วันนี้ช่างเป็นวันที่สวยงาม รถไม่ติดมากเกิน ฝนไม่ตก แดดกำลังดี ยิ้มไปเหยียบคันเร่งไป จำพวงมาลัยสลับเคาะจังหวะตามเสียงเพลง รถไหลไปฉิว ๆ ในจังหวะไฟเขียว ทันใดนั้น ก็มีรถมารยาทโคตรแย่อยู่เลนเลี้ยวซ้ายเพื่อทำความเร็ว ก่อนลักไก่ปาดหน้ารถคุณเข้าเลนกลาง ทำให้คุณไม่มีทางเลือกนอกจากกระทืบเบรกเพื่อไม่ชนจนกาแฟแก้วโปรดคุณก็หกเต็มคอนโซล ทันใดในอารมณ์ของคุณก็เดือดพล่าน บีบแตรลั่นลากยาว ก่อนจะตะโกนด่าออกไปว่า “ไอ้เหี้_!” แม้เข้าของรถคันข้างหน้าจะไม่ได้ยิน แต่ก็น่าจะอ่านปากได้ไม่ยาก จากนั้นอารมณ์คุณก็เย็นลง แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคุณไม่ได้ขับรถคนเดียว มีสาวนั่งมาด้วยข้าง ๆ ไม่ก็เด็ก สตรีมีครรภ์ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ กว่าจะรู้สึกผิดกับการระบายอารมณ์ของตัวเองก็สายไปแล้ว ทำได้แค่กล่าวขอโทษผู้โดยสารแบบเขิน ๆ ไอ้ความเดือดดาลบนท้องถนนที่คุณเป็นนั้นเรียกสั้น ๆ ว่า “road rage” หัวร้อนบนท้องถนนถือเป็นเรื่องปกติไหม ? ความโกรธเป็นประสบการณ์ปกติของมนุษย์ ซึ่ง road rage คือคำที่นิยมใช้เรียกภาวะที่เราโกรธขณะขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนน ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนเคยโมโหหลังพวงมาลัยกันมาแล้ว เกือบ 80% ของผู้ขับขี่ก็เคยระบายออกมาในรูปแบบต่าง ๆ จากผลสำรวจของ American Automobile Association (AAA) Foundation for Traffic Safety
สุภาพบุรุษทั้งหลาย เราต่างรู้ว่าการที่เรามีอายุมากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นผู้มากขึ้นตามตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเสมอไป เป็นความจริงที่ว่าผู้ชายวัย 30 กว่า หรือ 40 กว่าบางท่านยังคงไม่ค่อยมีวุฒิภาวะเท่าที่ควร อันนี้ไม่ได้ว่าหรือตำหนิกัน แต่ผู้เขียนเองก็ยอมรับว่าตัวเองยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอในบางเรื่อง ก็เลยคิดว่าอยากจะนำแนวคิดที่จะช่วยให้ผู้ชายอย่างเราพัฒนาตัวเองไปด้วยกัน การโตเป็นผู้ใหญ่ในที่นี่ไม่ใช่การเป็นรุ่นใหญ่หรือมีอำนาจ แต่เป็นการซื่อสัตย์กับตัวเอง พัฒนาคาแรกเตอร์ และใช้ชีวิตอย่างมีศิลปะและศีลธรรม มาดูด้วยกันว่าพวกเรามีสัญญาณแห่งความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วกี่ข้อ ขาดเหลือตรงไหนได้พัฒนาไปพร้อม ๆ กัน ทุกคนเชื่อมั่นว่าคุณจะทำตามสัญญา สิ่งหนึ่งที่เราจะได้เรียนรู้จากการเป็นผู้ใหญ่ก็คือ ความน่าเชื่อถือนั้นเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล้ำค่า คุณคงไม่อยากจะมานั่งกุ้มใจเวลาที่มีใครมาลับหลัง โดยเฉพาะบรรดา hater ทั้งหลาย ลองจินตนาการดูว่าเวลาที่เราไม่อยู่ในวงสนทนา ผู้คนในกลุ่มนั้นจะพูดถึงเราว่าอย่างไร คุณอยากเป็นคนที่เชื่อมั่นในคำพูดไม่ได้ ? คุณอยากเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ ? หรือคุณอยากเป็นคนที่ทุกคนต่างไว้เนื้อเชื่อใจ ? คนที่ทำอย่างที่ให้คำมั่นไว้ ? ใช่ เราควรพัฒนาตัวเองให้เป็นคนที่ทุกคนเชื่อใจอย่างไร้ข้อกังขา แต่งตัวเหมาะสม การลงทุนจ่ายเพื่อซื้อเสื้อผ้ารองเท้ามาแต่งตัวให้ดีไม่ได้เป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว หรือการทำตัวเองให้น่าสนใจเสมอไป แต่การแต่งตัวให้ดูดีและเหมาะสมไม่ได้ช่วยส่งเสริมบุคลิกเท่านั้น แต่มันยังเปลี่ยนความรู้สึกของเราได้อีกด้วย หากเราหมั่นใส่ใจและสนใจในการรักษาลุคของเราในทุกรายละเอียด ก็จะทำให้เรามีระเบียบวินัยมากขึ้น คล้าย ๆ กับการเซ็ตเอาไว้ว่าต้องออกกำลังกายเป็นประจำแล้วทำตามจนคุ้นชิน หากห่างหายก็จะรู้สึกขาดหายไปด้วย Tom Ford เคยบอกไว้ว่า
เมื่อเราตั้งใจทำงานแล้วรู้สึกว่าการฟังเพลงผ่านทางแพล็ตฟอร์ม streaming music หรือ podcast ต่าง ๆ มันช่างรู้สึกทำให้เสียสมาธิ งานไม่ค่อยเดิน เพราะดันเพลินไปกับเนื้อหาของเพลง แต่จะให้ไม่ฟังอะไรเลยก็รู้สึกเหงาหูอีก แบบนี้ต้องหาทางออกให้กับชายที่เป็นผู้ฟังที่ดีกันหน่อย จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับผลกระทบของเสียงที่มนุษย์ได้ยิน และอิทธิพลของมันที่มีต่อการทำงาน การเรียน หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่ต้องการสมาธิพบว่าความเงียบน่าจะดีที่สุด แต่ในขณะเดียวกันหากเราเลือกเสียงที่เหมาะสมกับการจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ส่งผลให้เรามีประสิทธิภาพในการในการทำงานมากขึ้นได้เหมือนกัน UNLOCKMEN ขอแนะนำซาวด์ที่เหมาะสมกับการโฟกัสของคุณ และเสียงที่ควรหลีกเลี่ยงหากต้องการรักษาสมาธิ สุนทรพจน์ทำหมดสมาธิ จากการวิจัยของ Cambridge Sound Management พบว่า speech หรือการกล่าวสุนทรพจน์ ทั้งที่มีซาวด์ดนตรีประกอบหรือไม่มี สามารถรบกวนสมาธิในการทำงานได้ถึง 48% เพราะว่าความหมาย และความทรงพลังของถ้อยคำที่ร้อยเรียงเป็นประโยคหล่านั้นจะดึงให้คุณหันเหไปใส่ใจจนได้ ทางที่ดีควรฟังแต่เพลงบรรเลงจะดีกว่า งานบางอย่างฟังเพลงไปด้วยแล้วโคตรเพลิน ถ้าหนึ่งใน job description ของคุณคือการคีย์ข้อมูลลงใน spreadsheet แบบนี้ดนตรีจะสร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณได้โดยไม่เสียงาน โดยการศึกษาของ University of Birmingham ในอังกฤษ พบว่า เสียงเพลงสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่มีลักษณะทำซ้ำเป็นแพตเทิร์นได้ดี ยิ่งถ้าเป็นเพลงที่มีโครงสร้างเป็น loop
หนึ่งในประโยคโคตร cliche ที่พูดกันจนติดปากก็คือ “ความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว” ดูเหมือนจะเป็นจริงอีกครั้ง เมื่อผลสำรวจผู้ชายกลุ่มตัวอย่างระบุว่า หนึ่งในสามของพวกเขารู้สึกว่าการบรรเลงเพลงรักนั้นสิ้นสุดเร็วกว่าที่ตัวเองตั้งเป้าแม้เป้าจะตั้งก็ตาม (ครั้งละ 3-10 นาที) แบบนี้ถ้าไม่อยากเป็น 33-34% ของชายที่รู้สึกว่าตัวเอง “เสร็จเร็ว” ก็ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว แม้ว่าในปัจจุบันจะมีหลายวิธีการที่ทำให้เราทำการบ้านได้อึดทนนานขึ้น แต่เราอยากแนะนำให้พัฒนาสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้นตามธรรมชาติ ด้วยวิธีการที่โคตรคลาสสิคเช่นกัน แต่ได้ผลทั้งเรื่องเพศ และสุขภาพโดยรวม ด้วยโปรแกรม workout จาก Scott Hays ผู้เขียน Built for SexOpens a New Window และ Sexual Fitness for MenOpens a New Window ที่จะช่วยให้คุณมี sex ได้นานขึ้น และเพิ่มอรรถรสได้ดี อยากลากความสุขได้นาน ๆ อ่านแล้วทำตามทางด้านล่างนี้ได้เลย บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน อธิบายง่าย ๆ ก็คือการ “ขมิบ” นั่นเอง ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์สำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่การฝึกขมิบกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานก็มีข้อดีสำหรับท่านชายเหมือนกัน เนื่องจากกล้ามเนื้อมัดนี้ทำหน้าที่ดูแลต่อมลูกหมาก และสมรรถนะของเพศชาย
“การนอนหลับ” คือหนึ่งในความสุขของมนุษยชาติ แต่ด้วยภาระหน้าที่และชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน ทำให้พวกเรามีเวลาพักผ่อนมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนได้นอนยาวจนเพียงพอ บางคนต้องปะติดปะต่อให้เต็มอิ่ม บางคนนอนหัวค่ำ บ้างก็นอนเช้า ไม่ก็อดนอนบ้างในบางวัน ซึ่งมันไม่มีผิดมีถูกอะไร เพราะเงื่อนไขคนเราย่อมไม่เหมือนกัน แม้ว่าเวลาการนอนของหนุ่ม ๆ อย่างเราจะเป็นเรื่องปัจเจก แต่ก็มีผู้คนไม่น้อยที่บริหารชีวิตประจำวันของตัวเองให้สามารถเข้านอนในเวลาที่เหมาะสม แถมตื่นแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นเสียอีก แค่คิดก็รู้สึกง่วงแล้ว เราเองคงงัดตัวเองออกจากที่นอนตอนเช้าขนาดนั้นไม่ได้แน่ ๆ ขอชื่นชมอยู่ห่าง ๆ ดีกว่า (ฮา) แต่พอมานอนนึกดูดี ๆ ข้อดีของการตื่นแต่ไก่โห่มันก็มีหลายอย่างนะ ลองดูสักตั้งดีมั้ย ปรับเวลานอนของตัวเองให้เร็วขึ้น แล้วมาตื่นก่อนหรือพร้อม ๆ กับดวงอาทิตย์ แล้วเริ่มชีวิตตั้งแต่เช้ากันดีกว่า น่าจะมีอะไรดี ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งนี้ไม่มากก็น้อย ประโยชน์ของการตื่นนอนแต่เช้า เพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน โลกของเราในเวลา 6 โมงเช้ามันช่างเงียบสงบ คนรอบข้างและสังคมส่วนใหญ่ยังไม่มีใครตื่น ห้างร้าน บริษัท สถานที่ราชการต่าง ๆ ก็ยังไม่เปิด เพราะฉะนั้นเวลานี้คือเวลาดีที่เราจะเริ่มต้นวันใหม่ เวลาดี ๆ เช่นนี้เหมาะกับการวางแผนการใช้เวลาในวันนี้ จัดการงานเล็กงานน้อย เคลียร์งานนอกเพื่อไม่ให้กระทบกับงานหลัก เริ่มไล่เช็กอีเมล หรือออกกำลังกายก็ดี
เชื่อว่าหนึ่งฝันของสาวกภาพยนตร์สายลับตระกูล James Bond ก็คือการได้ครอบครองรถสปอร์ตคันงามที่พยัคฆ์ร้าย 007 ใช้ขับขี่หล่อ ๆ แถมด้วยอุปกรณ์สุดไฮเทคไว้ใช้ไล่ล่าเหล่าร้าย และก็ดูเหมือนว่าความฝันนี้กำลังจะกลายเป็นจริง Aston Martin ค่ายผลิตรถสปอร์ตสุดหรูจากอังกฤษ ประกาศออกมาแล้วว่า บริษัทของพวกเขาเตรียมจะผลิตรถ Aston Martin DB5 รุ่นที่สายลับเมืองผู้ดีคนนี้ใช้งานในตอน Goldfinger (1964) ออกมาทั้งหมดแบบลิมิเต็ด 25 คันเท่านั้น ซึ่งหนัง James Bond ภาคดังกล่าวเป็นหนึ่งในตอนที่ได้รับคำชมและมีคนชื่นชอบมากที่สุด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าเป็นตอนแรกที่เอเยนต์ Bond ของเราได้โชว์ของสุดไฮเทคทั้งหลายรวมถึงเจ้ารถคันงามนามว่า DB5 คันนี้ด้วย โดยหลังจากนั้นรถสปอร์ตคลาสสิคสุดไฮเทคคันนี้ก็ถูกนำมาให้สายลับเสน่ห์แรงได้คุมพวงมาลัยอีก 6 ตอน แน่นอนว่ามันไม่ได้มาแค่รูปลักษณ์ แต่ว่ามันมาพร้อมกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนัง จากการร่วมมือกันผลิตของ Aston Martin และ EON Production ราวกับว่า Q มาเอง Andy Palmer CEO ของ Aston Martin เล่าว่า “สายสัมพันธ์ของ Aston Martin กับ James Bond เป็นอะไรที่เราภาคภูมิใจมาก
ว่ากันเรื่อง “นวด” เชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะชื่นชอบไม่เบา (เราหมายถึงการนวดตัวจริง ๆ ไม่มีนัยแอบแฝงใด ๆ) เพราะมันโคตรผ่อนคลาย สบายเหลือเกิน ยิ่งหลังจากทำงานหนัก เครียด หรือออกกำลังกายจนเมื่อย การโดนนวดนี่มันสวรรค์ชัด ๆ แต่ในที่นี้ เราไม่ได้จะชวนออกไปนวดแต่อย่างใด แต่อยากจะแชร์วิธีการเอาใจสาวคนรักของคุณด้วยศาสตร์และศิลป์แห่งการนวด เผื่อเธอปวดเมื่อยมา เราจะได้อาสาเอาใจเธอได้ในฐานะหมอนวดส่วนตัว นอกจากการนวดให้สาวของคุณนอกจากจะทำให้เธอรู้สึกดี หายเหนื่อยจากเรื่องราวระหว่างวันได้แล้ว ยังเป็นที่รู้กันว่าการลูบ ๆ บีบ ๆ จับเส้น คลึงกล้ามเนื้อไปมานั้นเป็นตัวอุ่นเครื่องชั้นดี และนำพาสู่การมี sex ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย ทีมงาน UNLOCKMEN มีวิธีการนวดให้สาว ที่จะทำให้เธอลืมคุณไม่ลงมาฝากกัน แต่ก่อนที่จะไปนวดให้สาว โปรดศึกษาพื้นฐานการนวดมาให้ชัวร์ก่อนนะ เดี๋ยวเธอจะบาดเจ็บ พาลเอาหมดอารมณ์กันพอดี บรรยากาศต้องเป็นใจ จากการสอบถามสาว ๆ มา ส่วนใหญ่พวกเธอจะบอกว่าบรรยากาศก็มีส่วนสำคัญที่จะทำเธอเคลิบเคลิ้ม เพราะฉะนั้นจัดเลย อะไรที่ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายจากภายใน และอะไรจากภายนอกที่ทำให้เธอรู้สึกชิลล์ ห้องต้องสะอาด น่าอยู่ ใช้แสงสลัว ๆ สบายตา เช่น
ย้อนไปตั้งแต่สมัยท่านเปาบุ้นจิ้น เมื่อหนุ่ม ๆ อย่างเรามีหนวดเคราดกดำ มันก็จะชอบลูบคลำ (หนวดเครา) เป็นธรรมดา ก็มันทั้งภูมิใจกับหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความเป็นชาย แหม่ อุตส่าห์ไว้ตั้งนาน คนอื่นอยากได้กลับไม่มี เราจึงคอยเล็ม คอยแต่ง กว่าจะหล่อแบบนี้ ยิ่งเวลาคิดงานยิ่งลูบเคราเพลิน แต่หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมจากความเคยชินเหล่านี้ อาจทำให้สิ่งสกปรกไม่พึงประสงค์มาอาศัยอยู่ในดงเคราของเราก็เป็นได้ !? และเราคงไม่อยากเอามันไปสัมผัสกับหน้าสวย ๆ ของสาวที่เรารักแน่นอน จากการทดลองและวิจัยของ Manchester Metropolitan University และ Fragrance Direct ระบุว่า หนวดเคราของหนุ่มบางรายอาจปนเปื้อน ฟีคัลโคลิฟอร์ม (Fecal Coliform) แบคทีเรียชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น ซึ่งจะถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ โดยผลการวิจัยทั้งในชายที่ไว้เครายาว, สั้น และเพิ่งขึ้นเป็นตอ ๆ พบว่า มีชายถึง 47% ของกลุ่มที่ถูกทดสอบ มีแบคทีเรียฟีคัลปนเปื้อนอยู่ที่หนวดเครา โดยเฉพาะในหนวดเคราสั้น ๆ ! ทั้งที่มีการบอกให้ล้างหน้าทำความสะอาดหนวดเคราในวันที่ทดสอบมาแล้วก็ตาม แล้วมันมาอยู่ที่เคราของเราได้ไง ? ด้วยความสงสัยจึงเกิดเป็นการสังเกตและการทดลองในหลายตัวแปรมากขึ้น แล้วก็พบว่าสาเหตุนี่มันคือการตายน้ำตื้นชัด ๆ เพราะ 60% ของกลุ่มตัวอย่างไม่ได้ล้างมือหลังจากเสร็จภารกิจหนักในห้องน้ำ ทำให้มีเชื้อโรคติดมือมา
พอเข้าสู่ครึ่งหลังของปี ก็ดูเหมือนกับว่าเป็นฤกษ์ดีที่คู่รักจะลั่นระฆังวิวาห์กัน และก็มีหลายคนที่จะต้องไปร่วมงานแต่งงานเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลของคนในครอบครัว มิตรสหาย เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานก็ตาม ยิ่งถ้าได้รับหน้าที่เป็น “เพื่อนเจ้าบ่าว” ด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกมีเกียรติ แต่มันก็มีความท้าทายอยู่ไม่เบา ความท้าทายที่ว่านี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่การซักซ้อมพิธีการ การแต่งตัว และการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่มันยังรวมถึงการ speech หรือการกล่าวคำอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง อันที่จริงเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ก็นะ เพื่อนซี้หรือญาติพี่น้องคนสนิทของคุณแต่งงานทั้งที มันก็ต้องมีศิลปะแห่งการ speech กันหน่อย งานจะได้ไม่กร่อยตอนที่คุณขึ้นกล่าว คำถามก็คือ เราจะกล่าวให้มันเจ๋งได้อย่างไร ? มันควรจะสุดฮา หรือซาบซึ่งกันแน่ ? ควรจะพูดถึงเจ้าบ่าวอย่างเดียว หรือควรกล่าวถึงเจ้าสาวด้วย ? ต้องร่ายยาวแค่ไหน ? ต้องเมาก่อนมั้ย ? และเรื่องที่จะเล่ามันจะทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่หัวใจจะวายหรือเปล่า ? คำตอบของคำถามเหล่านี้ ทีมงาน UNLOCKMEN ขอนำมาฝากหนุ่ม ๆ กัน จากคำแนะนำของ Kye Harman อดีตคนวงการบันเทิงที่ผันตัวมาเป็น Managing Director ของ Simply The Best Man
แม้ว่าผู้ชายอย่างเราจะชอบออกกำลังกายแค่ไหน แต่มันก็มักจะเป็นเรื่องยากที่จะตื่นแต่เช้าเพื่อมา workout ก่อนทำอย่างอื่น เพราะว่ามันค่อนข้างฝืนเมื่อเทียบกับชีวิตประจำวันที่ทุ่มเทกับการทำงานจนถึงค่ำมืด จากนั้นก็แบ่งเวลาให้คนรอบข้าง กว่าจะกลับบ้านนอนก็ดึกดื่น แบบนี้ใครมันจะไปตื่นไหว !? แต่ถ้าปล่อยให้ชีวิตประจำวันเป็นเหตุผลในการไม่เริ่มต้นปฏิวัติตัวเองก็คงดูไม่เข้าที มาลุยกันสักตั้งดีกว่า พยายามเข้านอนก่อนห้าทุ่มให้ได้ จะได้ตื่นเช้า ๆ ราวหกเจ็ดโมง แล้วมาออกกำลังกายตามโปรแกรมนี้ที่ UNLOCKMEN แนะนำเลย ขอบอกว่าโปรแกรม workout ยามเช้าที่เอามาแชร์กันนี้ใช้เวลาไม่นาน ไม่ยาก และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดี ส่งผลให้พวกเรามีพลังทั้งวัน เอ้า เริ่มได้! โปรแกรมนี้แบ่งเป็น 5 ชุด ให้ไล่ลุยต่อเนื่องตามลิสต์นี้เลย เหนื่อยหน่อย แต่ถ้าตื่นเช้ามาทำได้บ่อย ๆ แล้วจะโคตรดี Workout 1 Jumping Jacks – 60 วินาที Body-Weight Squats – 30 วินาที Plank – 60 วินาที Mountain Climbers – 30 วินาที พัก 30 วินาที