

Business
‘GRAB’ ALL SMART CAB! : ฉกให้เรียบสมชื่อ GRAB กับการเทคโอเวอร์โยก UBER มาเป็นลูกไก่ในกำมือ
By: unlockmen March 26, 2018 98492
COUNTDOWN ต่อไปอีก 2 อาทิตย์ ก่อน D-day วันที่ 8 เมษายน 2561 ถึงจะได้เวลาปิดไฟว่างรับผู้โดยสารไปตลอดกาลภายใต้แบรนด์สีเทา – ดำ กับโลโก้ตัว “U” ของ UBER เพราะจากนี้ต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ใต้อาณัติของ GRAB โดยสมบูรณ์ จากข่าวที่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการและกระฉ่อนที่สุดต้นสัปดาห์นี้ เรื่อง GRAB เข้าเทคโอเวอร์กิจการโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เหี้ยนกับการประกาศการจับมือครอบครัวเดียวกันระหว่าง GRAB และ UBER แต่ครอบครัวนี้เน้นสีเขียวเป็นใหญ่เท่านั้นเอง
ชาว UNLOCKMEN คนไหนอยากจะมันส์และไม่ตกข่าวกับกลยุทธ์สุดพิเศษนี้มาตามดู RECAP ให้เป็นเรื่องเป็นราวด้านล่างกัน
บ๊ายบายยยย นายอูเบอร์เพื่อนยาก ไหน ๆ นายจะลอกคราบไปเกิดใหม่เป็น GRAB เราก็จะไม่ลืมการมีอยู่ของนาย เพราะก็พึ่งพากันมาแต่ไหนแต่ไร ขอบคุณนะที่ยกระดับการขับขี่แท็กซี่ไทย
รากไอเดียทางธุรกิจของ UBER มันล้ำและเฉียบเหนือคนอื่น เพราะทั้งดำริทั้งลงมือบุกตลาดไปตามเมืองใหญ่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ทว่าการเติบโตขยายตัวของ UBER เปรียบได้กับเด็กวัยตั้งไข่ที่อยากลุกวิ่งพรวดเสียเต็มแก่ในธุรกิจแท็กซี่ เพราะพอก้าวแรกมันดีก็คิดว่าก้าวต่อไปจะดี แต่ความจริงการขยายอย่างรวดเร็วคือดาบสองคม เพราะย่ิงโตเร็วเท่าไหร่หมายถึงหนี้ที่เพิ่มขึ้นตามด้วย ผสมกับเมื่อเอะอะขยายสาขาเป็นว่าเล่นมันก็มาถึงจุดที่ต้องเจอตอของเจ้าถิ่นกันบ้าง ทั้งเรื่องกฎหมาย วัฒนธรรม เช่น ในประเทศไทยของเราอย่างน้อยก็หนึ่งแห่งที่การเรียก UBER แต่ละทีต้องระแวดระวังเหล่าพี่ชายในเครื่องแบบโบกเพราะขัดกับข้อกฎหมาย ขัดขากับเจ้าถิ่น ทำให้เรียกได้ว่าอยู่ยากกันพอสมควร หรือในสิงคโปร์ที่ GRAB เอาชนะไปทั้งเรื่องค่าใช้บริการที่ถูกกว่า และการชำระเงินที่สะดวกกว่าไม่ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว
จากต้นทุนที่ที่ต้องแบกรับและปัญหามากมายที่กล่าวไปจึงอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ UBER ต้องสมยอมขายกิจการหรือเปิดโอกาสให้กิจการคู่แข่งในประเทศต่าง ๆ เข้า TAKE OVER
สิ่งที่น่าสนใจที่หลายเพจออกมาพูดถึงคือการยอมยกธงขาวให้ take over ของ UBER ถึง 3 หน ทั้งจากประเทศมหาอำนาจซัวเถาอย่างจีน ยักษ์ใหญ่วงการไอทีอย่างรัฐเซีย และการยื่นมือไปจับกับ GRAB เอาดื้อ ๆ ให้ take over โซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดทั้งที่ขับเคี่ยวกับมาดี ๆ และที่สำคัญยังครอบกิจการแท็กซี่ในบางประเทศอย่างเวียดนามได้แล้วแท้ ๆ มันอาจเป็นแผนหรือการล้มบนฟูกของ UBER หรือไม่
เพราะแม้จะยอมให้เจ้าอื่นเข้าเทคโอเวอร์แต่ UBER ก็ไม่ทิ้งลายใช้วิธีฝากเอาไว้ในกายเธอ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการยอมแพ้ที่ดูจะกลิ่นตุ ๆ หน่อย เพราะเฮียแกเล่นขอพื้นที่เป็นหุ้นส่วนกับทุกเจ้าที่เข้า take over ในจำนวนไม่น้อย เช่น
ที่สำคัญการย้ายค่ายครั้งนี้ พวก DATA ทั้งหลายของ UBER ไม่ว่าจะเป็นคนขับ ลูกค้า ผู้จัดส่งและพันธมิตรร้านอาหารจากแอพพลิเคชั่น UBER EATS จะถูกย้ายไปยังแพลตฟอร์มของ GRAB ทำให้สิ่งที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของ UBER ทั้งหมดไม่ระหกระเหินตกระกำลำบากมากนัก จึงน่าสนใจว่าการเคลื่อนไหวของ UBER ในครั้งนี้อาจเป็นการยอมขายเพื่อหวังฮุบเอากำไรจากภายใน ตามเกม Othello ที่แม้จะโดนอีกฝ่ายกินแต่สุดท้ายการวางหมากแฝงไว้ในแดนศัตรูก็อาจพาชัยชนะกลับมาได้ ไม่ใช่การพ่ายแพ้แบบลูกไก่อย่างที่หลายคนเข้าใจ
Dara Khosrowshahi / Credit Photo: http://fortune.com/
แต่ไม่ว่ามันจะเกมหรือความซวยจริงแล้วพยายามถอยหลังตั้งหลัก สิ่งที่ฝั่ง Dara Khosrowshahi ออกมาชี้แจงคือ
“ไม่ว่าจะเป็นการขายธุรกิจที่ รัสเซีย จีน หรือในครั้งนี้เองไม่ใช่กลยุทธ์หลักของบริษัท แต่ทำไปเพื่อลดค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะได้กลับไปโฟกัสหลังของตลาดตัวเองอีกครั้ง”
ผลลัพธ์สุดท้ายปลายทางที่แท้ของ UBER ไม่ว่าจะเป็นลูกไก่ หรือเจ้าเกมกระดาน หรือจะมีรูทอื่นอีกในรูปแบบไหนก็ตาม แต่พูดแทนชาว UNLOCKMEN ในฐานะผู้บริโภคแล้ว เมื่อมีการลดหน่วยการแข่งขันทางธุรกิจให้เหลือเพียงเจ้าเดียว อาจทำให้เราเจอปัญหาการผูกขาดทางราคาภายหลังก็ได้ซึ่งเรื่องมันจะหมู่หรือจ่า เราคงจะได้เห็นหลังวันที่ 8 เมษายนนี้ก่อนรับปีใหม่ไทยกันนี่แหละ หรือบางทีภาพมันอาจจะไม่เป็นแง่ร้ายอย่างที่คิด แต่เป็นของขวัญรับปีใหม่อย่างที่ Anthony Tan ซึ่งเป็น CEO ของทาง GRAB กล่าวไว้ก็ได้ว่า
Anthony Tan / Credit Photo: www.forbes.com
“วันนี้เป็นยุคใหม่ที่ผู้นำกิจการแพลตฟอร์มเรียกรถสองกิจการควบรวมกัน เพื่อที่จะได้เติมเต็มสำหรับผู้ใช้บริการ”
ชาว UNLOCKMEN ก็อย่าลืมติดตามแล้วมาอัปเดตการใช้บริการแท็กซี่โฉมใหม่แล้วเล่าสู่กันฟังบ้างนะ