ปี ค.ศ 1920 ที่เป็นจุดกำเนิดเริ่มต้นของบาร์ลับ หรือที่เราคุ้นเคยอย่าง “Speakeasy Bar” ซึ่งในยุคของ ค.ศ 1920 นั้นเป็นยุคที่อเมริกาห้ามขายเหล้า หรือที่เรียกว่า Prohibition ของอเมริกา ซึ่งเป็นช่วงที่ห้ามผลิต และห้ามขายอย่างเด็ดขาด จึงเกิดเป็นยุคที่มีการลักลอบการขายเครื่องดื่มอย่างลับ ๆ แบบแอบเปิด จึงเป็นที่มาของคำว่า Speakeasy หรือแปลตรง ๆ ง่าย ๆ ว่า “ค่อย ๆ พูด” ซึ่งร้านพวกนี้จะต้องคุมเสียงไม่ให้ลูกค้าเสียงดังมากเกินไป ไม่งั้นเดี่ยวตำรวจจะมาจับเอา เล่าถึง Speakeasy ในปีค.ศ. 1920 ไปแล้ว เลยอยากชวนมารู้จัก Speakeasy Bar น้องใหม่ที่มีชื่อว่า “2463 Speakeasy” บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังของโรงแรม Civic เอกมัย โดยชื่อของร้านคือปี พ.ศ. 2463 ซึ่งเท่ากับปี ค.ศ. 1920 ในการเริ่มยุคของ Speakeasy Bar นั่นเอง
แสนสิริ ตอกย้ำเบอร์หนึ่งผู้นำอสังหาฯลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไทย รุกตลาดรับดีมานด์ล้น ส่ง BuGaan เอ็กซ์คลูซีฟ เรสซิเดนท์ 3 ชั้น ใน Sansiri Luxury Collection กับ 3 โครงการใหม่ 3 ดีไซน์ที่แตกต่าง บน 3 สุดยอดทำเลไพร์ม “BuGaan Krungthep Kreetha” “BuGaan Pattanakarn” และ “BuGaan Rama9-Meng Jai” รวมมูลค่ากว่า 3,600 ลบ. มุ่งสู่ยอดขายโครงการลักซ์ชัวรี่รวมตามเป้าที่วางไว้ปีนี้กว่า 18,700 ลบ เผยโฉมที่แรก “BuGaan Krungthep Kreetha” มาสเตอร์ พีซการอยู่อาศัยระดับเวิลด์คลาสสไตล์ Modern Luxury ราคา 35-60 ลบ. เจาะกลุ่ม Young Successors พร้อมคลับเฮาส์ดีไซน์ยูนีค บน The Best Location
ผ่านพ้นไปแล้วอย่างอบอุ่น ชื่นมื่น รื่นรมย์ กับทริป ‘เวสป้า พาเที่ยว’ งานรวมตัวของเหล่าเวสป้าเลิฟเวอร์พร้อมสกู้ตเตอร์คู่ใจ ที่บอกได้คำเดียวว่า ‘โคตรชิลล์’ และเต็มอิ่มไปด้วยมิตรภาพ ไม่ว่าจะขี่เวสป้ารุ่นไหนก็มาจอยกันได้อย่างไม่เคอะเขิน 🛵 ที่สำคัญงานนี้ยังจัดเต็มด้วยบรรยากาศดี ๆ วิวสวย ๆ ที่โอบล้อมด้วยทะเลสาบกว้างใหญ่ / ร่มไม้ / ทิวเขา และสายลมของ BANGKOK BACKYARD ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็นลานกิจกรรมสไตล์ชาวแคมป์ให้ชาวเวสป้าได้สร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน ภายในมีกิจกรรมชิล ๆ สำหรับนักเดินทางเอาไว้มากมาย ทั้งร่วมดริปกาแฟนั่งจิบเพลิน ๆ ก่อนเดินไปสกรีนเสื้อยืดลวดลายสุดเท่ พร้อมอิ่มท้องกับ BBQ รสชาติเยี่ยม เพื่อเตรียมตัวเข้า Workshop ‘Vlog Like a Pro’ จากผู้กำกับหนังโฆษณาฝีมือดี ‘พี่เต้ – VespaJerseyClub’ ซึ่งมาร่วมแชร์เทคนิคการคิดไอเดีย / ถ่ายทำ / ตัดต่อ Vlog ให้ชาวเวสป้าบันทึกเรื่องราวการเดินทางของตัวเองได้อย่างสวยงามมีสไตล์น่าประทับใจมากขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อแชร์ความทรงจำบนล้อสกู้ตเตอร์ให้แก่กันและกัน เป็นแรงบันดาลใจในการมารวมตัวออกทริปเวสป้าในครั้งต่อไป สำหรับใครที่พลาดโอกาสการร่วมทริปครั้งนี้อย่าเพิ่งเสียใจ เพราะเราได้รวบรวมภาพบรรยากาศมาให้ชมกันแบบเต็มที่
ไซโก แบรนด์นาฬิกาที่มีอายุยาวนานถึง 140 ปี ผลิตและจำหน่ายนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาปลุก นาฬิกาแขวนรวมถึงนาฬิการะบบอื่น ๆ เช่นนาฬิกาจับเวลา ออกทำตลาดจนมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ได้ส่งมอบนาฬิกาข้อมือออกทำตลาดไปมากมายกว่า 1,000 รุ่นนับตั้งแต่ปี 1913 ชื่อเสียงของไซโกนั้นได้เริ่มจากการเป็นนาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่น ที่ผลิตในญี่ปุ่น โดยชาวญี่ปุ่น และได้รับการไว้วางใจในเรื่องของความแม่นยำและทนทาน นาฬิกาของไซโกในแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นมีเอกลักษณ์ความโดดเด่นที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาการผลิตได้อย่างชัดเจน และในนาฬิกาทุกรุ่นนั้นจะมีการใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไปมากมายจากการคิดค้นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของไซโก ซึ่งนั่นอาจมาจากปรัชญาของท่านประธานอย่าง ชินจิ ฮัตโตริ ที่ให้ไว้กับทุกคนว่า “One step ahead of the rest” ซึ่งหมายถึง “การต้องก้าวนำผู้อื่นอยู่หนึ่งก้าวเสมอ” ทำให้แบรนด์ไซโกนั้น ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาจนปัจจุบัน นอกจากคุณภาพ ดีไซน์และฟังก์ชั่นอันยอดเยี่ยมของนาฬิกาแล้ว หัวใจสำคัญที่จะขาดไม่ได้คือการบริการหลังการขาย ที่ต้องดูแลให้ได้อย่างครอบคลุม เราจึงได้ทำการพัฒนาและสร้างศูนย์บริการแห่งใหม่ที่มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพื่อดูแลและรองรับนาฬิกาที่จำหน่ายออกไปทุกรุ่น และมอบความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการของลูกค้า ในปัจจุบันนั้นศูนย์บริการของไซโก ได้ย้ายจากสาขาเพชรบุรี 35 มารวมกันกับสำนักงานใหญ่แล้ว ณ ตึกอิตัลไทย ทาวเวอร์ ชั้น 1 โดยสามารถรองรับนาฬิกาเพื่อเข้าซ่อมแซมได้ถึง 2,000 เรือนต่อเดือน และให้บริการครบวงจรตามมาตรฐานของศูนย์บริการจากประเทศญี่ปุ่น
พูดถึงอีกหนึ่งค็อกเทลบาร์ที่พลาดไม่ได้ในตอนนี้ เราอยากให้คุณได้ไปสัมผัส Midsummer Night’s Dream Bar ที่เพิ่งได้เปิดตัวเมนูองก์ใหม่ องก์แรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยค็อกเทล 15 ตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์รักร้ายชิ้นเอก A Midsummer Night’s Dream ของ William Shakespeare ว่าด้วยเรื่องราวความลุ่มหลง ปรารถนา ที่ผิดฝาผิดตัว ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละแก้วที่ได้ลิ้มลองมีรสสัมผัสที่พิถีพิถัน ต้องกลับไปซ้ำอีกแน่นอน ค็อกเทลบาร์แห่งนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยเมื่อเปิดประตูผ่าน Wynnwood Florist ในชั้นที่ 1 และเดินขึ้นบันใดวนมาที่ชั้น 2 จะเป็นค็อกเทลบาร์ที่เสิร์ฟซิกเนเจอร์ คลาสสิคและบีสโปคค็อกเทล โดยคอนเซปต์ของชั้นนี้จะเป็นสถานที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ นักดื่มหรือบาร์เทนเดอร์ ชั้น 3 ของร้านจะเป็น จินบาร์ ซึ่งถูกรวบรวมมาโดยเจ้าของร้านซึ่งหลงไหลในจิน ซึ่งทางร้านมีจินให้เลือกมากกว่า 90 ตัว โดยบาร์เทนเดอร์จะช่วยแนะนำโทนิกและการ์นิชที่เหมาะสมกับตัวจินที่ลูกค้าเลือกเพื่อมอบประสบการณ์การดื่มจินที่ล้ำลึก และยังเป็นชั้นที่ลูกค้าจะได้ดื่มด่ำกับการแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดีเจ วงดนตรีแจ๊ส ชั้น 4 ของร้านจะเป็น ไพรเวท
ออรัม แกลเลอรี แกลเลอรีศิลปะร่วมสมัย ศิลปะเมือง และสตรีทอาร์ตที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อตั้งโดยดีเจ นักดนตรี นักแสดง และศิลปินชาวอังกฤษชื่อดังระดับโลก คลิฟฟอร์ด ไพรซ์ (Clifford Price, MBE) หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม “Goldie” แกลเลอรีตั้งอยู่ใน Warehouse 30 พื้นที่โครงการที่นำโกดังเก่าสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาบูรณะให้กลายเป็น Creative District ย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งถนนเจริญกรุง ภายในพื้นที่โถงขนาด 500 ตรม. มีการจัดแสดงงานจากศิลปินแนวหน้าในวงการ contemporary, urban and street art จากทั่วโลก อาทิเช่น Belin, Ben Eine, Bio, Bisco Smith, Ces, Crash, Goldie, Helio Bray, James Bullough, Mad C, Mikael B, Mr Cenz,
พูดถึงศิลปะแห่งการลิ้มรส เชฟส์เทเบิ้ล (Chef’s Table) เริ่มเป็นที่นิยมในกลุ่มนักชิมคนไทยมากขึ้น และมีเชฟหน้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งเชฟแต่ละคนไม่ได้มีดีแค่ฝีมือทำอาหาร แต่มีลุคเท่ ๆ ที่มีเสน่ห์มากไม่แพ้อาหารของพวกเขา Unlockmen จึงขอรวบรวม 5 ร้านเชฟส์เทเบิ้ลที่มีความโดดเด่น และแตกต่างกันทั้งสไตล์ วัตถุดิบ รสชาติ รวมถึงบรรยากาศร้านมาแนะนำให้ทุกคนรู้จัก แต่บอกไว้ก่อนว่าทุกร้านต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ไม่มีคนนี้ไม่ได้กับ เชฟหมู-เฉียบวุฒิ คุปสิริกุล ที่เรียกได้ว่าเป็นเชฟเทเบิ้ลคนแรกของประเทศไทย โดยร้านของเชฟหมูมีชื่อร้านว่า Table X ร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศส ที่ตัวเชฟหมูเองถนัดทั้งอาหารฝรั่งเศสและอาหารจีน เพราะเติบโตมากับครอบครัวที่มีภัตตาคารอาหารจีน แต่สำหรับร้าน Table X นั้นเชฟหมูได้ลงมือคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดมาจากทั่วทุกมุมโลก โดยรับประกันเรื่องความสดใหม่และรสชาติแปลกใหม่ให้ได้สัมผัส สำหรับเมนูต้องห้ามพลาดคือ Foie Gras with Poached Pear เป็นเมนูที่เดิมพันด้วยประสบการณ์กว่า 20 ปี ใช้ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่นำไปเซียร์ในกระทะจนหอม ข้างนอกกรอบ ข้างในเนื้อนุ่ม สุกกำลังดี ตัดเลี่ยนด้วยลูกแพรตุ๋นไวน์แดงที่อยากให้ทุกคนได้ชิม บรรยากาศร้านเป็นครัวเปิดที่หลายคนบอกว่าเหมือนได้มาโรงเรียนสอนทำอาหาร เพราะเชฟหมูโชว์ความเก๋าด้วยการบอกเล่าทุกขั้นตอนด้วยความสนุก ใครอยากชิมฝีมือเชฟหมูต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี
หลังจากแกรนด์ โอเพนนิ่งเปิดตัวไปอย่างร้อนแรงในปี 2020 ก็ได้เวลาที่ “Playroom” (เพลย์รูม) สปีคอีซี่บาร์หรูย่านเอกมัยของ เจย์ – สายนิสา แสงสิงแก้ว จะก้าวไปอีกสเต็ปสู่บทใหม่ที่เข้มข้นและเจนจัดกว่าเดิม ซึ่งได้ถ่ายทอดเรื่องราวและความหลงใหลทั้งหมดผ่านการรังสรรค์ 9 เมนูค็อกเทลใหม่ ที่รอให้เหล่าสายดริ้งค์มาดื่มด่ำใน “Playroom Chapter 2” “Playroom” ในคำจำกัดความของสปีคอีซี่บาร์แห่งนี้นั้น ดูจะเป็นให้คุณได้มากกว่าห้องนั่งเล่นธรรมดาทั่วไป เพราะที่แห่งนี้ได้รับการออกแบบและครีเอทมาเพื่อเป็นห้องนั่งเล่นสุดแสนเพลย์ฟูล โดยได้แรงบันดาลใจมาจากมิสเตอร์ เกรย์ (Mr.Grey) ในภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades of Grey สำหรับทุกคนที่ต้องการมาเติมเต็มประสบการณ์สุดพิเศษ ปลดปล่อยความสนุก หรือใช้เวลาดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและเสียงเพลงท่ามกลางความเป็นส่วนตัว อัดแน่นด้วยคาแรคเตอร์เซ็กซี่แสนซุกซน ที่ทั้งดูรุ่มรวยและหรูหรา แต่กลับมีความลึกลับ น่าค้นหา ให้บรรยากาศเสมือนกำลังชมฉากโปรดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ว่าได้ โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งที่เลือกใช้มู้ดแอนด์โทนของสีแดง ทอง และดำ แถมมาพร้อมกิมมิคให้เล่นสนุกมากมาย ด้วยไอเทมสุดจี๊ดเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ อาทิ โซ่ แส้ กุญแจมือ อีกทั้งตัวเคาน์เตอร์บาร์ก็ยังชวนให้นึกถึงชุดคอร์เซ็ทตั้งแต่แรกเห็น ภายใต้แสงสลัวชวนเคลิบเคลิ้ม เหมาะแก่การนั่งละเลียดค็อกเทล แชมเปญ หรือวิสกี้นุ่มๆ พลาดไม่ได้กับมุมไฮไลท์บนผนังอย่าง “You
ฉลองครบรอบ 1 ปี Contento ร้านอาหารอิตาเลียนที่ก่อตั้งโดย อู้ พหลโยธิน และ บอล ธาราภิบาล สองผู้บริหารในเครือโรงรส Dining Group พร้อมแนะนำส่วนเปิดบริการใหม่ “Contento Upstairs” ที่ให้บริการบาร์ และอาหารบนชั้น 2 ภายในงานมีการนำกลิ่นหอมชวนให้นึกถึงความทรงจำของทะเลอันดามันจากเครื่องหอมคอลเลคชั่น Andaman Sails จากปัญญ์ปุริ ในการสร้างบรรยากาศให้อบอวลไปด้วยความสดชื่น พร้อมมอบความเพลิดเพลินกับซาวน์อิเล็กทรอนิคจาก DJ IYY ตลอดช่วงเวลาดื่มด่ำกับอาหารสไตล์อิตาเลียน Contento หรือ โรงสำราญ ถือกำเนิดขึ้นบนอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น 5 คูหาในย่านไชน่าทาวน์ ที่นำมาบูรณะใหม่ผ่านมุมมองและความหลงใหลในการเดินทาง และความสุขที่ได้ลิ้มรสอาหารในร้านเล็ก ๆ ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี จากการได้รับเสียงตอบรับที่ดี และเปิดให้บริการมาครบหนึ่งปี Contento พร้อมแนะนำชั้นสองของร้านกับ “Contento Upstairs” ที่มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างและน่าประทับใจท่ามกลางการตกแต่งด้วยของสะสมจากโรมและมิลาน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด และรูปปั้นในโทนขาวดำ โดยงานศิลปะหลากหลายชิ้นที่ถูกนำมาตกแต่งภายในร้านล้วนเป็นผลงานของ Thaivichit ศิลปินชาวไทยและ Sarah
เทรนด์การไปคาเฟ่ในเวลานี้ไม่เพียงเป็นการเสาะหาสถานที่ใหม่ ๆ เพื่อพบปะ สนทนา หรือทำคอนเทนต์ลงโซเชียลเท่านั้น แต่สำหรับผู้ชายหลายคน คือการได้ลิ้มรสกาแฟแบบใหม่ ๆ ในบรรยากาศที่ชอบ หาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ และหนึ่งในใจคงหนีไม่พ้นคาเฟ่สไตล์คอนกรีตที่มีเอกลักษณ์คือความดิบ เท่ ราวกับกำลังเปิดเปลือยทุกเรื่องราว นอกจากจะถูกใจผู้ชายแล้ว สาว ๆ ที่ไปด้วยกันก็อาจจะได้รูปสุดคูลไปลงโซเชียลอีกเพียบ วันนี้เราจึงอยากแนะนำคาเฟ่สไตล์คอนกรีต ดิบ เปลือยทั่วไทย ลองมาดูว่ามีที่ไหนน่าไปกันบ้าง Labyrinth Cafe คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียลลอฟท์สุดเท่ที่ตั้งอยู่ชั้น 1 ของ Shophouse1527 อาคารเก่าแก่อายุมากกว่า 80 ปีที่รักษาไว้ทุกความคลาสสิกและเต็มไปด้วย passion จากคนรักกาแฟ เสน่ห์สุดดึงดูดคือบาร์กาแฟยาวที่ร้านคัดสรรเมล็ดกาแฟและสับเปลี่ยนหมุนเวียนกาแฟ Special Blend จากประเทศต่างๆ มาให้หนุ่มๆ ผู้หลงใหลกลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เป็นวัฒนธรรมการสนทนาของคนรักกาแฟที่กลมกล่อมจนอยากจะมาซ้ำๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ของศิลปะและดนตรี จึงมีอีเวนต์สุดเท่ที่รอให้ทุกคนมาแจมอยู่เรื่อยๆ ที่อยู่: 1527 ถนนพระรามที่ 4 แขวง วังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์: 061 529
การจะเลือกซื้อรถยนต์แต่ละครั้ง บางคนอาจมองแค่สเปกที่ได้ แต่เรามองว่าการซื้อรถไม่ได้จบแค่รถยนต์หรือบริการหลังการขาย สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่านั้นคือ “ผู้คน” หรือ Community ที่จะรวมผู้ใช้รถยนต์ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่สร้างมูลค่าให้เราอินกับรถยนต์ค่ายนั้น ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง นี่คือเหตุผลที่เราเลือกรถยนต์ MINI นอกจากความแตกต่างของฟิลลิ่งการขับรถ คาแรคเตอร์ที่โดดเด่นสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้ขับ การได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน MINIster คือประสบการณ์ท่ีเจ้าของรถยนต์ MINI ทุกคนต่างประทับใจจนไม่ยอมย้ายค่ายไปไหน ว่ากันว่าหลายคนซื้อรถยนต์ MINI เพราะกิจกรรม Driving Trip ที่จัดขึ้นเป็นประจำ 2 เดือนครั้ง นอกจากจะได้ออกไปทำกิจกรรมดี ๆ ได้พบปะผู้คนเพิ่ม connection ให้ชีวิต ยังเป็นโอกาสที่เพิ่มความสามารถในการขับ และได้ใช้ประสิทธิภาพของรถอย่างเต็มที่ สำหรับ Driving Trip ล่าสุด เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นในวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากต้องหยุดไปร่วม 2 ปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด เป็นทริปที่เรียกว่า “BIG LOVE STORY” จากกรุงเทพ สู่เขาค้อ ภูทับเบิก เราจึงไม่พลาดที่จะไปร่วมขบวน MINIster ในครั้งนี้ ซึ่งในทริปมีทั้งครอบครัว
คุณเคยหยุดเพื่อถามตัวเองบ้างมั้ย ว่าคุณได้ออกไปผจญภัยครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? นี่คือคำถามที่เราเคยถามทุกคนเอาไว้ก่อนหน้านี้ คำถามที่ทำให้เราอยากออกไปท้าทายเส้นทางใหม่ ๆ กับ Mercedes-Benz GLE 350 de 4MATIC Exclusive รถยนต์ SUV ที่ช่วยปลดล็อกข้อจำกัดในการใช้ชีวิต สร้างอิสระในการเดินทางได้ไม่ว่าเส้นทางจะสมบุกสมบันแค่ไหน โดยโจทย์ในการท้าทายของเราจากคำท้า #TheStrengthChallenge ก็คือ การเปลี่ยนสถานที่ทำงานจากออฟฟิศ โต๊ะทำงานล้อมรอบด้วยกำแพงในเมืองที่วุ่นวาย ร้านกาแฟเต็มไปด้วยผู้คนจนขาดความสงบ เพื่อออกไปนั่งทำงานริมชายหาด ฟังเสียงคลื่นทะเล นั่งมองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวลงลับสายตาอย่างช้า ๆ พร้อมดื่มกาแฟตัวโปรดที่บดและ drip เองกับมือ เป็นหนึ่งในความท้าทายที่เราได้แต่คิดในหัว แต่ไม่เคยได้ออกไปทำจริงเสียทีจนกระทั่งวันนี้ โดยปกติเราเป็นคนที่ชอบการพักผ่อนในโรงแรมหรูที่สะดวกสบาย ในทริปนี้เราจึงเลือกเส้นทางที่ทำให้ได้ฟีลการ Adventure เพิ่มขึ้น เพื่อจะได้ดูโลกที่กว้างขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่ท้าทายเกินกว่าจะใช้รถยนต์ซีดานเข้าไปไหว สำหรับจุดหมายในการผจญภัยครั้งนี้คือการค้นหาชายหาดสวย ๆ สงบเงียบเป็นส่วนตัว มีทางให้รถวิ่งลงไปได้ หลังจากค้นหาอยู่นาน ก็ได้ข้อมูลว่าในมีจุดหมายที่ตอบโจทย์อยู่ในอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโรงแรมห่างไกล ที่มีทางเข้าเพียงทางเดียวคือขับลงชายหาดเป็นระยะทางสั้น ๆ แต่รถเล็กอาจจะไม่สามารถทำได้เนื่องจากทุกเส้นทางค่อนข้างจะสมบุกสมบัน ทั้งทางฝุ่นและหลุมเนิน ระหว่างทางไปมีสถานที่สวย ๆ ที่เคยได้แต่ดูผ่านหน้าจอ แต่ไม่เคยไปมาก่อน