ขอเล่าย้อนกลับไปสักนิดก่อนจะเข้าเนื้อหาหลักที่โปรยเอาไว้บนเฮดไลน์ของบทความ (เพื่ออรรถรสที่สนุกมากขึ้นน่ะ) Rado แบรนด์นาฬิกาชั้นนำจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ เคยร่วมงานกับดีไซเนอร์ชื่อดังสามคนจากหลากแขนงมาร่วมออกแบบเรือนเวลาในซีรีส์ True ตามความสามารถที่แต่ละคนถนัด – Rado True Phospho ออกแบบโดยสตูดิโอ Big-Game บริษัทออกแบบชั้นหัวแถวของสวิตเซอร์แลนด์ – Rado True Blaze ออกแบบโดย Sam Amoia นักออกแบบภายในระดับโลก (Interior Design) และเมื่อปี 2017 Rado True Shadow ออกแบบโดย Kunihiko Morinaga แฟชั่นดีไซเนอร์ตัวท็อปแห่งวงการสิ่งทอแบบโฟโตโครมิก (Photochromic) ซึ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทันทีที่ปล่อยคอลเลกชันออกมา เวลาผ่านไป 7 ปี วันนี้ Kunihiko Morinaga กลับมาพร้อมกับโปรเจกต์ที่พิเศษและเต็มไปด้วยความท้าทายใหม่ ๆ นำเสนอนาฬิการุ่น True Square x Kunihiko Morinaga ในปี 2024 ขึ้นมา แค่ชื่อก็น่าตื่นเต้นแล้ว เพราะได้ใช้ชื่อแบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์และชื่อ–นามสกุลภาษาญี่ปุ่นของเขาต่อกันเลย เล่ากันสั้น ๆ สำรับชื่อของ Kunihiko Morinaga ถูกนิยามเอาไว้ 2 ประโยค ‘นักวิทยาศาสตร์แห่งแฟชั่น’ และ ‘นักบทกวีแห่งแฟชั่น’ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ของตั้วเอง ANREALAGE ตอนอายุ 23 เท่านั้น เขาปฎิวัติวงการแฟชั่นโดยความสามารถพิเศษในการทำ Photochromic Design บนเสื้อผ้า ถึงขนาดถูกเรียกว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ และด้วยความสนใจในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนี่เอง ที่ทำให้เคมีร่วมงานกับ Rado ลงตัวในผลงานอย่างที่สุด True Square x Kunihiko Morinaga คือผลงานล่าสุดหลังคอลเลกชันเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
The Who คือวงดนตรีในปี 1964 จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มต้นจากเด็กหนุ่ม 4 คน Roger Daltrey (ร้องนำ) / Pete Townshend (กีตาร์) / John Entwistle (เบส) / Keith Moon (กลอง) พวกเขาเป็นวงดนตรีที่มีความสำคัญต่อวัฒนธรรมของชาว Mods (Modernism) และผูกพันกับภาพของ Lambretta มากที่สุดเท่าที่วงดนตรีวงหนึ่งเคยมีมา และความผูกพันนั้นถูกบันทึกผ่านเสียงเพลงที่ส่งต่อเป็นวัฒนธรรมจากสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 6 ของวง ที่มีรูปเด็กหนุ่มคนหนึ่งขึ้นคร่อมสกู๊ตเตอร์ด้วยแฟชั่นอิตาเลียนสไตล์ Parkas ของ Mods แต่บอกก่อนเลยว่ามันไม่ใช่แค่ภาพเอาเท่เฉย ๆ ในบทความนี้เราจะมาเล่าเส้นทางระหว่าง The Who กับสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนสไตล์คันนี้กัน อัลบั้ม Quadrophenia ถูกวางเพลงเอาไว้เป็นแบบที่เรียกว่า “Concept Album” สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับสิ่งนี้ มันคือการทำอัลบั้มแบบที่ทุกเพลงจะเล่าเรื่องเพียงเรื่องเดียวจากคอนเซปต์ที่ถูกวางเอาไว้ อาจจะเป็นเรื่องราวที่แต่งขึ้น เป็นเหตุการณ์จากประวัติศาสตร์จริง หรือเป็นอะไรก็ตาม แต่สำหรับ The
ชื่อของ Lambretta กว่าจะถูกแปะอยู่ในวัฒนธรรมหลัก Pop Culture เป็น Scooter สัญชาติ Italian จากเมือง Milan สไตล์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครได้อย่างทุกวันนี้ต้องบอกว่าเป็นการเดินทางที่ยาวไกลมาก และย้อนกลับไปตั้งแต่ปี 1947 นู่นเลย แล้วเป็นการเดินทางที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียง Subculture ทางเลือกนอกกระแสคนขี่มาก่อนด้วยซ้ำ บทความนี้จะพาชาวเลือดกรุ๊ปแลมทุกคนไปรีแคปเส้นทางการเดินทางส่วนหนึ่งของ Lambretta ให้เห็นว่ารถจากอิตาลีคันนี้วิ่งผ่านเส้นวัฒนธรรมย่อยเข้าสู่วัฒนธรรมหลักได้อย่างไร เพื่อให้เข้าใจความสัมพันธ์ของแลมกับชีวิตของผู้คนอย่างจริงจัง ไปด้วยกัน หมุดหมายแรกของ Lambretta ในเรื่องเล่าของเรา มาเริ่มต้นเล่าเรื่องนี้กันตรงที่มาทบทวนคำศัพท์กันก่อนดีกว่า และคำเดียวที่คุณจะต้องรู้ก็คือคำว่า ‘ม็อด (Mods)’ ที่หมายถึง ‘สมัยใหม่นิยม (Modernism)’ เป็นคำซึ่งใช้นิยามคนกลุ่มหนึ่งจากเมืองผู้ดีกรุงลอนดอน (London) ในยุค 1950s ที่แน่นอนว่ามี Lambretta เป็นพาหนะเดินทาง เป็นสัญลักษณ์ และเป็นแพชชั่นของชีวิต Mods คือกลุ่มวัยรุ่นที่ฐานะอยู่ในระดับชนชั้นกลาง มีความคิดเห็นต่างต่อบรรทัดฐานของสังคมเพื่อที่จะแสดงถึงความอิสระของตัวเอง และสิ่งที่แสดงออกถึงความเป็นหนุ่มสาวชาว Mods ได้ดีที่สุดคือการคัสตอม Lambretta ที่มีกระจกข้างยุบยับเต็มรอบส่วนหน้าของรถ คำถามที่ว่า “ทำไม?” คำตอบก็คือพวกเขาทำเพื่อประชดรัฐบาลอังกฤษ ณ ช่วงเวลานั้น
“เคยถามตัวเองกันมั้ย ว่าหน้าตาของความสุขที่มีร่วมกับ Lambretta เป็นแบบไหน ?” เราตอบคำถามนี้ได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อบทสนทนาสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นกับ ‘เก๋-กมลนิตย์’ จบลง เธอคือหญิงสาวที่ชาวแลมหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาบ้าง ตามงานของ Lambretta ในลุค Vintage Style สุดเท่ แต่ ๆ ๆ ๆ เราเชื่อว่าทุกคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องราวเบื้องหลังที่เธอมีร่วมกับ Lambretta ดีนัก เพราะความหลงใหลในสไตล์ Vintage ของเธอมันไม่ใช่แค่เรื่องของเสื้อผ้าเท่านั้น แต่เป็นการรับ แลม… บันดาลใจ จากสกู๊ตเตอร์อิตาเลียนสไตล์คันนี้ด้วย “ชื่อกมลนิตย์ แจ่มทับทิมค่ะ” คุณเก๋แนะนำตัวแบบเขิน ๆ พร้อมกับบอกว่าไม่เคยให้สัมภาษณ์มาก่อน “มันต้องจริงจังขนาดนี้เลยใช่มั้ยคะ 555” แต่หลังจากเขินอยู่ได้ไม่นานเธอก็บอกว่าพร้อมตอบคำถามต่อไปแล้ว เราจึงไม่รอช้า เพราะก็อยากรู้เหมือนกันว่าจุดเริ่มต้นความหลงใหลในสกู๊ตเตอร์อย่างแลมของเธอมาจากไหน และเมื่อต้องพูดถึงจุดเริ่มต้นในการขี่ Lambretta ของคุณเก๋ เธอบอกว่ามีบุคคลสำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ และมีผลต่อความทรงจำที่ดีที่ทำให้เธอได้ขี่แลม มีสังคมแลม จากที่ขับคนเดียวมาโดยตลอด และนี่คือเรื่องราวระหว่าง ‘คุณบังใหญ่’ กับคุณเก๋
“เมื่อพูดถึงกีฬาขี่ม้าโปโล (Polo) ทุกคนนึกถึงอะไร ?” เชื่อเลยว่าภาพของใครหลาย ๆ คนคงเลือนลางมากเมื่อพูดถึงกีฬาชนิดนี้ และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ UNLOCKMEN ติดต่อขอสัมภาษณ์ ‘หมิงหมิง-ชนม์นฤทธ์ โตมงคล’ เด็กหนุ่มที่กำลังเป็นที่จับตามองของวงการกีฬาขี่ม้าโปโลประเทศไทย ที่นอกจากจะเพื่อส่งต่อความมุ่งมั่นและแรงบันดาลใจในฐานะนักกีฬาคนหนึ่งที่เอาจริงกับเส้นทางของตัวเองอย่างสุดชีวิต แล้วก็ต้องการที่จะทลายภาพของคำว่า “Sport of King” ซึ่งถูกแปะป้ายคู่กับกีฬาชนิดนี้มาโดยตลอดด้วย เพราะว่านี่คือกีฬาที่สนุกและไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิดเลยสักนิด บทสัมภาษณ์ในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก ‘สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย (Thailand Polo Association)’ ที่มีเป้าหมายเดียวกัน พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้ ความสนุกของกีฬาขี่ม้าโปโล จนทำให้บทสัมภาษณ์กลมกล่อมมากยิ่งขึ้นอย่างที่ UNLOCKMEN ตั้งใจเอาไว้ ต้องขอขอบคุณผ่านทางบทความนี้อีกครั้งด้วยครับ “ชื่อ ‘ชนม์นฤทธ์ โตมงคล’ หรือ ‘หมิงหมิง’ ครับ อยู่สังกัด เอสพีพี พัทยา (ทีมที่เล่นในไทย) / และสังกัดทีมชื่อหนุมาน (ทีมแข่งต่างประเทศ) ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัย Stamford International University ปี 1 คณะบริหารธุรกิจ ภาคภาษาอังกฤษ (Bachelor
หลังจากเปิดตัวด้วยบรรยากาศ Private Vibe เลิศหรูในคอนเซปต์ “The Beautiful Sunset of Tokyo” ที่ 2463 Speakeasy ไปแล้ว ถึงเวลาที่ Seiko Presage Cocktail Time จะยกประตูของค็อกเทลบาร์เปิดให้ทุกคนเข้ามาร่วมดื่มด่ำกันอีกครั้งในแบบ Public Space ใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม กับ Pop Up Store กลาง Central World นี่คือเรือนเวลาที่เกิดขึ้นในปี 2017 ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องดื่มค็อกเทลชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นไอเดียของ Hisashi Kishi หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ของ STAR BAR บาร์ชื่อดังในย่านกินซ่ากรุงโตเกียว ผู้ที่เคยได้รับรางวัลสำคัญสูงสุดในสายอาชีพบาร์เทนเดอร์ของตัวเองอย่าง “International Bar Association World Championships” มาแล้ว ปี 2024 เรือนเวลาในแก้วค็อกเทลจากซีรีส์ Cocktail Time ถูกปรุงแต่งด้วยความพิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ โดยมี
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ของคอลัมน์ Toys For Boys ตอนล่าสุด กดอ่านตรงนี้ก่อนเลยครับ 911 ASSISTANT เพราะเราบุกไปคุยกับ 911 ASSISTANT สถานที่ซึ่งเป็น PORSCHE Specialist ประสบการณ์กว่า 15 ปี ดูแลรถ PORSCHE ได้ทุกรุ่น สถานที่ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากแพชชั่นของผู้ชายคนหนึ่งที่หลงใหลใน PORSCHE และไม่เคยเบนเข็มไปแบรนด์อื่นอีกเลย UNLOCKMEN ขอให้ทาง 911 ASSISTANT เล่าความหลงใหลนั้นผ่านรถในโปรเจกต์พิเศษ 3 คัน และ RUF RT12S ก็คือหนึ่งในรถจากสามคันนั้น ที่เล่าความเป็นแบรนด์ RUF แบรนด์รถเยอรมันที่คนรัก PORSCHE ต้องรู้จัก และเมื่อเราพูดถึงความเป็น Completed Car ของแบรนด์ RUF เป็นรถที่ทุกส่วนคือความเป็น RUF อย่างแท้จริง ก็จำเป็นจะต้องยกรถที่ 911 Assistant ภูมิใจอย่าง RUF RT12S ขึ้นมาเป็นตัวอย่างประกอบด้วย และนี่คือรถไฮไลต์สำคัญที่พา
เนื่องจากว่าบทสัมภาษณ์ Toys For Boys ตอนล่าสุด ที่ UNLOCKMEN บุกไปคุยกับ 911 ASSISTANT ถึงความหลงใหลในแบรนด์ PORSCHE มีความยาว (มากกก) เราจึงทำการแบ่งออกมาทำเป็นบทความ Spin-Off ที่พูดถึงรถ Special Project ที่คุยกันอย่างเดียวไปเลย (มีทั้งหมด 3 คัน) และ 1991 964 TURBO ก็เป็นรถ Conversion ที่แสดงความหลงใหลในแบรนด์ PORSCHE และแบรนด์ RUF ของ 911 ASSISTANT ได้ดีที่สุดคันหนึ่งเลยล่ะ สิ่งไหนคือความเป็น RUF แบรนด์รถเยอรมันที่เคารพในความเป็น PORSCHE มาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นทำแบรนด์ตั้งแต่ Day1 ที่ถึงแม้ว่าพอทำรถ RUF เป็นของตัวเองแล้ว ก็ยังคงได้รับแรงบันดาลใจจาก Heritage Story มาจาก PORSCHE อยู่ รถรุ่น 964 TURBO
นี่คือบทความ Spin-Off จากบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มของคอลัมน์ Toys For Boys 911 ASSISTANT ที่ UNLOCKMEN บุกไปที่ทำการของ 911 ASSISTANT เพื่อคุยกันถึงความหลงใหลในแบรนด์ PORSCHE พร้อมเปิดตัวเป็น PORSCHE SPECIALIST มาตลอด 15 ปี และนี่คือหนึ่งใน Special Project Car หนึ่งในสามคันที่ทาง 911 พาเราเดินดูในวันนั้น รถที่มีชื่อว่า 1967 911S HORN GRILLE รถคันนี้คือโปรเจกต์ระยะยาวที่ใช้เวลาทั้งหมดถึง 5 ปี ในการทำ Restoration เพื่อย้อนเวลากลับไปสู่วันที่ PORSCHE 911S SWB (Short Wheel Base) คันนี้ ออกจากโรงงานในปี 1967 และเป็นโปรเจกต์ที่ใช้คำว่า Complete ยังไม่ได้ ! เหตุผลเพราะคุณอาร์มเชื่อว่าสิ่งที่ดีที่สุดของการทำรถยนต์คันนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะตามหาอะไหล่พาร์ทต่าง ๆ ที่ดีที่สุดได้ครบทั้งได้หมดในตอนไหน
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลใน PORSCHE นั่นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เคยได้ยินชื่อของ 911 Assistant ไม่ใช่แค่สักครั้งหรือสองครั้ง แต่ได้ยินมาตลอดไม่ต่ำกว่าสิบหรือยี่สิบครั้งแน่ ๆ แต่หากว่าคุณยังไม่รู้จัก 911 Assistant ทั้ง ๆ ที่รัก Porsche นั่นก็ไม่เป็นไรเลย แค่เลื่อนลงไปอ่านบรรทัดถัดไปก็จะทำให้รู้จักมากขึ้นแล้ว 911 Assistant เป็น Porsche Specialist ที่ดูแลครบวงจร One-Stop-Service มาตลอด 15 ปี (ด้วยประสบการณ์ 20 ปี) มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษสำหรับเครื่องยนต์ Air-Cooled มีแผนกซื้อ-ขาย มี Workshop 16 ช่องซ่อม ที่รองรับตั้งแต่การบำรุงรักษาทั่วไป อัปเกรด ไปจนถึง Restoration Porsche Classic สามารถดูแล PORSCHE ได้ทุกรุ่นตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงโมเดลปัจจุบัน อย่างที่โปรยเอาไว้ใน Headline ของบทความนี้ Toys For Boys ตอนใหม่เราบุกไปถึงที่ทำการของ 911 Assistant