Life

The Portrait : ‘น้าแดงสายเหลือง’ & ‘อู๊ดอี๊ด’ ความสัมพันธ์แบบเยสสสเข้ ! ที่เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ

By: GEESUCH November 17, 2023

“สวัสดีครับ ผมน้าแดงสายเหลือง ตำนานที่ยังหายใจ เป็นพ่อของอู๊ดอี๊ดครับ” 

ขอสารภาพกันตั้งแต่บรรทัดแรกของบทสัมภาษณ์เลย ว่าเราคงจำไม่ได้แล้วว่าประเทศไทยเคยมี Youtuber ชื่อ ‘น้าแดงสายเหลือง’ ถ้าช่างภาพของเราไม่ได้เป็นคนติดต่อเพื่อขอน้าทำรูปเท่ ๆ ให้กับคอลัมน์ The Portrait (โปรแกรมที่ว่าด้วยผู้คนและสิ่งที่เขารัก) จึงยิ่งเซอไพรส์หนักเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าปัจจุบันน้าแดงเลี้ยงจระเข้ ! เห้ย ใครเขาเลี้ยงจระเข้เป็นสัตว?เลี้ยงกันวะ (พูดกับตัวเอง) แล้วยิ่งน่าสนใจมากเมื่อน้าให้ความรักกับน้องจระเข้ที่ชื่ออู๊ดอี๊ดไม่ต่างกับทาสแมวให้ความใส่ใจกับน้อง ๆ ของตัวเอง

“น้าเป็นคนที่ทำหลายอาชีพ มันก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันหรอกครับ อยู่ในวงการบันเทิงนี่แหละ คิด Content เป็น Creator Content สมัยนี้เขาเรียกกันแบบนั้นอะนะ แล้วก็เป็นเบื้องหลังบ้าง ผู้กำกับบ้าง เขียนบทบ้าง”

เมื่อคำถามที่ว่าทำไมน้าถึงเลือกเลี้ยงจระเข้ยังคงติดอยู่ในใจ เราจึงสร้างชุดคำถามเพื่อคุยกับน้าแดงให้ได้คำตอบ ก่อนจะพบว่าคำตอบนั้นช่างเรียบง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน ไม่ต่างกันกับเวลาที่เราตกหลุมรักในแววตาเม็ดลำไยของแมวสักตัว (ทาสแมวแหละดูออก)


น้าแดง (เสื้อน้ำเงินกำลังยิ้ม) / อู๊ดอี๊ด (ลายพาดกำลังนอนอ้าปาก)

UNLOCKMEN : เล่าให้เราฟังหน่อยครับว่าน้าแดงมาเจอกับอู๊ดอี๊ดได้ยังไง

น้าแดง : ละนี่ก็คือ น้องอู๊ดอี๊ด นะครับผม อย่าเรียกว่าสัตว์เลี้ยงเลยนะครับ เรียกว่าสมาชิกในครอบครัวของน้าคนนึงเลยแหละ เลี้ยงเหมือนลูก เลี้ยงเหมือนน้อง เลี้ยงเหมือนหลาน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน พบรักกันก็เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ก่อนโควิดนิดนึง 

สมัยเด็ก ๆ เราไปเที่ยวเขาดินแล้วเราชอบไปที่บ่อจระเข้ ที่ชั้นล่างมันจะเป็นตู้กระจก เราก็ไปยืนมองจระเข้ ด้วยความเป็นเด็กก็กลัวแล้วเราไม่กล้าเข้าใกล้ด้วยนะ แต่มันเป็นอะไรที่อะเมซิ่งอะ อลังการ ทำไมตัวมันใหญ่ขนาดนั้น มันก็ผูกใจ ฝังมาเรื่อยตั้งแต่ตอนนั้น 

ก็เริ่มมีความสงสัย “สัตว์ประเภทนี้มันจะเลี้ยงให้เชื่องได้ไหม?” เราก็เก็บความสงสัยมานานมากนะ พอโตเสร็จแล้วเราก็ไปเจอกลุ่ม Exotic Pet ช่วงประมาณ 4-5 ปีก่อน น้าก็เลยไปได้อู๊ดอี๊ดมาจากฟาร์ม ต้องซื้อที่ฟาร์มเท่านั้นนะครับ จะไปหาตามคลองไม่ได้ นั่นคือตัวเหี้ย แต่กว่าจะได้อู๊ดอี๊ดมามันก็ไม่ได้ง่าย ๆ มันต้องทำการบ้านก่อน เพราะสัตว์พวกนี้มันมี พรบ. คุ้มครอง ไม่สามารถที่จะเอามาเลี้ยงเหมือนแมวเหมือนสุนัขได้ 

UNLOCKMEN : แนะนำตัวอู๊ดอี๊ดอย่างเป็นทางการให้ชาว UNLOCKMEN ที่กำลังอ่านอยู่

น้าแดง : อู๊ดอี๊ดเป็นจระเข้สายพันธุ์น้ำจืด Siamese Crocodile เป็นจระเข้ขนาดกลางไม่ถึงกับใหญ่ เพราะใหญ่ที่สุดคือจระเข้น้ำเค็ม แล้วอันนั้นก็ดุร้ายที่สุดด้วย ลักษณะของเขาจะต่างกันที่โหนก ส่วนลายของจระเข้น้ำเค็มจะเป็นจุด แต่ของน้ำจืดจะเป็นลายพาด ตอนนี้อู๊ดอี๊ดมีขนาดประมาณ 3-4 เมตร ถ้าเลี้ยงดีหน่อยสามารถอยู่ไปได้ไปถึง 6 เมตรเลย ฝรั่งเขาอยากเอาไปเลี้ยงจะตายนะพันธุ์นี้ 

ถ้าเคยดูในหนัง Loki เขาเอาจระเข้บำบัดคนเป็นโรคซึมเศร้า เหมือนให้ความรักกันอะครับ เหมือนเลี้ยงเป็นสัตว์ให้ผูกพันธุ์ ถ้าศึกษาจริง ๆ และให้เวลากับเขานะ น้าว่าสัตว์ทุกตัวบนโลกก็เลี้ยงได้ เพราะถ้าเลี้ยงไปเราจะรู้ว่ามันจะมีจุดให้เชื่อมอยู่ เมื่อเราเชื่อมจุดนั้นติดเมื่อไหร่จะกลายเป็นมิตรภาพทันทีเลย เขาจะไว้ใจเรา เราก็จะไว้ใจเขา บางคนอ้างกฎสารพัด น้าไม่ฟัง บางคนบอกเดี๋ยวมันกัด “แล้วมีกี่คนที่โดนจระเข้กัด?” ต่อให้แขนขาดน้าก็ไม่เสียดาย เพราะว่าเราเลือกแล้ว 

– How To เลี้ยงจระเข้ 101 –

น้าแดง : ถ้าอยากจะเลี้ยงจระเข้อันดับแรกเลยนะครับ ต้องศึกษาก่อน เดี๋ยวนี้เรายุคใหม่ละเนอะ เข้าเว็บไซต์ดูหลาย ๆ คนนะครับ อย่าเชื่อน้าคนเดียว อย่างในเว็บของกรมประมงก็มีข้อมูล หรือโทรไปติดต่อโดยตรงเลยก็ได้ เขาจะให้คำแนะนำดีมาก ๆ แนะนำเรื่องการสร้างบ่อ เรื่องการออกใบอนุญาตต่าง ๆ แล้วส่งเอกสารเป็นไฟล์มาให้ดูเลยล่ะ ไม่มีมาห้ามว่าแบบ “คุณจะมาเลี้ยงทำไม มันน่ากลัว สยอง” ไม่มีครับ เพราะจระเข้เขาไม่ได้อยู่กับเราแค่ 10 ปี แต่อยู่อย่างน้อย 60 ปี ถ้าไม่ป่วยซะก่อนนะ คนเลี้ยงก็ต้องพร้อมจริง ๆ

เดี๋ยวนี้เขาจะมีการขายจระเข้ในเว็บใช่มั้ยครับ แต่โดยส่วนมากคนขายพวกนั้นจะขายแต่จระเข้ ที่บอกเราว่ามีใบอนุญาต จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่ใบอนุญาตนะครับ แต่เป็นใบ ‘ครอบครองชั่วคราว’ ซึ่งปกติฟาร์มจะเป็นคนส่งมาหาเรา ใบมันมีอายุความ 30 วัน ถ้าเกิน 30 วันจะหมดอายุจะกลายเป็นจระเข้ผิดกฎหมายทันที ซึ่งใบนี้คนธรรมดาออกไม่ได้ด้วยครับ ฟาร์มต้องเป็นคนออกใบ เพราะฟาร์มเขาได้อนุญาตจากกรมประมง (สำนักงานประมงพื้นที่) มาอีกที เมื่อได้ใบครอบครองชั่วคราวแล้วให้เอาใบตัวนี้ไปที่กรมประมงพื้นที่เพื่อขออนุญาตเลี้ยง 

เดี๋ยวนี้การขอใบอนุญาตมีอยู่สองแบบ ใบนึงคือ ‘ขออนุญาตเพื่อเพาะพันธุ์’ อันนี้ไม่เสียตังค์ ส่วนอีกคือ ‘ใบอนุญาต สป.15’ (ใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์) เป็นใบอนุญาตเลี้ยง สองฝ่าย แต่ก่อนมันมีใบเดียวคือ สป.15 แต่พอหลัง ๆ ก็มีสองใบเผื่อคนเลี้ยงเพาะพันธุ์ละออกลูกเต้า ถ้าออกลูกต้องแจ้งด้วยนะครับ 

แต่ก่อนจะทำตามขั้นตอนนี้ได้ อันดับแรกสุดเลยคือเราต้องโทรหากรมประมงพื้นที่เพื่อเช็คก่อนว่าบริเวณบ้านของเราเขาอนุญาตให้เลี้ยงจระเข้ได้หรือเปล่า ถ้าเขาไม่อนุญาตก็เลี้ยงไม่ได้ครับ ทีนี้ก็ยุ่งเลยครับ ถ้าซื้อมาก่อนโดยไม่รู้จะทำยังไง ถ้าฟาร์มไม่รับคืน เอาไปปล่อยเป็นปัญหาอีก 

หลังจากที่ไปต่ออายุใบที่กรมประมง เช็คแล้วว่าในพื้นที่สามารถเลี้ยงจระเข้ได้ ขั้นตอนต่อไปคือเราต้องทำ ‘บ่อ’ พอทำบ่อแล้วให้โทรตามกรมประมงเขามาตรวจ เพราะเขาจะมีมาตรฐานอยู่ ทั้งเรื่องระบบการระบายน้ำ ระบบการป้องกัน สร้างให้เหมาะกับขนาดและจำนวนของจระเข้ที่เลี้ยง มีเขียนไว้ในบัญญัติเลยนะครับ กำหนดความสูงของบ่อไว้ให้สูงกว่า 80 ซม. ถ้าต่ำกว่านั้นอาจจะต้องมีตะแกรงปิดกันจระเข้ออก และอีกสิ่งที่สำคัญคือเรื่องของน้ำในบ่อ น้ำต้องพยายามเปลี่ยนสม่ำเสมอ เปลี่ยนครึ่งต่อครึ่งพอ ให้มีน้ำเก่าอยู่หน่อยนึง บางคนเห็นฟาร์มจระเข้น้ำเขียวปี๋ ไปว่าฟาร์มสกปรก นั่นคือน้ำที่เหมาะกับจระเข้นะครับ เขียว ๆ นั่นเป็นน้ำที่เหมาะกับจระเข้มากเลย เขาเรียกว่ามันเป็นสารที่จระเข้รับได้ มันอยู่จนคลอรีนไปหมดแล้ว ละจระเข้มันปรับตัวได้แล้ว ละถ้าเราไปคลอรีนล้วน ๆ มันอาจจะมีผล ถ้าเลี้ยงตามบ้านก็เหลือน้ำเก่าไว้ครึ่งนึง อย่างฟาร์มจระเข้เขาจะเปลี่ยนน้ำตลอดเวลาคงไม่ได้ เขาก็เปลี่ยนทีละครึ่งแหละ แต่น้ำนั้นคือธรรมชาติ เพราะจระเข้อยู่มาก ละเขียวอย่างนั้นคือไม่ใช่เรื่องผิดปกติ 

เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจพร้อมอนุญาตให้เลี้ยงได้ เราก็สามารถเอาจระเข้มาลงบ่อได้ละ แล้วก็เอาใบสป.15ตัวนี้ไปให้กรมประมง เขาก็จะทำหนังสือกำกับการจำหน่ายสัตว์ป่าคุ้มครองฯ ก็เสียค่าธรรมเนียมไป ต่อบัตร 1 ครั้งมีอายุ 3 ปี 

UNLOCKMEN : ย้อนกลับไปเรื่องพื้นที่ ‘อนุญาต’ กับ ‘ไม่อนุญาต’ ให้เลี้ยง ใช้เกณฑ์อะไรในการตัดสิน

น้าแดง : ส่วนมากมันจะเกิดจากการที่มีคนเคยทำเรื่องขออนุญาตเลี้ยงในพื้นที่นั้น ๆ มาก่อน แล้วเขาก็เปิดให้เลี้ยง เป็นพื้นที่ที่มีผู้ขอเลี้ยงเยอะ ๆ เลี้ยงเป็นฟาร์มก็จะของ่ายหน่อย เขาอาจจะทำเรื่องให้ แต่ถ้าเลี้ยงแบบน้าโดด ๆ ก็อาจจะต้องรออนุมัติเรื่องยาก อีกอย่างคือถ้าน้องเป็นผู้เยาว์ก็ต้องให้ให้เจ้าบ้านเซ็นรับรองรับรองยินยอมว่าให้เลี้ยงด้วยนะครับ

UNLOCKMEN : แล้วเรายังสามารถเปิดพื้นที่อนุญาตในเขตใหม่ ๆ ได้มั้ยในปัจจุบัน

น้าแดง : มีครับ ๆ น้าเคยสอบถามว่าขอใบอนุญาตยังไง เขาบอกต้องรอทำเรื่องไว้ เข้าไปที่เว็บไซต์ของกรมประมงแล้วก็ให้เราไปลงเขียนกรอบความจำนงไว้ แล้วจากนั้นเขาก็จะรวบรวมเรื่อง แต่น้าเคยเขียนไปสามปีแล้วยังไม่ได้ เงียบเลย มันต้องแก้กฎหมายครับ 

แต่ที่มันไม่ง่ายก็เพราะจระเข้เป็นสัตว์คุ้มครองไซเตส (CITES) ประเภท 1 ซึ่งใกล้สูญพันธุ์ละ แล้วมันเป็นจระเข้ไทยด้วย ของฝรั่งสังเกตจะเป็นพวก Alligator (จระเข้ตีนเป็ด) พอเขาเห็นของไทยก็ชอบเลยแต่เอากลับไปไม่ได้นะ เพราะจระเข้สายพันธุ์ไทยเลี้ยงในประเทศได้ ขายในประเทศได้แต่ห้ามส่งออกไปต่างประเทศ น้าคิดว่าการทำแบบนี้ก็เหมือนช่วยเพาะพันธุ์ให้มันขยายมากขึ้นเพื่อไม่ให้มันสูญพันธุ์ด้วย แล้วพันธุ์ที่เป็นสยามแท้นี่เหลือน้อยมากแล้ว มีที่บึงบอระเพ็ดไม่กี่ตัวครับ 

UNLOCKMEN : จระเข้สามารถเลี้ยงที่ไหนได้บ้าง

น้าแดง : บ้านครับ คอนโดเลี้ยงไม่ได้ ต้องเป็นบ้านที่มีพื้นที่ บ้านเช่าก็ไม่ได้เพราะไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของตัวเอง เป็นบ้านของพ่อแม่ คือเลี้ยงได้นะครับแต่ต้องให้เขาเซ็นต์รับรอง 

การให้อาบแดดอย่างเหมาะสมกับจระเข้ก็สำคัญ ต้องพยายามให้แสงส่องถึงบ้าง จระเข้อย่างถ้าขาดวิตามินเขาก็จะป่วย มีน้องคนนึงเอาจระเข้มาเลี้ยงเหมือนกัน น้าบอกให้อาบแดดบ้าง ก็เอาไปใส่กะละมังเอาไปอาบแดดทิ้งไว้งั้นเลยแดดแรง ๆ เลยครับ สุดท้ายมันตายท่าอ้าปาก คือมันไม่ใช่ว่าโดนแดดร้อนเปรี้ยง ๆ แค่แสงเข้าถึงบ่อ ไม่ต้องถึงขนาดแดดแรงขนาดนั้นหรอก  

UNLOCKMEN : จระเข้กินที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

อาหารหลักก็เป็นพวกที่น้าให้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยนะ ตอนนั้นเล็กมากเลยออกจากไข่ได้ 16 วันก็เป็นพวกเนื้อไก่ผสมแคลเซียม แล้วก็ให้เขากิน คลุก ๆ หยอดให้เขากินวันเว้นวัน ที่ต้องให้อาหารเสริมพวกแคลเซียมต่าง ๆ ก็เพื่อเสริมสร้างกระดูกไม่ให้ผิดรูป ตอนเล็ก ๆ มันต้องกินแคลเซียมสูง แม้กระทั่งฟาร์มอะ ฟาร์มก็ต้องให้อาหารเสริมคลุกแคลเซียมโยนให้มันกิน ช่วง 6 เดือนแรก สำคัญมากเลย 

พอหลัง ๆ พอโตก็เริ่มเป็นคอไก่ 3-4 ชิ้นเท่านั้นเอง เขากินไม่จุเท่าตอนเด็ก ปัจจุบันนี่กินไม่เกิน 3 คอ ละบางทีก็เว้นไป 2 วัน 3 วัน แต่มันก็โตเอาเหมือนกัน เขากินไม่เยอะเพราะเขารู้ว่ามันยังย่อยไม่ได้ หรือไม่บางทีก็ให้เป็นปลาก็ดี ปลาอะไรก็ได้ เอาที่มันพอดีคำอย่าให้ใหญ่จนเกินปาก หรือจะกินทั้งไก่ทั้งปลาเลยก็ได้ ตอนเด็ก ๆ น้าก็ใส่ลูกปลาให้ ก็ไล่กิน ระบบย่อยเขาไม่เหมือนเราครับ เหมือนบางคนเอาข้าวเหนียวให้มันกิน ถามว่ามันกินมั้ย มันกิน แต่ว่าสารอาหารไม่มี ซึ่งมันก็เหมือนเราไปกินของเน่า พอถึงเวลาก็จะมีการให้ยาถ่ายพยาธิ โปรโตซัวอะไรไปเพราะว่าเขากินของดิบ 

บางทีปริมาณการกินก็อยู่ที่อารมณ์เขาด้วยครับ แต่ใกล้ ๆ หน้าหนาวเมื่อไหร่ เขาจะเริ่มอด ถ้าภาษาชาวบ้านเรียกว่าจำศีล เพราะว่าจระเข้เขาใช้ความร้อนในการย่อยอาหาร ถ้าอากาศเย็นปั๊บ มันเหมือนจะไม่ย่อย เค้าจะอดละ อย่างอู๊ดอี๊ดทำลายสถิติเคยอดมา 4 เดือนกว่า ไม่กินเลย ไม่โหย ไม่หิว ตอนให้อาหารก็ต้องระวังเขากัดด้วยนะครับ ควรจะมีไม้มีหรืออะไร อย่าไปเซียนมาก เขาเรียกว่ากัดเบี้ยวมางับเรา คือตั้งใจจะงับไก่แหละ แต่มือเรามันติดไปด้วย 

UNLOCKMEN : แสดงว่าถ้าเขาหิว เขาก็ไม่ได้จะมากัดเราอย่างที่คนเข้าใจ

น้าแดง : ไม่ครับ ที่น้าเจอ เวลาเขาหิวจะวิ่งเข้ามาหาแล้วก็อ้าปากแสดงอาการว่าเค้าหิว ถ้าเราเปิดประตูตู้เย็นนี่เขาจะรู้เลยว่าไก่อยู่ในตู้เย็น หรือว่าเราเอามาวางละเราสับ ได้ยินเสียงโป๊ก ๆ ๆ ก็จะวิ่งมาอ้าปากละ 

UNLOCKMEN : ถ้าให้เปรียบเทียบกับสัตว์เลี้ยงที่หลายคนคุ้นเคยกันอยู่แล้วอย่างหมาหรือแมว อะไรคือสิ่งที่ต่างออกไปสำหรับการเตรียมตัวเลี้ยงจระเข้

น้าแดง : สิ่งที่เหมือนกับการเลี้ยงหมาแมวก็คือต้องใส่ใจครับ ดูแล พูดคุย สัมผัส เจอกัน แต่ว่าจระเข้ต่างจากหมาแมวตรงที่ว่าตอนเจอกันแรก ๆ เขาจะไม่เอาเรา ครึ่งปีแรกนี่ไม่รู้จักกันเลย เจอกันกระโดดใส่อย่างเดียว เราต้องหาวิธีที่ให้เขาสนิทกับเรามากที่สุด แรก ๆ น้าก็กลัว เลยเอาหลอดถูหลังมันก่อน กลายเป็นว่าอู๊ดอี๊ดมันคุ้นหลอด พอเอามือเข้าไปมันกัดมือ ตอนนั้นแหละน้าเลยตัดสินใจเล่นเอามือลูบหลังเลย ค่อย ๆ ลูบ แต่ว่าการเล่นกับจระเข้ต้องให้ขาลอยน้ำนะ อย่าให้ขาติดดินเพราะมันกระโดดได้ ถ้าขาลอยน้ำมันจะทำอะไรไม่ได้ มันจะว่าย ละเราก็ค่อย ๆ เล่น เอาอาหารล่อ ช่วงแรก ๆ น้าก็ปล่อยไปเรื่อย คิดว่าเดี๋ยวมันคงจะเชื่องแหละ ไป ๆ มา ๆ หกเดือนตัวเริ่มใหญ่ละ เอาเว้ย ถ้าปล่อยไปกว่านี้ไม่เชื่องแน่ ตัดสินใจเอาขึ้นห้องนอนเลย ตอนแรกเอายางมัดปากครึ่งวัน เอ้ย มันไม่ใช่อะ ก็ถอดออกนอนเล่นวัดดวงไปเลย หลังจากนั้นมันก็เลยเป็นเหมือนตามในคลิปในช่องน้าครับ เล่นกันมาตลอด พูดคุยกัน นอนด้วยกัน ตอนแรก ๆ มันก็ตัวเล็กๆ นะครับ หิ้วไปไหนง่าย พอโตขนาดนี้กะละมังไม่พอแล้ว รู้สึกว่าจะนิ่งขึ้นด้วยอายุนะครับ

บางคนเลี้ยงขาดความต่อเนื่อง เลี้ยงตามกระแส พอถึงเวลาก็ปล่อยไม่สนใจ เขาก็เลยไม่เชื่อง ทำบ่อไว้หลังบ้าน อยากเล่นก็ไปแง้มฝาดูทีนึง เอาหมูโยนให้แล้วก็ไป แล้วส่วนมากก็จะเลี้ยงตายเยอะเพราะติดเชื้อจากน้ำในบ่อที่ไม่ค่อยเปลี่ยน ซึ่งจริง ๆ จระเข้ป่วยยากมาก ถ้าจะตายมีอยู่สองอย่าง ‘ขาดวิตามิน’ กับ ‘น้ำเสีย’ 

UNLOCKMEN : น้าอยู่กับอู๊ดอี๊ดมากี่ปีแล้วครับ

น้าแดง : ประมาณ 3 ปีกว่าครับ อย่างที่บอกว่าอายุของจระเข้นี่ก็ราว ๆ 60 ปี ที่เราเห็นตัวใหญ่ ๆ ในฟาร์มอันนั้น 30-40 ปีนะครับ ถึงได้ตัวขนาดนั้น อู๊ดอี๊ดมันโตแบบออกข้าง ตอนเล็ก ๆ มันจะโตเร็วมากเลยนะ เดือนนึงมียาวเพื่มสองเซน สามเซน ตอนให้ไก่ยังตกกะใจเลย เห้ย ! ทำไมมันโตเร็วจังวะ แล้วแปลกคือโตเร็วกว่าของคนอื่นด้วย พวกก็เลยเห็นน่ารักกันใหญ่เลย ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นอู๊ดอี๊ดฟีเวอร์ครับ 

UNLOCKMEN : มีวิธีการจัดการอารมณ์ของจระเข้ยังไงบ้าง

น้าแดง : จระเข้จะมีช่วงเวลาเล่นอยู่ ถ้าเขาอยู่ในบ่อ เขาอยากจะออกมาเอง จะเรียกร้อง ดันกรงบ้าง ตะกุยตะกาย พอเราเปิดเขาก็จะค่อย ๆ เดินออกมา เขาจะนอน พอนอนได้พักนึง เขาอยากจะเดินไปสิ่งที่อยากจะไป พอเราไปขัดใจเขาหน่อย ก็จะฟึดฟัดนิดนึง เป็นคนโลกส่วนตัวสูง ต้องพยายามฝึกเขาหน่อยนึง น้าถึงใส่สายจูง 

บางคนบอก “ทำไมไปใส่สายจูงอะน้า” เลี้ยงไม่โปรเลย จะบอกว่าตอนอยู่ที่บ้านน้าก็ไม่ได้ใส่นะ แต่ว่าอย่าลืมว่าถ้าเรามาข้างนอก เราต้องคิดเผื่อเวลาเขาโตขึ้นด้วย จระเข้เป็นสัตว์ที่เอาอะไรมาใส่คอไม่ได้ เคยเห็นมั้ยครับ จระเข้ธรรมชาติโดนคล้องคอคล้องปากมันหมุนเป็นเลขแปดเลย เพราะฉะนั้นการใส่แบบนี้คือการฝึกให้เขาชินกับสายพวกนี้ เวลาโตขึ้นมาเราก็จูงได้ อย่าลืมนะครับ ถ้าตัวสามเมตรขึ้นมาไม่ใส่สายจูงไล่จับไหวเหรอ 

UNLOCKMEN : เหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้น้าแดงเลือกเลี้ยงจระเข้

น้าแดง : การเลือกเลี้ยงจระเข้เพราะเป็นความสนใจในวัยเด็กนั่นแหละครับ เป็นคำถามที่มันสะสมมา จนวันนึงที่เรารู้สึกเรามีพาวเวอร์ มีใจ มีเวลาที่จะเลี้ยงเขาได้ ก็อยากจะลองดู ตอนแรกก็กะว่าถ้าเลี้ยงไม่ได้จะขายคืนฟาร์ม แต่พออยู่ไปมันผูกพัน เขาให้ใจเรา เราให้ใจเขา 

แล้วพอน้าได้ลองเลี้ยงอู๊ดอี๊ดดูก็พบว่ามันไม่มีกฎตายตัวนะ เขียนออกมาเป็นตำราไม่ได้หรอก คุณต้องดูและศึกษาเอง ต้องกำหนดเวลาให้เขาว่าคุณจะเล่นตอนไหน อาบน้ำเมื่อไหร่ ก่อนที่น้าจะเล่นอาบน้ำในอ่าง น้าเล่นกับมือมาก่อนในอ่างในตู้กระจกนะครับ เล่นกันทุกวัน อาบน้ำ ลูบหัว ลูบท้อง เขาก็วิ่งเข้าหาเรา แล้วเราค่อย ๆ ชวนเขาเล่นอ่างใหญ่ 

UNLOCKMEN : อย่างที่บอกว่าน้าไม่ได้มองอู๊ดอี๊ดเป็นสัตว์เลี้ยงจริง ๆ 

น้าแดง : มองเหมือนมันเป็นสมาชิกในครอบครัวครับ ไปไหนก็ห่วงมัน บางทีน้าไปอบรมกู้ภัยสามสี่วัน เป็นห่วงเหมือนกัน แต่มันเป็นสัตว์ที่ไม่ได้กินทุกวัน บางทีก็สั่งแฟนสั่งคอยเปลี่ยนน้ำให้ คนในบ้านก็ดียังให้ความร่วมมือ ถ้าคนในบ้านไม่เอานี่แย่เลยนะ เพราะฉะนั้นเราต้องพร้อม มีเวลา มีกำลัง เราคิดว่าเราดูแลเขาได้  ไม่ใช่แค่จระเขนะ ทุกสัตว์ถ้าน้องไม่มีเวลา ไม่มีประโยชน์ จะมาล่ามมาขังอย่างเดียวมันไม่เชื่อง พอไม่เชื่องมาน้องทำไง 

UNLOCKMEN : แล้วดีลกับเพื่อนบ้านยังไงครับ

น้าแดง : ก็จริง ๆ เราแค่พยายามทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นอย่างงี้ พยายามทำเซฟโซนเหมือนกันว่าไม่ให้เขามายุ่ง เห็นรถอะไรมา เราพยายามให้อยู่ห่าง อย่าเข้าใกล้ ถ้าอยากมาจับมาเล่นด้วยก็ให้น้าอุ้มมาจับหางได้ก็พอ เพราะเขาไม่เอาแน่นอนถ้าจะมาอุ้ม ก็เลยพยายามแบบว่าเซฟตรงนี้

UNLOCKMEN : อยากรู้ว่าเวลาจระเข้แสดงความรักเขาทำท่ายังไง

น้าแดง : เขาจะเข้าหา ถ้าเป็นตอนเด็ก ๆ เขาจะร้องเหมือนเลเซอร์เลย “โอ๊ๆๆ” ตามคลิปน้าเลยครับ ด้วยความโตขึ้นมาแล้วนาน ๆ ถึงจะร้องทีนึง แต่ก่อนเด็ก ๆ จะคุยเก่งมาก คุยตลอดเวลา พอเริ่มโตเสียงจะใหญ่ขึ้นมาแทน เวลาจะเปิดออกจากกรงเขาดีใจแต่เสียงขู่เลย คนไม่คุ้นจะกลัว มันจะ “ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ” ตะกุยตะกาย ใครเห็นคงคิดว่าเอากูแน่ 

UNLOCKMEN : เวลาฟินเวลาดีใจจระเข้เป็นอย่างไร 

น้าแดง : ถ้าเขาได้ที่นอนดี ๆ พัดลมเย็น ๆ เปิดแอร์ เกาตูด เกาหลัง เขาจะนอนเชิดคออ้าปาก คือสบายเขาละ แล้วจระเข้กว่าจะหลับได้เขาจะสำรวจความมั่นใจในห้องก่อน จะมองหน้า หรือเหล่ตามอง พอเขาได้ยินเสียงน้าปั๊บ อ่อ พ่ออยู่ข้าง ๆ เขาก็จะหลับ เวลาหลับลึกขาสี่ข้างจะไปข้างหลัง ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น เตะตูดก็นอนอยู่อย่างงั้นอะ คือเขาเชื่อใจว่าไม่มีอะไรละ นอนได้ทั้งวันทั้งคืน นอนท่าเดิมหลับยาวเลยครับ แบบที่ออกคลิป จับหงายทงหงายท้อง นอนเอาเป็นเอาตายอย่างเดียวเลย ถ้าเวลาเขาตื่นมาจะดื้อเนี่ย ไม่ต้องห่วง เขาจะวนรอบห้องจนหาที่นอนจนได้

UNLOCKMEN : น้าเคยใส่เสื้อผ้าให้อู๊ดอี๊ดมั้ยครับ

น้าแดง : ตอนเด็ก ๆ เคยใส่อยู่ครับ เอาเสื้อหมาให้ใส่ มันโตเร็ว ก็เลยใส่ไม่ได้ครับ นี่เดี๋ยวอนาคตจะต้องใส่ ถ้าคอนเท้นท์มันถึงจุดนั้นก็ต้องเริ่มมีแล้ว ออกงานไม่รู้จะไล่กัดคนในงานเปล่า (หัวเราะ) ถ้าใหญ่กว่านี้อุ้มไม่ไหวแล้ว หนักมากครับ

UNLOCKMEN : ขอเคล็ดลับเลี้ยงจระเข้ให้เป็นเพื่อนสนิทแบบน้าหน่อย

น้าแดง : มันไม่มีเคล็ดลับหรอกครับ จริง ๆ ที่น้ามองนะ จระเข้มันเป็นสัตว์ที่กลัวทุกอย่าง ขี้ระแวง แรก ๆเขาเห็นอะไรก็จะเดินเข้าไปหาละงับเลย น้าก็จับทางได้ละ อะไรที่มันกลัว น้าเอามาใส่ให้มันกัดหมด พอมันได้กัดได้รู้มันก็ทำเฉยละ น้าก็เอาหลอดมาใส่ปากมัน มันก็งับ ละมันก็เริ่มเบื่อ เอาผ้าให้มันกัดบ้าง มันก็จะเริ่มเบื่อ มันก็จะเรียนรู้ เจออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ มันก็จะเริ่มไปงับอีก 

UNLOCKMEN : จระเข้จะมาอยู่บนเตียงอยู่บนบกตลอดเวลาก็ไม่ได้ใช่ปะครับ

น้าแดง : ต้องแช่น้ำบ้างครับ ตอนนี้มันเริ่มอยากจะอยู่ข้างนอกซะมากกว่า มันเริ่มไม่อยากจะนอนอ่างเป็นเวลาละ อยากจะเดินไปทั่วในบ้านของมัน เป็นสัตว์ที่สันโดษครับ อยากจะเดินก็เดิน อยากจะนอนก็นอน แต่เราเนี่ยไปทำใส่คอนเท้นท์ให้มันเอง เดี๋ยวนี้มันก็เริ่มรู้นะ เขาจะชอบถ่ายคลิป อย่างเวลาถ้ายกล้องถ่ายบอกอี๊ดแปปนึง มันจะเริ่มรู้ละ ตอนเด็ก ๆ เขาเช็คกล้องด้วยนะ ถ่ายเสร็จมานั่งดูก่อน พอดูเขาก็จะมานั่งมองร้องโอ๋ว ๆ ต้องเช็คก่อนอัพ

จระเข้เป็นสัตว์ที่ช่างจดจำครับ สมองเล็กแต่จำนาน เลือกจำ ละจะจำเฉพาะสิ่งที่มันใกล้ตัว แล้วเขาจะไม่จำคนสะเปะสะปะ พอดีเมมโมรี่มันเท่าเม็ดถั่วเอง แต่น้าว่ามันจำได้เยอะนะ มันรู้เวลากิน มันรู้ว่าคนนี้คือใคร มันจำเสียงได้ เห็นน้าเดินลงมามันก็อยากจะออก มันดันกรงแล้ว คือมันรู้หมดเลย

UNLOCKMEN : น้าต้องให้พื้นที่ส่วนตัวเขาด้วยมั้ย

น้าแดง : ใช่ครับ เขาต้องมีเวลาส่วนตัว ต้องเล่นน้ำ ต้องอยู่กับในจุดที่เขาอยู่อะครับ คือถ้าเขาพักผ่อนต้องไม่ไปยุ่งกับเขา แต่เขาก็จะรู้เวลาที่เราจะเอามาเล่น ตอนนี้มันจะกลายเป็นว่าเมื่อไหร่ก็ได้ที่อู๊ดอี๊ดอยากจะเล่น

UNLOCKMEN : เลี้ยงจระเข้ตัวแรกมา 3 4 ปี มีความหมายกับชีวิตน้ายังไงบ้าง

น้าแดง : เรามีเพื่อนครับ พออยู่นาน ๆ มันกลายเป็นสมาชิกในครอบครัว เป็นเพื่อนที่ต้องถามหากันทุกวัน


Photographer By Krittapas Suttikittibut
GEESUCH
WRITER: GEESUCH
Share on Facebook Share on Twitter Share on Line