใหม่มากมาย แม้สมาชิกในวงจะอายุรุ่นราวคราวปู่ ล่าสุดก็มีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นอีกแล้ว เมื่อโรงกษาปณ์ The Royal Mint แห่งสหราชอาณาจักรประกาศคอลเลกชันใหม่เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ความยิ่งใหญ่ของวง โดยเป็นชุดแรกของคอลเลกชันในหมวด ‘Music Legends’ ซึ่งวงแรกที่ได้รับเกียรตินั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากพวกเขาวง Queen แน่นอนว่าเหรียญระดับพรีเมียมแบบนี้ไม่ได้มาแค่ชิ้นเดียว แต่ผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบให้คุณเลือกสรร (ถ้ากำลังทรัพย์ของคุณมากพอ) แบบธรรมดาราคา 13 ปอนด์ (ราว 514 บาท) แบบมีซองรูปวง Queen ราคา 15 ปอนด์ มีทั้งแบบธรรมดาและแบบ Limited Edition ผลิตแค่ 25,000 ชิ้น (ราว 593 บาท)
มวลมหาดราม่ากับวงดนตรีมีชื่อเสียงนั้นเรียกได้ว่าเป็นของคู่กัน ยิ่งวงอินดี้รุ่นใหม่ที่มีฟรอนต์แมนฝีปากกล้าอย่าง THE 1975 พวกเขาผ่านดราม่ามามากจนนับไม่ถ้วนเลยทีเดียวในรอบปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ออกไปให้สัมภาษณ์อะไรสุ่มเสี่ยงที่รายการไหน อย่างไรก็ไม่รอดอยู่ดี ล่าสุดก็เป็นเรื่องเป็นราวอีกแล้ว เมื่อศิลปินหนุ่ม Lauv (เจ้าของเพลงฮิต I Like Me Better, Paris In The Rain) ปล่อยมิวสิควิดีโอตัวใหม่ล่าสุด Tattoos Together ออกมา ซึ่งก็ดูเฮฮาน่ารักดี แต่บรรดาแฟนคลับนี่สิ ดันปั่นกันไปใหญ่โตว่ามันเหมือนมิวสิควิดีโอเพลง Sincerity Is Scary ของ THE 1975 ซะงั้น อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากการเดินไปเต้นไป มีผู้คนตามถนนมาเต้นด้วยเยอะ ๆ เพียงแต่สถานที่ตรงฉากหลังมันก็ดูไปในทิศทางเดียวกันจริง ๆ ซึ่งตัว Lauv เองพอรู้ข่าวก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบส่งข้อความไปขอโทษขอโพย Matt Healy ฟรอนต์แมน The 1975 เพื่อแก้ไขสถานการณ์ จากนั้นก็นำข้อความที่คุยกันนั้นมาโพสต์ทางทวิตเตอร์วันที่ 17 มกราคม เพื่อยืนยันว่าเขาทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกันแล้วเรียบร้อย
หลังจากคราวก่อนที่ WEEKLY PLAYLIST ได้รวบรวม “10 บทเพลงเบสหนึบ ตึ้บในหู” กันไป ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากคอเพลงชาว UNLOCKMEN อย่างเป็นที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว ครั้งนี้เราจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะได้ถอยภาคต่อรอเสิร์ฟแขกผู้มีใจรักเสียงเพลงทุกท่านกันแล้วเรียบร้อย พูดถึงเบสกันไปแล้ว ก็ถึงคราวของขุนพลแห่งจังหวะอย่าง ‘กลอง’ กันบ้าง มาดูกันว่าจะมี 10 เพลงกลองเด็ดเจ็ดย่านน้ำจากศิลปินท่านใดบ้างที่นิตยสารดนตรีทั้งหลายเขายกย่องว่าเนี่ยแหละกองเทพ! เผื่อจะมีบางเพลงที่ยังไม่เคยฟังหรือไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเทพมากขนาดนี้ งานนี้ชาวร็อกที่รักการ Headbang เตรียมคอเคล็ดกันได้เลย My Generation – The Who My Generation ของวงร็อกอังกฤษยุค 60 อย่าง The Who เป็นหนึ่งในเพลงที่ติดโผของสื่อหลายเจ้า และอยู่สูงเป็นอันดับ 6 ของเว็บไซต์ ultimate classic rock เลยทีเดียว ไอ้ที่เขาชื่นชมกันว่าดี มันไม่ใช่ว่าจะต้องหวดหนักจนหน้ากลองยุบ แต่ลองคิดดูนะครับว่าโลกเราในปี 60 นั้น ดนตรีเมทัลยังไม่ถือกำเนิดเลยด้วยซ้ำ แต่ Keith Moon กลับมีความกล้าที่จะออกแบบจังหวะกลองบ้าดีเดือดแหกคอกวงดนตรีผู้ดีอังกฤษคนอื่น ๆ ในยุคนั้น