THE PROFILES: LIAM NEESON กับบทสนทนาที่เล่าถึงความแค้น การล้างแค้น และการเหยียดสีผิว

สำหรับคอหนังแอคชั่นคงต้องเคยได้ดูผลงานการแสดงของพระเอกตลอดกาลอย่าง เลียม นีลสัน นักแสดงชาวไอร์แลนด์มากฝีมือ ที่ใครหลายคนคุ้นตากันดีกับบทคุณพ่อสุดโหดจากเรื่อง Taken

artplusmarketing

ในครั้งนี้จะไม่ได้มาพูดถึงภาพยนตร์ที่เขาแสดง หรือประวัติของเลียม แต่จะพูดถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อพระเอกชื่อดังวัย 66 ปีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Independent ของอังกฤษในระหว่างการโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง Cold Pursuit ว่าช่วงสมัยวัยรุ่นเขาเคยมีความคิดอยากฆ่าชายผิวสี

เขาเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 40 ปีที่แล้ว เพื่อนผู้หญิงที่ของเขาถูกข่มขืนอย่างทารุณ เรื่องเศร้าของเธอได้กระตุ้นความรู้สึกของเลียมเป็นอย่างมาก และเขาถามเธอว่ารู้จักชายที่ทำร้ายหรือเปล่า เธอตอบกลับมาว่าเป็นชายผิวสีที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

abcnews

เลียมเล่าต่อว่า หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เขาเริ่มออกไปเดินกลางถนนในช่วงกลางคืนพร้อมพกอาวุธติดตัวไปเกือบสัปดาห์ ด้วยความหวังที่ว่าจะเจอชายผิวสีนิสัยแย่เข้ามาหาเรื่อง เพื่อเขาจะได้มีเหตุผลเพียงพอที่จะฆ่าชายคนนั้นเพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับเพื่อน แต่กลับกันเขาไม่ได้เล่าต่อว่าชายที่ข่มขืนเพื่อนของเขาได้รับโทษตามกฎหมายหรือไม่ หรือเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

เมื่อเลียมได้เปิดเผยความลับในช่วงวัยรุ่นที่ไม่เคยบอกให้ใครได้รู้มาก่อน เขากล่าวเพิ่มเติมว่าหลังจากนั้นเขาเติบโตมีวุฒิภาวะมากขึ้น เขารู้ว่าความคิดดังกล่าวเป็นสิ่งที่แย่มาก และเมื่อคิดย้อนกลับไปทีไรก็จะทำให้รู้สึกแย่กับตัวเองทุกครั้ง

denofgeek

อย่างไรก็ตามผลที่ตามมาจากการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ทำให้เลียม นีลสัน ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งในเรื่องของการใช้ภาษาสัมภาษณ์ที่เผยให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีอคติทางเชื้อชาติ และค่อนข้างเหยียดผิว

บทสัมภาษณ์ดังกล่าวสร้างคำถามต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่น หากคนที่ข่มขืนเพื่อนของเลียมเป็นชายผิวขาว เขาจะพกอาวุธและออกไปเดินเตร่ในตอนกลางคืนเพื่อรอให้มีนักเลงมาหาเรื่องหรือไม่ หรือคำถามที่ว่าการฆ่าคนผิวสีคนอื่นจะช่วยล้างแค้นได้จริงหรือ และถ้าเลียมคิดว่าชายผิวสีคนไหนก็เหมือนกันหมดนั่นถือเป็นการเหยียดที่ร้ายแรง

ถ้าหากฟังในบทสัมภาษณ์ดี ๆ ก็จะรู้ว่าเลียมเคยกล่าวถึงกรณีนี้ไว้แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นชาวไอริชด้วยกัน หรือเป็นคนอังกฤษก็ตาม ไม่ว่าใครเขาก็จะพยายามรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของเพื่อนสาวด้วยวิธีการแบบโง่ ๆ ของเขา ซึ่งมันเป็นวิธีคิดที่เขารู้ตัวว่ามันล้าสมัยมาก

Youtube

เมื่องลองวิเคราะห์ถึงพื้นเพเดิมของนักแสดงมากฝีมือคนนี้ก็จะเห็นว่าเขาเติบโตในไอร์แลนด์เหนือ ที่ช่วงเวลานั้นเต็มไปด้วยความรุนแรงจากความขัดแย้งระหว่างนิกายคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ เนื่องจากฝ่ายคาทอลิกต้องการให้ไอร์แลนด์เหนือได้รับเอกราชจากอังกฤษและกลับไปรวมกับเกาะไอร์แลนด์ แต่ฝ่ายโปรเตสแตนท์ที่มีเชื้อสายอังกฤษไม่ยอม ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันนี้จึงทำให้เกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้น

อย่างไรก็ตามกรณีความรุนแรงในไอร์แลนด์เหนือคงไม่สามารถเอามาเป็นหนึ่งในเหตุผลเพียงพอที่ทำให้เลียม นีลสัน คิดอยากฆ่าใครสักคน เพราะไม่อย่างนั้นเท่ากับเป็นการบอกว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สงครามมักจะมีความคิดที่รุนแรง ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกัน

ทั้งนี้เหล่าคนดังในแวดวงต่าง ๆ ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงบทสัมภาษณ์ของเลียมอย่าง Charles M. Blow นักเขียนชาวแอฟริกัน-อเมริกันจากสำนักข่าวชื่อดัง New York Times ได้ลองเปรียบเทียบในทางกลับกันว่าหากวิล สมิธ ออกไปเดินบนถนนตอนกลางคืนเพื่อรอให้นักเลงผิวขาวมาหาเรื่องเพื่อที่จะได้ฆ่าคนขาว พระเอกหนุ่มผิวสีจะโดนกระแสสังคมโจมตีหรือไม่

ถึงแม้จะมีคนดังออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านลบกับการสัมภาษณ์ของเลียมในครั้งนี้ แต่อดีตนักเตะชื่อดังของสโมสรลิเวอร์พูลอย่าง John Barnes กลับมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป เพราะเขามองว่าการที่เลียมออกมาพูดถึงความคิดในแง่ลบของตัวเองให้คนอื่นฟังเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม

นอกจากเหล่าคนดังแล้ว มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาชื่นชมเลียมและกล่าวว่านี่เป็นความกล้าที่จะยอมรับด้านแย่ ๆ ของตัวเอง พร้อมกับปรับเปลี่ยนทัศนคติให้ดีขึ้น และคิดว่าเขาก็ไม่ได้ฆ่าใครตายจริง ๆ

ถึงจะยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าบทสัมภาษณ์ของเลียม นีลสัน นั้นเหมาะสมหรือไม่ แต่ในตอนนี้ค่ายหนังชื่อดังอย่าง Lionsgate ก็ได้ยกเลิกงานพรมแดงเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Cold Pursuit ที่เลียมได้แสดงนำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังมีคนบางกลุ่มที่มีความคิดแบบสุดโต่งออกมาประท้วงให้ตัดฉากที่มีเลียมออกจากภาพยนตร์เรื่อง Men In Black: International อีกด้วย

เรื่องสีผิวไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยก็ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่นำมาสู่การถกเถียงเรื่องความเท่าเทียมของมนุษย์ได้เสมอ แล้วคุณล่ะ มีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับกรณีที่ว่านี้ ?

Imdb

Imdb

SOURCE