สำหรับคนที่เป็นแฟนคลับของแบรนด์รองเท้าจากเยอรมันอย่าง BIRKENSTOCK อยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องอธิบายเยอะว่านี่คือรองเท้าที่ใส่ดีขนาดไหนสำหรับสายเดินตลอดวัน ที่ต้องการความสไตล์ลิ่งเท่ไม่เหมือนใคร ปี 2024 นี้ BIRKENSTOCK กลับมาตอกย้ำความหมาย ‘รองเท้าของคนเมือง’ อีกครั้ง ด้วยรุ่น ZÜRICH TECH และ SHINJUKU รองเท้าที่ผลิตขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของคนในเมืองใหญ่โดยเฉพาะ ความเจ๋งของรองเท้าทั้ง 2 รุ่นไม่เหมือนกับ BIRKENSTOCK รุ่นที่ผ่านมา UNLOCKMEN ได้สัมผัสมาแล้ส BIRKENSTOCK ZÜRICH TECH ก้าวเดินครั้งใหม่จากรองเท้ารุ่นคลาสสิกปี 1964s ถ้าลองพิมพ์คีย์เวิร์ดใน Google ด้วยชุดคำสองคำนี้ ‘1964s’ และ ‘Shoes History’ คำตอบที่อินเทอร์เน็ตมอบให้ จะมีชื่อของแบรนด์รองเท้าจากเยอรมันนี BIRKENSTOCK ขึ้นมาด้วย เพราะช่วงเวลานั้นเป็นปีเดียวกันกับที่ ZÜRICH รองเท้าซึ่งถูกเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นสำคัญของแบรนด์ได้ถือกำเนิดเป็นครั้งแรก BIRKENSTOCK ตั้งชื่อรุ่นรองเท้าของตัวเองด้วยการ Country & City Name จากรอบโลกทุกครั้ง จะ BOSTON / KYOTO
เมื่อพูดถึงการใช้เวลาท่องไปในราตรีของคืนวันศุกร์ ณ สะพานควาย อารีย์ ย่านรวมบาร์ที่เรียกได้ว่ามีความเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดแห่งหนึ่ง จะบาร์ลับที่รอต้อนรับคนแปลกหน้าไม่ซ้ำแต่ละวันก็ดี หรือจะบาร์สาธารณะที่ผู้คนทั่วทุกย่านต่างต้องมาก็ไม่เลว ในอินเตอร์เน็ตมีไบเบิ้ลออนไลน์ Bar Guide ชี้โลเคชั่นแทบจะทุกจุดในซอกซอยที่มีบาร์ของย่านแห่งนี้เอาไว้หมด แต่แน่นอนว่าบางบาร์ก็หลบตัวจนพ้นจากสปอตไลต์ของนักรีวิวไปจนได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่พวกคุณคนอ่านไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เรามายืนอยู่ที่ Roaring Room ใน 490/3 ถนนพหลโยธิน บาร์ที่อยู่ไม่ห่างไกลจากสำนักงานใหญ่ของธนาคารออมสินมากนัก ประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ ในบรรทัดที่คุณเพิ่งจะอ่านผ่านมา คือคอนเซปต์ของบาร์แห่งนี้ และไม่ว่าใครจะรู้สึกอย่างไร มันชวนให้เรานึกถึงบาร์แจ๊สที่ไม่มีอยู่จริงในหนังสือของนักเขียนชาวญี่ปุ่น Haruki Murakami ที่ชื่อ South Of The Border, West Of The Sun อยู่ไม่น้อย ตัวละครหลักชายหนุ่มวัยกลางคนอย่าง Hajime เลือกที่จะเปิดธุรกิจบาร์แจ๊สที่ Niche สุด ๆ แต่เขาก็ทำมันจนสามารถประสบความสำเร็จได้เพราะเชื่อใน ‘เสียงเพลง’ เหนือเหตุผลอื่นใดทั้งหมด เรามองเห็นสิ่งนี้ใน Roaring Room ไม่ต่างกัน ด้วยความความคล้ายคลึงของเสน่ห์บางอย่างจาก Roaring
“ร้านเขาอ่านว่า ‘สยามมิส’ เมื่อกี้มึงอ่านผิด” ขณะยืนเถียงระหว่างชี้ทางใน Google Maps กับเพื่อน AE ที่มาด้วยกันในวันนี้ เราทั้งคู่ก็เดินมาถึงหน้าร้าน Siamese Cocktail & Gallery ในสุขุมวิท 58 แบบไม่รู้ตัว วันนี้เราตามหาบาร์เทนเดอร์ของร้านเพราะมีทีเด็ดที่หลายคนบอกให้มาลอง นั่นคือเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่สร้างสรรค์จาก Jameson Black Barrel และวัตถุดิบจากหลายภูมิภาคของไทย แถมยังเป็นการเสิร์ฟแบบ Pairing อาหารที่ช่วงส่งเสริมทั้งกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมและแตกต่าง เล่าขานกันขนาดนี้ มีหรือที่เราจะพลาดได้ คอลัมน์ ManCave ในครั้งนี้ เราขอเสนอเรื่องราวของ Hand-selected Whiskeys ที่กลมกล่อมเพราะความพิถีพิถันใส่ใจซึ่งเป็น Herritage ของแบรนด์มาโดยตลอด ผ่านประสบการณ์จากบาร์ชื่อ Siamese Cocktail & Gallery ที่นำความเป็นค็อกเทลไทยมาเจอกับความเป็น Irish Whiskey ได้อย่างลงตัว แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น สิ่งที่ทุกคนต้องรู้ก่อนว่า คอนเซปต์ของบาร์แห่งนี้เขานิยามตัวเองเอาไว้ 2 คำ ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกเล่าความเป็นไทยของร้านเอาไว้ทั้งหมดแล้ว นั่นคือ ‘Thai Drink
ขอเล่าย้อนกลับไปสักนิดก่อนจะเข้าเนื้อหาหลักที่โปรยเอาไว้บนเฮดไลน์ของบทความ (เพื่ออรรถรสที่สนุกมากขึ้นน่ะ) Rado แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ เคยร่วมงานกับดีไซเนอร์ชื่อดังสามคนจากหลากแขนงมาร่วมออกแบบเรือนเวลาในซีรีส์ True ตามความสามารถที่แต่ละคนถนัด – Rado True Phospho ออกแบบโดยสตูดิโอ Big-Game บริษัทออกแบบชั้นหัวแถวของสวิตเซอร์แลนด์ – Rado True Blaze ออกแบบโดย Sam Amoia นักออกแบบภายในระดับโลก (Interior Design) และเมื่อปี 2017 Rado True Shadow ออกแบบโดย Kunihiko Morinaga แฟชั่นดีไซเนอร์ตัวท็อปแห่งวงการสิ่งทอแบบโฟโตโครมิก (Photochromic) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทันทีที่ปล่อยคอลเลกชันออกมา เวลาผ่านไป 7 ปี วันนี้ Kunihiko Morinaga กลับมาพร้อมกับโปรเจกต์ที่พิเศษและเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ นำเสนอนาฬิการุ่น True Square x Kunihiko Morinaga ในปี 2024 ขึ้นมา แค่ชื่อก็น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะได้ใช้ชื่อแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์และชื่อ–นามสกุลภาษาญี่ปุ่นของเขาต่อกันเลย เล่ากันสั้น ๆ สำรับชื่อของ Kunihiko Morinaga ถูกนิยามเอาไว้ 2 ประโยค ‘นักวิทยาศาสตร์แห่งแฟชั่น’ และ ‘นักบทกวีแห่งแฟชั่น’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ของตั้วเอง ANREALAGE ตอนอายุ 23 เท่านั้น เขาปฎิวัติวงการแฟชั่นโดยความสามารถพิเศษในการทำ Photochromic Design บนเสื้อผ้า ถึงขนาดถูกเรียกว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และด้วยความสนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนี่เอง ที่ทำให้เคมีร่วมงานกับ Rado ลงตัวในผลงานอย่างที่สุด True Square x Kunihiko Morinaga คือผลงานล่าสุดหลังคอลเลกชันเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
The Who คือวงดนตรีในปี 1964 จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นจากเด็กหนุ่ม 4 คน Roger Daltrey (ร้องนำ) / Pete Townshend (กีตาร์) / John Entwistle (เบส) / Keith Moon (กลอง) พวกเขาเป็นวงดนตรีที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมของชาว Mods (Modernism) และผูกพันกับภาพของ Lambretta มากที่สุดเท่าที่วงดนตรีวงหนึ่งเคยมีมา และความผูกพันนั้นถูกบันทึกผ่านเสียงเพลงที่ส่งต่อเป็นวัฒนธรรมจากสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 ของวง ที่มีรูปเด็กหนุ่มคนหนึ่งขึ้นคร่อมสกู๊ตเตอร์ด้วยแฟชั่นอิตาเลียนสไตล์ Parkas ของ Mods แต่บอกก่อนเลยว่ามันไม่ใช่แค่ภาพเอาเท่เฉย ๆ ในบทความนี้เราจะมาเล่าเส้นทางระหว่าง The Who กับสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนสไตล์คันนี้กัน อัลบั้ม Quadrophenia ถูกวางเพลงเอาไว้เป็นแบบที่เรียกว่า “Concept Album” สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับสิ่งนี้ มันคือการทำอัลบั้มแบบที่ทุกเพลงจะเล่าเรื่องเพียงเรื่องเดียวจากคอนเซปต์ที่ถูกวางเอาไว้ อาจจะเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้น เป็นเหตุการณ์จากประวัติศาสตร์จริง หรือเป็นอะไรก็ตาม แต่สำหรับ The
ชื่อของ Lambretta กว่าจะถูกแปะอยู่ในวัฒนธรรมหลัก Pop Culture เป็น Scooter สัญชาติ Italian จากเมือง Milan สไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครได้อย่างทุกวันนี้ต้องบอกว่าเป็นการเดินทางที่ยาวไกลมาก และย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1947 นู่นเลย แล้วเป็นการเดินทางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียง Subculture ทางเลือกนอกกระแสคนขี่มาก่อนด้วยซ้ำ บทความนี้จะพาชาวเลือดกรุ๊ปแลมทุกคนไปรีแคปเส้นทางการเดินทางส่วนหนึ่งของ Lambretta ให้เห็นว่ารถจากอิตาลีคันนี้วิ่งผ่านเส้นวัฒนธรรมย่อยเข้าสู่วัฒนธรรมหลักได้อย่างไร เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของแลมกับชีวิตของผู้คนอย่างจริงจัง ไปด้วยกัน หมุดหมายแรกของ Lambretta ในเรื่องเล่าของเรา มาเริ่มต้นเล่าเรื่องนี้กันตรงที่มาทบทวนคำศัพท์กันก่อนดีกว่า และคำเดียวที่คุณจะต้องรู้ก็คือคำว่า ‘ม็อด (Mods)’ ที่หมายถึง ‘สมัยใหม่นิยม (Modernism)’ เป็นคำซึ่งใช้นิยามคนกลุ่มหนึ่งจากเมืองผู้ดีกรุงลอนดอน (London) ในยุค 1950s ที่แน่นอนว่ามี Lambretta เป็นพาหนะเดินทาง เป็นสัญลักษณ์ และเป็นแพชชั่นของชีวิต Mods คือกลุ่มวัยรุ่นที่ฐานะอยู่ในระดับชนชั้นกลาง มีความคิดเห็นต่างต่อบรรทัดฐานของสังคมเพื่อที่จะแสดงถึงความอิสระของตัวเอง และสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นหนุ่มสาวชาว Mods ได้ดีที่สุดคือการคัสตอม Lambretta ที่มีกระจกข้างยุบยับเต็มรอบส่วนหน้าของรถ คำถามที่ว่า “ทำไม?” คำตอบก็คือพวกเขาทำเพื่อประชดรัฐบาลอังกฤษ ณ ช่วงเวลานั้น
“เคยถามตัวเองกันมั้ย ว่าหน้าตาของความสุขที่มีร่วมกับ Lambretta เป็นแบบไหน ?” เราตอบคำถามนี้ได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อบทสนทนาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นกับ ‘เก๋-กมลนิตย์’ จบลง เธอคือหญิงสาวที่ชาวแลมหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ตามงานของ Lambretta ในลุค Vintage Style สุดเท่ แต่ ๆ ๆ ๆ เราเชื่อว่าทุกคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวเบื้องหลังที่เธอมีร่วมกับ Lambretta ดีนัก เพราะความหลงใหลในสไตล์ Vintage ของเธอมันไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เป็นการรับ แลม… บันดาลใจ จากสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนสไตล์คันนี้ด้วย “ชื่อกมลนิตย์ แจ่มทับทิมค่ะ” คุณเก๋แนะนำตัวแบบเขิน ๆ พร้อมกับบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์มาก่อน “มันต้องจริงจังขนาดนี้เลยใช่มั้ยคะ 555” แต่หลังจากเขินอยู่ได้ไม่นานเธอก็บอกว่าพร้อมตอบคำถามต่อไปแล้ว เราจึงไม่รอช้า เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าจุดเริ่มต้นความหลงใหลในสกู๊ตเตอร์อย่างแลมของเธอมาจากไหน และเมื่อต้องพูดถึงจุดเริ่มต้นในการขี่ Lambretta ของคุณเก๋ เธอบอกว่ามีบุคคลสำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ และมีผลต่อความทรงจำที่ดีที่ทำให้เธอได้ขี่แลม มีสังคมแลม จากที่ขับคนเดียวมาโดยตลอด และนี่คือเรื่องราวระหว่าง ‘คุณบังใหญ่’ กับคุณเก๋
“เมื่อพูดถึงกีฬาขี่ม้าโปโล (Polo) ทุกคนนึกถึงอะไร ?” เชื่อเลยว่าภาพของใครหลาย ๆ คนคงเลือนลางมากเมื่อพูดถึงกีฬาชนิดนี้ และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ UNLOCKMEN ติดต่อขอสัมภาษณ์ ‘หมิงหมิง-ชนม์นฤทธ์ โตมงคล’ เด็กหนุ่มที่กำลังเป็นที่จับตามองของวงการกีฬาขี่ม้าโปโลประเทศไทย ที่นอกจากจะเพื่อส่งต่อความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจในฐานะนักกีฬาคนหนึ่งที่เอาจริงกับเส้นทางของตัวเองอย่างสุดชีวิต แล้วก็ต้องการที่จะทลายภาพของคำว่า “Sport of King” ซึ่งถูกแปะป้ายคู่กับกีฬาชนิดนี้มาโดยตลอดด้วย เพราะว่านี่คือกีฬาที่สนุกและไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิดเลยสักนิด บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก ‘สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย (Thailand Polo Association)’ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ ความสนุกของกีฬาขี่ม้าโปโล จนทำให้บทสัมภาษณ์กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นอย่างที่ UNLOCKMEN ตั้งใจเอาไว้ ต้องขอขอบคุณผ่านทางบทความนี้อีกครั้งด้วยครับ “ชื่อ ‘ชนม์นฤทธ์ โตมงคล’ หรือ ‘หมิงหมิง’ ครับ อยู่สังกัด เอสพีพี พัทยา (ทีมที่เล่นในไทย) / และสังกัดทีมชื่อหนุมาน (ทีมแข่งต่างประเทศ) ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัย Stamford International University ปี 1 คณะบริหารธุรกิจ ภาคภาษาอังกฤษ (Bachelor
หลังจากเปิดตัวด้วยบรรยากาศ Private Vibe เลิศหรูในคอนเซปต์ “The Beautiful Sunset of Tokyo” ที่ 2463 Speakeasy ไปแล้ว ถึงเวลาที่ Seiko Presage Cocktail Time จะยกประตูของค็อกเทลบาร์เปิดให้ทุกคนเข้ามาร่วมดื่มด่ำกันอีกครั้งในแบบ Public Space ใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม กับ Pop Up Store กลาง Central World นี่คือเรือนเวลาที่เกิดขึ้นในปี 2017 ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องดื่มค็อกเทลชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นไอเดียของ Hisashi Kishi หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ของ STAR BAR บาร์ชื่อดังในย่านกินซ่ากรุงโตเกียว ผู้ที่เคยได้รับรางวัลสำคัญสูงสุดในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์ของตัวเองอย่าง “International Bar Association World Championships” มาแล้ว ปี 2024 เรือนเวลาในแก้วค็อกเทลจากซีรีส์ Cocktail Time ถูกปรุงแต่งด้วยความพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ โดยมี
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคอลัมน์ Toys For Boys ตอนล่าสุด กดอ่านตรงนี้ก่อนเลยครับ 911 ASSISTANT เพราะเราบุกไปคุยกับ 911 ASSISTANT สถานที่ซึ่งเป็น PORSCHE Specialist ประสบการณ์กว่า 15 ปี ดูแลรถ PORSCHE ได้ทุกรุ่น สถานที่ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากแพชชั่นของผู้ชายคนหนึ่งที่หลงใหลใน PORSCHE และไม่เคยเบนเข็มไปแบรนด์อื่นอีกเลย UNLOCKMEN ขอให้ทาง 911 ASSISTANT เล่าความหลงใหลนั้นผ่านรถในโปรเจกต์พิเศษ 3 คัน และ RUF RT12S ก็คือหนึ่งในรถจากสามคันนั้น ที่เล่าความเป็นแบรนด์ RUF แบรนด์รถเยอรมันที่คนรัก PORSCHE ต้องรู้จัก และเมื่อเราพูดถึงความเป็น Completed Car ของแบรนด์ RUF เป็นรถที่ทุกส่วนคือความเป็น RUF อย่างแท้จริง ก็จำเป็นจะต้องยกรถที่ 911 Assistant ภูมิใจอย่าง RUF RT12S ขึ้นมาเป็นตัวอย่างประกอบด้วย และนี่คือรถไฮไลต์สำคัญที่พา