EVENT

“Hennessy Artistry Presents Diffraction” การกลับมาของค่ำคืนสุดไฮป์ ที่ดนตรี ศิลปะ และแสงสีถูกผสมผสานจนเกิดเป็นโลกใบใหม่

By: GEESUCH March 31, 2023

จะมีสักกี่แบรนด์บนโลกที่ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนวงการดนตรีและศิลปะราวกับครอบครัวได้มากเท่ากับ Hennessy อีก เพราะนอกจากตัวแบรนด์จะคอยอ้าแขนโอบอุ้มเหล่าศิลปิน Hip-Hop ด้วยคำว่า ‘ครอบครัว’ มาโดยตลอดแล้ว Hennessy ก็มักจะทำงานคอลแลบกับเหล่าศิลปิน Illustrator , Painter และแขนงอื่น ๆ เสมอ เพื่อเป็นการประกาศอย่างเป็นมิตรว่า Hennessy ต้อนรับ ‘ศิลปะ’ ในทุกรูปแบบ 

ภาพของสิ่งที่เราเพิ่งพูดถึงไปก่อนหน้านี้ ถูกแสดงออกอย่างชัดเจนในอีเวนต์ชื่อ Hennessy Artistry ค่ำคืนสร้างประสบการณ์พิเศษผ่านวิชวลแสงสี ที่มีดนตรีฮิปฮอปคอยประกอบจังหวะสุดมันส์ แคมเปญซึ่งจัดมาต่อเนื่องหลายสิบปีและทำให้ผู้คนประทับใจเสมอ 

ในปี 2023 งาน Hennessy Artistry กลับมาอีกครั้งในธีมที่ชื่อว่า ‘Diffraction’ ที่เปล่งประกายวิบวับ สะท้อนแสงด้วยศิลปะ แสงสี ดนตรี แบบจัดเต็ม ตอกย้ำเจตนารมณ์ของการเป็นผู้ผลักดันในศิลปะด้วยใจแรงกล้าอีกครั้ง และ UNLOCKMEN เอาความพิเศษพร้อมบรรยากาศของงานครั้งนี้มาฝากกันด้วย อ๊ะ ๆ แต่ก่อนจะไปพบกับความไฮป์ของ Diffraction เราขอพาทุกคนนั่งรถไฟขบวน Hype Train กลับไปดูวันแรก ๆ ของ Hennessy Artistry เพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้นว่า ‘Hennessy Artistry Presents Diffraction’ เป็นคืนที่มีความหมายมากมายขนาดไหน   


ย้อนกลับไปในปี 2006 ระบุวันที่แบบเฉพาะเจาะจงคือ 17 พฤศจิกายน Hennessy ผุดไอเดียอีเวนต์ที่จะเปลี่ยนซีน Night Life ให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ด้วยงานที่ชื่อว่า Hennessy Artistry กับแคมเปญที่มาพร้อมกับคำโปรยประกาศแรงกล้าที่เราขอโบลตัวใหญ่ ๆ ในบรรทัดต่อไปว่า … 

“The Global Art Of Mixing” 

ความพิเศษของ Hennessy Artistry ในปีแรก เป็นอะไรที่คอนยัคอันดับ 1 ของโลกคู่ควรสร้างให้เกิดขึ้น เราจะขอไล่ไฮไลต์ความพิเศษเป็นลำดับทีละขั้นให้ทุกคนเห็นภาพความมหัศจรรย์ของค่ำคืนในช่วงเวลานั้นไปด้วยกัน แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ตรงนั้นก็ตาม

ลองมาดูชื่อศิลปินที่มาเล่นก่อนแล้วจะต้องตกใจเหมือนเรา เพราะนอกจาก Hennessy จะกวาดศิลปินฮิปฮอปตัวเทพประจำปีมาเป็นชุดใหญ่ ทั้ง Kanye West กับอัลบั้ม Late Registration (2006) ที่เพิ่งคว้าแกรมมี่ตัวที่ 2 มาหมาด ๆ ก็มี Pharell Williams, Ne-Yo, Leona Lewis, LL Cool J และ The Stroke ใช่ครับ ฟังชื่อไม่ผิดหรอก และมันคือช่วงเวลาเดียวกับความท็อปฟอร์มสุดขีดที่สุดของวง ซึ่งเพิ่งปล่อยอัลบั้ม First Impression Of Earth (2006) ที่มีเพลงในตำนานอย่าง ‘You Only live Once’ อยู่ในนั้นด้วย ! เรียกว่าเปิดความหลากหลายทางวัฒนธรรมดนตรีแบบจัดเต็มสมกับคำโปรยของแคมเปญ     

ยังไม่หมดเท่านั้น ความพิเศษของ Hennessy Artistry ในปี 2006 คือการเป็นอีเวนต์ที่ออกตะลุยทัวร์ทั่วอเมริกาทั้งหมด 20 วัน โดยเริ่มต้นที่เมืองหลวงนิวยอร์กก่อน ส่วนไลน์อัพศิลปินและไฮไลต์ต่าง ๆ นั้นก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตอกย้ำคอนเซปต์ผสมผสานที่ปักธงเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้น  

ต้องบอกว่างาน Hennessy Artistry ในปี 2006 เป็นรากฐานอันสำคัญต่ออีเวนต์ Hennessy Artistry ที่เกิดขึ้นในตลอดระยะเวลาหลายสิบปี จนมาถึงปัจจุบันที่กระจายจัดงานไปทั่วโลกกว่า 40 ประเทศแล้ว ทั้งประเทศในแถบเอเชียอย่าง จีน , มาเลเซีย, ฮ่องกง , ญี่ปุ่น ไปจนถึงแทบ West Africa อย่าง ‘ไนจีเรีย’ ที่ในงานจะพบกับความผสมผสานอันลงตัวจากแสงสีและดนตรีที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ขับเคลื่อนซีนของอีเวนต์ Night Life ขึ้นไปอีกระดับพร้อมกับผูกมิตรและค่อย ๆ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมในบางประเทศไปตลอดกาล ซึ่งเราจะขอพูดถึงในบทถัดไป


ถ้าค้นข่าวคำว่า Hennessy Artistry จะเห็นว่าประเทศไนจีเรีย เป็นประเทศที่จะถูกเสิร์ชและมีข่าวเยอะที่สุดกว่าประเทศอื่นที่เคยเกิดขึ้น เหตุผลหลักอย่างหนึ่งที่สามารถอธิบายคำถามที่ว่า “ทำไม?” อาจจะสามารถอ้างอิงได้จากคำพูดของแร็ปเปอร์อัจฉริยะ Kendrick Lamar ในตอนที่เขาไปพักผ่อนที่ประเทศกาน่า ระหว่างให้สัมภาษณ์ถึงอัลบั้ม Mr.Morale and The Big Steppers (2022) เมื่อปีที่แล้วว่า ประเทศในแถบ West Africa ถือว่าเป็นหัวใจของคนผิวสีทุกคน การที่ Hennessy Artistry เกิดขึ้นในไนจีเรีย จึงหมายถึงการที่กลับสู่อ้อมอกของมารดาอีกครั้ง     

ในปี 2019 ที่ผ่านมา Hennessy Artistry ในไนจีเรียเพิ่งจัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี หลังจากที่จัดอีเวนต์ในค่ำคืนพิเศษมาอย่างยาวนาน โดยในตอนแรกนั้นเริ่มต้นจากการที่โฟกัสซีนดนตรีเป็นหลัก จนสร้างศิลปินฮิปฮอปมีชื่อมากมายของไนจีเรีย เช่น  Phlow หรือ Vader The Wildcard เป็นต้น 

แต่ในปัจจุบัน Hennessy Artistry เป็นงานที่มุ่งเน้นไปทางสร้างความสัมพันธ์กับสังคมของประเทศนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้แบรนด์ Hennessy แยกออกไม่ขาดกับประเทศไนจีเรียไปแล้ว ในแง่ของการช่วยเสริมสร้างกันและกัน เพราะไม่ใช่แค่ดนตรีฮิปฮอปอย่างเดียวหรอกที่มีส่วนกับ Hennessy Artistry แต่เหล่าศิลปินเพลง Afro-Juju (แนวดนตรีป็อปของไรจีเรีย) ที่มีชื่อเสียงอย่าง Sir.Shina Peters หรือ Nneka ก็มีส่วนร่วมกับอีเวนต์นี้ด้วย เรียกว่าเป็นความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ

“Hennessy กลายเป็นแบรนด์ที่ระบุตัวตนของชาวไนจีเรียไปแล้ว ในแง่ของความทะเยอะทะยานและจิตวิญญาณที่ไม่มีวันตายของเรา พูดง่าย ๆ ว่า Hennessy ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างทางสังคม และวัฒนธรรมป็อปของไนจีเรีย วัดได้จากการที่ศิลปินของไนจีเรียมักจะพูดถึง Hennessy ทั้งในเพลงและมิวสิควิดีโอมาโดยตลอด”

– Oluwole Awoleke (ผู้จัดการ Hennessy จากประเทศไนจีเรีย)


Hennessy Artistry เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาแล้วถึง 2 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 2012 และเป็นการตอกย้ำคอนเซปต์ The Global Art Of Mixing แบบที่ Selected ศิลปินมาได้อย่างถูกต้องมาก ๆ มีการผสมผสานศิลปินฮิป-ฮอปเข้ากับดนตรีหลากแนว ทั้ง Electrocnic ไปจนถึง Acid Jazz กันเลยทีเดียว ! คือผสมผสานศิลปะทางดนตรีแบบสุดทางจนเกิดเป็นค่ำคืนสุดเจ๋งที่ประเทศไทยไม่เคยมีมาก่อน      

และอย่างที่เกริ่นเอาไว้ในตอนแรก การกลับมาของ Hennessy ในอีเวนต์ที่ชื่อว่า ‘Hennessy Artistry Presents Diffraction’ จัดเต็มกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในไทยและต่างประเทศ แต่คำถามสำคัญอีกครั้งอันเป็นหัวใจหลักของบทความนี้ก็คือ 

ธีม ‘Diffraction’ คืออะไร ?

‘Diffraction’ หมายถึงความเปล่งประกาย แสงระยิบระยับอันเป็นตัวแทนของ ‘Hennessy Artistry’ ในปี 2023 ที่มีโชว์สุดพิเศษผ่านรูปแบบของ Visual Lighting , Dancing Performance & Hip-Hop Culture เกิดเป็นการเดินทางสู่ค่ำคืนสุดเจ๋ง ที่คุณไม่มีทางลืมลงได้เลย โดยจะแบ่งช่วงเวลาแห่งการเดินทางออกเป็นโมเมนต์ทั้งหมด 4 Chapter ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทาง Hennessy ร่วมกับร้าน Space Plus Bangkok ก็ต้องบอกว่าเป็นสเปซที่ถูกต้องที่สุด จนสามารถเนรมิตรภาพของค่ำคืน ‘Hennessy Artistry Presents Diffraction’ ได้อย่างงดงาม

Chapter 1 Photocall Moment : ช่วงเวลาแห่งการบันทึกความทรงจำในงาน ที่ถูกดีไซน์ Lighting และ interior สุดลงตัว มาอีเวนต์ของ Hennessey ทั้งที ไม่มีรูปดี ๆ กับไปถือว่าผิด

Chapter 2 Into The Beat Of Light : ดื่มด่ำการเริ่มต้นของการเดินทางแห่งแสงสีและดนตรีฮิปฮอป ผ่าน Visual Lighting และบีทจาก DJ ชื่อดังระดับโลก MODESTEP ที่เป็น Headliner ของงานนี้ พร้อมไฮไลต์เครื่องดื่มซิกเนเจอร์เฉพาะในงาน ที่ชื่อว่า ‘Diffraction Lights’ ซึ่งจะยกระดับอารมณ์ความมันส์ขึ้นไปอีกขั้น 

Chapter 3 Music Parade : ไฮไลต์สุดตระการตราหนึ่งในหัวใจของธีม ‘Diffraction’ กับพาเหรดโชว์ Street Dance กับ Visual Lighting ที่สุดของความไฮป์ประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว 

Chapter 4 Grand Finale Celebration : ช่วงสุดท้ายของงาน ที่จะจับมือทุกคนเฉลิมฉลองเป็นครั้งสุดท้ายด้วย Visual Lighting สุดพิเศษ และวิดีโอคอนเทนต์ที่จะแสดงประกอบไปกับการวิ่งของแสงและสี ณ ช่วงเวลานั้น เป็นการปิดค่ำคืนได้อย่างสมบูรณ์ 

จะเห็นว่าหัวใจหลักที่ก่อเกิดเป็นธีม ‘Diffraction’ นั้นมี Visual Lighting เป็นส่วนสำคัญของงาน และเราสามารถพูดแทนได้เลยว่านี่คือสิ่งที่ Hennessy Artistry ในปี 2023 อยากจะนำเสนอให้ทุกคนได้สัมผัสมาก ๆ และทีมคนเก่งที่อยู่เบื้องหลังแสงสีของงานนี้มีชื่อว่า VISUAL SYSTEM

‘VISUAL SYSTEM’ คือทีมศิลปินวิชวลจากกรุงปารีส ที่รวมผู้คนในหลากสาขาวิชา ซึ่งฟอร์มทีมกันขึ้นมาตั้งแต่ปี 2007 โดยงานวิชวลของพวกเขาคือการใช้เทคนิคเชื่อมโยงสภาพแวดล้อมเสมือนจริง เพื่อสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่กับช่วงเวลา ธรรมชาติกับวิทยาศาสตร์ และความจริงกับความฝัน โดยเล่นกับรูปทรงเลขาคณิตผ่านไฟ LED และซาวด์ดนตรีทดลอง

งานล่าสุดของ VISUAL SYSTEM ในประเทศไทยคือ POLYGON WONDERFRUIT นั่นจึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม ‘Hennessy Artistry Presents Diffraction’ ถึงมีภาพแสงสีที่เปล่งประกายอยู่ในใจทุกคนที่มาได้อย่างไม่มีวันลืมขนาดนั้น สังเกตุได้จากสีหน้าที่ไฮป์ความสุขร่วมกันในงานจาก Video Recap Event และภาพบรรยากาศของงานปี 2023 ที่เราเอามาฝากดูได้เลย

 

สำหรับใครที่พลาดงาน Hennessy Artistry Presents Diffraction’ ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะการเดินทางของแคมเปญ Hennessy Artistry รวมถึงตัวแบรนด์ยังไม่ได้สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เตรียมตัวนั่งขบวนรถไฟสาย Hype Train ในสถานที่หน้า ผ่านทุกช่องทางโซเชียลของ Hennessy กันให้ดี ๆ !

#HennessyArtistryTH

GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line