FASHION

CONVERSATION WITH LYNDON CORMACK เรียนรู้จากผู้คนทั่วโลก พื้นฐานความสำเร็จของ HERSCHEL SUPPLY CO

By: SPLESS November 23, 2018

หากพูดถึง Herschel Supply co หลายคนอาจติดภาพของแบรนด์ผู้ผลิตกระเป๋าแบ็คแพ็คและกระเป๋าเดินทางขวัญใจวัยรุ่นไปจนถึงคนทำงาน ซึ่งกำลังเติบโตและได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก แต่ที่จริงแล้วตลอดช่วงระยะเวลา 9 ปี นับตั้งแต่ Herschel ถูกก่อตั้งขึ้นพวกเขาก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับแค่เรื่องกระเป๋า แต่ยังพัฒนาตัวเองและกำลังขยาย Categories สินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น พร้อมกับตอบโจทย์การใช้งานของกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ

ถ้าสงสัยว่าอะไรที่เป็นพื้นฐานของการเติบโตอันรวดเร็วและแข็งแกร่งของพวกเขา วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ UNLOCKMEN ได้มาพูดคุยกับคุณ Lyndon Cormack (ลินดอน คอร์แม็ก) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Herschel Supply co. ที่ได้แบ่งปันประสบการณ์เจ๋ง ๆ แบบ Exclusive รวมไปถึงบอกเล่าแนวทางและเบื้องหลังความสำเร็จของ Herschel ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงแผนอนาคต ใครเป็นแฟนกระเป๋าแบรนด์นี้ และอยากรู้ว่าชายผู้กุมบังเหียนแบรนด์ระดับโลกคนนี้ มีขั้นตอนการทำงานและพัฒนาตัวเองยังไงบ้าง บอกเลยว่าใครอยากสร้างแบรนด์แฟชั่นให้ไปไกลระดับโลกควรอ่านให้จบ รับรองเกิดประโยชน์แน่นอน

ย้อนกลับไปในวันที่ก่อตั้ง Herschel อะไรคือแรงบันดาลใจการสร้างแบรนด์ขึ้นมา ?

“ในทุกธุรกิจมักเริ่มจากปัญหาอยู่เสมอ แต่ก็โชคดีที่ปัญหาของเรานั้นง่าย เรื่องของเรื่องคือเราพบว่ารูปแบบของกระเป๋าสะพายมันดูธรรมดาและน่าเบื่อจนเกินไป เลยอยากสร้างกระเป๋าที่ถูกขับเคลื่อนด้วยสไตล์และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงใส่ใจในรายละเอียดการผลิต และนับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบัน Herschel ก็ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาผลงานให้ดีขึ้นในทุก ๆ วัน”

 

อะไรคืออุปสรรคสำคัญในเวลานั้น คุณเอาชนะมันและกลายเป็นมาเป็นแบรนด์ยอดนิยมแบบในปัจจุบันได้ยังไง ?

“จากจุดเริ่มต้นตอนนั้นเรามีกันอยู่สองคนคือผมและพี่ชาย แต่พวกเราก็มีไอเดียอยู่ให้หัวมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการออกแบบ รวมถึงรูปแบบของสินค้าที่เราต้องการอยากให้เป็น แต่ตอนนั้นมีปัญหาสำคัญคือ พวกเราไม่เคยมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ผลิตเองมาก่อน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคครั้งใหญ่ แต่ในเวลาเดียวกันผมก็มองมันเป็นเรื่องท้าทาย ในการมองคู่ค้าด้านการผลิตที่เหมาะสมกับเรา เพื่อที่จะนำไอเดียที่มีมากมายในชีวิตจริง ถ่ายทอดและสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานที่เราต้องการให้ได้”

คุณเคยร่วมงานกับ Vans มาก่อน ได้เรียนรู้และนำมาปรับใช้กับ Herschel บ้าง ?

“สำหรับผม Vans คือแบรนด์ที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ตัวผมเองได้เรียนรู้อะไรมากมายจากที่แห่งนั้น ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ นั่นคือการมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง คิดถึงความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ และสร้างคอลเลกชันที่เหมาะกับความต้องการของผู้คน อีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลา 10 ปี คือเราต้องส่งมอบทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค ซึ่งมันคือปรัชญาที่เราใช้มาตลอด ถ้าดูผ่าน ๆ หลายคนอาจมองว่า Herschel และ Vans คือแบรนด์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จริง ๆ แล้วเรามีสิ่งที่คล้ายกันคือ เราให้ความสำคัญกับประโยชน์การใช้งานเป็นอันดับแรก และเรามีความคลาสสิกที่ไม่เคยล้าสมัยอยู่ในสินค้าของพวกเรา

 

กลับมาที่ปัจจุบัน Herschel กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกไปแล้ว อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการขับเคลื่อนให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น ?

“ความจริงคือ เราทุกคนมีสิ่งนึงที่เหมือนกัน นั่นคือเรามีเวลา 24 ชั่วโมงใน 1 วัน และงานของผมคือการดูแลความเรียบร้อยของธุรกิจซึ่งมีอยู่ใน 44 ประเทศทั่วโลก ความท้าทายของผมคือต้องจัดการกับทุกปัญหาอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว ผมใช้เวลาในการลงพื้นที่จริง เดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะได้รู้ความต้องการของกลุ่มลูกค้า รับฟังเรื่องที่ลูกค้าตอบสนองต่อผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเมื่อแบรนด์ของคุณอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเสียงของลูกค้า Feedback ไปในทิศทางไหน คุณก็ต้องพร้อมรับมือเพื่อปรับตัวให้ได้ และต้องมีพลังในตัวเองอยู่เสมอ”

อะไรคือเอกลักษณ์สำคัญของ Herschel ในมุมมองของ Lyndon Cormack ?

“สำหรับตัวผมคิดว่าเอกลักษณ์สำคัญของ Herschel  คือการที่เราหยิบจับผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย มาผสมผสานเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ จากนั้นคือการใส่ใจในทุก ๆ รายละเอียดในงานดีไซน์ของกระเป๋าทุกใบที่ผลิตออกมา ใส่ความต้องการของผู้บริโภคลงไปผ่านแนวคิดที่มีการพิจารณามาเป็นอย่างดี เพราะลูกค้าก็ต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นอยู่เสมอ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคงจะเป็นรูปแบบคลาสสิกของแบรนด์ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราย้ำกับคนของเราเสมอว่า ให้สร้างสรรค์ผลงานที่มีดีไซน์คลาสสิกออกมาในทุก ๆ วัน เพราะนั่นคือตัวตนของเรา และมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

 

คอลเลกชันไหนคือผลงานที่คุณชื่นชอบมากที่สุด เพราะอะไร ?

“เรามุ่งเน้นกับแนวความคิดที่ต้องทำให้ตัวเองกลายเป็นแบรนด์ที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในตลาดของสินค้าสำหรับนักเดินทางและนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งดีไซเนอร์และทีมออกแบบของเราก็ให้ความสำคัญกับสินค้าในประเภทนั้นมาตลอด และถ่ายทอดลงใน Luggage และ Travel Accessory ซึ่งอัดแน่นไว้ด้วยคุณภาพและสไตล์อันยอดเยี่ยม ดังนั้นสำหรับผมแล้ว Travel Collection คือสิ่งที่เราภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง”

จากมุมมองของคุณ คาดหวังอะไรในอุตสาหกรรมของวงการแฟชั่นในปี 2019 บ้าง ?

“ต้องบอกก่อนว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับอนาคต ผมจะตื่นเต้นกับมันเสมอ เพราะเรามองว่าอนาคตน่าตื่นเต้นกว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้ว และตอนนี้แบรนด์ของเรากำลังเป็นไปได้ดี แต่เราก็มีแผนที่จะขยายประเภทของสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งในเวลาเดียวกันก็อยากรับฟังความคิดเห็นของจากคนใช้สินค้าไปด้วย ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการคืออะไรและทำยังไงถึงจะแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

เราเชื่อมาตลอดว่า ยิ่งมีการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองมากเท่าไหร่ ผลงานในครั้งต่อไปก็จะดีขึ้นตามไปด้วย แต่สำหรับ Herschel เรามองโลกในแง่ดีว่าอนาคตจะต้องดีกว่าอดีต ซึ่งเราเองก็กำลังเตรียมแผนในการลงทุนลงเวลาและทรัพยากรต่าง ๆ เพิ่มเติมขึ้นไปอีก เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราจะสร้างขึ้นมาในอนาคต จะต้องเป็นชิ้นงานที่ดีกว่าสิ่งที่เคยมีมาก่อนหน้านี้”

แผนการในอนาคตของ Herschel ในภูมิภาคเอเชียและประเทศไทยคืออะไร
เราจะมีโอกาสได้เห็นงาน Collboration ระหว่างแบรนด์กับดีไซเนอร์ในประเทศไทยบ้างไหม ?

“เร็ว ๆ นี้เรามีแผนจะเปิดสาขาใหม่ของ Herschel ขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งก็เหมือนกับทุกตลาดที่เราเข้าไป คือเราอยากรู้ความต้องการของผู้คนในแต่ละประเทศว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผมก็โชคดีที่มีหุ้นส่วนที่ดีและทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่ที่นี่ และเราก็ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ร่วมกัน คอยแนะนำเราเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม สิ่งสำคัญที่สุดคือ เปิดใจและรับฟังทุกความคิดเห็นเพื่อเข้าใจตลาดทุกแห่งให้มากขึ้น

ด้านงาน Collaboration ตอนนี้เรากำลังมีคอลเลกชันใหม่ร่วมกับ Carnival  ซึ่งผมถือว่ามันคือการเริ่มต้นที่ดี เพราะเราต่างรู้ว่ามีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานจำนวนมากอยู่ในประเทศไทย  ไม่ว่าคุณจะเดินบนถนนหรือไปที่ตลาดก็จะเจอแนวความคิดใหม่ ๆ อยู่ตลอด และนั้นทำให้ผมรู้สึกและจินตนาการได้ว่าในอนาคตจะมีผลงานการ Collaboration กับดีไซเนอร์คนอื่น ๆ ตามออกมาอีกแน่นอน”

คุณคิดว่า Herschel และคนไทย สามารถเชื่อมต่อให้เข้ากันได้ยังไงบ้าง ?

“ด้วยความที่เราเป็นแบรนด์ที่มีการวางขายสินค้าไปทั่วโลก ดังนั้นเราจึงยืดถือแนวทางของความเป็นแบรนด์ระดับโลกเป็นอย่างดี ด้วยการคัดเลือกเอาผลงานคอลเลกชันที่มีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ความต้องการผู้คนในแต่ละประเทศ เพราะเราต่างรู้ดีว่าไม่สามารถเอาของที่ได้รับความนิยมในแคนาดาหรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจไม่เหมาะสมกับรูปการใช้ชีวิตของผู้คนในประเทศอื่น ๆ มาวางขายได้ แน่นอนว่าเราต้องมีการศึกษาตลาดมาเป็นอย่างดี เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้ส่งมอบสินค้าซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับให้กับผู้คนทั่วโลก”

 

รูปแบบการทำงานของคุณเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เพราะต้องผลักดันแบรนด์สู่ระดับโลกและสร้างสรรค์
ออกมาตลอด
24 ชั่วโมง คุณมีวิธีรับมือกับความเครียดที่อาจเกิดขึ้นยังไงบ้าง ?

“ผมโชคดีที่มีกลุ่มคนที่เต็มไปด้วยความสามารถทำงานอยู่รอบตัว ซึ่งพวกเราทุกคนต่างมุ่งมั่นบนเป้าหมายเดียวกัน จัดระบบความคิดได้เหมือนกัน และมองหาวิธีการทำงานอย่างชาญฉลาด ความยุ่งยากของงานที่ทำก็จะน้อยลง  นอกจากนี้ผมคุยกับตัวเองเสมอ ถึงเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมาทำงานในวงการนี้ ซึ่งแน่นอนอันดับแรกสำหรับผมคือมันสนุก แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณก็ต้องเตือนตัวเองและจริงจังกับสิ่งที่ทำอยู่มากขึ้น กระตุ้นตัวเองให้ทำงานหนักในการแก้ไขปัญหาของลูกค้า ความเครียดอาจมีมากที่สุดในช่วงเวลานั้น ซึ่งการวิธีจัดการก็คือรีบควรเคลียร์ปัญหาตรงหน้าให้เร็วที่สุด เมื่อไม่มีปัญหาสะสม ก็จะมีเวลาไปคิดสิ่งใหม่ ๆ แต่หัวใจสำคัญคือพวกเรารักงานที่ทำ มันเลยไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้มากนัก”

วันนี้ Herschel คือแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในระดับโลกแล้ว นอกจากการทำงานคุณมีเป้าหมายอื่นที่อยากจะทำให้สำเร็จหรืออยากจะปลดล็อกตัวเองบ้างไหม ?

“สำหรับผมมองว่าประโยชน์ของการเป็นแบรนด์สินค้าที่ประสบความสำเร็จคือ เรามีโอกาสได้ทำงานร่วมกับผู้คนมากมายตลอดเวลา เราได้พบเจอตลาดใหม่  ๆ ทำให้ได้รู้จักกับโลกใบนี้มากขึ้น ซึ่งมันคือส่วนหนึ่งของงานและตัวผมเองก็รู้สึกโชคดีกับทุกสิ่งที่ทำในทุก ๆ วัน ดังนั้นถ้าถามผมว่าอยากจะ UNLOCK อะไร คำตอบของผมคงจะเป็น การออกเดินทางให้มากขึ้น ได้พบเจอกับผู้คนที่น่าสนใจเพิ่มขึ้น เพื่อนำไอเดียไปสร้างสรรค์ดีไซน์ที่ตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เป็นกระเป๋าที่ทุกคนนึกถึงเมื่อต้องออกเดินทาง นั่นคงเป็นสิ่งที่ผมอยากทำตลอดไป”

 

ต้องยอมรับเลยว่าวิสัยทัศน์ของชายที่ชื่อ Lyndon Cormack, Co-Founder แห่งอาณาจักร Herschel คนนี้ถือเป็นมุมมองการทำงานที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะระบบการทำงานแบบทีม การทำงานร่วมกับคนอื่น และความใส่ใจลูกค้าอย่างละเอียด ซึ่งทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นเบื้องหลังสำคัญในความสำเร็จของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน

ถือเป็นความโชคดี ที่เราได้รับฟังแนวคิดดี ๆ จากชายที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ซึ่งในอนาคตคงต้องตามดูกันต่อว่าเขาคนนี้จะเดินนำ Herschel Supply co ให้ประสบความสำเร็จได้ไกลแค่ไหน

SPLESS
WRITER: SPLESS
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line