ในวันที่เรามีมอเตอร์ไซต์ออโตเมติกสมรรถนะแรง ๆ ฟังก์ชันพร้อม ๆ อยู่ในชีวิตประจำวันวิ่งกันไม่ขาดสาย บางครั้งมันก็ชวนให้คิดถึง ‘สกู๊ตเตอร์’ จากยุคเรโทรที่ดีไซน์เจ๋งจนไม่สามารถมีมอเตอร์ไซต์รุ่นไหนแทนได้อยู่ไม่น้อย เราไม่รู้ว่าชาว UNLOCKMEN มีสกู๊ตเตอร์จากยุคเก่ารุ่นไหนอยู่ในใจกัน แต่ถ้าพูดถึงสกู๊ตเตอร์สำหรับเรามันต้อง HONDA แบรนด์ที่ผลิตมอเตอร์ไซต์และสกู๊ตเตอร์ดีไซน์ตราตึงคนรักดีไซน์อย่างเราสุด ๆ หลาย ๆ รุ่นกลายเป็นไอคอนิกในมังงะ และหนังญี่ปุ่นยุค City Pop มันไม่เคยเก่าจนสามารถใช้คำว่า Modern มานิยามความ Timeless ได้เลย UNLOCKMEN ขอรวม RETRO MODERN HONDA SCOOTER ที่เราหลงรัก หลาย ๆ คันก็เกิดไม่ทัน หรอก แต่ดูรูปเมื่อไหร่ก็เห็นภาพการแต่งตัวของหนุ่มสาวในยุค 80s กำลังผจญภัยขับให้ลมตีหน้า โดยมี Soundtrack ของเพลง Tatsuro Yamashita ไปทุกทีเลยสิ 𝐇𝐎𝐍𝐃𝐀 𝐒𝐏𝐀𝐂𝐘 𝟓𝟎 (𝟏𝟗𝟖𝟐) หนึ่งในที่สุดสกู๊ตเตอร์ดีไซน์ล้ำเกินยุคของฮอนด้า (ขนาดปี 2025 มันยังล้ำเกินไปอยู่เลย) ก็คือ
รหัส m79360n-0024 ของซีรีส์ Black Bay คือการตอกย้ำการเป็นเรือนเวลาระดับประวัติศาสตร์ของแบรนด์ Tudor ซึ่งเป็นการจับส่วนผสมของนาฬิกาดำน้ำระดับโปรเข้ากับ Sports Chronograph ผสมผสานอย่างลงตัวทั้งฟังก์ชันและดีไซน์ นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมกลไกอัตโนมัติ Calibre MT5813 (COSC) สำรองพลังงาน 70 ชั่วโมง มาพร้อมกลไก Column Wheel & Vertical Clutch ที่ให้เราใช้งานได้แบบ Everyday Watch ด้วยสายนาฬิกาตัวล็อค TUDOR “T-Fit” สุดปลอดภัยใส่ On Hand ได้ตลอดวัน และด้วยไซส์ซิ่งตัวเคสความกว้างขนาด 41 มม. / ความหนา 14.4 มม. ของนาฬิกา Stainless Steel ตัวนี้ ก็เหมาะกับทุกสไตล์ มาพร้อมฟังก์ชันกันน้ำลึกถึง 200 เมตร ว่ากันด้วยไฮไลต์ความงดงามบนหน้าปัดของ Flamingo Blue ที่เป็นการตอกย้ำจิตวิญญาณแห่งการแหกฏของแบรนด์ Tudor อีกครั้ง
วันครูปี 2025 หนึ่งวันของปีที่ให้เราได้เคารพถึงอาจารย์คนสำคัญในชีวิตของตัวเองอย่างลึกซึ้งไปด้วยกัน และสำหรับเหล่าผู้หลงใหลในยนตกรรม ไม่ว่าจะรักดีไซน์หรือหลงใหลฟังก์ชันสมรรถนะของแบรนด์ใหน รถเหล่านั้นล้วนมีหยาดเหงื่อและความคิดสร้างสรรค์จากมือเปื้อนน้ำมันจาก AUTOMOBILE DESIGNER อาจารย์ผู้ออกแบบอยู่เบื้องหลังเสมอ UNLOCKMEN อยากใช้โพสต์นี้พาทุกคนกลับไปอ่านเรื่องราวกว่าจะมาเป็นที่สุดของนักออกแบบยนตกรรมและรถรุ่นสำคัญของโลก ผู้กำหนดภาพลักษณ์และดีไซน์ให้กับเหล่า Iconic Car ที่เติมเต็มจินตนาการ ความเร็ว และความฝันของเด็กผู้ชายทั่วโลก Dean Moon (MOONEYES) คำว่า MOONEYES คือประวัติศาสตร์ของ American Hot Rod ของก่อนยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนถึงทศวรรษ 1970 และชื่อของบุรุษพระจันทร์ Dean Moon ก็ยังเป็นตำนานจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดของโลโก้สีเหลืองสองตาเริ่มต้นจากตรงนี้ .. Dean Moon เกิดในปี 1927 เมือง New Richland รัฐ Minnesota พ่อของดีน Dallas เป็นเจ้าของกิจการปั๊มน้ำมันในฉากหน้า แต่ว่าฉากหลังนำเหล้าเถื่อนเข้ามาขาย พอขายไปขายมาก็ถูกตำรวจจับ ทำให้ต้องขายปั๊มทิ้ง และทั้งครอบครัวต้องย้ายไปที่ California ลงเอยกันที่ในเมือง Norwalk
ถ้าลองเสิร์ชคีย์เวิร์ดใน Google คำว่า “Why do car manufacturers choose a car logo with snake?” เราจะเจอเหตุผลมากมายหลายเว็บไซต์ที่อ่านรวม ๆ ได้ควาหมายไม่ต่างกันประมาณว่า นอกจากงูจะเป็นตัวแทนแสดงภาพลักษณ์อันดุดันทรงพลังของแบรนด์ งูยังเป็นศิริมงคลซิมโบลิคความหมายของการกำเนิดใหม่รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ Infinity ความเป็นนิรันดร์อีกด้วย 2025 Year Of The Serpent ! พวกเรา UNLOCKMEN ขอพาทุกคนไปสำรวจความหมายบนโลโก้ของเหล่าสปอร์ตคาร์ที่ใช้งูสัตว์เลือดเย็นตัวยาวนี้เป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นตัวตนของแบรนด์ ALFA ROMEO : Visconti Serpent งูแห่งผู้ปกครองมิลาน Anonima Lombarda Fabbrica Automobili / Lombard Automobile Factory, Public Company (A.L.F.A) ก่อตั้งขึ้นในปี 1910 ในเมือง Milan ประเทศ Italy ใครจะรู้ว่ารถที่มีความดุดันและมาพร้อมกับสมรรถนะเครื่องยนต์อันทรงพลัง จะมีตราสัญลักษณ์ซึ่งรับแรงบันดาลใจมาจากความงามในสถาปัตยกรรมแลนมาร์กสำคัญของ Italy
Long-term review MacBook Pro M4 รุ่นเริ่มต้น จอ 14 นิ้ว Ram 16GB SSD ความจุ 512GB หลังใช้งานมาครบ 1 เดือนพอดี การใช้งานเน้นด้าน Photoshop และ Lightroom ขั้น advance รวมถึง Final Cut Pro ขั้นปกติ สรุปได้ว่า ถ้าไม่ถึงขั้นตัดต่อหนังระดับภาพยนตร์ เขียนโปรแกรม หรือ render 3D โหดจริง ๆ ซื้อแค่ตัวเริ่มต้นราคาห้าหมื่นต้นก็เกินพอแล้วสำหรับเรา เร็วแรงแบตทน แถมได้อัพเกรดจาก M3 ทั้ง Ram และ CPU 2 cores + Thunderbolt port เพิ่มในราคาเท่าเดิม สิ่งที่ประทับใจมากคือ – Chip ทั้ง CPU,
เข้าสู่ช่วงปลายปีทีไร บรรยากาศแห่งความสุข ความสนุกจากเทศกาลเฉลิมฉลองก็หวนกลับมาอีกครั้ง และสำหรับช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเสียงดนตรีคือสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาปาร์ตี้ หรือระหว่างออกเดินทางทริปท่องเที่ยวปลายปี การได้มีเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมในทุกโมเมนต์มันเป็นอะไรที่ลงตัวแบบสุด ๆ และเราเองก็อยากให้ Festive Season ของชาว UNLOCKMEN ทุกคนในปีนี้ เต็มไปด้วยจังหวะแห่งความสุขที่สนุกยิ่งกว่า จึงรับอาสาชี้เป้าไอเทมโดน ๆ จาก Marshall คัดเน้น ๆ มา 3 รุ่น 3 สไตล์ ซึ่งเป็นได้ทั้งของขวัญที่ใครได้รับเป็นต้องฟิน และยังเป็นอุปกรณ์สำคัญในการอัพฟีล Festive ให้มันส์ขั้นสุด พร้อมเติมเต็มช่วงเวลาดี ๆ ต้อนรับปีใหม่แบบแฮปปี้ในทุกสถานการณ์ งานนี้จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย ขอเริ่มต้นไอเทมเร่งจังหวะแห่งความสุข กับหูฟังไร้สาย Marshall Major V ให้ทริปปีใหม่นี้เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรีแบบไม่ขาดช่วง โดดเด่นด้วยสุ้มเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งย่านเบสที่ลงลึก เสียงกลางที่นุ่มนวล และเสียงแหลมที่ชัดเจน พร้อมงานดีไซน์คลาสสิกในสไตล์ Marshall แค่คล้องคอเฉย ๆ ก็เพิ่มความเท่ลงตัวให้กับ Total
แฟน ๆ ของ Aston Martin น่าจะคุ้นเคยกับ AM-RB 003 Concept ที่เคยเปิดตัวในปี 2019 กันดี มันคือต้นแบบที่ต้องใช้เวลาพัฒนาถึง 5 ปี กว่าจะได้ ultimate driver’s supercar ในชื่อ Valhalla ที่พึ่งเปิดตัวล่าสุดวันนี้ นับว่าเป็น mid-engine hybrid supercar คันแรกใน portfolio ของ Aston Martin อีกด้วย Aston Martin Valhalla มากับแรงม้าถึง 1,064 ตัว จากขุมพลัง twin-turbocharged 4.0-liter V8 วางอยู่หลังคนขับ พ่วงระบบ plug-in hybrid ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 3 ตัว ตัวแรกติดตั้งรวมอยู่ในชุดเกียร์ dual-clutch 8-speed ทำหน้าที่เป็น starter และปั่นไฟฟ้าชาร์จให้แบตเตอรี่
นอกจาก Moonwatch ที่โด่งดัง หลายคนอาจลืมไปว่าก่อนที่จะมาเกี่ยวข้องกับ Apollo program และ Moonlanding ที่จริงแล้วในอดีตปี 1957 Speedmaster มีต้นกำเนิดมาจากการเป็น racing chronograph ออกแบบมาเพื่อจับเวลา lap time และ average speed ในสนามแข่งด้วยการออกแบบ tachymeter scale ให้อยู่บนขอบหน้าปัดเป็นครั้งแรก และ Omega ก็ยังเคยมี Flightmaster pilot watch 12 Hour-GMT complication ที่แตกไลน์จาก Speedmaster ในปี 1969 นาฬิกาเรือนนี้จึงเป็นการนำตำนานที่หลายคนอาจจะหลงลืมไปให้กลับมาอีกครั้งในชื่อ Speedmaster Pilot Flight Qualified Omega Speedmaster Pilot Flight Qualified นาฬิกา pilot ที่มีกลิ่นอายของการเป็น military-tool ตัวเรือน fully brushed ปัดลายเต็มเรือนขนาด
ตั้งแต่ช่วงปี 60s – 80s สำนักออกแบบ Pininfarina ทำงานคู่กับ Ferrari สร้างผลงานระดับ iconic ออกมามากมาย ทำให้ทั้งสองบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีในระดับซี้ปึ้ก และในโอกาสฉลองครบรอบ 50 ปีของ Pininfarina ตอนนั้น Sergio Pininfarina มีความฝันที่จะทำ high-performance Ferrari 4 ประตู เพื่อต่อสู้กับคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่าง Aston Martin Lagonda, Mercedes 450 SEL 6.9 และ Maserati Quattroporte จึงตัดสินใจสร้าง concept car ขึ้นมาเป็นของขวัญให้บริษัทตัวเอง นั่นก็คือ 1980 Ferrari Pinin เป็นครั้งแรกที่โลกได้พบกับ Ferrai ในตัวถัง 4 ประตู และถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับผู้ก่อตั้ง Mr. Battista ‘Pinin’ Farina ดีไซน์เนอร์ผู้ออกแบบ Ferrari
Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE สดุดีแต่โลกและดวงจันทร์ ซึ่งรุ่นนี้ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันบอกดิถีของดวงจันทร์เท่านั้น แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ยังมาพร้อม ฟังก์ชันบอกดิถีของโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการการประดิษฐ์เรือนเวลาอีกด้วย ทำให้ Swatch พลิกแพลงวาทะอันโด่งดังของกาสิเลโอ “แต่โลกก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” (And yet it moves!”) และเย้าหยอกว่า “แต่โลกและดวงจันทร์ก็ยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ต่อไป!” ส่วนฟังก์ชันบอกดิถีของโลก หากคุณดูตรงหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่งสิบนาฬิกา ก็จะได้ดื่มด่ำกับการโคจรของโลกเราเมื่อมองจากดวงจันทร์ มีการแต่งแต้มสีสันให้กับฟังก์ชันบอกดิถีของโลกที่จดสิทธิบัตรแล้วเพื่อสดุดีแด่ความหลากหลายและความงดงามของโลกสีครามของเรา คุณจะมองเห็นก้อนเมฆ รวมถึงสีสันที่ตัดกันของมหาสมุทร ป่าไม้และผืนทะเลทราย นอกจากนี้ ยังมีการเคลือบหมึกพิมพ์ยูวี (เปล่งแสงสีฟ้า) ที่มองเห็นเมื่อโดนแสงยูวีเท่านั้นตรงมหาสมุทรเพื่อเพิ่มความล้ำทะลุจักรวาลเข้าไปอีก รุ่น Bioceramic MoonSwatch MISSION TO EARTHPHASE จะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ร้านค้าของ Swatch ที่ร่วมรายการตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป และเช่นเดียวกับนาฬิกาทั้งหมดในคอลเลกชัน Bioceramic MoonSwatch ก็จำกัดสิทธิ์ในการซื้อ 1 เรือน/ 1 สาขา/ 1 คน/ 1 วันเท่านั้น
MacBook Pro M4 ความทรงพลังล่าสุดจาก Apple ด้วยชิปตระกูล M4 ทั้ง M4, M4 Pro และ M4 Max ขุมพลังขับเคลื่อนประสิทธิภาพให้ทำทุกอย่างได้เร็วยิ่งขึ้น มีแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงขึ้น เมื่อรวมเข้ากับตัวเร่งความเร็วด้านการเรียนรู้ของระบบใน CPU, GPU ที่ล้ำสมัย และ Neural Engine ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย พร้อมเสริมความสามารถให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นไปอีกด้วย Apple Intelligence ช่วยให้โมเดลการเรียนรู้ภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่อื่นๆ ทำงานบนอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR ที่ดียิ่งขึ้น พร้อมตัวเลือกจอภาพ Nano-texture แบบใหม่หมดที่ลดแสงสะท้อนและภาพสะท้อนรบกวนสายตาลงได้มาก และในสภาพแสงที่สว่าง MacBook Pro ใหม่ยังสามารถแสดงคอนเทนต์ SDR ที่ความสว่างสุงสุด 1,000 นิต และยังคงแสดงคอนเทนต์ HDR ที่ความสว่างสูงสุดเฉพาะจุดสูงถึง 1,600 นิต ซึ่งทั้งหมดนี้จะพลิกโฉมประสบการณ์ให้กับผู้ใช้ที่ต้องทำงานกลางแจ้งไปอย่างสิ้นเชิง รวมถึงกล้อง 12MP
ช่วงเวลาแห่งความดุเดือดในโลกแห่งความเร็ว หลัง McLaren พึ่งจะเปิดตัว W1 ออกมาได้ไม่นาน ด้าน Porsche ก็เตรียมเปิดตัว hypercar รุ่นใหม่เร็ว ๆ นี้ ฝั่ง Ferrari ก็ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ออกมาในชื่อ F80 เป็น flagship ที่จะมาสานต่อตำนานความยิ่งใหญ่ของ LaFerrari ด้วยขุมพลัง 3.0-liter V6 turbocharge Hybrid 900 แรงม้าจากเครื่องยนต์ พ่วงพลังงานจาก Tri-motor AWD ให้กำลังรวมเกือบ 1,200 แรงม้า เคลมตำแหน่ง “The Most Powerful Ferrari” ที่เคยผลิตออกจากโรงงานจนถึงวันนี้ สามารถทำความเร็วถึง 100 km/h ได้ภายใน 2.15 วินาที และถึง 200 km/h ใน 5.75 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุด 350 km/h