เพิ่มความสปอร์ตให้รถหรู ด้วยรุ่นอัพเกรดใหม่กับรหัส “S” ใหม่ล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้ Bentley เพิ่งจะเปิดตัว Continental GT และ GTC พร้อม S badge ไปแล้ว วันนี้มาถึง Flying Spur S Sedan กับการเพิ่มของแต่งโทนดำ Blacked-out Bentley Flying Spur S ตกแต่งภายนอกด้วยโทนดำมาแทนที่วัสดุเงินสะท้อนแสงทั้งหมด กระจังหน้าและช่องดักอากาศดำ โคมไฟหน้าหลังรมดำ dark-tinted พร้อมล้อลายโหดสีดำ gloss black ขนาด 22 นิ้ว กับ calipers brake สีแดงดุดัน ปลายท่อไอเสีย quad exhaust tips สีดำ ช่วยให้ Flying Spur S ดูเตี้ยและใหญ่กว่าปกติ ขุมพลังของ Bentley Flying Spur S
ลงทุนอะไรไม่ดอย วันนี้ต้องยกให้ Classic Car ที่สุดของทรัพย์สินที่มูลค่ามีแต่ทวีคูณ หากคุณรู้ว่ารุ่นไหนน่าเล่นน่าลงทุน วันนี้เราขอแนะนำ Top Classic Car ที่มีราคาแพงที่สุดในโลกจากการประมูลอย่างเป็นทางการ จากเดิมที่อันดับ 1 เคยตกเป็นของ Ferrari 250 GTO มาอย่างยาวนาน ปีนี้ก็ถูกยึดตำแห่งโดย Mercedes-Benz 300 SLR กับราคาที่แพงกว่าถึง 3 เท่าตัว 1. 1955 Mercedes-Benz 300 SLR “Uhlenhaut Coupe”: 5,000 ล้านบาท รถที่เปรียบเสมือนสมบัติแห่งชาติของ Mercedes-Benz วงการ Racing car ช่วงปี 1950s มีเพียง 2 คันในโลก ผลงานของ Rudolf Uhlenhaut หัวหน้าแผนก Test department ได้นำเอา 300 SLR W196
MacBook Air โดดเด่นด้วยดีไซน์บางเฉียบใน 4 สีสวยงาม พร้อมด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้น, กล้อง HD 1080p, การชาร์จแบบ MagSafe และอีกมากมาย ชิป M2 มาอยู่ใน MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ด้วยเช่นกัน และมาพร้อมหน่วยความจำแบบรวมขนาดสูงสุด 24GB ที่รวดเร็ว, การเร่งความเร็ว ProRes และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง Apple เปิดตัว MacBook Air ที่ออกแบบใหม่ในทุกรายละเอียด และ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดตโดยที่ทั้งคู่มีชิป M2 ใหม่เป็นขุมพลังที่จะยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถสุดล้ำให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีก เริ่มจาก MacBook Air แล็ปท็อปที่ขายดีที่สุดในโลก พัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกระดับ ทั้งดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบและประสิทธิภาพที่ทรงพลังยิ่งขึ้น จอภาพ
ย้อนไปในปี 2018 เมื่อ FIA เปิดโอกาสให้ค่ายรถสามารถส่ง Hypercar ของตัวเองลงแข่งในรายการ World Endurance Championship ได้ ทำให้หลายค่ายหันมาสนใจพัฒนารถที่เรียกว่า Le Mans Hypercar Category กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Aston Martin Valkyrie หรือ McLaren Senna ล่าสุดเป็นการเผยโฉม Hypercar ตัวแข่งสุดเซอร์ไพรส์จาก BMW กับรถแข่งที่ได้ชื่อรหัสอย่างเป็นทางการว่า “BMW M Hybrid V8 Hypercar” ซึ่งน่าลุ้นเหลือเกินว่าเราจะได้เห็น street-legal version ของรถแข่งคันนี้ในรูปแบบ street-legal ตามออกมาเพื่อรับมือกับ Mercedes-AMG One หรือไม่ ผลงานที่มาพร้อมดีไซน์ภายนอกสุดดุดันครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งการฉลองโอกาสครบรอบ 50 ปี ของ BMW M Division หลังจากที่มีการเปิดตัว M3 และ M4 CSL
ไอเดียที่เกิดจากความเมาของผู้บริหารเมื่อเกือบหกปีที่แล้ว กลายเป็นโจทย์สุดท้าทายที่สร้างออกมาได้จริงในที่สุด นี่คือ 2023 Mercedes-AMG One รถ street-legal Hypercar สำหรับใช้งานบนท้องถนน ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีทุกอย่างมาจากรถแข่ง Fomula 1 ไม่ใช่แค่การดัดแปลง แต่เป็นการยกทั้งชุดขุมพลัง hybrid 1.6-liter turbocharged V6 พ่วงระบบไฟฟ้า ที่ใช้ในรถแข่ง Mercedes-AMG Petronas Formula 1 E มาใส่ไว้ในเพื่อใช้สร้าง hypercar ที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้จริง และต้องผ่านข้อกำหนดต่าง ๆ เพื่อให้เป็นรถที่สามารถขับบนถนนได้อย่างถูกกฎหมาย หัวใจหลักของ Mercedes-AMG One คือระบบขับเคลื่อนแบบ hybrid ที่มีขุมพลังรวมมากถึง 1,049 แรงม้า เครื่องยนต์ internal combustion ความจุ 1.6-liter V6 double overhead camshafts, air sprint valves, direct injection ที่มีรอบจัดถึง
ในวันครบรอบ 60 ปี การเดินทางของยานอวกาศ Aurora 7 (ออโรร่า เซเว่น) นาฬิกาในตำนานที่มาพร้อมกับหน้าปัดบอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ที่ถูกนำกลับมาผลิตอีกครั้ง เพื่อระลึกถึงภารกิจสำคัญในประวัติศาสตร์ และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสสำคัญครั้งนี้ Breitling (ไบร์ทลิ่ง)ได้ นำเสนอนาฬิกา Cosmonaute (คอสโมนอต) รุ่นดั้งเดิม ที่เคยเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 1962 และได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าทึ่งของนาฬิกาเรือนนี้ ในยุค 1960s นาฬิกา Navitimer (เนวิไทเมอร์) ของ Breitling (ไบร์ทลิ่ง) คือนาฬิกาสำหรับนักบินแบบไร้ที่ติแต่ในขณะแนวโน้มของโลกที่กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว นอกจากการเดินทางและสำรวจอวกาศ และนั่นหมายความว่าโครงการสำรวจอวกาศอื่น ๆ ก็กำลังดำเนินการไปอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิกาต่างพากันแข่งขัน เพื่อจะเป็นผู้ผลิตนาฬิกาเรือนแรกบนข้อมือของนักบินอวกาศ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนาฬิกาที่เกี่ยวข้องกับการบินของ Breitling ทางให้แบรนด์กลายเป็นผู้นำของกลุ่มผู้ผลิตนาฬิกา เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 1962 Breitling ได้อ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่า “นาฬิกาข้อมือจากสวิสเรือนแรกในอวกาศ” หลังจากที่นักบินอวกาศ ScottCarpenter โคจรรอบโลก 3 ครั้งในขณะที่สวมนาฬิกา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่นประกาศความร่วมมือกับ คริส แรมซีย์ นักผจญภัยชาวอังกฤษ ในภารกิจผจญภัยขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จากขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้เป็นครั้งแรกของโลก การเดินทางที่กล้าหาญในครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมีนาคม 2023 แรมซีย์ และทีมจะออกเดินทางด้วย นิสสัน อริยะ (ARIYA) e-4ORCE เป็นระยะทางกว่า 27,000 กิโลเมตรผ่านหลายภูมิภาคและทวีปต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าจะมีช่วงอุณหภูมิที่แตกต่างกันตั้งแต่ -30 ถึง 30 องศาเซลเซียส แรมซีย์จะเป็นมนุษย์คนแรกที่ขับขี่รถยนต์จากขั้วโลกหนึ่งไปอีกขั้วโลกหนึ่ง เขาจะเดินทางจากอาร์กติกผ่านทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ก่อนที่จะข้ามไปยังทวีปแอนตาร์กติกา เส้นทางดังกล่าวมีความเป็นที่สุดในทุกๆด้าน ทั้งความทรหด ความรุนแรง ความยากลำบาก และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เริ่มจากภูมิประเทศที่มีน้ำแข็งปกคลุมไปจนถึงการข้ามผ่านเขาสูงชัน หรือลุยไปในเนินทรายอันกว้างใหญ่ ภารกิจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ หรือ Pole to Pole ที่ขับเคลื่อนโดยนิสสัน อริยะจะพาแฟน ๆ เดินทางผ่านเส้นทางที่น่าทึ่งและยังไม่ได้รับการบันทึกลงในแผนที่ฉบับไหน “นิสสันภูมิใจที่ประกาศความร่วมมือกับคริส แรมซีย์ และทีมสำรวจขั้วโลกเหนือสู่ขั้วโลกใต้ (Pole to
เชื่อว่ามีแฟน ๆ ของ TAG Heuer Monaco อยู่ไม่น้อย แต่ถึงจะไม่ใช่แฟน ก็น่าจะต้องประทับใจในเรือนเวลารุ่นพิเศษล่าสุด Monaco Special Edition for the Fomula 1 Monaco Grand Prix “Dark Lord” ที่สุดแห่ง chronograph ระดับไอคอนที่เคยสร้างตำนานบนข้อมือของ Steve McQueen ในปี 1971 ดีไซน์สุดเท่ขรึมแบบ all-black-evertyhing เคสทรง classic square ขนาด 39mm ผลิตจาก grade 2 titanium สีดำจาการเคลือบ DLC-coated กลไก Calibre Heuer 02 Automatic มาพร้อม monochromatic dial design จากยุค ’70s หน้าปัดผ่านการปรับรายละเอียดให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เช่นการขัดด้านหรือการเพิ่ม grain
The Gumball 3000 Rally งาน Rally ที่มีการรวมตัวของ Supercar มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
รถยนต์เปิดประทุน 4 ที่นั่ง จากมินิถือเป็นรถเปิดประทุนระดับพรีเมียมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในเซกเมนต์รถยนต์ขนาดเล็ก มินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition สะดุดตาด้วยรูปลักษณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดดเด่นเหนือใครทั้งตัวถังภายนอก ล้ออัลลอยน้ำหนักเบา การออกแบบภายในและชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ความเป็นมินิแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมให้อารมณ์ขับสนุกในสไตล์เปิดประทุนที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของมินิ สมรรถนะทรงพลังที่พร้อมเผชิญทุกเส้นทางท่ามกลางสายลมและแสงแดด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้พละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า เสริมด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.1 วินาที ให้อารมณ์ขับสนุกเหมือนโลดแล่นอยู่ในสนามแข่ง ภายนอกของมินิ คูเปอร์ เอส คอนเวิร์ตทิเบิล Resolute Edition ตกแต่งด้วยลวดลายบนฝากระโปรงหน้าและที่กาบบันได ซึ่งมาในเส้นสายที่มีการไล่เฉดสีทองอ่อนไปจนถึงทองเข้มได้อย่างสวยงาม พร้อมสลักชื่อรุ่น “RESOLUTE” ไว้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้ดีกับตัวถังภายนอกสีเขียว Rebel Green
มินิ คูเปอร์ เอส คลับแมน Untold Edition เป็นรถยนต์พรีเมียมคอมแพ็คที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยแนวหลังคาที่ทอดยาวสะท้อนถึงความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภายนอกโดดเด่นและสะกดทุกสายตาบนท้องถนนกับชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ในสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ สะท้อนภาพลักษณ์สุดโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียว ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร มอบพละกำลังที่ 141 กิโลวัตต์ / 192 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ได้ใน 7.2 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุดถึง 228 กม./ชม. ภายนอกมาในสีเขียว Sage Green metallic พร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตกแต่งด้วยลวดลาย Untold Edition ตั้งแต่ฝากระโปรงหน้ารถจรดหลังคา ซุ้มล้อและสเกิร์ตด้านล่างรอบคันมาในสีเขียวเข้มเสริมความโดดเด่น ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วลาย Untold Spoke ในสีดำ Jet Black ตัดกับสี Refined Brass โดยสี Refined Brass
เรือนเวลาสำหรับนักลงทุน Crypto ที่สะท้อนความสำเร็จในรูปแบบศิลปะบนข้อมือ Jacob & Co. Astronomia Solar Bitcoin นาฬิการุ่นพิเศษที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ JCAM19 ผ่านการสร้างสรรค์หน้าปัดเพื่อ Bitcoin โดยเฉพาะ ตัวเรือนขนาด 44mm เคลือบสีดำด้านสุดเท่ Full black DLC coating บน titanium frame งานศิลป์บนหน้าปัด three-armed platform ออกแบบเพื่อเชิดชูความแข็งแกร่งของ Bitcoin ผู้นำแห่ง cryptocurrency ด้วย currency symbol ขนาดใหญ่สามารถหมุนได้ จรวดสีดำบ่งบอกถึงการ “to the moon” โดย Moon ในที่นี้คือเพชรที่ผลิตจาก 1Ct spherical Jacob cut diamond อยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ Yellow sapphire ด้านบนมี One-minute flying tourbillon แบบ