ก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับ Porsche ลึกลับที่ดูคล้าย 911 GT1 กำลังโหลดขึ้นเครื่องบินใน LAX ทำให้หลายคนคาดว่า Porsche จะมีเซอร์ไพรส์เปิดตัวรถแข่งรุ่นใหม่ แต่สรุปแล้วมันคือ Tuthill GT One ที่ได้แรงบันดาลใจจาก 911 GT1 รถแข่ง Le Mans ที่เร็วที่สุดของ Porsche โครงสร้างของ GT One คาดว่าจะเป็น steel tubular chassis เครื่องยนต์มีสองแบบคือ Porsche’s 4.0 ลิตร 6 สูบ NA ผ่านการโมดิฟายจนได้ 500 แรงม้า และแบบพ่วง turbocharged 600 แรงม้า วางกลาง mid-engine ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเกียร์ 7-speed dual-clutch หรือเกียร์ manual มี redline ให้ลากได้ถึง 11,000-rpm ดีไซน์ของรถเน้นความเป็น
ผลงานการ conversion แบบสุด exclusive โปรเจกที่สร้างสรรค์ร่วมกันระหว่างการออกแบบโดย hardcore collector และการทำให้เป็นจริงโดย Porsche Sonderwunsch program นำ 911 993-generation มาสร้างใหม่ให้เป็น Speedster version ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยมี 993 Speedsters ออกจากโรงงาน Porsche เพียง 2 คัน สำหรับฉลองวันเกิด 60 ปี Ferdinand Alexander Porsche ในปี 1995 และรถคันพิเศษสำหรับดาราดัง Jerry Seinfeld ในปี 2001 รถคันนี้จึงเป็นคันแรกที่ Porsche ผลิตให้กับลูกค้าคนสำคัญ Mr. Luca Trazzi ชาว Italian โปรเจกนี้เริ่มจากการนำ 1994 Porsche 911 Carrera Cabriolet มาเป็น donor car
สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้ในเสน่ห์แห่งยานยนต์ เหตุผลในการเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน มันอาจเป็นไปได้มากกว่าเรื่องของฟังก์ชัน หรือความคุ้มค่า… เพราะยากจะปฏิเสธว่าสิ่งที่ทำให้รถยนต์สักคันหนึ่งควรค่าแก่การครอบครอง ในมุมมองของ Car Enthusiasts ทั้งหลาย คงหนีไม่พ้นรถยนต์ที่สามารถกระตุ้นความหลงใหลภายในใจให้คุกรุ่น แน่นอนว่าการตัดสินใจทั้งหมดล้วนอยู่บนพื้นฐานของคำง่าย ๆ แต่ลึกซึ้ง นั่นคือ ‘ความพึงพอใจ’ ที่ไม่อาจตีมูลค่าเป็นราคา และเราเชื่อว่า Mazda6 20th Anniversary Edition คันนี้ ที่แฟน ๆ Mazda ชาวไทยต่างรอคอยกันมายาวนาน คือหนึ่งในยอดยนตรกรรมซึ่งพร้อมกระตุ้นความน่าหลงใหลในทุกมิติ กับการตั้งใจรังสรรค์บนพื้นฐานแนวคิด “The Ultimate Maturation of Sportiness and Elegance” สะท้อนผ่านงานออกแบบที่เต็มไปด้วยความหรูหราสง่างามและภูมิฐาน ผสานเส้นสายที่เฉียบคมให้อารมณ์สปอร์ตตามปรัชญา KODO Design : Soul of Motion หรือจิตวิญญานแห่งการเคลื่อนไหว โดยไม่ละทิ้งความเรียบง่ายแต่งดงาม ตามคอนเซ็ปต์ Less is More ทุกองค์ประกอบของ Mazda6 20th Anniversary Edition ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันดุจดั่งงานศิลปะชั้นสูง
Acura Integra Type S HRC Prototype ผลงานการรีดสมรรถนะพร้อมชุดแต่งใหม่ล่าสุดเค้นความสปอร์ตออกมาเต็มพิกัดโดยทีมงาน Honda Racing Corporation (HRC) ได้แรงบันดาลใจจาก DNA ของรถแข่งรุ่นพี่อย่าง Integra Type S TCX-class racecar ภายนอกของ Integra Type S HRC Prototype ติดตั้งชุดแต่งที่ดุดันพร้อมเน้นหลักการ aerodynamic ตามสไตล์รถแข่งตั้งแต่กันชนและช่องดักอากาศขนาดใหญ่ด้านหน้าสีดำเข้ากับบอดี้สีเหลือง Indy Yellow Pearl ฝากระโปรงหน้า carbon fiber เพิ่มช่องระบายอากาศ ด้านหลังเพิ่ม carbon fiber rear wing เบาะ Recaro bucket seats แอร์และเบาะหลังถูกยกออกและปิดด้วย carbon fiber สำหรับวางล้อและยางอะไหล่ 4 เส้น เพิ่มค้ำตัวถังแบบ X-Brace สีเดียวกับตัวรถเสริมความแข็งแกร่งให้ chassis กลายเป็น
หนึ่งในผลงานการ restomod ที่ดีที่สุดจากสำนัก Singer Vehicle Design บนพื้นฐานของตัวถังที่พิเศษมาก ๆ ของ 1990 964-generation 911 Targa เครื่องยนต์ NA flat-six เกียร์ 5-speed manual เพื่อฉลอง masterpiece ลำดับที่ 300th ของตัวเองนับตั้งแต่เปิดประตูครั้งแรกในปี 2009 จึงเป็นที่มาของชื่อ “The Sotto Commission” Singer อัพเกรดรถคันนี้แทบจะทุกจุดที่สามารถทำได้ บอดี้เดิมของ 964 ถูกเปลี่ยนออกแทนที่ด้วยบอดี้ carbon fiber ทั้งชิ้นในเฉดสีฟ้า Resistance Blue เครื่องยนต์จากเดิม 3.6 ผ่านการอัพเกรดเป็น high-spec 4.0-liter flat-six 400 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ 5-speed manual gearbox ขับเคลื่อนล้อหลัง ภายในห้องโดยสาร คอนโซลกลางและเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีส้ม Citrus
ในเดือนตุลาคม ปี 1970 Mazda ได้เปิดตัว RX500 ภายในงาน 17th Tokyo Motor Show เป็นรถที่สร้างความตื่นเต้นให้คนญี่ปุ่นด้วยดีไซน์ที่มีความเป็น futuristic concept car ที่ผสมผสานความเป็น classic supercar กับ Fighter Jet เข้าไว้ด้วยกัน ดูแปลกตาจากความล้ำสมัยและเท่มาก ๆ ในตอนนั้น Mazda RX 500 เป็นผลงานการดีไซน์ของ Shigenori Fukuda แห่ง Mazda เป็นโปรเจกพิเศษที่ทีม designer ต้องการสร้างรถ mid-engine sports car แบบ Ferrari และ Lamborghini ขึ้นมา ซึ่งจากหลากหลายดีไซน์ที่ถูกนำเสนอ ผลงานของ Fukuda-san ดูโดดเด่นมากที่สุด ด้วยดีไซน์ด้านหน้าลาดต่ำแบบ supercar ประตูเปิดแบบ butterfly swing doors ด้านท้ายแบบ
ก่อนที่ Mercedes จะควบรวมเอา AMG (Aufrecht, Melcher and Großaspach) เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งอย่างเต็มตัวในปี 2005 ย้อนไปในช่วงปี 1985 เป็นยุคที่ AMG ยังเป็นสำนักแต่ง independent workshop ที่เชี่ยวชาญการนำรถ Mercedes-Benz โมเดลต่าง ๆ มาอัพเกรดโดยมีจุดมุ่งหมายเดียวคือทำรถให้แรงที่สุด ทำเวลาในสนามแข่งได้เร็วที่สุดทั้งในการแข่งขันและตามงบที่ลูกค้าต้องการซิ่งบนถนน อยากแรงแค่ไหน AMG รับจบให้ไม่เคยขัด และทำได้ดีมาก ๆ อีกด้วย เช่นเดียวกับประวัติของรถคันนี้ เป็นรถที่หลายคนคุ้นตากันดีเพราะในเมืองไทยก็มีเจ้าของสะสมอยู่บ้าง เดิมทีเป็น 500SEC coupe หรูรหัส C126 จากตระกูล 1979-1991 W126 S-Class sedan ผ่านการจูนโดยสำนัก AMG เดิมใช้เครื่องยนต์ 5.0-liter SOHC M117 V8 จากโรงงาน ได้แรงม้าประมาณ 228 hp แรงบิด 405 Nm
บรรพบุรุษของ hypercars ยุคปัจจุบัน หลายคนเรียกมันว่าเป็น Porsche 962 รถแข่ง Le Mans ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในเวอร์ชัน Road-going car ที่ขายในปี 1992 ด้วยค่าตัวสูงถึง $1.5 ล้านเหรียญ เทียบเป็นค่าเงินปัจจุบันเท่ากับราว $3.3 ล้านเหรียญ หรือ 117 ล้านบาท คาดว่ามีคำนวนทั้งหมดเพียง 7 คันในโลก Schuppan 962CR เป็นรถสปอร์ตโดย DNA ผลงานของ Vern Schuppan นักแข่งชาว Australian เพื่อฉลองความสำเร็จแชมป์รายการ 1983 Le Mans 24 Hours โครงสร้างภายใน carbon fiber chassis ซึ่งทำได้ยากมาก ๆ ในปี 1992 ขุมพลังจาก Porsche 962 3.4-liter twin-turbocharged flat-six
Ferrari Testarossa ยุคปลายก่อนปิดตำนาน ผ่านการปรับแต่งดีไซน์เป็นพิเศษโดยสำนัก Pininfarina ใช้รหัส 512 TR โดย “5” หมายถึงเครื่องยนต์ Tipo F113 D dry sump system วางหลัง ความจุ 5 ลิตร, “12” คือจำนวนลูกสูบ และ “TR” หมายถึง Testarossa จับคู่เกียร์ 5-speed manual ให้กำลังสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิด 491 นิวตันเมตร 0-100 ใน 4.8 วินาที Pininfarina ปรับดีไซน์ภายนอก refresh ให้ดูทันสมัยมากขึ้น กันชนหน้า ไฟท้าย สปอย์เลอร์ engine cover ล้อขนาด 18 นิ้ว ปรับรายละเอียดในห้องโดยสาร แต่ที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็ฯการเสริมโครงสร้าง chassis
ปกติเราจะเห็นค่ายรถเปิดตัวรุ่นตกแต่งพิเศษในรหัส ‘Edition One’ เช่นเดียวกับ Range Rover ที่เคยเปิดตัว RR Sport SV Edition One ในปีก่อนไปแล้ว แต่ด้วย demand จากลูกค้าที่สูงมากจนเป็นที่มาของรุ่นพิเศษภาคสอง Range Rover Sport SV Edition Two Range Rover Sport SV Edition Two มาพร้อมบอดี้สีพิเศษทั้งหมดสี่สี Blue Nebula Matte, Ligurian Black Gloss, Marl Grey Gloss และ Sunrise Copper Satin เสริมความดุดันด้วยชุดแต่ง carbon fiber รอบคัน ใส่ล้อ carbon fiber wheel ขนาด 23 นิ้วลายใหม่มาเป็นมาตรฐาน ภายในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยสเปกที่แตกต่างจากรุ่นปกติ เช่นการใช้หนัง
จากความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง PMT The Hour Glass ผู้จัดจําหน่ายนาฬิกาชั้นนําของประเทศไทยและ TUDOR แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิส ก่อให้เกิดโมโนแบรนด์บูติกแห่งที่สอง ณ สยามพารากอน ศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาสใจกลางกรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับผู้ชื่นชอบนาฬิกาให้ได้เพลิดเพลินไปกับโลกของ TUDOR อาณาจักร TUDOR แห่งใหม่นี้ ตั้งอยู่ในโลเคชั่นโดดเด่นบนพื้นที่ 76 ตารางเมตร ชั้น M โซน Luxe Hall โดดเด่นและดึงดูดความสนใจจากเหล่าผู้หลงใหลในแบรนด์ด้วยป้ายสัญลักษณ์ TUDOR สีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ และ Lightbox #BornToDare ที่ไม่ใช่เป็นเพียงสโลแกนแต่เป็นดั่ง DNA ของ TUDOR ที่แสดงถึงจิตวิญญาณและความมุ่งมั่นในการก้าวข้ามขีดจำกัด พร้อมเปิดรับความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ผนังกระจกใสที่โอบล้อมรอบของบูติกแห่งนี้ ถูกเลือกใช้เพื่อเผยให้เห็นถึงรายละเอียดและการตกแต่งภายใน สะท้อนภาพของ TUDOR อย่างชัดเจน ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าบูติกจะพบกับสีดำ สีแดง และสีขาว อันเป็น 3 สีอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่สอดคล้องกันได้อย่างเหมาะสม ด้านหนึ่งของผนังถูกตกแต่งด้วยระแนงไม้สีดำพร้อมโลโก้ ‘โล่ (Shield Logo)’ สัญลักษณ์ของแบรนด์ เสมือนเป็นการทักทายผู้มาเยือน ทุกมุมของบูติกเปรียบได้ดั่งผลงานศิลปะ
น่าจะเป็นการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ของ Omega ที่จังหวะดีมากใน Olympic ครั้งนี้ เป็นโมเดลใหม่ที่เห็นพร้อมกันทั้งโลกบนข้อมือของ Armand Duplantis นักกีฬากระโดดค้ำถ่อทีมชาติ Sweden ผู้คว้าเหรียญทองพร้อมทำลายสถิติ Olympic และสถิติโลกด้วยความสูง 6.25m ขณะที่กำลังฉลองความสำเร็จ เราได้สังเกตเห็นนาฬิกา Omega ที่ดูแปลกตาอยู่บนข้อมือของ มอนโด ดูพลานติส ก่อนจะรู้ว่านั่นคือ Omega Seamaster Aqua Terra 150m Titanium Ultra Light รุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้เผยโฉมอย่างเป็นทางการที่ไหนมาก่อน ตัวเรือนขนาด 41mm หนา 13.5mm ผลิตจาก sand-blasted Gamma Titanium มีคุณสมบัติที่แข็งแรงและเบากว่า Grade 5 Titanium เช่นเดียวกับ bezel, caseback และ crown แบบ tuck-in หน้าปัดสีฟ้า blue anodized titanium dial แต่งลวดลายเส้นแนวนอน