Midsummer Night’s Dream Bar ค็อกเทลบาร์ลึกลับ กับเครื่องดื่มที่สร้างจากบทประพันธ์ของ William Shakespeare

พูดถึงอีกหนึ่งค็อกเทลบาร์ที่พลาดไม่ได้ในตอนนี้ เราอยากให้คุณได้ไปสัมผัส Midsummer Night’s Dream Bar ที่เพิ่งได้เปิดตัวเมนูองก์ใหม่ องก์แรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกอบด้วยค็อกเทล 15 ตัวที่ได้แรงบันดาลใจจากบทประพันธ์รักร้ายชิ้นเอก A Midsummer Night’s Dream ของ William Shakespeare ว่าด้วยเรื่องราวความลุ่มหลง ปรารถนา ที่ผิดฝาผิดตัว ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละแก้วที่ได้ลิ้มลองมีรสสัมผัสที่พิถีพิถัน ต้องกลับไปซ้ำอีกแน่นอน

ค็อกเทลบาร์แห่งนี้มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยเมื่อเปิดประตูผ่าน Wynnwood Florist ในชั้นที่ 1 และเดินขึ้นบันใดวนมาที่ชั้น 2 จะเป็นค็อกเทลบาร์ที่เสิร์ฟซิกเนเจอร์ คลาสสิคและบีสโปคค็อกเทล โดยคอนเซปต์ของชั้นนี้จะเป็นสถานที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ นักดื่มหรือบาร์เทนเดอร์ ชั้น 3 ของร้านจะเป็น จินบาร์ ซึ่งถูกรวบรวมมาโดยเจ้าของร้านซึ่งหลงไหลในจิน ซึ่งทางร้านมีจินให้เลือกมากกว่า 90 ตัว โดยบาร์เทนเดอร์จะช่วยแนะนำโทนิกและการ์นิชที่เหมาะสมกับตัวจินที่ลูกค้าเลือกเพื่อมอบประสบการณ์การดื่มจินที่ล้ำลึก และยังเป็นชั้นที่ลูกค้าจะได้ดื่มด่ำกับการแสดงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดีเจ วงดนตรีแจ๊ส ชั้น 4 ของร้านจะเป็น ไพรเวท วิสกี้ บาร์ซึ่งผู้ที่รักวิสกี้สามารถดื่มด่ำกับวิสกี้หายากที่ทางร้านเลือกสรรค์ และปิดห้องเพื่อการสังสรรค์ส่วนตัว

Midsummer Night’s Dream Bar เกิดขึ้นจากจากการรวมตัวของเหล่าผู้ที่มีความหลงไหลในเครื่องดื่มที่มาจากหลากหลายอาชีพ อาทิ คุณพีรพัสภ์ บุญประสิทธิ์ ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ และผู้หลงใหลในจินหายาก, คุณนวินดา แก้วดอนหัน เจ้าของร้าน Wynnwood Florist, รังสีแพทย์และรักในการดื่มค็อกเทล พญ. พิกุล ชัยจิตวณิชกุล, นักธุรกิจ ผู้หลงใหลในวิสกี้และซิงเกิ้ลมอลต์ คุณเศรษฐพงศ์ ศรีสุภรวาณิชย์, คุณไชยากร วัฒน์ประกายรัตน์ ผู้ที่รักในไวน์และคุณภิชาภัช มหาทิตยากุล นักแสดงชื่อดัง

ส่วนซิกเนเจอร์ดริ้งค์ในองก์แรก ทั้งหมดถูกรังสรรค์โดยยึดคอนเซปต์หลักคือทุกดริ้งค์ต้องมีส่วนผสมของดอกไม้เป็นส่วนผสมหลัก โดยผ่านโมเดิร์นเทคนิค เช่น ซูวีด์, การกลั่นซ้ำ หรือ รีดิสทิล, ซาครั่ม นอกจากนั้นแต่ละดริ้งค์ต้องกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ รูป กลิ่น เสียง สัมผัสและรสชาติ โดยรสชาติของแต่ละดริ้งค์จะต้องมี 3 ระดับเหมือนน้ำหอมที่ต้องมี ท็อปโน้ต – รสสัมผัสแรกที่จิบ เคล้าไปกับกลิ่นของเครื่องดื่ม, มิดเดิ้ลโน้ต – รสชาติหลักและ บอดี้หรือน้ำหนักของเครื่องดื่ม และเบสโน้ต – กลิ่นและรสที่ยังคงค้างอยู่ในลำคอ

เมนูองก์แรกนี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน เหมือนการเล่าเรื่องย่อของบทละคร โดยส่วนแรกจะเป็นเหตุการณ์ช่วงต้นของบทละครที่ตัวละครหลัก 4 หนีเข้าป่าเพราะปัญหารักสี่เส้า โดยหนึ่งในค็อกเทลของส่วนนี้ หรือ Scene I คือ Reflection of the Forest ที่เป็นดั่งภาพสะท้อนของป่าแห่งความฝันของเหล่าภูติที่ตัวละครหลักทั้ง 4 หนีเข้าไป ตัวดริ้งค์เป็นฟิซซี่ดริ้งค์ ที่มีกลิ่นหอมจากโฟมแอร์ของดอกหอมหมื่นลี้เป็นท็อปโน้ต มีมิดเดิ้ลโน้ตและบอดี้ที่ดื่มง่ายได้กลิ่นของคาโมมายล์ และมีชั้นของเจลลี่องุ่นและมิ้นต์ลิเคียวที่ค่อยๆ ส่งกลิ่นเป็นเบสโน้ต นอกจากนี้ยังมีเท็กซ์เจอร์ของเยลลี่อีกด้วย

ส่วนที่ 2 จะกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่าของเหล่าภูตที่ความวุ่นวายต่างๆ ก่อตัวขึ้น โดนหนึ่งในดริ้งค์ของส่วนนี้ คือ Drop of Enchanted คือดริ้งค์ที่ได้แรงบันกาลใจจากยาเสน่ห์ที่ Oberon ทำขึ้นเพื่อใช้กับ Titania ราชินีของตนตกหลุมรักกับสิ่งมีชีวิตแรกที่เธอลืมตาตื่นมาเห็น Drop of Enchanted เป็นดริ้งค์เปรี้ยวหวาน มีท็อปโน้ตของซากุระซึ่งถูกนำมาทำเป็นบิตเตอร์ส มีมิดเดิ้ลโน้ตของบ๊วย ผสมกับซากุระดองเค็ม และถูกทำให้รสชาตินวลขึ้นด้วยไข่ขาว และเบสโน้ตของเอฮิเระ หรือ ครีบปลากระเบนตากแห้งที่มาในรูปของเวอร์มูธ และกลิ่นของลูกควินซ์

ในส่วนที่ 3 ของเมนูจะเป็นช่วงท้ายของบทละคร เมื่อเรื่องทุกอย่าง คลี่คลาย ซึ่งดริ้งค์ในหมวดนี้ คือ Theseus Morning Hunt ที่ออกมาล่าสัตว์ยามเช้า และพบเจอคู่รักทั้ง 4 สลบสไหลอยู่ในป่า ตัวดริ้งค์จะมีความอูมามิ และมีท็อปโน้ตเป็นเบค่อนที่กลมกลืนกับกลิ่นอ่อนๆ ของเครื่องเทศและความนุ่มของโฟมมัลด์ไวน์ มิดเดิ้ลโน้ตเป็นรัมใบเนียมที่สอดรับกับความหอมมันของคัสตาร์ด และเบสโน้ตแบบทรอปิคัลอ่อน ๆ ของสับปะรสและใบเตย

ส่วนที่ 4 ของเมนูจะเเป็นส่วนที่สรรเสริญบทละครเรื่องนี้ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดื่มอย่าง Midsummer Night’s Dream ซึ่งเป็นดริ้งค์ที่ทวิสต์มาจากคลาสสิคค็อกเทลที่มีชื่อว่า New York Sour โดยปรกติดริ้งค์ตัวนี้จะเป็นค็อกเทลที่เบสด้วยวิสกี้แล้วท็อปด้วยไวน์ แต่สำหรับดริ้งค์ที่มีชื่อว่า Midsummer Night’s Dream กลับโครงสร้างเป็นค็อกเทลที่เบสด้วยไวน์และท็อปด้วยวิสกี้แบ่งเป็นเลเยอร์ เหมือนเรื่องราวที่ของบทละครเรื่องนี้ที่กลับตาลปัตร ซึ่งมีท็อปโน้ตเป็นวิสกี้ที่หนักแน่น ผสานกับกลิ่นหอมแหลมของดอกส้ม มิดเดิ้ลโน้ตเป็นฟิโนแชร์รี่ที่หวานหอม เจอขมบางๆ จากควินิน และเบสโน้ตเป็นดอกไม้และรากไม้ซึ่งจะปรากฏขึ้นเมื่อชั้นของดริ้งค์ผสมกันในปาก

สำหรับดริ้งค์ซิกเนเจอร์ขององก์ 1 มีด้วยกันทั้งหมด 15 ตัว ซึ่ง Midsummer Night’s Dream Bar เสิร์ฟดริ้งค์ให้ลูกค้าทุกวันตั้งแต่เวลา 6 โมงจนถึงเวลาร้านปิดทำการ

สำหรับผู้ที่สนใจติดต่อได้ที่

Facebook: Midsummer Night’s Dream Bar
Instagram: @midsummernightdreambar
Telephone: 082 646 0949
Address: 61/2 ทองหล่อ, คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
Time: 18:00 – 02:00