Rockstar Games คือผู้ผลิตเกมชาวแก๊งขาโหดชื่อดังที่รู้จักกันดีอย่าง GTA และเคยออกเกมแนวคาวบอยอย่าง Red Dead Redemption มากวาดรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลเกมแห่งปี, ออกแบบเกมยอดเยี่ยม, เสียงเกมยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีเกมยอดเยี่ยม จากงาน Game Developers Choice Awards 2011 และรางวัลเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลของเครื่อง PlayStation 3 จากนิตยสาร PlayStation 3 magazine UK ด้วยรางวัลการันตีรวมถึงยอดขายกว่า 15 ล้านชุด จึงทำให้ Red Dead Redemption กลายเป็นเกมคาวบอยที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ หลังจากภาคแรกในปี 2010 กับการรอคอยที่ยาวนานถึง 8 ปี Red Dead Redemption เกมคาวบอยที่ดีที่สุดได้กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในภาคต่ออย่าง Red Dead Redemption 2 หรือแปลแบบตรงตัวคือ แดง ตาย ไถ่ถอน 2 ที่แปลกและไม่ค่อยเท่เท่าไหร่ เหล่าเกมเมอร์จึงนิยมเรียกว่า
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมากลุ่มไอดอลเกาหลีวง BTS ได้โดนถอดรายชื่อออกจากการแสดงในรายการเพลงญี่ปุ่นอย่าง Music Station โดยสถานีโทรทัศน์ชื่อดังอาซาฮี เนื่องจากภาพของสมาชิกในวงที่ใส่เสื้อ Atomic Bomb สกรีนภาพและความคิดเห็นเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์เมืองฮิโรชิม่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดดังกล่าวนับแสนคน รวมถึงข้อความบนเสื้อที่เขียนว่า Patriotism, Our history และ Liberation Korea เรื่องการปลดแอกชาวเกาหลีใต้ ก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ร้อนแรงทั้งสองประเทศ ความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้นั้นมีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่นานมานี้ ศาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้บริษัทอุตสาหกรรมเหล็กของญี่ปุ่นจ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์ชาวเกาหลีใต้เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านวอน หรือตีเป็นเงินไทยราว 3 ล้านบาท จากการบังคับใช้แรงงานในโรงเหล็กช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวก่อให้เกิดข้อพิพาทที่รุนแรงทั้งชาวเกาหลีและชาวญี่ปุ่น รวมถึงนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นอย่างนายชินโสะ อาเบะ ที่ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้ เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศและประเด็นดังกล่าวสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 แต่ทางเกาหลีใต้ยังคงออกมาเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ ซึ่งประเด็นเสื้อเจ้าปัญหาของวง BTS อาจเรียกได้ว่าเป็นการโดนหางเลขไปด้วยจากเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว รวมถึงจังหวะที่พอดีเมื่อ BTS ได้ขึ้นแสดงในรายการเพลงของญี่ปุ่นช่วงที่ข้อพิพาทนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ เห็นได้จากการที่สมาชิกของวงได้สวมเสื้อดังกล่าวนานแล้ว แต่ดันพึ่งเป็นประเด็นที่นำมาถูกพูดถึงภายหลัง ไม่ใช่เพียงแค่ญี่ปุ่นกับเกาหลีเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแฟชั่นได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองนานแล้ว อย่างเช่นในสังคมอเมริกันช่วงยุค 80s ที่โด่งดังเรื่องแฟชั่นฉีกแนวที่มีไมเคิล แจ๊คสัน
เป็นที่รู้กันดีสำหรับเหล่าสิงห์อมควันว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นแบบ Vaporizer หรือแบบ Heat-Not-Burn Tobacco แต่กลับกันหลายประเทศในโลกนั้น บุหรี่เหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งปัจจุบันในบ้านเราก็ใกล้ถึงเวลาเข้าไปทุกทีแล้ว ที่บุหรี่ไฟฟ้าจะกลายเป็นสิ่งที่กฎหมายไทยยอมรับได้ (ตราบเท่าที่สามารถเก็บภาษีได้) การเกิดขึ้นของบุหรี่ไฟฟ้าเริ่มจากกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะ เพราะสังคมเริ่มรับรู้ถึงอันตรายของควันบุหรี่ที่ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง จึงเริ่มมีผู้คิดค้นบุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่มีการเผาไหม้แบบบุหรี่มวน ด้วยหวังว่าจะสามารถสูบบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ที่กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ได้ รวมถึงเป็นการนำสารนิโคตินเข้าสู่ร่างกายที่สะอาดกว่าการสูบบุหรี่มวน เพราะไม่ต้องผ่านการเผาไหม้ของกระดาษมวนและใบยาสูบ ซึ่งเป็นที่มาของสารพัดสารเคมีอันตราย แถมยังส่งกลิ่นเหม็นติดตัวยากจะล้างออก หลังจากมีการเรียกร้องทั้งบนดินและใต้ดินมานาน กรมสรรพสามิตก็เตรียมเสนอเรื่องการเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้า เพราะไม่ถือว่าเป็นยาเสพติดชนิดร้ายแรง แต่ฝ่ายกฎหมายกรมสรรพสามิตมองว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้อยู่ภายใต้คำจำกัดความว่าเป็นบุหรี่ภายใต้ พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 ทำให้กรมสรรพสามิตไม่มีอำนาจควบคุมสินค้าดังกล่าว จึงได้ยื่นเรื่องแก่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ให้พิจารณา การพยายามผลักดันให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งถูกกฎหมายในครั้งนี้เป็นผลจากการร้องเรียนของสถานทูตหลายประเทศ จากเหตุที่นักท่องเที่ยวถูกจับกุมเพราะนำบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในไทย เนื่องจากระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้า รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขไม่อยากให้ประชาชนใช้บุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดปัญหาทั้งผู้บริโภคในประเทศที่ต้องลักลอบซื้ออย่างไม่ถูกต้อง (แต่ก็หาซื้อง่าย ส่งตรงถึงมือได้ภายในวัน) และกระทบต่อเหล่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่พกบุหรี่ไฟฟ้าติดตัวเข้ามาในไทย ซึ่งกรมสรรพสามิตมองว่าเป็นปัญหาสะสมที่ควรจะต้องแก้ไขเสียที แต่ถ้าบุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย โรงงานยาสูบจะเป็นคนแรกที่คิดว่าตัวเองได้รับผลกระทบแบบเต็ม ๆ เพราะข้อกฎหมายรวมถึงข้อกำหนดเดิมที่ทำร่วมกันระหว่างโรงงานยาสูบ กรมควบคุมโรคติดต่อ และกรมการค้าต่างประเทศ ในการร่างประกาศกระทรวงเรื่องข้อห้ามบารากู่ และบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งข้อบังคับต่าง ๆ เหล่านี้สร้างรายได้มหาศาลให้แก่โรงงานยาสูบ ถ้าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องถูกกฎหมาย การแข่งขันกันอย่างเสรีจากผู้ผลิตต่างชาติที่มี Devices และสินค้าที่ทันสมัยกว่า จะมาสั่นสะเทือนโรงงานยาสูบผู้เคยยิ่งใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะถ้าจะแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างเอกชนกับรัฐวิสาหกิจ เรารู้ดีอยู่แล้วว่าผลจะเป็นยังไง ในด้านสุขภาพก็แตกออกเป็นสองเสียง
โคเคนเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันดีว่าคือสารเสพติดผิดกฎหมายที่ให้โทษแก่ร่างกาย และไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับมนุษย์ เพราะก่อนจะถูกสกัดจนเป็นผงขาวที่ใช้เสพกันอย่างในปัจจุบัน โคเคนได้ถูกใช้งานในรูปแบบต่างๆ มานานกว่าพันปีแล้ว ต้นกำเนิดของโคเคนนั้นเกิดจากใบโคคา พืชประจำถิ่นในอเมริกาใต้ที่มีความผูกพันอย่างยาวนานกับชนพื้นเมืองแถบเทือกเขาแอนดีส โดยจะนิยมเคี้ยวใบโคคาเวลาทำงาน เพราะสรรพคุณที่ช่วยให้กระปรี้กระเปร่า สามารถใช้เป็นยาชา ลดอาการ Altitude Sickness หรืออาการแพนิคที่สูงจากความดันอากาศและปริมาณออกซิเจนที่ลดลง เนื่องจากบริเวณเทือกเขาแอนดีสมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,000 – 4,000 เมตร ด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้ชนพื้นเมืองนิยมเคี้ยวใบโคคาและนำมาต้มดื่มเหมือนน้ำชากันอย่างแพร่หลาย คล้ายกับคนไทยในสมัยก่อนที่นิยมเคี้ยวหมาก ต่อมาสรรพคุณสารพัดประโยชน์ของใบโคคานั้นดันไปเข้าตาเภสัชกรชาวอเมริกันอย่าง ดร.จอห์น เพมเบอร์ตัน ที่คัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ เพื่อผลิตเครื่องดื่มที่รู้จักกันทั่วโลกอย่าง Coca-Cola โดยใช้โคเคนเป็นหนึ่งในส่วนผสมปริมาณน้อยแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น เพราะจุดประสงค์ของโค้กในช่วงแรกคือเครื่องดื่มเพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น บำรุงประสาท และลดอาการอ่อนเพลีย จนในที่สุดการใส่โคเคนในโค้กก็ได้ถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ. 1904 เพราะถือเป็นสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย และวงการแพทย์รับรู้ถึงผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายของโคเคน แล้วอะไรที่ทำให้โคเคนกลายเป็นสารเสพติดที่นิยมในงานปาร์ตี้ของเหล่าคนมีเงินในปัจจุบัน? ถ้าถามว่าทำไม ก็จะได้คำตอบแบบง่ายๆ กลับมาว่าเพราะสนุก เมื่อเสพแล้วจะรู้สึกเคลิ้ม อารมณ์ดี หัวเราะกับเรื่องง่ายๆ แถมยังลดความประหม่าในการเข้าสังคม ทำให้เอ็นจอยไปกับปาร์ตี้ และกระตุ้นความต้องการทางเพศให้มากกว่าปกติ ซึ่งโคเคนนั้นเป็นที่นิยมในหมู่สังคมเซเลปชาวอเมริกันและอังกฤษมากกว่าที่ไทย ถึงขนาดที่อังกฤษเคยได้ฉายาว่าเมืองแห่งโคเคนเพราะหาซื้อง่ายแถมราคาถูก ตรงกันข้ามกับในไทย เพราะราคาที่ค่อนข้างสูงของโคเคนทำให้กลุ่มผู้ใช้ถูกจำกัดเป็นวงแคบ จะต้องเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง
หลังจากที่ Kim Jones ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวอังกฤษได้เคยสร้างความฮือฮาให้กับโลกแฟชั่นด้วยการส่ง Louis Vuitton x Supreme ออกสู่สายตาไปเมื่อปี 2017 แต่ในปีนี้โจนส์ได้โบกมือลา Louis Vuitton เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อต้นปี และได้เปิดตัวคอลเลกชั่นเดบิวต์ในฐานะ Artistic Director คนใหม่ของ Dior บนรันเวย์ Spring/Summer 2019 ได้อย่างน่าประทับใจ คอลเลกชั่นเปิดตัวของโจนส์ในครั้งนี้ถือเป็นการผลิกโฉม Dior Homme ครั้งใหญ่ เพราะเมื่อนึกถึง Dior Homme ก็คือสไตล์เรียบหรูที่มาพร้อมกับสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ตามสุภาพบุรุษแบบดิออร์ ซึ่งโจนส์ก็ไม่รอช้าที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้แก่แบรนด์โดยเปลี่ยนคอนเซปต์จากสุภาพบุรุษขรึมมาเป็นสุภาพบุรุษที่มีลุคสบายๆ ที่ยังคงความเนี๊ยบเท่อยู่ ด้วยการหยิบโทนสีพาสเทลอย่างขาวครีม ชมพูอ่อน และฟ้า รวมไปถึงลายดอกต้อนรับซัมเมอร์มาผสมกับโทนสีเข้มแบบดั้งเดิมของดิออร์ และได้เปลี่ยนชื่อเรียกจาก Homme ให้กลายเป็น Men เพื่อสร้างความรู้สึกที่เข้าถึงง่ายขึ้นอีกด้วย แรงบันดาลใจในการเปลี่ยนสไตล์ของ Dior Homme ให้กลายเป็น Dior Men ของโจนส์นั้นได้มาจากการศึกษาไลฟ์สไตล์และการทำงานของผู้ก่อตั้งแบรนด์อย่าง คริสเตียน ดิออร์ ที่ต้องคลุกคลีอยู่ในแวดวงแฟชั่นทั้งชายและหญิง เพื่อนำเสนอแฟชั่นที่ไม่มีการแบ่งเพศ พร้อมตอบรับกับกระแสเฟมินีนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน นอกจากการเปลี่ยนดีไซน์เสื้อผ้าในทิศทางใหม่ที่สร้างความฮือฮาแล้ว
Fashion Week สำหรับ Menwears ในฤดูกาล Spring/Summer 2019 ที่จัดขึ้นใน 4 มหานครแห่งแฟชั่นอย่าง Milan, London, New York และ Paris ก็ได้สิ้นสุดลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตามแต่ก็ไม่เป็นไร เพราะ UNLOCKMEN มาเผยทิศทางของแฟชั่นในปีหน้าว่ามีเทรนด์อะไรมาแรงบ้าง ด้วยการรวบรวม Street Style Trend 2019 ที่น่าสนใจไว้ดังนี้ 1. NEON TONE กลับมาฮิตอีกครั้งกับแฟชั่นนีออนไม่ว่าจะเป็นโทนสีเขียวหรือสีส้ม ที่คาดว่าจะยังคงได้รับความนิยมไปจนถึงปีหน้า เพราะไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สตรีทไปจนถึงแบรนด์ไฮแฟชั่นอย่าง Prada และ Dior ต่างก็หยิบเฉดสีนีออนมาแต่งแต้มบนผลงานกันอย่างสนุกสนาน รวมถึงสีนีออนนั้นเข้ากันได้ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มผิวขาว หรือผิวแทน สามารถเสริมสร้างความเท่ไม่เหมือนใครในงานปาร์ตี้หรือสะท้อนแสงไฟด้วยสีนีออนกันได้อีกยาว ๆ 2. SPORTSWEAR SUNGLASSES สำหรับแฟชั่นต้อนรับซัมเมอร์ หนึ่งไอเท็มที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับฤดูกาลนี้ก็คือแว่นกันแดด ซึ่งแว่นทรง Sportswear ในปีนี้ถือว่าได้รับความนิยม มาแรงแซงแว่นรูปทรงอื่นไปมาก ทั้ง Prada, CMMN
“เรื่องราวของวิญญาณดวงหนึ่ง ที่ผู้คุมบอกว่าเขาได้รับรางวัลจากสวรรค์ให้มาอยู่ในร่างโฮมสเตย์ของเด็กหนุ่มชื่อ มิน แลกกับต้องสืบหาเรื่องการตายของมินให้ได้ ภายใน 100 วัน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ได้เกิดอีกเลย” Homestay คือภาพยนตร์ไทยโรแมนติกดราม่าธริลเลอร์ ที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมญี่ปุ่น ‘Colorful’ ของ เอโตะ โมริ และได้ถูกสร้างเป็นแอนิเมชั่นญี่ปุ่น Colorful (2010) รวมถึงการแปลเป็นนิยายฉบับแปลไทยในชื่อ ‘เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม’ ถือเป็นงานเขียนที่สะท้อนมุมมองของคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิต อาการโรคซึมเศร้า และสะท้อนให้เห็นถึงเหตุผลที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่ได้อย่างดีเยี่ยม ตัวหนังนำเสนอเรื่องราวของ ‘มิน’ เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ผ่านมุมมองของดวงวิญญาณที่ไม่เคยรู้จักกับเด็กคนนี้มาก่อน เพียงแค่มาอาศัยอยู่ในร่างของเด็กหนุ่มชั่วคราว จึงจำต้องเริ่มทำความรู้จักตัวตนใหม่ที่เขาใช้เป็นโฮมสเตย์ เขาต้องสัมผัสกับปัญหาที่มินเจอโดยไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เด็กผู้ชายคนนี้คิดอะไร รักอะไร หรือเกลียดอะไร และค้นหาว่าเพราะเหตุใดถึงทำให้มินต้องตาย ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบเกี่ยวกับการมีชีวิตของมินคนใหม่นั้นแตกต่างจากมินคนก่อน เพราะแต่ละคนมองและจัดการกับปัญหาที่เจอไม่เหมือนกัน โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของหนังไม่ใช่การค้นหาว่าทำไมมินถึงตาย แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่ามุมมองความคิดที่ต่างไปจากเดิมนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตเราได้ตลอดกาล สักครั้งหนึ่งในชีวิตทุกคนต้องเคยเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก บางเรื่องที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูแย่ไปหมด ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวน เผลอตัดพ้อชีวิตว่าแต่ละวันมันช่างหดหู่เฮงซวย เฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ จนกระทั่งคิดไปถึงว่าถ้าตายเสียน่าจะยังดีกว่า ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้มักเกิดจากความผิดปกติทางเคมีในร่างกายที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ และสุดท้ายความตายที่คิดว่าเป็นทางออกที่ดีก็ไม่สามารถไขแก้ปัญหาอะไรได้เลย ซ้ำร้ายยังสร้างความเสียใจให้คนอื่นในครอบครัวและรอบข้างอีกด้วย เรื่องวุ่นวายทุกอย่างไม่ได้จบดังที่หวัง ซ้ำยังมีผลกระทบถึงคนรอบตัวมากมายกว่าที่คิด เพราะทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาเสมอ ดังนั้นขอจงอย่าเสียความเป็นตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ควรให้โอกาสตัวเองได้เห็นมุมมองของปัญหาจากผู้อื่นบ้าง และที่สุดแล้วความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คือเราทุกคนล้วนมีหนึ่งชีวิตเท่านั้น การให้โอกาสกับตัวเองจึงไม่เคยเป็นเรื่องไร้ค่า เช่นเดียวกันว่า คำตอบของการใช้ชีวิตก็ไม่ได้มีเพียงคำตอบเดียวเสมอไป
ถ้าให้นึกถึงเรื่องราวในช่วงประถมหรือมัธยม เครื่องแบบนักเรียนเป็นหนึ่งในความทรงจำแรก ๆ ที่จะต้องจำได้แม่น และหากพูดถึงรองเท้าผ้าใบสีขาวในวันที่ต้องใส่ชุดพละ หรือรองเท้าผ้าใบสีน้ำตาลในวันที่เรียนวิชาลูกเสือ ไปจนถึงรองเท้าสีดำในวันธรรมดา แบรนด์รองเท้าผ้าใบในวัยเด็กที่หลายคนเลือกมาใส่ก็คงจะมีแบรนด์ที่ชื่อว่า Breaker อยู่ด้วยอย่างแน่นอน หลังจากที่แบรนด์รองเท้าสัญชาติไทยอย่าง Breaker ออกรองเท้าผ้าใบสีพื้นขาว ดำ น้ำตาลให้เราใส่กันช่วงวัยเรียน วันนี้แบรนด์รองเท้าอายุหลายทศวรรษที่เติบโตมาพร้อมกันเริ่มหันมาบุกตลาดสนีกเกอร์ไทย ลุกมาแหกคอกการเป็นโมเดลรองเท้าโรงเรียนเป็นที่เรียบร้อย! เมื่อเริ่มออกแบบรองเท้านอกกรอบต่างจากที่เคยทำ คอนเซ็ปต์ของสนีกเกอร์ย่อมต้องแตกต่างจากเดิม Extreme และ Bushix ซึ่งเป็น 2 รุ่นแรกที่เปิดตัวด้วยโทนสีดำสุดเท่ จึงเพิ่มลูกเล่นและรายละเอียดไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุที่หลากหลายมาตอบโจทย์ เช่นเดียวกับที่มาไอเดียที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบครั้งนี้ที่เชื่อว่าถ้ารู้แล้วเราจะยิ่งอยากไล่ล่าเพื่อนำใส่มากขึ้นกว่าเดิม “Breaker X Outlaw” เมื่อ Breaker อยากแหกกฎตัวเอง พร้อมชวนคนใส่แหกกฎไปด้วยกัน สำหรับจุดกำเนิดของ “Breaker X Outlaw” คุณวิษณุ วงศ์วีระนนท์ชัย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท S.C.S.Footwear เล่าว่า Breaker อยู่ในตลาดรองเท้ามานาน มีความพร้อมทั้งการผลิตและ know how วันนี้ก็ถึงเวลาที่ Breaker จะได้ออกรองเท้าแบบใหม่ๆบ้าง ซึ่งคอนเซ็ปต์ก็คือ เป็นโมเดลที่แปลกและแตกต่างจากที่ Breaker เคยทำมาทั้งหมด จึงเกิดเป็น “Breaker
ในที่สุดประเทศไทยก็เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ แม้อากาศร้อนระอุจะชวนให้หมดแรงแค่ไหน แต่ชีวิตต้องก้าวต่อไป รวมถึงโลกของแฟชั่นที่ไม่เคยหยุด ต่างแข่งกันปล่อยไอเทมรับแดดด้วยสีสันสดใส เพื่อผลักดันให้เหล่าคอแฟชั่นทั้งชายหญิงออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ สร้างแรงบันดาลใจจากการเปิดโลกมากกว่านอนอุดอู้ตากแอร์อยู่ในห้องช่วงสุดสัปดาห์ นีออน (Neon) ถือเป็นสีแฟชั่นที่มาแรง ใครจะคิดว่านีออนอยู่มานานตั้งแต่ปี 2019 แถมยังไม่ตกกระแสไปไหน แบรนด์รองเท้าสัญชาติสเปน แคมเปอร์ (Camper) จึงเลือกหยิบโทนสีนีออนที่ได้รับความนิยมในโลกแฟชั่นมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักของคอลเลกชัน Spring/Summer 2020 “Camper Camping”Spring/Summer 2020 “Camper Camping” นำแรงบันดาลใจจากความอิสระ การออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทิ้งเรื่องเก่าไว้ข้างหลัง แล้วกระโจนออกนอกกรอบหรือรั้วบ้าน เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยทั้งหมดนี้เล่าผ่านรองเท้าสีสันจัดจ้าน เพราะสีนีออนแสดงถึงความเป็นอิสระและการคิดนอกกรอบ อีกทั้งเป็นตัวแทนของการแหวกสไตล์เดิม ๆ รวมถึงเป็นการเติมความจัดจ้านให้กับไลฟ์สไตล์ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ UNLOCKMEN อยากแนะนำแฟชั่นรองเท้าสีนีออนของ Camper มาแมตช์กับการแต่งตัวทั้ง 3 สไตล์ บอกเล่าเทคนิคการใส่ไอเทมสีจัดจ้านที่คนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่าใส่ยาก เปลี่ยนให้เป็นเรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็แต่งแต้มสีนีออนบนตัวได้ CAMPER NEON x COSTUME ถ้าใครติดตามแฟชั่นอยู่เป็นประจำจะเห็นว่าเหล่าศิลปิน นักแสดง นางแบบคนดังหยิบเสื้อหรือกางเกงสีนีออนออกมาใส่เดินเที่ยวกันอยู่บ่อย ๆ ก่อนหน้านี้หลายคนเดาว่านีออนจะอยู่เพียงแค่ไม่กี่เดือนแล้วเดี๋ยวก็หายไป