สำหรับคอหนังฮอลลีวูด หลาย ๆ คนต้องเคยดูหนังที่มี ซามูเอล แอล แจ็คสัน ร่วมแสดงสักเรื่องอย่างแน่นอน เพราะเขาคือชายที่มีผลงานในวงการฮอลลีวูดในบทบาทที่หลากหลายและแสดงหนังมากกว่า 100 เรื่อง วันนี้ UNLOCKMEN ไม่ได้จะพูดถึงบทบาทการแสดงของเขา แต่จะนำเสนอชีวิตอีกมุมหนึ่งของซามูเอลในฐานะชายผิวสีที่เคยพูดติดอ่างและนักต่อสู้เพื่อสิทธิและความเท่าเทียมที่มนุษย์ทุกคนพึงมี ซามูเอล แอล แจ็คสัน เติบโตมาในครอบครัวชาวอเมริกันผิวสีทั่วไป ทั้งชีวิตเขาเคยเจอพ่อแค่สองครั้ง เติบโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูของตากับยาย ในขณะที่แม่ของเขาทำงานในโรงงานต่างเมืองโดยจะกลับมาเยี่ยมเขาแค่ช่วงคริสต์มาสกับวันหยุดฤดูร้อนเท่านั้น นอกจากนี้ซามูเอลในวัยเด็กมีผิดความปกติด้านการพูดจากปัญหาการพูดติดอ่างซึ่งเป็นโรคที่พบได้ในเด็กบางส่วน แต่จะหายไปได้เองเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 16 ปี แต่บางคนอาจจะพูดติดอ่างไปจนโตเลยก็มี ถึงแม้จะมีปัญหาด้านการพูด แต่ซามูเอลเป็นเด็กมองโลกในแง่ดีและมีวิธีแก้ปัญหาในแบบแปลก ๆ เขาเล่าถึงการแก้ปัญหาพูดติดอ่างของตัวเองด้วยการมองมันเป็นเรื่องขำขัน แล้วพูดคำว่า “motherfucker” กับตัวเองบ่อย ๆ ทำให้เขาหายพูดติดอ่างไปเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริงรึเปล่าก็ไม่มีใครรู้ได้ แต่ปัจจุบันซามูเอลกลายเป็นชายพูดมากคนหนึ่งของวงการฮอลลีวูด อีกทั้งวลี “motherfucker” ก็ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนจะคิดถึงเขาเมื่อได้ยินคำ ๆ นี้ ช่วงชีวิตวัยรุ่นของซามูเอลไม่ได้คิดถึงเส้นทางอาชีพในวงการบันเทิงเลย เพราะเขามุ่งความสนใจไปยังเรื่องของสังคมและการเมืองแทน เขาสนใจเรื่องการรณรงค์สิทธิความเท่าเทียมของคนผิวสีในอเมริกา และใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักชีววิทยาทางทะเล วลีที่ว่าสังคมจะส่งผลต่อความคิดคนอาจเป็นเรื่องจริง เพราะสังคมอเมริกาช่วงเวลาที่ซามูเอลเป็นวัยรุ่นนั้นเต็มไปด้วยการเปลี่ยนผ่านทางสังคม เป็นยุคแห่งการเดินขบวนที่ต่อยอดจากประเด็นร้อนปี 1955 กรณีหญิงผิวสีรายหนึ่งโดนจับเนื่องจากเธอปฏิเสธการสละที่นั่งบนรถเมล์ให้แก่ชายผิวขาว จนทำให้ผู้คนออกมาเดินขบวนเรียกร้องความเท่าเทียม เกิดการคว่ำบาตรระบบขนส่งหลายรัฐ นำโดยชายผิวสีชื่อ มาร์ติน ลูเทอร์ คิง