อย่างที่ในบทสัมภาษณ์หลาย ๆ สื่อมักจะพูดกันเสมอว่า ศิลปินสตรีทอาร์ทชื่อ BENZILLA (เบนซ์-ปริญญา ศิริสินสุข) เป็นตัวตนที่ถูกสะท้อนมาจากคาแรคเตอร์ดีไซน์ของเขาเองที่ชื่อ LOOOK เจ้ามนุษย์ต่างดาว 3 ตาม ที่เป็นคนนอกในสังคม เพราะว่าทำในสิ่งที่แตกต่างจากคนอื่น ซึ่งหลังจากใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงก็ต้องบอกว่าเราไม่ปฎิเสธสิ่งนี้ และต้องขอชื่นชมจริง ๆ ว่าความไม่เหมือนคนอื่นนี้ของพี่เบนซ์ (ด้วยความที่ผู้สัมภาษณ์เด็กกว่าจึงขอเรียกด้วยสรรพนามนี้) ทำให้ตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึงวันที่ลาออกจากงานประจำเลือกเส้นทางศิลปินน่าสนใจในทุก Level เลยล่ะ UNLOCKER ตอนที่ 01 เราจะมาคุยกับ BENZILLA ในวันที่เขาได้ UNLOCK ACHIEVEMENT กลายเป็นศิลปินสตรีทอาร์ทที่ได้รับการยอมรับระดับ GLOBAL แต่ ! นี่ไม่ใช่คอนเทนต์ที่จะมาแชร์เคล็ดลับความสำเร็จอะไรแบบหนังสือ HOW TO หรอกนะ แต่เป็นบทสัมภาษณ์ที่คุณจะได้พบกับความ LOSER ความพ่ายแพ้ ความไม่เก่งที่พี่เบนซ์บอกว่ายังพยายามอยู่ทุกวัน เรื่องราวธรรมดาของมนุษย์คนหนึ่งที่มีวันที่ท้อและวันที่ไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย แต่ในเรื่องราวเหล่านั้น UNLOCKMEN เชื่อว่าทุกคนจะสามารถอันล็อคตัวเองได้ดีที่สุด ถ้าคุณคิดจะเป็นศิลปิน คิดดี ๆ และอ่านเรื่องราวของพรี่เบนซ์ก่อนล่ะ ตอนเด็ก ๆ เราเป็นเด็กติดเกมมาก
เป็นเช่นเดิมอย่างปกติสำหรับ MANGA LOVER อย่างเรา ที่มักจะใช้เวลาของคืนวันศุกร์เปิดเว็บไซต์ของ SIAM INTER COMIC ไล่หามังงะใหม่ประจำเดือนเพื่อเติมเต็มไฟในการใช้ชีวิตจากโลกแฟนตาซีบนหน้ากระดาษ สิ่งที่ต่างออกไปจากศุกร์ก่อน ๆ ก็คือ INITIAL D ถนนสายนี้ข้าจอง ได้กลับมารีปรินต์ใหม่อีกครั้ง ในฐานะเด็กที่เกิดทันยุค Jay Chou แสดงเป็น Takumi Fujiwara ในเวอร์ชัน Live Action ของ Initial D (2005) ที่มาพร้อมกับเสียงพากย์ไทยพันธมิตรในตำนาน “อิฐจะเอา GT-R, อิฐจะเอา GT-R” ก็ไม่พลาดจะพรีออเดอร์ฉบับพิมพ์คม ๆ ให้หายคิดถึงกันอีกครั้ง แต่จะว่าไปพอเราเอามังงะเรื่องนี้มาเป็น Topic คุยกัน ก็จะคิดถึงแต่ความไอคอนิกของรถรุ่น Toyota Sprinter Trueno GT-APEX (AE86) สนามแข่งเขาอากินะในตำนาน หรือฉากที่ไอหนุ่มทาคูมิที่โดนนัตสึกิไปกับเสี่ยเสมอ (ฮือออ) แต่เราไม่ค่อยได้พูดเรื่องของอาจารย์ Shuichi Shigeno เซ็นเซย์ผู้ให้กำเนิดจักรวาล INITIAL D
ถ้าลองเสิร์ชความหมายของงานศิลปะที่เรียกว่า GRAFFITI ART ใน CAMBRIDGE DICTIONARY จะพบกับคำอธิบายสั้น ๆ ที่ว่า “Words Or Drawings, Especially Humorous, Rude, Or Political, On Walls, Doors, etc. In Public Places.” แต่ ! ศิลปะทุกแขนงไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายตัวตนได้ด้วยกรอบและความเป็นไปได้ที่ จำกัดอยู่แล้ว เราจึงชอบความเป็น Graffiti Art ที่ศิลปินนิรหน้า Banksy เคยพูดเอาไว้ โดยการมองว่าศิลปะชนิดนี้ก็คือชีวิตของคุณ “Graffiti Is One Of The Few Tools You Have If You Have Almost Nothing.” และในช่วงเวลาของปี 2025 ณ Event Hall ชั้น
ขอออกตัวก่อนว่าเราเป็นมนุษย์ December Lover ที่รักเดือนธันวาคมมาก เพราะมันไม่มีเดือนไหนที่จะไวบ์ Festive Moment เหมาะสมต่อการดริงก์ดื่มได้เท่ากับลมหนาวของเดือนนี้อีกแล้ว และเพื่อฉลองให้กับเดือนที่รัก December Time = Drinker Times เราเลยอยากพาทุกคนไปรู้จักกับคนสำคัญของอาชีพนี้ก็คือ ‘บาร์เทนเดอร์ (Bartender)’ ผ่านการคุยกับ SANTO METODO ผู้เป็น Bar Manager ของ ZUMA BANGKOK ชายหนุ่มที่เราสามารถพูดได้เลยว่าเป็นตัวแทนของบาร์เทนเดอร์ที่หลงใหลและทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ สำหรับคนที่มีความสนใจในอาชีพบาร์เทนเดอร์ หรืออยากรู้จักว่าอาชีพนี้ต้องทำอะไรบ้าง กดอ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้ของ UNLOCKMEN ไปพร้อมกัน UNLOCKMEN : ช่วยแนะนำตัวเองและตำแหน่งใน Zuma Bangkok หน่อย ผมชื่อ Santo Metodo มาจากเมือง Naples ประเทศ Italy ตำแหน่ง Bar Manager ของ Zuma Bangkok ผมทำงานที่นี่เป็นปีที่ 4 กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 5
“คุณเคยดูหนังโฆษณาน้ำมันเชื้อเพลิงมาแล้วกี่ชิ้น?” คำถามนี้คงยากจะให้คำตอบเป็นจำนวนที่แน่ชัด แต่เชื่อเหลือเกินว่าเมื่อพูดถึงโฆษณาน้ำมัน ภาพในหัวของใครหลายต่อหลายคน คงหนีไม่พ้นภาพจำซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพปั๊มน้ำมัน หรือภาพ CG กระบอกสูบ, เครื่องยนต์กำลังทำงาน ปิดท้ายด้วยภาพรถยนต์พุ่งทะยานไปบนท้องถนน แต่ ณ ขณะที่เรากำลังเขียนบทความนี้ น่าจะมีผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ได้รับชมหนังโฆษณาน้ำมันตัวใหม่ล่าสุดของ ‘บางจาก’ ที่ไม่ได้ใหม่แค่เพราะเพิ่งถูกเผยแพร่ แต่มันคือความใหม่ และแปลกตาในแง่ของงานภาพและเนื้อหา ที่น่าจะไม่เคยมีใครได้สัมผัสผ่านหนังโฆษณาน้ำมันมาก่อน ซึ่งความแปลกและแตกต่างที่เกิดขึ้น มีต้นทางมาจากแนวคิดของแบรนด์บางจากที่เชื่อมั่นในการ “สร้างสรรค์พลังไม่รู้จบ” กับเป้าหมายในการพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองเทคโนโลยียานยนต์ที่พัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง สู่การพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิง Bangchak Hi Premium อย่าง Bangchak Hi Premium 97 และ Bangchak Hi Premium Diesel S ยืนหนึ่งในความเป็นพลังสะอาด ที่มาพร้อมความแรง และสามารถปกป้องเครื่องยนต์ได้ 100% ในทุกจังหวะที่เหยียบคันเร่ง การันตีประสิทธิภาพได้จากความเชื่อมั่นของ บริษัท AAS AUTO SERVICE ตัวแทนจำหน่าย PORSCHE, BENTLEY
‘ความเท่’ คือคำที่แทบจะไม่มีความหมายแน่ชัดในตัวเอง หากจะพอนิยามเป็นกลาง ๆ ได้อยู่บ้าง เครื่องหมายเท่ากับของคำนี้ก็คงเป็นประมาณว่า ‘ผู้คน / สิ่งของ / สัตว์ / หรือสถานที่ / ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอะดรีนาลีนสูบฉีดด้วยความหลงใหลในบางอย่าง’ แต่ความเท่ก็เป็นสิ่งที่สามารถถูกนิยามความหมายใหม่ได้ตลอด โดยเฉพาะยิ่งกับช่วงอายุที่เปลี่ยนไป … หลังจากหายไปนาน The Portrait ตอนล่าสุด ทีม UNLOCKMEN ได้มีโอกาสไปคุยสั้น ๆ กับ ‘อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี’ อ๊ะ พูดแบบนี้อาจจะไม่คุ้น เขาคือ ‘จ๋าย-ไททศมิตร’ ในวันที่กำลังจะเป็นโค้ชคนใหม่ของ The Voice Thailand 2024 ในช่วงวัยที่ของขวบปีนับได้ 32 พอดี และเป็นตัวเลขที่จ๋ายเรียกตัวเองว่าเป็นปีที่ ‘เท่’ ที่สุดของชีวิต อะไรทำให้จ๋ายคิดแบบนั้น เรามา UNLOCK ชีวิตเบื้องหลังความเท่ของผู้ชายที่สวมบทบาทชีวิตมากมายไปด้วยกัน UNLOCKMEN : ในช่วงวัย 32 ปี ที่จ๋ายบอกว่าตัวเองเท่สุด ๆ
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสโซเชียลที่เชี่ยวกรากไปด้วยไวรัลต่าง ๆ ซึ่งผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาจับจองพื้นที่หัวข้อสนทนาของพวกเราในแต่ละมื้อแต่ละเดย์แบบไม่ให้ได้ว่างเว้น เราเชื่อว่าหนึ่งในเรื่องราวเหล่านั้นต้องมี Bar B GON ‘Oh My GON’ Collection เซ็ตฟิกเกอร์จี๊ดใจจาก Bar B Q Plaza ปักหมุดอยู่ในพื้นที่ความสนใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน ยืนยันการคาดคะเนนี้ได้จากกระแสตอบรับเข้าขั้นถล่มทลาย เลื่อนฟีดไปไหนเป็นต้องเจอ ‘คนอวดของ’ โชว์ภาพฟิกเกอร์ Bar B GON ที่ตามล่ามาได้ด้วยความอุตสาหะ หลายคนถึงกับต้องโดดงานไปจัดเซ็ตอาหาร Oh My Pork! และ Oh My Beef! เพื่อให้ได้ครอบครองฟิกเกอร์พี่ก้อนก่อนที่ของจะหมดเกลี้ยงสาขา วันนี้เราจึงอยากจะขอล้วงลึกเบื้องหลังความปังของแคมเปญนี้ จากปากของ ‘รัฐ ตระกูลไทย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด ผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ด้านการตลาดของ Bar B Q Plaza ที่เคยปลุกปั้นโปรเจกต์เจ๋ง ๆ มาแล้วมากมายตลอด 10 ปี ที่ร่วมงานกับ บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กับความสงสัยที่ว่า
ความพิเศษของช่อง GAP.BUMSEEKER คือความเป็นมนุษย์ที่มันธรรมชาติมาก-มากซะจนเมื่อได้พบกับแก๊ปตัวจริงซึ่งนั่ง Grab มาถึงสเปซของ UNLOCKMEN ในบ่ายวันทำงานที่เปรี้ยงมาก ๆ พร้อมท่าทางเดินคล่องแคล่วจับสายสะพายของกระเป๋าเดินทางคู่ใจ (ซึ่งเราเป็นคนขอให้เขาเตรียมมา) เขาดูเป็นแก๊ปที่เรารู้จักจากในคลิปที่ได้เห็นมาโดยตลอด จนถึงวันที่เราได้สัมภาษณ์แก๊ป หลาย ๆ คนก็ได้แทบจะรู้ทุกเรื่องของเขาไปหมดแล้วล่ะ ศุภกาญจน์ จริยพิเชษฐ์ / เรียนจบจากมหาวิทยาลัยศิลปากร / เรียนตรีอักษรศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ-เรียนโทเอกภูมิศาสตร์ / อายุ 26 ย่างเข้า 27 / นอนกับตาลีบัน / กลับอีหร่านเพราะว่าต้องมาง้อแฟน / เรียกตัวเองว่าเป็นคน Introvert … หลังเครื่องหมาย / เราก็เชื่อว่าเด็กหนุ่มที่ผ่านโลก ก็ยังมีแง่มุมที่น่าสนใจเพื่อ UNLOCK คนอ่านของเราอยู่แน่นอน บทสัมภาษณ์นี้เราเลยขอแก๊ปคุยความหมายของการเดินทางที่มีระหว่างทางสำคัญกว่าปลายทาง การอยากเข้าใจมนุษย์เพราะดูหนังกับอ่านหนังสือ และการเลี้ยงแมวตุรกี (อันสุดท้ายดูไม่เกี่ยวแต่ลองอ่านก่อนนะเพราะมันเกี่ยว) แก๊ปบอกกับเราว่าอยู่ไทยมาจะครบหนึ่งเดือนแล้ว เอาจริงในการกลับบ้านครั้งนี้เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่หรอก และเหตุผลก็เดาได้ไม่ยาก แน่นอนว่าเพราะว่าเขาโดนจีบไปสัมภาษณ์ตามสื่อ ราวกับว่าทริปนี้ของ GAP.BUMSEEKER เป็นการเดินทางเพื่อให้สัมภาษณ์ให้คนได้รู้จักเขามากขึ้น ‘เด็กหนุ่มที่นอนบ้านตาลีบัน’ ใครต่างก็จดจำเขาด้วยชื่อนำหน้าแบบนี้ไปแล้ว ณ ตอนนี้
หลายคนอาจรู้จัก ‘มาริโอ เมาเร่อ’ ในฐานะนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี พ่วงด้วยดีกรีพระเอกพันล้าน แต่อีกด้านของชีวิตผู้ชายคนนี้มีงานอดิเรกคือการเป็นนักสะสมของเก่าชนิดหาตัวจับยาก ไม่ว่าจะเหรียญเก่า ธนบัตรเก่า สแตมป์เก่าทั้งของไทย ของนอก รวมไปถึงเสื้อผ้าวินเทจ ฟิกเกอร์ ของเล่น รถเก่า และสกู๊ตเตอร์เก่าอย่าง Lambretta ซึ่งจิตวิญญาณความเป็นนักสะสมแบบเข้าเส้นได้ถูกปลูกฝังโดยคุณพ่อของเขามาตั้งแต่ครั้งยังเยาว์วัย สำหรับใครที่มีงานอดิเรกในวันว่าง น่าจะเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการได้อยู่กับตัวเอง ใช้เวลาไปกับสิ่งที่หลงใหลหลังจากการทุ่มเททำงานอย่างหนักหน่วง มันคือการเติมพลัง และเติมเต็มชีวิตให้มีความหมาย ซึ่งผู้ชายคนนี้ก็คือหนึ่งในนั้น สามารถหมดเวลาเป็นวัน ๆ ไปกับการตามหาของเก่า ได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และไม่เคยมองว่ามันคือการผลาญเงิน หรือการเผาเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ มาริโอเคยพูดถึงประเด็นนี้ว่า “ของสะสมถ้ามันอยู่กับคนที่ไม่เห็นค่า เขาจะรู้สึกว่ามันไม่ได้เรื่อง มองเห็นก็แค่ข้อเสียของมันเท่านั้น แต่สำหรับตัวผมจะเห็นคุณค่าในแง่ที่ว่า เฮ้ย เราได้ขับรถปี 1960 แบบที่พ่อเคยขับ ได้ขี่แลม 2 ที่เราถูกใจตั้งแต่เจอรุ่นพี่ขี่ ได้ดูแล ได้ซ่อมรถเอง ได้หาของแต่ง ได้ไปเจอเพื่อน ๆ คอเดียวกัน มันคือความสนุก คือความสุขที่ช่วยเติมเต็มอีกด้านของชีวิตที่ไม่ได้มีแค่เรื่องงาน” ที่สำคัญความชอบในสกู๊ตเตอร์ Lambretta ยังเป็น “แลม… บันดาลใจ” ที่ปลุกไฟ
คุณคิดว่า ‘ความหลงใหล’ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะพาใครสักคนไปได้ไกลแค่ไหน? คำตอบของคำถามนี้อาจมีได้หลากหลาย และคงไม่มีอะไรเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด แต่สำหรับ ‘กอล์ฟ – อัษฎา อบรมทรัพย์’ หรือที่ชาวแลมรู้จักในชื่อ ‘กอล์ฟ 70 CLUB’ เขาได้พบกับคำตอบของปลายทางแห่งความหลงใหล ด้วยความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับสกู๊ตเตอร์ Lambretta ที่เขาหลงรัก และยังเป็นเหมือน “แลม… บันดาลใจ” ต่อยอดสู่อาชีพหล่อเลี้ยงชีวิต กับธุรกิจขายอะไหล่แลมวินเทจ ที่ยังคงสานต่อตำนานความเก๋ากว่า 77 ปี มาให้ได้สัมผัสในยุคปัจจุบัน เรื่องราวจุดเริ่มต้นเส้นทางที่มี Lambretta เคียงข้างจนเป็นกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ‘กอล์ฟ 70 CLUB’ ได้เล่าให้ฟังย้อนไปไกลสมัยที่ผู้ชายคนนี้เริ่มทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเองใหม่ ๆ และตัดสินใจหาสกู๊ตเตอร์มาขี่สักคัน เพื่อเป็นการสานต่อความชอบในวัยมหาวิทยาลัยที่เคยมีสกู๊ตเตอร์คู่ใจขี่ไปไหนมาไหนโดยตลอด และการกลับเข้าสู่วงการสองล้อครั้งนี้ทำให้เขาได้รู้จักกับ Lambretta ที่ดีไซน์เท่สะดุดตา จนไม่ลังเลที่จะไปเสาะหามาเป็นของตัวเอง “สมัยนั้นก็หารถในเว็บ Thai Scooter แล้วไปถูกใจ Lambretta Series 2 Li 150 จำได้ว่าไปซื้อแถววังหิน ซื้อเสร็จก็ต้องขี่กลับบ้านแถวแคราย พอได้ขี่เท่านั้นแหละ รู้สึกเลยว่า เฮ้ย!!
“เคยถามตัวเองกันมั้ย ว่าหน้าตาของความสุขที่มีร่วมกับ Lambretta เป็นแบบไหน ?” เราตอบคำถามนี้ได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อบทสนทนาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นกับ ‘เก๋-กมลนิตย์’ จบลง เธอคือหญิงสาวที่ชาวแลมหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ตามงานของ Lambretta ในลุค Vintage Style สุดเท่ แต่ ๆ ๆ ๆ เราเชื่อว่าทุกคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวเบื้องหลังที่เธอมีร่วมกับ Lambretta ดีนัก เพราะความหลงใหลในสไตล์ Vintage ของเธอมันไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เป็นการรับ แลม… บันดาลใจ จากสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนสไตล์คันนี้ด้วย “ชื่อกมลนิตย์ แจ่มทับทิมค่ะ” คุณเก๋แนะนำตัวแบบเขิน ๆ พร้อมกับบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์มาก่อน “มันต้องจริงจังขนาดนี้เลยใช่มั้ยคะ 555” แต่หลังจากเขินอยู่ได้ไม่นานเธอก็บอกว่าพร้อมตอบคำถามต่อไปแล้ว เราจึงไม่รอช้า เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าจุดเริ่มต้นความหลงใหลในสกู๊ตเตอร์อย่างแลมของเธอมาจากไหน และเมื่อต้องพูดถึงจุดเริ่มต้นในการขี่ Lambretta ของคุณเก๋ เธอบอกว่ามีบุคคลสำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ และมีผลต่อความทรงจำที่ดีที่ทำให้เธอได้ขี่แลม มีสังคมแลม จากที่ขับคนเดียวมาโดยตลอด และนี่คือเรื่องราวระหว่าง ‘คุณบังใหญ่’ กับคุณเก๋
สำหรับชาวแลม หรือ Lambrettista ทั้งหลาย น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตา “เฮียเจียว – กันตพงศ์ ฤกษ์แสนสุข” กันเป็นอย่างดี ในฐานะพี่ใหญ่ใจดี อดีตช่างซ่อมแลมวินเทจรุ่นเก๋า และเจ้าของศูนย์บริการมาตรฐาน Lambretta รุ่นบุกเบิกเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้ว ที่คอยให้ความรู้ รวมถึงดูแลรถให้กับก๊วนแลมแทบทุกครั้งที่ออกทริปไปด้วยกัน หากจะให้นิยามความสัมพันธ์ระหว่าง “เฮียเจียว” และสกู๊ตเตอร์คู่ใจอย่าง Lambretta คงพูดได้ว่าเปรียบเสมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ด้วยอายุของเฮียเจียวที่อยู่ในวัย 77 เท่ากับอายุแบรนด์ Lambretta ที่ถึงวาระครบรอบ 77 ปี ในปีนี้เช่นกัน ซึ่งจุดเริ่มต้นความสนิทสนมกับเพื่อนซี้ 2 ล้อ คงต้องย้อนไปไกลถึงประมาณปี พ.ศ. 2504 – 2505 ยุคที่สกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาลีอย่าง Lambretta เริ่มบุกตลาดในไทยโดยการนำเข้าของ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ แอนด์โก ในสมัยนั้น และช่วงประมาณปี พ.ศ. 2507 ทางบ้านของเฮียเจียวที่ประกอบกิจการอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ก็ได้รับการทาบทามให้เป็นตัวแทนจำหน่าย พร้อมศูนย์ซ่อมแบบครบวงจร และตัวเฮียเจียวเองก็ถูกส่งไปเรียนรู้วิชาการซ่อมบำรุงโดยช่างเทคนิคที่มาจากต่างประเทศนานถึง 2