Grand Vintage Malt 1997 ผลงานวินเทจ 25 ปีโดย Dr. Bill Lumsden นักวิทยาศาสตร์แห่ง Glenmorangie

หลายคนอาจไม่เชื่อเรื่องดวงหรือชะตาชีวิต แต่หากย้อนไปในปี 1984 มีชายที่ชื่อ Bill Lumsden ได้ลองสัมผัสรสชาติของ Glenmorangie Original เป็นครั้งแรก และมันก็เหมือนพรหมลิขิตที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของเขาไปตลอดกาล ซึ่ง Dr. Bill พูดอยู่เสมอในทุกบทสัมภาษณ์ว่า “ตัวของเขานั้นติดหนี้ซิงเกิลมอลต์แก้วนั้นอย่างประเมินค่าไม่ได้”

วันนี้ Dr. Bill Lumsden (บิล ลัมส์เดน) ชายจากปี 1984 คนนั้น ได้กลายมาเป็นผู้อำนวยการโรงกลั่น ฝ่ายสร้างสรรค์วิสกี้ ผู้กำหนดทิศทางของเกลนมอเรนจีมานานถึง 25 ปี กับวลีติดปากที่สะท้อนความเป็นนักทดลองว่า “ถ้าเกิดว่า…?”

ตลอด 25 ปีของ Dr. Bill Lumsden เขาถูกเปรียบเป็นดั่งนักวิทยาศาสตร์ ผู้ถนัดในสาขาสร้างสรรค์รสชาติและสัมผัสของซิงเกิลมอลต์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เป็นความตั้งใจนับตั้งแต่วันแรกเมื่อได้เข้ามาทำงานที่เกลนมอเรนจี เพื่อนำรสชาติที่หลากหลายจากทุกความเป็นไปได้มาใช้สร้างสรรค์รสสัมผัสใหม่ ๆ ให้ซิงเกิลมอลต์จากพื้นที่ไฮแลนด์ของสก็อตแลนด์ที่มีอายุยาวนานกว่า 175 ปี

Dr. Bill Lumsden เริ่มทำงานในโรงกลั่นวิสกี้ครั้งแรกในปี 1995 ด้วยความตั้งใจที่จะต่อยอดรสชาติจากรากฐานสำคัญของตัว 10-year-old Original​ แรงบันดาลใจที่ทำให้เขาเองตัดสินใจเลือกเดินเส้นทางสายนี้

ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีการทดลองสารพัดไอเดียเพื่อปรับกรรมวิธีการบ่มหมัก การเลือกใช้ชนิดของไม้ ระยะเวลาที่ใช้ในถังไม้แต่ละประเภท ให้ได้ออกมาเป็นวิสกี้ที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ สามารถแปรเปลี่ยนทุกจินตนาการเป็นวิสกี้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีทั้ง พระอาทิตย์ตกดิน (Glenmorangie Lasanta) เอสเพรสโซ (Glenmorangie Signet) ช่วงเวลาอัศจรรย์แห่งเค้ก (Glenmorangie A Tale of Cake) วันฤดูใบไม้ร่วง (Glenmorangie 18 Years Old) และอีกมากมาย ด้วยความรู้ระดับปริญญาเอกด้านชีวเคมีและประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ ดร.บิล ลัมส์เดน มีทุกศาสตร์และศิลป์ที่สามารถเนรมิตแนวคิดเหล่านี้ให้เป็นจริงได้

และจากจำนวนถังมากมายที่ได้สร้างสรรค์เอาไว้ตั้งแต่วันแรก หลังจากผ่านการเก็บรักษานานถึง 23 ปี หนึ่งในนั้นก็ได้กลายเป็น Glenmorangie Grand Vintage Malt 1997 ลิมิเต็ด เอดิชั่นรุ่นที่ 7 จากคอลเลกชั่นวินเทจ Bond House No. 1 ที่เพิ่งจะเปิดตัวในตลาดโลกรวมถึงประเทศไทยไปไม่นาน เป็นผลงานที่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพท้องฟ้ายามเช้าในแบบที่ผู้อำนวยการโรงกลั่น ฝ่ายสร้างสรรค์เคยจินตนาการไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

Grand Vintage Malt 1997 ผ่านการกลั่นจากหอกลั่นที่สูงดั่งหอคอยอันเป็น Signature ที่สำคัญในการสร้างความแตกต่างของรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง Dr. Bill มักจะมีไอเดียทดลองวิธีบ่มในถังไม้หายากต่างชนิดกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เคยมีใครค้นพบมาก่อน จนกระทั่งค้นพบวิธีบ่มวิสกี้ในถังไม้เบอร์เบิ้น (Bourbon) เป็นเวลา 10 ปี ก่อนจะย้ายมาบ่มต่ออีกครั้งเป็นเวลา 13 ปีในถังไวน์แดงชาโต มองโตรส (Château Montrose) ที่หายากจากแซง เตสเตฟ (Saint-Estèphe) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝรั่งเศส เพื่อจะได้ออกมาเป็นรสชาติและสัมผัสที่แปลกใหม่ มีความหอมหวานละมุนจากเหล่าผลไม้สีแดง ผลเบอร์รี่ และกลิ่นซิตรัสเตะจมูกเบา ๆ เคล้ากลิ่นเครื่องเทศ ให้มิติรสสัมผัสซับซ้อนในแบบฉบับเกลนมอเรนจี

“แกรนด์ วินเทจ มอลต์ 1997 มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ด้วยรสชาติจากเบอร์รี่สีแดงที่ชัดเจน เคล้าด้วยกลิ่นเครื่องเทศเบาๆ ที่ปลายลิ้น หอมอบอวลด้วยกลิ่นมาร์ซิแพนอัลมอนด์ และกลิ่นดอกไม้” – Dr. Bill Lumsden

Grand Vintage Malt 1997 เป็นวิสกี้ลิมิเต็ด เอดิชั่นรุ่นที่ 7ในวินเทจซีรีส์คอลเลกชั่น Bond House No.1 ชื่อซีรีส์ที่ตั้งตามคลังเก็บวิสกี้เกลนมอเรนจีที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 และต่อมาได้เปลี่ยนโฉมเป็นโรงกลั่นแห่งใหม่ในปีพ.ศ. 2533 โดยวิสกี้ในคอลเลกชั่นนี้ล้วนได้รับการชื่นชมจากการแข่งขันอันทรงเกียรติในด้านรสชาติที่น่าอัศจรรย์และเหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็น แกรนด์ วินเทจ มอลต์ 1990, 1989, 1993, 1991, 1995, 1996 และล่าสุด 1997 ซึ่งในประเทศไทยเพิ่งจะเปิดตัว Glenmorangie Grand Vintage Malt 1997 ที่ Godfather at Central Embassy ไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ภายในงานก็มีแขกผู้ทรงเกียรติมากมายให้ความสนใจมาร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษพร้อมเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจกันอย่างสนุกสนาน หากใครเคยสัมผัส Grand Vintage Malt 1996 มาบ้างแล้ว ก็คงจะนึกถึงความสมบูรณ์แบบระดับนั้นได้ไม่ยาก

และดูเหมือนว่ามิติสัมผัสที่ลึกล้ำของ Dr. Bill Lumsden นั้นจะถูกสัมผัสได้อย่างชัดเจนจริง ๆ เพราะว่าคืนเดียวก็จองกันจนเกือบหมดครบจำนวนโควต้าที่ประเทศไทยได้นำเข้ามากันเลยทีเดียวครับ