GUIDE: เปิดโลกกาแฟ สัมผัสความฮิปฯ กับลายแทงร้าน Speciality Coffee ในกรุงเทพฯ

เมื่อก่อนเราอาจดื่ม ‘กาแฟ’ กันเพื่อเอาคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดเพิ่มความกระปรี้กระเปร่ากันซะส่วนมาก แต่ตอนนี้ คนที่ดื่มกาแฟเพื่อสัมผัสรสชาติที่ซับซ้อนของกาแฟก็มีมากขึ้น แถมร้าน Speciality Coffee ก็มีเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน UNLOCKMEN เลยอยากคัดเลือกร้านกาแฟมาแนะนำทุกคน เพื่อให้ทั้งคนที่สนใจกาแฟอยู่แล้ว หรือ มือใหม่หัดดื่ม ได้รู้พิกัดและไปค้นหารสกาแฟใหม่กัน

Hands and Heart

มาเริ่มกันที่ร้านแรก Hands and Hearts ซึ่งร้านกาแฟที่ฮิปมาก ๆ โดยมาในสไตล์ญี่ปุ่นมินิมอล มีความเรียบง่ายด้วยการใช้สีขาวโพลนทั้งร้าน และมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะหินอ่อน โซฟาสีขาว หรือ บีนแบ็ก ซึ่งถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถันให้มาอยู่ด้านในร้าน

ที่ร้านจะมีมุมให้เราชิวหลายมุมอยู่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นมุมนั่งจิบกาแฟ มุมนั่งทำงาน หรือ มุมนอกร้านที่เป็นสวนหินญี่ปุ่น โดยเราสามารถรับลม ชมวิว หรือ สูบบุหรี่ตรงนั้นก็ทำได้ แต่นอกจากความเด่นในเรื่อง vibe แล้ว กาแฟของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะเจ้าของร้านได้ศึกษาเรื่องกาแฟมาเป็นเวลานับปีกว่าจะตัดสินใจเปิดร้าน จึงมั่นใจในความเชี่ยวชาญและรสชาติกาแฟของร้านได้มากพอสมควร เมนูกาแฟของทางร้านจะเน้นไปที่การทำกาแฟฟิลเตอร์เป็นหลัก เช่น Drip หรือ Chemex และมีเมล็ดกาแฟคุณภาพดีให้เลือกสรรมากมาย บอกเลยว่า ใครที่กำลังหามุมสงบดื่มกาแฟ ควรจดร้านนี้ไว้ในลิสต์ !!

ที่ตั้ง: ซอยสุขุมวิท 38 กรุงเทพฯ

เวลาเปิดปิด: ทุกวัน (11.00 – 17.00)

เว็บไซต์: https://www.handsandheartcoffee.com/

เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/handsandheartcoffeeroasters

Factory Coffee

ร้านต่อมาที่เราอยากแนะนำ คือ Factory Coffee ร้านกาแฟที่อยู่ติด BTS พญาไท พร้อมการตกแต่งภายในสไตล์ลอฟท์ ที่ทำให้ร้านดูเหมือนโรงงานตามชื่อ Factory Coffee โดยบาริสต้าของที่นี่เรียกได้ว่ามากฝีมือ เพราะเคยได้รางวัลมารายหลายการ ไม่ว่าจะเป็น เข้ารอบ 13 คนสุดท้ายของการแข่งขัน World Barista Championship  ปี 2018 หรือการเป็นแชมป์ Thailand Barista Champion ปี 2017, 2018, 2020 และอีกหลายรายการ

ผลงานขนาดนี้ เราจึงวางใจเรื่องคุณภาพกาแฟของร้านได้ ทางร้านมีหลายเมนูกาแฟให้เราเลือกตั้งแต่ กาแฟดริป เอสเปรสโซ่ หรือ โคลด์บริว ใครที่เพิ่งเริ่มเข้าวงการกาแฟ เราอยากให้มาร้านนี้ก่อน เพราะร้านจะทำให้เราชอบกาแฟมากขึ้น

ที่ตั้ง: ใกล้สถานี BTS พญาไท

เวลาเปิดปิด: ทุกวัน (08.00 – 18.00)

เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/factorybkk

Walden Coffee

ใครที่มองหาร้านกาแฟที่ทำให้รู้สึก “Feel at home” ลองไปเยี่ยม Walden Coffee กันดู ร้านนี้จะเป็นโฮมคาเฟ่ ที่อยู่ในย่านคลองสาน  การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์วินเทจ โดยเมื่อมาที่ร้านเราจะเห็นโปสเตอร์เก่า ชั้นวางหนังสือสุดฮิป เฟอร์นิเจอร์ที่ดูมีอายุ รวมถึงผนังของร้านที่ให้ความรู้สึกดิบความเก่าแก่ ซึ่งเจ้าของร้านได้มีส่วนร่วมในการตกแต่งร้านและใส่รายละเอียดภายในทั้งหมดด้วยตัวเแง  และเกิดเป็นร้านที่มีบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านทุกครั้งที่ได้มา เรียกได้ว่าน่าไปนั่งมาก ๆ

และยิ่งไปกว่านั้น เมนูกาแฟของที่นี่ยังมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กาแฟดริป หรือ กาแฟซิกเนเจอร์ของร้าน เช่น Cascara Latte ที่ทางร้านคิดสูตรเอง ถือว่าเป็นร้าน Speciality Coffee ที่น่าจะถูกใจคอกาแฟและสายถ่ายรูปพอสมควรเลย ลองไปกันดู !!

ที่ตั้ง: ใกล้ห้าง ICONSIAM 

เวลาเปิดปิด: ทุกวัน (08.30 – 17.30) ยกเว้นวันอังคาร

ส่วน เสาร์ และ อาทิตย์ (09.00 – 18.00)

เฟซบุ๊ก: https://facebook.com/waldenhomecafe/

Monochrome

ร้านฮิป ๆ ที่เราอยากแนะนำอีกร้านหนึ่ง คือ Monochrome ซึ่งร้านนี้จะเป็นทั้งร้านกาแฟและแกลลอรี่ในที่เดียว โดยเราสามารถดื่มดำกับคาเฟอีน พร้อมชมผลงานศิลปะไปด้วยกันได้ ถือว่าช่วยเพิ่มอรรถรสในการดื่มได้อยู่เหมือนกัน ภายในร้านจะมีบรรยากาศของตึกเก่าซึ่งมีอายุมานานตั้งแต่ 70s และได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีการทิ้งร่องรอยความเก่าแก่ไว้ ไม่ว่าจะเป็น คานไม้ หรือ ลูกกรงหน้าต่าง เป็นต้น ผสมผสานกับความวินเทจของเฟอร์นิเจอร์ย้อนยุคต่าง ๆ อาทิ กล้องฟิลม์ แถมยังมีการแต่งร้านด้วยหนังสือศิลปะไว้ให้เราอ่านเพิ่มแรงบันดาลใจอีกด้วย !! สายอาร์ตถูกใจสิ่งนี้ !!

สำหรับที่ร้านจะให้บริการกาแฟ 2 รูปแบบ ได้แก่ Slow Bar ซึ่งเป็นมุมที่มีการเสิร์ฟกาแฟฟิลเตอร์ต่าง ๆ และ Espresso Machine ถือว่าตอบโจทย์คนที่ชอบดื่มกาแฟทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น สายฮิปฯ หรือ สายคาเฟ่ฮอปปิ้ง

ที่ตั้ง: 8 ถนน เดโช 

เวลาเปิดปิด: วันธรรมดา (07.30 – 16.00) 

เสาร์ และ อาทิตย์  (09.30 – 17.00)

เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/MONOCHROMEspecialtycoffee

Sometimes I Feel

สุดท้าย คือ ร้าน Sometimes I Feel ซึ่งก็เป็นร้านกาแฟผสมผสานกับแกลลอรี่เช่นกัน เราสามารถเห็นความหลากหลายของงานอาร์ตได้ที่นี่ เพราะทางร้านเปิดค่อนข้างเปิดให้ศิลปินมาแสดง  บรรยากาศภายในร้านจะดูฮิปมาก ค่อนข้างมินิมอล และใช้สีเรียบอย่าง ขาว หรือ น้ำเงิน พร้อมการโชว์ความเด่นของเฟอร์นิเจอร์ไม้ และความปลองโปร่งโล่งสบายของเรือนกระจก ถือเป็นที่ชิวแห่งหนึ่งที่เราไม่ควรพลาดกัน สำหรับเมนูกาแฟ ทางร้านจะเลือกใช้เมล็ดสายพันธ์ุไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังมีเมล็ดแบบอื่นให้เลือกอยู่เหมือน โดยสามารถเลือกสั่งได้ทั้งเมนูกาแฟดริป และเมนูเอสเปรสโซ่ เอาใจสายกาแฟกันอย่างเต็มที่เลย

ที่ตั้ง: 5/1 สุขุมวิท 31

เวลาเปิดปิด:  วันธรรมดายกเว้นวันจันทร์ （09.30 – 18.30）

เสาร์ และ อาทิตย์  (10.00 – 19.00)

เฟซบุ๊ก: https://www.facebook.com/sometimesifeel.bkk

ทั้งหมดนี้ก็เป็นร้านกาแฟ Specialty ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ซึ่งไปได้ทั้งคนที่เป็นเซียนกาแฟ และคนที่อยากเรียนรู้รสชาติกาแฟใหม่ ๆ รับรองว่าร้านเหล่านี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน