Long-term review MacBook Pro M4 รุ่นเริ่มต้น จอ 14 นิ้ว Ram 16GB SSD ความจุ 512GB หลังใช้งานมาครบ 1 เดือนพอดี การใช้งานเน้นด้าน Photoshop และ Lightroom ขั้น advance รวมถึง Final Cut Pro ขั้นปกติ สรุปได้ว่า ถ้าไม่ถึงขั้นตัดต่อหนังระดับภาพยนตร์ เขียนโปรแกรม หรือ render 3D โหดจริง ๆ ซื้อแค่ตัวเริ่มต้นราคาห้าหมื่นต้นก็เกินพอแล้วสำหรับเรา เร็วแรงแบตทน แถมได้อัพเกรดจาก M3 ทั้ง Ram และ CPU 2 cores + Thunderbolt port เพิ่มในราคาเท่าเดิม สิ่งที่ประทับใจมากคือ – Chip ทั้ง CPU,
เข้าสู่ช่วงปลายปีทีไร บรรยากาศแห่งความสุข ความสนุกจากเทศกาลเฉลิมฉลองก็หวนกลับมาอีกครั้ง และสำหรับช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเสียงดนตรีคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาปาร์ตี้ หรือระหว่างออกเดินทางทริปท่องเที่ยวปลายปี การได้มีเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมในทุกโมเมนต์มันเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุด ๆ และเราเองก็อยากให้ Festive Season ของชาว UNLOCKMEN ทุกคนในปีนี้ เต็มไปด้วยจังหวะแห่งความสุขที่สนุกยิ่งกว่า จึงรับอาสาชี้เป้าไอเทมโดน ๆ จาก Marshall คัดเน้น ๆ มา 3 รุ่น 3 สไตล์ ซึ่งเป็นได้ทั้งของขวัญที่ใครได้รับเป็นต้องฟิน และยังเป็นอุปกรณ์สำคัญในการอัพฟีล Festive ให้มันส์ขั้นสุด พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ต้อนรับปีใหม่แบบแฮปปี้ในทุกสถานการณ์ งานนี้จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย ขอเริ่มต้นไอเทมเร่งจังหวะแห่งความสุข กับหูฟังไร้สาย Marshall Major V ให้ทริปปีใหม่นี้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีแบบไม่ขาดช่วง โดดเด่นด้วยสุ้มเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งย่านเบสที่ลงลึก เสียงกลางที่นุ่มนวล และเสียงแหลมที่ชัดเจน พร้อมงานดีไซน์คลาสสิกในสไตล์ Marshall แค่คล้องคอเฉย ๆ ก็เพิ่มความเท่ลงตัวให้กับ Total
Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE สดุดีแต่โลกและดวงจันทร์ ซึ่งรุ่นนี้ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันบอกดิถีของดวงจันทร์เท่านั้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังมาพร้อม ฟังก์ชันบอกดิถีของโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการการประดิษฐ์เรือนเวลาอีกด้วย ทำให้ Swatch พลิกแพลงวาทะอันโด่งดังของกาสิเลโอ “แต่โลกก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” (And yet it moves!”) และเย้าหยอกว่า “แต่โลกและดวงจันทร์ก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” ส่วนฟังก์ชันบอกดิถีของโลก หากคุณดูตรงหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่งสิบนาฬิกา ก็จะได้ดื่มด่ำกับการโคจรของโลกเราเมื่อมองจากดวงจันทร์ มีการแต่งแต้มสีสันให้กับฟังก์ชันบอกดิถีของโลกที่จดสิทธิบัตรแล้วเพื่อสดุดีแด่ความหลากหลายและความงดงามของโลกสีครามของเรา คุณจะมองเห็นก้อนเมฆ รวมถึงสีสันที่ตัดกันของมหาสมุทร ป่าไม้และผืนทะเลทราย นอกจากนี้ ยังมีการเคลือบหมึกพิมพ์ยูวี (เปล่งแสงสีฟ้า) ที่มองเห็นเมื่อโดนแสงยูวีเท่านั้นตรงมหาสมุทรเพื่อเพิ่มความล้ำทะลุจักรวาลเข้าไปอีก รุ่น Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE จะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ร้านค้าของ Swatch ที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และเช่นเดียวกับนาฬิกาทั้งหมดในคอลเลกชัน Bioceramic MoonSwatch ก็จำกัดสิทธิ์ในการซื้อ 1 เรือน/ 1 สาขา/ 1 คน/ 1 วันเท่านั้น
MacBook Pro M4 ความทรงพลังล่าสุดจาก Apple ด้วยชิปตระกูล M4 ทั้ง M4, M4 Pro และ M4 Max ขุมพลังขับเคลื่อนประสิทธิภาพให้ทำทุกอย่างได้เร็วยิ่งขึ้น มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงขึ้น เมื่อรวมเข้ากับตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบใน CPU, GPU ที่ล้ำสมัย และ Neural Engine ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย พร้อมเสริมความสามารถให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีกด้วย Apple Intelligence ช่วยให้โมเดลการเรียนรู้ภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อื่นๆ ทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกจอภาพ Nano-texture แบบใหม่หมดที่ลดแสงสะท้อนและภาพสะท้อนรบกวนสายตาลงได้มาก และในสภาพแสงที่สว่าง MacBook Pro ใหม่ยังสามารถแสดงคอนเทนต์ SDR ที่ความสว่างสุงสุด 1,000 นิต และยังคงแสดงคอนเทนต์ HDR ที่ความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดสูงถึง 1,600 นิต ซึ่งทั้งหมดนี้จะพลิกโฉมประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงกล้อง 12MP
น่าจะเป็นการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ของ Omega ที่จังหวะดีมากใน Olympic ครั้งนี้ เป็นโมเดลใหม่ที่เห็นพร้อมกันทั้งโลกบนข้อมือของ Armand Duplantis นักกีฬากระโดดค้ำถ่อทีมชาติ Sweden ผู้คว้าเหรียญทองพร้อมทำลายสถิติ Olympic และสถิติโลกด้วยความสูง 6.25m ขณะที่กำลังฉลองความสำเร็จ เราได้สังเกตเห็นนาฬิกา Omega ที่ดูแปลกตาอยู่บนข้อมือของ มอนโด ดูพลานติส ก่อนจะรู้ว่านั่นคือ Omega Seamaster Aqua Terra 150m Titanium Ultra Light รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการที่ไหนมาก่อน ตัวเรือนขนาด 41mm หนา 13.5mm ผลิตจาก sand-blasted Gamma Titanium มีคุณสมบัติที่แข็งแรงและเบากว่า Grade 5 Titanium เช่นเดียวกับ bezel, caseback และ crown แบบ tuck-in หน้าปัดสีฟ้า blue anodized titanium dial แต่งลวดลายเส้นแนวนอน
จากโควทของ Pelé (เปเล่) นักเตะทีมชาติบราซิลตำนานแชมป์โลก 3 สมัย ‘ไข่มุกดำ’ ผู้ล่วงลับ คำพูดเปี่ยมพลังที่ทำให้พวกเรารวมถึงแฟนลูกหนังทั่วโลกต่างเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้งถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอในโลกของกีฬาฟุตบอล คือเรื่องของ ‘เวลา’ สำหรับ Pelé เขาพูดถึงการใช้เวลาไปกับชั่วโมงฝึกหนักอย่างบ้าคลั่ง และการเสียสละเวลาในชีวิตบางส่วนเพื่อมอบให้กับสิ่งที่ตัวเองรักตลอดชีวิต ในโลกแห่งการแข่งขันของเกมฟุตบอล ความสำคัญของเวลา 90 นาที สำหรับผู้เล่นทั้ง 22 คนในสนาม เพียงเสี้ยววินาทีก็ส่งผลถึง ‘ชัยชนะ’ และประวัติศาสตร์ที่แฟนบอลจะจดจำและเล่าขานตลอดไป สมการของ ‘เวลา’ + ‘ฟุตบอล’ จะต้องมีชื่อของ HUBLOT (อูโบลท์) แบรนด์นาฬิกาหรูสัญชาติสวิสที่มีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับวงการฟุตบอลระดับโลกมาตั้งแต่ปี 2006 และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวงการลูกหนังอย่างเหนียวแน่นไม่ว่าจะในสนามหรือบนข้อมือของนักเตะระดับโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และช่วงเวลาที่ทัวร์นาเมนต์การแข่งขันฟุตบอลอันยิ่งใหญ่ UEFA EURO 2024 (ยูฟ่า ยูโร 2024) ได้วนกลับมาถึงอีกครั้ง ทีมที่ดีที่สุดจากยุโรปต่างเข้ามาลงเตะชิงชัยชนะกันผ่านสนามทั้ง 10 เมืองของประเทศเยอรมนีตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม นาฬิกา Hublot ยังคงเป็น Official
บอกเลยว่าเป็นข่าวดีสำหรับสาวกที่ใช้งาน MatePad มายาวนาน รวมถึงผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตคุณสมบัติจัดจ้าน ซึ่งตอบโจทย์การทำงานรอบด้าน จนแทบไม่ต้องง้อ PC หรือ Laptop เพราะตอนนี้ HUAWEI ได้เปิดตัวรุ่นล่าสุดอย่าง MatePad 11.5” S อัพเกรดความสามารถเต็มกำลัง พร้อมตอบสนองความต้องการของคนทำงานอย่างเรา ๆ ได้เป็นอย่างดี และวันนี้เราจะชวนชาว UNLOCKMEN ไปดูพร้อมกันว่า HUAWEI MatePad 11.5” S เครื่องนี้ มีความสามารถเด็ด ๆ อะไรรอให้ทุกคนได้สัมผัสกันบ้าง เราขอเริ่มต้นกันที่ PaperMatte Display ของ HUAWEI MatePad 11.5”S หน้าจอคมชัดความละเอียดระดับ 2.8K แสดงผลลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรท 144 Hz และมีคุณสมบัติป้องกันการสะท้อนแสงระดับนาโน ใช้งานได้ยาว ๆ สบายตา ตาไม่ล้า ที่สำคัญหน้าจอ PaperMatte Display ของ HUAWEI MatePad 11.5”S
ในปี 2022 MB&F เปิดตัว Legacy Machine Sequential EVO ซึ่งเป็นนาฬิกาโครโนกราฟคู่ที่เปิดประตูสู่การพัฒนากลไกโครโนกราฟให้เหนือระดับ กลไกอันล้ำสมัยได้สร้างนิยามใหม่ เข้าไปครองใจเหล่านักสะสม จนได้รับรางวัล GPHG ‘Aiguille d’Or’ ในปีเดียวกัน ผลงานของ Stephen McDonnell หนึ่งใน MB&F Friends ผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน LM Perpetual ที่นำเสนอเมื่อปี 2015 โดย LM Sequential EVO เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มาพร้อมประสิทธิภาพการจับเวลาอย่างครบครัน จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่มีใครเคยคิดถึงรูปแบบนี้มาก่อน ฟังก์ชันจับเวลาหลากหลายโหมดช่วยให้สามารถจับเวลาทุกอย่าง ตั้งแต่การแข่งขันของนักกีฬาสองคน หรือรอบจับเวลาติดต่อกันในสนามแข่ง หรือแม้แต่การจับเวลาในการปรุงอาหารสองจานที่แตกต่างกันในเตาอบ ไปจนถึงการใช้งานจับเวลาอย่างเป็นทางการ การประดับอัญมณีกันสึกภายในคลัตช์แนวตั้งเป็นสิ่งสำคัญของโครโนกราฟแบบ Sequential ทั้งหมด และระบบฟลายแบ็กใหม่ยังจำเป็นต้องมีการประดับอัญมณีกันสึกเช่นกัน หากไม่มีชิ้นส่วนนี้อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ ระบบนี้เป็นระบบที่ละเอียดอ่อนมาก เพื่อลดแรงเสียดทานทั้งหมดให้เหลือน้อยที่สุด มีผลทำให้การตีกลับของเข็มไปยังเลขศูนย์ของกลไกฟลายแบ็กมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ McDonnell ได้บรรจุโรเลอร์อัญมณีเข้ากับกลไกฟลายแบ็ค ส่วนประกอบนี้ต้องสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ดังนั้นสำหรับนาฬิกาต้นแบบเรือนแรก ทาง McDonnell ได้สร้างโรเลอร์อัญมณีขึ้นเองเพื่อพิสูจน์แนวความคิดของกลไกอันล้ำสมัยนี้ (หนึ่งในห้าชิ้นส่วนประกอบที่ได้รับการจดสิทธิบัตร)
เรียกได้ว่าเป็นที่น่าจับตาตั้งแต่เปิดตัว สำหรับนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง HUAWEI WATCH FIT 3 ซึ่งลบภาพจำเดิม ๆ ของ Smart Watch ทั่วไป ที่หลายคนมักคิดว่ามันคือไอเทมเหมาะกับผู้ใช้งานที่เน้นด้านออกกำลังกายเป็นหลัก เพราะ HUAWEI WATCH FIT 3 เรือนนี้ได้วาง Position ตัวเองเป็น Fashion Smart Watch ที่โดดเด่นทั้งงานดีไซน์ซึ่งพร้อมให้สวมใส่ในชีวิตประจำวัน ผสานด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ลงตัวกับไลฟ์สไตล์รอบด้าน แต่จะลงตัวแค่ไหน วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปทำความรู้จักความเจ๋งของ HUAWEI WATCH FIT 3 ให้มากขึ้น เริ่มต้นที่ประเด็นแรก บอกเลยว่าสะดุดตากับงานดีไซน์ตัวเรือนแบบใหม่ของ HUAWEI WATCH FIT 3 ที่เน้นรูปทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้งมน เรียบหรูดูดี เข้ากันได้กับการแต่งตัวหลากสไตล์ พร้อมหน้าจอสัมผัสแบบ AMOLED ขนาด 1.82 นิ้ว สีสันสดใสคมชัด ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ๆ ด้วยความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,500
เอ็มบี แอนด์ เอฟ (MB&F) เชื่อมโยงความหลงใหลในโลกแห่งยานยนต์ นับตั้งแต่ปี 2012 ด้วยผลงาน HM5 ตามมาด้วย HMX ในปี 2015 และ HM8 ในปี 2016 ผลงานแต่ละรุ่นด้านข้างตัวเรือนสะท้อนความเท่ผ่านมาตรวัดความเร็วที่สามารถจดจำได้ตั้งแต่แรกเห็น ชวนให้นึกถึงการออกแบบที่ท้าทายและล้ำสมัยของปี 1970 หนึ่งทศวรรษหลังจากเครื่องบอกเวลา MB&F ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ ทางแบรนด์ได้ต่อยอดด้วยการเปิดตัว HM8 Mark 2 ในปี 2023 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซุปเปอร์คาร์ หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวสองรุ่นในปี 2023 – ด้วยเคสตัวเรือนสีขาวหรือสีเขียว โดยรุ่นหลังผลิตจำนวนจำกัดเพียง 33 เรือน – ผลงาน HM8 Mark 2 กลับมาพร้อมกับรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นอีกครั้งในปี 2024 มาพร้อมตัวเรือนสีน้ำเงินเงาวาว ผลิตเพียง 33 เรือน เม็ดสีเมทัลลิกที่มีลักษณะเป็นวัสดุโปร่งแสง ตัวเรือนสีน้ำเงินชวนให้นึกถึงสีรถสุดหรูทั้งทางด้านเทคนิคและความสวยงาม นาฬิกา HM8 Mark 2 มีให้เลือกระหว่าง
หากพูดถึงการก้าวข้ามผ่านเวลามากว่า 50 ปี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่น้อยเมื่อเทียบกับอายุของคนเรา แต่คงเร็วไปที่จะตัดสินว่าสิ่งที่ผ่านเวลามานานขนาดนี้ จะต้องเป็นสิ่งที่ตกยุคเสมอไป เพราะทุกหน้าปฏิทินที่เปลี่ยนผ่าน ย่อมหมายถึงประสบการณ์ที่สั่งสม ยิ่งผสานด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ยิ่งลบล้างภาพจำเรื่องความล้าสมัย แต่กลับเด่นชัดในมิติของความคลาสสิกที่อยู่เหนือกาลเวลา เปรียบได้กับ LAUREATO คอลเลกชันนาฬิการะดับไอคอนิกของ GIRARD-PERREGAUX ที่ปรากฎสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1975 เดิมทีมีชื่อเรียกว่า Quartz Chronometer ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกควอตซ์ขนาดเล็ก ที่มีดีกรีเป็นกลไกควอตซ์แบบแรกของสวิส โดยงานดีไซน์แรกเริ่มจากฝีมือของสถาปนิกแห่งเมืองมิลาน ที่ตั้งใจออกแบบตัวเรือนให้มีลักษณะของขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมผสานกับตัวเรือนทรงกลม ให้เหลือบเงาที่งดงามเมื่อกระทบกับแสงในมุมต่าง ๆ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น LAUREATO ซึ่งเป็นคำภาษาอิตาเลียน ที่มีความหมายถึงผู้สำเร็จการศึกษา สื่อถึงความสมบูรณ์แบบของนาฬิการุ่นนี้ อีกทั้งขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมยังมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกับมงกุฎลอเรล สำหรับประดับให้กับเหล่าผู้สำเร็จการศึกษาของอิตาลีในยุคนั้น จนกระทั่งในปี 1984 นาฬิกา LAUREATO ได้พัฒนาสู่กลไก Mechanical calibres และยังคงได้รับพัฒนาด้านวัสดุ กลไก และงานดีไซน์มาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อตอกย้ำความเป็นเลิศของนาฬิกาที่ผสานศาสตร์ของกลไกบอกเวลาที่เที่ยงตรงแม่นยำ และงานดีไซน์ที่วิจิตรงดงามเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ลงตัวกับนาฬิกาที่เหมาะกับผู้คนในทุกยุคทุกสมัย ยืนยันได้จากนาฬิกา GIRARD-PERREGAUX LAUREATO CHRONOGRAPH Ti49 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง 49 ปี
Maurice Lacroix AIKON ถือเป็น Iconic Swiss Watch ใน collection ของนักสะสมมานับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 หนึ่งในผลงานสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ Watchmaker จากย่าน Franches Montagnes ประเทศ Switzerland คอลเลกชัน Maurice Lacroix AIKON เป็นโมเดลที่ต่อยอดมาจาก Maurice Lacroix Calypso ต้นแบบสุดคลาสสิกตั้งแต่ปี 1990s ทำให้ AIKON ซึ่งหมายถึงสไตล์เมืองอันหรูหราทันสมัย ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในฐานะสัญลักษณ์แห่งความหรูหรา มีความโดดเด่นในด้านงานดีไซน์ที่ทันสมัย รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและคุณภาพการผลิตที่ประณีตสูงสุด ผ่านการสร้างสรรค์ด้วยผลงานรุ่นใหม่ ๆ ภายใต้ความหลากหลายของขนาด สีสัน และความซับซ้อนของเรือนเวลามาอย่างต่อเนื่อง สมกับปรัชญา ‘การประดิษฐ์คิดค้น’ ที่หลอมรวมอยู่ในทุกงานฝีมือและการสร้างสรรค์ของ Maurice Lacroix เชื่อว่าหากคุณหันไปหา Watch Collector รอบตัว จะพบว่ามี Maurice Lacroix AIKON ติดตัวกันเกือบครบทุกท่านไม่มากก็น้อย ล่าสุด Maurice