ย้อนกลับไป 25 ปีก่อน CHANEL สร้างคลื่นลูกใหม่ในวงการเรือนเวลาด้วย J12 สีดำเซรามิก ความสปอร์ตที่พกดีเอ็นเอแฟชั่นเต็มขั้น วัสดุไฮเทคอย่างเซรามิกที่เคยถูกมองเป็นแค่ของทนทาน กลายเป็นวัสดุล้ำค่าขึ้นมาได้อย่างมีคลาสในมือของ CHANEL และในปี 2025 นี้ J12 ยังคงกลายพันธุ์ได้อย่างสง่างาม กับการเปิดตัว J12 BLEU รุ่นลิมิเต็ดที่มาพร้อมกับเฉดสีใหม่ที่ CHANEL ใช้เวลากว่า 5 ปีพัฒนา — “น้ำเงินจนเกือบดำ ดำจนเกือบน้ำเงิน” เฉดสีที่พูดน้อยแต่ทรงพลัง เป็นสีของคนที่ไม่ต้องการเสียงดังเพื่อให้ใครมองเห็น ตัวเรือนขนาด 38 มม. รังสรรค์จากเซรามิกแมตต์สีน้ำเงินผสมเหล็กเคลือบดำด้าน จับคู่กับสายเซรามิกโทนเดียวกัน ให้สัมผัสเบา นุ่ม เย็น ลื่นอย่างประณีต เป็นวัสดุที่ไม่ได้แค่หรู แต่ให้ประสบการณ์สัมผัสที่เหนือชั้นทุกครั้งที่สวมใส่ ขอบตัวเรือน (bezel) ลาย baguette-cut ถูกฝังลงบนเซรามิกแมตต์ได้อย่างกลมกลืน เม็ดมะยม screw-down ฝังหัวด้วยเซรามิกสีน้ำเงิน พร้อม crown guard กันกระแทกเนียนตา รองรับการกันน้ำลึกถึง 200 เมตร
ในโลกของ Panerai ทุกครั้งที่แบรนด์นี้ขยับ มักไม่ใช่แค่เรื่อง “เวลา” แต่มันคือการเล่าเรื่องของตัวตนที่ไม่เหมือนใคร — และที่ Watches & Wonders ปีนี้ PAM01575 ก็เดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แต่เปล่งรัศมีบางอย่างที่ทำให้คนรักกลไกหยุดมอง นี่คือ Panerai Luminor Perpetual Calendar GMT Platinumtech PAM01575 ภาคต่อของ PAM01269 รุ่น Goldtech สุดเอ็กซ์คลูซีฟเมื่อปี 2022 ที่ออกมาเพียง 33 เรือนทั่วโลก — ครั้งนั้นมันเปิดเกมด้วยหน้าปัด smoked sapphire ที่โปร่งใสจนเผยให้เห็นจักรกลใต้ผิวเรือนเวลาได้อย่างเร้าใจ ขณะเดียวกันก็ยังคง DNA ของ Panerai ไว้อย่างครบถ้วน PAM01575 หยิบแนวคิดเดียวกันกลับมาอีกครั้ง แต่แทนที่จะแต่งทอง ก็เปลี่ยนวัสดุหลักมาเป็น Platinumtech — โลหะผสมเฉพาะของ Panerai ที่ถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งกว่าแพลตตินั่มปกติถึง 40% ด้วยกระบวนการบ่มพิเศษภายในแบรนด์เอง ส่งผลให้ตัวเรือนขนาด
ย้อนกลับไปแค่สองปีก่อน Rolex เคยทำให้โลกต้องตั้งคำถามกับ “Destro” หรือ GMT-Master II ที่ถูกออกแบบให้คนถนัดซ้ายใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการย้ายเม็ดมะยม วันที่ และ Cyclops ไปอยู่ฝั่งซ้ายทั้งหมด ในตอนนั้นหลายคนว่าแปลก บางคนว่าท้าทาย วันนี้ Rolex กลับมาเล่าเรื่องนั้นอีกครั้ง — แต่ในโทนที่หรูหรากว่า หนักแน่นกว่า และเขียวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย นี่คือ GMT-Master II Ref. 126729VTNR ในเวอร์ชั่น ทองคำขาว พร้อมหน้าปัด “เซรามิกเขียว” Cerachrom รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ ถ้าคุณเป็นคนที่คุ้นชินกับ Rolex แบบเดิม คุณอาจคิดว่ามันแค่เปลี่ยนสี เปลี่ยนวัสดุ แล้วขายใหม่ในราคาที่แพงขึ้น แต่ในความจริง มันมีอะไรมากกว่านั้น โดยเฉพาะ “เนื้อของหน้าปัด” ที่ไม่ได้ใช้การพ่นสีแบบ lacquer เหมือนที่ผ่านมา แต่ใช้วัสดุ Cerachrom (เซรามิกชนิดพิเศษที่แบรนด์พัฒนาขึ้นเอง) ที่ต้องใช้ฝีมือและการควบคุมเฉดสีอย่างแม่นยำ และในรุ่นนี้ Rolex จงใจเลือกสีเขียวให้แมตช์กับขอบหน้าปัดครึ่งล่างได้อย่างแนบเนียน ซึ่งถือว่า rare
ในโลกที่นาฬิกาจักรกลถูกนิยามด้วยคำว่า “คลาสสิก” Rolex กลับเลือกจะเขียนคำว่า “อนาคต” ให้ชัดขึ้นกว่าที่เคย และ Land-Dweller คือการประกาศทิศทางใหม่ของแบรนด์ที่ไม่ต้องประกาศ แต่เริ่มจากกลไกที่เดินอยู่เงียบ ๆ ใต้หน้าปัด ชื่อ Land-Dweller ถูกจดทะเบียนตั้งแต่กลางปี 2023 การกลับมาอีกครั้งของแนวทางการออกแบบ ตัวเรือนแบบ integrated Flat Jubilee bracelet รื้อฟื้นภาพจำของยุค Oysterquartz ดีไซน์จาก Datejust ref. 1530 ในปี 1975 เป็นแกนกลางในการออกแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยตัวเรือนทรง barrel เปิดตัวพร้อมกันถึง 10 references โดยมีทั้งตัวเรือน steel, Everose gold และ platinum ในขนาด 36mm และ 40mm บางเพียง 9.7mm กับหน้าปัด honeycomb ลายรังผึ้ง ประกบด้วยกระจก sapphire ทั้งหน้าและหลัง —
ในยุคที่เทคโนโลยีและสไตล์ต้องมาพร้อมกัน เวสป้าพร้อมที่จะนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วย Vespa Sprint Tech 150 i-Get ABS ยานพาหนะที่ผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ที่โดดเด่นในด้านการดีไซน์ เวสป้าไม่เคยหยุดที่จะพัฒนา Vespa Sprint Tech รุ่นใหม่นี้จึงเป็นการผสานเทคโนโลยีเข้ากับความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเวสป้าดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา ดีไซน์ที่สะกดทุกสายตา โฉมใหม่ของ Vespa Sprint Tech 150 i-Get ABS มาพร้อมการผสมผสานสีที่สื่อถึงความทันสมัย ด้วยโทนสีดำ Black Convinto (Matt) สีเทา Grey Entusiasta และจุดเด่นด้วยสีเขียวฟลูออเรสเซนต์ที่เพิ่มความมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ส่วนไฟ LED ดีไซน์ใหม่บนแผ่นบังโคลนทั้งสองข้างไม่เพียงเพิ่มความปลอดภัย แต่ยังสร้างความโดดเด่นในทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นการกดปุ่ม “ค้นหารถ” หรือขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ หน้าจอ TFT ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยหน้าจอ TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในทุกสภาวะ ด้วยการแสดงผลสีคมชัดทั้งในโหมดกลางวันและกลางคืน พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยเเชื่อมต่อกับ Vespa MIA** และ Vespa
เพราะว่าโตมากับหนังของ Adrien Brody ก็เลยดีใจมาก ๆ กับออสการ์ตัวที่ 2 ของเขาใน The Brutalist หลังจากที่ได้ครั้งสุดท้ายย้อนกลับไปไกลถึง 2003 พร้อมบันทึกประวัติศาสตร์เป็นนักแสดงชายอายุน้อยที่สุดที่ได้ Best Actor (อายุแค่ 29) จาก The Pianist ปรบมือ ! หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ นอกจากเป็นนักแสดงฮอลลิวูดแล้ว เอเดรียนยังเป็น Watch Collector ตัวยง คอลเลกชั่นส่วนตัวของเขามีทั้งนาฬิกา High-End ดีไซน์สุดประณีต ไปจนถึงนาฬิกาคลาสสิก โพสต์นี้ UNLOCKMEN ก็เลยมารวมคอลเลกชั่นนาฬิกาที่น่าสนใจของหนุ่มนิวยอร์กเกอร์วัย 51 ที่เขาให้คำนิยามความชอบนาฬิกาของตัวเองเอาไว้ว่า “I Like Really Masculine Watches.” รหัส 5539G-010 หรูหราด้วยการเป็นนาฬิกาที่ทำขึ้นจากทองคำขาว 18ct White Gold สำหรับผู้ชาย ตัวเรือนไซส์ 37mm นับว่าเป็นขนาดที่ไม่ได้กระทัดรัดหรือเทอะทะจนเกินไป หน้าปัดสีน้ำเงินมากับหลักเวลา
อัพเดทข่าวดี เมื่อ Seiko Prospex Alpinist Series เรือนเวลาสุดเท่ สำหรับผู้หลงใหลในเสน่ห์แห่งผืนป่าและเหล่านักผจญภัยภาคพื้นดิน ได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ ยกขบวนพร้อมให้เป็นเจ้าของกันหลายรุ่น แต่สำหรับรุ่นที่ถือเป็นไฮไลต์ของคอลเลกชันนี้คือ Seiko Prospex Alpinist GMT Asia Limited Edition inspired by Hornbills รหัส SPB493J ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 เรือนทั่วโลก เปิดตัวพร้อมให้เป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นวัน ‘Love Hornbills Day’ หรือ ‘วันรักนกเงือก’ เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของนกเงือก ที่เป็นตัวแทนความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า และเป็นนักปลูกป่าที่อบอวลไปด้วยความรักอันน่ายกย่อง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของเรือนเวลาเรือนนี้ โดย Seiko Prospex Alpinist GMT Asia Limited Edition inspired by Hornbills มาพร้อมกลไกการทำงานอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 6R54
ตลอดกุมภาพันธ์ 2025 ทั้งเดือน UNLOCKMEN เรามาในธีมของ Vintage Month คอนเซปต์ “Old Is Gold” เพราะเราเชื่อว่าของวินเทจเป็นสิ่งที่ยิ่งเก่าก็ยิ่งเก๋า และเมื่อพูดถึงสไตล์ของวินเทจในประเทศไทย Military Style ก็เป็นอะไรที่ Timeless และมีเหล่าผู้ที่หลงใหลใน Tiger Stripe / Navy Batch หรือ History Of Solider ประวัติศาสตร์โลกก็ตาม “ท่ามกลางประวัติศาสตร์ของลวดหนาม เขม่าดินปืน และโคลนที่กองพันเดินผ่านกันอย่างยั้วเยี้ย ก็มีเรื่องราวจุดเปลี่ยนของนาฬิกาพกพาสู่นาฬิกาข้อมืออยู่ด้วย” ที่บทความนี้เราจะมาพูดถึงนาฬิกาทหาร เพราะรู้มั้ยว่า ? นาฬิกาข้อมือ (Wrist Watch) ที่เราใส่กันทุกวันนี้ มีจุดกำเนิดมาจาก Military Watch ที่ทำขึ้นในกองทัพ ! มาหลายศตวรรษ และเป็นบิดาของนาฬิกานักบิน (Pilot Watch) / นาฬิกาดำน้ำ (Dive Watch) การบอกเวลาที่แม่นยำคือหัวใจหลักของนาฬิกา Mitary และเป็นสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของนาฬิกาทุกรุ่นในเวลาต่อมา
รหัส m79360n-0024 ของซีรีส์ Black Bay คือการตอกย้ำการเป็นเรือนเวลาระดับประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Tudor ซึ่งเป็นการจับส่วนผสมของนาฬิกาดำน้ำระดับโปรเข้ากับ Sports Chronograph ผสมผสานอย่างลงตัวทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ Calibre MT5813 (COSC) สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง มาพร้อมกลไก Column Wheel & Vertical Clutch ที่ให้เราใช้งานได้แบบ Everyday Watch ด้วยสายนาฬิกาตัวล็อค TUDOR “T-Fit” สุดปลอดภัยใส่ On Hand ได้ตลอดวัน และด้วยไซส์ซิ่งตัวเคสความกว้างขนาด 41 มม. / ความหนา 14.4 มม. ของนาฬิกา Stainless Steel ตัวนี้ ก็เหมาะกับทุกสไตล์ มาพร้อมฟังก์ชันกันน้ำลึกถึง 200 เมตร ว่ากันด้วยไฮไลต์ความงดงามบนหน้าปัดของ Flamingo Blue ที่เป็นการตอกย้ำจิตวิญญาณแห่งการแหกฏของแบรนด์ Tudor อีกครั้ง
นอกจาก Moonwatch ที่โด่งดัง หลายคนอาจลืมไปว่าก่อนที่จะมาเกี่ยวข้องกับ Apollo program และ Moonlanding ที่จริงแล้วในอดีตปี 1957 Speedmaster มีต้นกำเนิดมาจากการเป็น racing chronograph ออกแบบมาเพื่อจับเวลา lap time และ average speed ในสนามแข่งด้วยการออกแบบ tachymeter scale ให้อยู่บนขอบหน้าปัดเป็นครั้งแรก และ Omega ก็ยังเคยมี Flightmaster pilot watch 12 Hour-GMT complication ที่แตกไลน์จาก Speedmaster ในปี 1969 นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นการนำตำนานที่หลายคนอาจจะหลงลืมไปให้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Speedmaster Pilot Flight Qualified Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified นาฬิกา pilot ที่มีกลิ่นอายของการเป็น military-tool ตัวเรือน fully brushed ปัดลายเต็มเรือนขนาด
– คำถาม : เป็นไปได้มั้ยที่รองเท้าผู้ชายแบบ DRESS SHOES ที่มีความเป็น FORMAL USE มากที่สุดชนิดหนึ่งของรองเท้าบนโลก จะสามารถเป็น EVERYDAY SHOES ใส่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ตามต้องการ ? – คำตอบ : ถ้าคุณยังลังเลในคำตอบ อาจจะหมายความว่าคุณยังไม่เคยลองสวม KENNETH COLE ! ปฎิเสธไม่ได้ว่าคำถามข้างบน เป็นหนึ่งในความฝันของผู้ชายที่รักการสวมรองเท้า DRESS SHOES เป็นประจำทุกคนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยความหลงใหลส่วนตัวจากแฟชั่น CLASSIC MEN’S WEAR / SATORIAL หรือเพราะว่าต้องสวม DRESS SHOES ตัวเก่งเพื่อออกไปทำงานทุกเช้า ตกเย็นเข้างานสังคมก็ตาม KENNETH COLE คือแบรนด์รองเท้า Designer Shoes Brand สไตล์ New York Classy ที่มองเห็นว่าผู้ชายทุกคนควรจะสามารถใส่รองเท้าแบบ DRESS SHOES ได้ทุกโอกาส และพยายามที่จะเป็น DRESS
บนหน้าปัดโทนสีทองที่ถูกโอบล้อมไปด้วยแผ่นวงแหวนสีดำเซรามิก ซึ่งจับคู่กับสเกลนาทีสีเบจบนขอบตัวเรือน Stainless Steel ของนาฬิการุ่นใหม่ SEIKO Prospex 1968 Heritage Diver’s GMT ที่มาในคอนเซปต์ ‘The Night Of Siam’ นั้น มีภาพประวัติศาสตร์ที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราววัฒนธรรมของผู้คน ณ ช่วงเวลาที่กรุงเทพมหนาครฯ ถูกเรียกว่า ‘สยาม’ ซ่อนอยู่ แรงบันดาลใจของนาฬิการุ่น ‘The Night Of Siam’ เกิดขึ้นจากช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านของวัน ตอนที่ อาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า โมเมนต์สั้น ๆ แสนสำคัญตอนที่ดวงอาทิตย์กำลังจะหายไปพร้อมกับการฉายแสงอร่ามทั่วพื้นที่ เกิดเป็นโมเมนต์ที่เมืองเจิดจรัสและโอ่อ่าที่สุดของวัน ผู้คนออกมาพบปะกัน เสียงดนตรีในบาร์ที่กำลังเตรียมจะบรรเลง วิวที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดที่หนึ่งในโลกเผยตัวเองออกมาให้ทุกคนได้เห็น เพราะฉะนั้น การที่คอลเลกชั่นสุดพิเศษ LIMITED EDITION ผลิตเพียง 500 เรือนทั่วโลก ก็ยังหมายถึงช่วงเวลา MAGIC HOUR ของกรุงเทพ เป็นจำนวนที่เป็นภาพสะท้อนของช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ช่วงเวลาต้องมนตร์ของกรุงเทพเผยตัวให้เห็นในเวลาไม่กี่วินาทีของวันเหมือนกัน ในบทความนี้ UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปดื่มด่ำช่วงเวลาก่อนที่กรุงเทพจะเข้าสู่ยามค่ำคืนผ่านนาฬิกา